บทที่ 408 ศาสตร์แห่งศิลปะนั้น ฉิน อักษร ภาพวาดยากจะแยกประเภท แต่หมากนั้นแยกได้!

รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人

บทที่ 408 ศาสตร์แห่งศิลปะนั้น ฉิน อักษร ภาพวาดยากจะแยกประเภท แต่หมากนั้นแยกได้!

กาลเวลาอันแสนยาวนานผ่านไป สมาชิกตระกูลไป๋ของพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในมิติแห่งเล็กนี้มาโดยตลอด จะออกไปข้างนอกต่อเมื่อมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ส่งผลให้สมาชิกตระกูลไป๋มากมายหยิ่งผยอง ลืมเลือนกฎต่าง ๆ ของตระกูลไป๋ไปจนหมด

ผู้นำตระกูลปวดใจหนักหนา เขารู้ดีว่าเขาปกครองตระกูลไป๋ได้ไม่ดี ตระกูลไป๋ในยามนี้… เน่าเฟะเกินไปแล้ว!

“พวกเจ้ากล้าดีอย่างไร!?”

เขามองบรรดายอดฝีมือ ไม่รู้ต้องผิดหวังขนาดไหน “บนตัวพวกเรามีภารกิจยิ่งใหญ่ มีเกียรติยศใหญ่หลวง พวกเจ้าลืมคำกำชับของบรรพชนแล้วหรือ”

บนตัวตระกูลไป๋มีภารกิจยิ่งใหญ่ เป็นภารกิจที่บรรพชนมอบหมาย สะท้อนถึงเกียรติยศสูงสุด

ทว่าบัดนี้ เกรงว่าสมาชิกตระกูลไป๋มากมายคงลืมภารกิจนี้ไปจนสิ้น ลืมเกียรติยศนี้ไปจนสิ้น

เขารู้ว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นความผิดของเขา ผิดที่เขาทุ่มเทกายใจไปกับการป้องกันสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวน จนขาดตกบกพร่องในการปกครองตระกูลไป๋ ส่งผลให้ตระกูลไป๋ในตอนนี้เน่าเฟะเละเทะ!

“ในฐานะผู้นำตระกูลของพวกเจ้า ข้าไม่อาจปัดความผิดได้ ข้าจะเดินทางไปที่แดนบูรพาทิศเหยียนโจว กล่าวขอโทษทั้งสำนักไท่หัว กล่าวขอโทษเซี่ยเหยียน!”

เขาเอ่ย ไม่สนใจความเสียหายในตระกูลไป๋ สิ่งที่คิดคือต้องขอโทษเซี่ยเหยียน

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งของเซี่ยเหยียน

ต่อให้เซี่ยเหยียนเป็นเพียงคนธรรมดา เขาก็ต้องขอโทษนาง

บรรพชนของพวกเขา เจ้าของรูปปั้น เทียนตี้ไป๋ ในอดีตก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้นจากความอ่อนแอ ถูกกลุ่มอำนาจทรงพลังที่ชื่นชอบการรังแกผู้อ่อนแอกว่าข่มเหงเป็นประจำ เพราะอย่างนั้น หลังจากตั้งตระกูลได้ กฎข้อแรกที่กำหนดคือมิให้ถือตัวว่าแข็งแกร่งแล้วรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า ผู้ใดฝ่าฝืน ฆ่าไม่เว้น!

ทว่าบัดนี้ สมาชิกตระกูลไป๋กลับลืมเลือนเรื่องนี้จนสิ้น กลายเป็นบุคคลที่เทียนตี้ไป๋ บรรพชนของพวกเขาชิงชังที่สุด ถือตนว่าแข็งแกร่งแล้วรังแกผู้อ่อนแอ…

ในฐานะผู้นำตระกูล เขาจำต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง เพื่อสร้างความขลังให้กฎตระกูล

“ส่วนพวกเจ้า ความผิดที่ก่อถือเป็นสถานหนัก ไม่อาจละเว้น แต่เพราะหายนะกำลังจะคืบคลานมายังยุคปัจจุบัน ขาดแคลนกำลังรบระดับสูง หนนี้ข้าจะยกเว้นโทษตายให้”

ผู้นำตระกูลมองยอดฝีมือตระกูลไป๋พลางเอ่ยเสียงดัง “ทว่า เมื่ออยู่ในสนามรบ หากพวกเจ้าฆ่าศัตรูไม่ได้ หรือฆ่าได้น้อย พวกเจ้าทุกคนล้วนหนีไม่พ้นโทษตาย ต้องถูกลงทัณฑ์ตามกฎตระกูล!”

“พวกเราทราบแล้ว ผู้นำตระกูล!”

“จากนี้ไปพวกเราจะไม่ทำผิดเช่นนี้อีกแล้ว!”

ยอดฝีมือตระกูลไป๋เหล่านี้ละอายยิ่งนัก พวกเขาลืมเลือนภารกิจบนตัวไปเสียสิ้น ลืมเลือนเกียรติยศที่มาพร้อมภารกิจนี้ พวกเขากลายเป็นคนเลวทราม ผุดกิเลสมักมากออกมามากมาย

พวกเขาลอบสาบานในใจ รอจนได้อยู่ในสนามรบแล้ว พวกเขาจักใช้เลือดของศัตรูกู้ภารกิจและเกียรติยศของพวกตนให้ได้!

“ความแข็งแกร่งของพวกเรามิได้ใช้เพื่อข่มเหงผู้อ่อนแอ ความแข็งแกร่งของพวกเราใช้เพื่อปกป้องผู้อ่อนแอ! ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะจดจำข้อนี้ไปตลอด!”

ผู้นำตระกูลเอ่ยเสียงขึงขัง

จากนั้น เขาออกจากตระกูลไป๋ มุ่งหน้าไปยังแดนบูรพาทิศเหยียนโจว

แดนบูรพาทิศ เหยียนโจว ดินแดนหยิน

นอกเมืองชิงซาน บนยอดเขาแห่งหนึ่ง

ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งยืนอยู่บนยอดเขา ทอดมองเมืองชิงซานซึ่งอยู่ห่างออกไปพันลี้

สภาวะของเขาประหลาดยิ่ง ทั้งที่ยืนอยู่บนยอดเขาจริง ๆ กลับให้ความรู้สึกเหมือนมิได้อยู่ที่นั่น

นี่คือความน่ากลัวของเขา เขาฝึกฝนวิชาซ่อนอำพรางจนแตกฉาน ต่อให้เขายืนอยู่ที่นี่จริง ๆ หากเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัว ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดรู้สึกถึงเขาได้แน่

“แปลกจริง ไม่เห็นมีความพิเศษตรงไหน”

คิ้วขาวของเขาขมวด ฉงนจากใจจริง

ด้วยขอบเขตพลังและประสบการณ์สืบค้นด้านต่าง ๆ ของเขา เขาควรมองเห็นความไม่ชอบมาพากลบ้างถึงจะถูก

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือ เขาไม่พบสิ่งใดทั้งสิ้น!

เมืองชิงซานแห่งนี้ธรรมดามาก ไม่ต่างจากเมืองปุถุชนอื่น ๆ สักนิด

แต่เขารู้ดีอย่างยิ่งว่า เมืองชิงซานไม่มีทางธรรมดาพื้น ๆ เช่นนั้น

สมาชิกโดดเด่นที่สุดแห่งเครือข่ายข่าวสารขั้นสามขั้นสี่อย่างหนานเจี๋ย และอู๋ฉี ถูกจับได้ทันทีที่ไปถึง หนีไม่พ้นด้วยซ้ำ จนต้องตายลงที่นี่ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่เมืองชิงซานแห่งนี้จะเป็นเมืองดาด ๆ

ใช่แล้ว เขาเองก็มาจากกองกำลังฮวงเฉวียน เป็นสมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นห้าที่นายตำหนักย่อยปลุกขึ้นมา

วิชาชีพแต่ละคนล้วนมีความเฉพาะตัว เขาไม่ถนัดด้านลอบสังหาร ทว่าการสืบค้นข่าวสารนั้นเขามากด้วยประสบการณ์ มีกลวิธีนับคณา

“ยิ่งดาด ๆ ยิ่งไม่ธรรมดา!”

สายตาของเขาคร่ำเครียด ไม่กล้าชะล่าใจแม้แต่น้อย

หนานเจี๋ยและอู๋ฉีล้วนเก่งกาจโดดเด่น ขอบเขตพลังหรือก็มิได้ต่ำ เป็นถึงจักรพรรดิ ทว่าเมื่อไปถึงแล้วยังจบลงด้วยความตาย ต่อให้เขาเหนือกว่าหนานเจี๋ยและอู๋ฉีอยู่มาก ก็ไม่อาจประมาทโดยเด็ดขาด

มิฉะนั้น เขาก็มีโอกาสล้มเหลวสูงเช่นกัน หรือแม้กระทั่งชีวาวาย

“เมืองชิงซานคงเป็นฐานบัญชาการใหญ่ของเขา…”

เขาพึมพำเสียงแผ่ว รู้สึกว่าเข้าไปในเมืองชิงซานดื้อ ๆ ไม่เหมาะสมนัก ควรคิดหาวิธีอื่น

ถึงอย่างไรหนานเจี๋ยและอู๋ฉีก็เกิดเรื่องในเมืองนี้ทั้งคู่

“ชื่นชอบศิลปศาสตร์อย่างนั้นหรือ”

เขาหัวเราะ นึกถึงข้อมูลของหลี่จิ่วเต้าที่พวกเขามี

ฉากหน้าหลี่จิ่วเต้าดูเป็นปุถุชน ใช้ชีวิตในเมืองชิงซานมานานนับปี ภายในเมืองมิมีผู้ใดล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา ต่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นปุถุชนธรรมดา และเรียกขานหลี่จิ่วเต้าว่าคุณชายกันถ้วนหน้า

ทว่าหลี่จิ่วเต้านั้นชื่นชอบศิลปศาสตร์ ซ้ำยังแตกฉานอีกด้วย ระบือนามอย่างยิ่งภายในเมือง

“ข้าเองก็พอมีฝีมือบ้าง…”

เขาคิดแผนได้ หมายจะล่อหลี่จิ่วเต้าออกจากเมืองชิงซาน

ในฐานะผู้สอดแนม เขาจำต้องคบหาสมาคมกับคนหลากหลายประเภท และเขายังตั้งใจเรียนรู้หลายสิ่งเพื่อการนี้ ให้สะดวกต่อการเข้าใกล้เหล่าคนที่ต้องไปสืบค้นข้อมูล

ศิลปศาสตร์ ในบรรดาผู้ฝึกตนก็มีคนมากมายที่ชื่นชอบศาสตร์เหล่านี้ ซ้ำยังมีคนมากมายบำเพ็ญศิลปศาสตร์เป็นวิถี ก้าวสู่ขอบเขตที่สูงขึ้น

เขาเองก็มีฝีมือด้านศิลปศาสตร์ แล้วยังเก่งไม่เบาอีกด้วย!

ถึงอย่างไร ผู้ที่เขาต้องออกโรงสืบค้นข้อมูลไม่มีใครธรรมดา ล้วนมีขอบเขตพลังลึกล้ำ หากเขามีฝีมือด้านนี้ไม่พอ ไม่มีทางเข้าใกล้คนเหล่านี้ได้เลย

“ศิลปศาสตร์ ฉิน อักษร ภาพวาดนั้นยากจะแยกสูงต่ำ ทว่าหมากไม่เหมือนกัน ผู้เดินหมากย่อมต้องมีแพ้มีชนะ!”

แผนในใจเขาสมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ

เขาหมายใจแสร้งเป็นปุถุชนผู้ชื่นชอบการเล่นหมาก แล้วตั้งกระดานเล่นหมากกับผู้อื่นอยู่นอกเมืองชิงซาน เพื่อล่อหลี่จิ่วเต้าออกมา

ด้วยทักษะการเล่นหมากของเขา ไม่มีผู้ใดชนะเขาได้ ถึงครานั้น เขาย่อมต้องมีชื่อเสียงอย่างมาก และเรื่องนี้ย่อมต้องเข้าหูหลี่จิ่วเต้า คิดแล้วอีกฝ่ายต้องถูกล่อลวงออกมาเป็นแน่

“เมืองชิงซานเข้ายาก เช่นนั้นข้าไม่เข้าก็ได้ มาสิ ขอข้าดูหน่อยว่าเจ้ามีความสามารถอะไรบ้าง!”

เขาหัวเราะ เริ่มปฏิบัติการ ตราบใดที่เขาได้มีปฏิสัมพันธ์กับหลี่จิ่วเต้า เขาย่อมสืบค้นข้อมูลจากตัวชายหนุ่มได้มากมาย และแน่ใจได้ว่าอีกฝ่ายมีพลังความสามารถระดับใด

และหากเป็นแบบนั้น กองกำลังฮวงเฉวียนของพวกเขาก็สามารถส่งมือสังหารมาที่นี่ตามข้อมูล และปลิดชีพหลี่จิ่วเต้าเสีย!

‘หลังจัดการหลี่จิ่วเต้าได้แล้ว คนอื่น ๆ ก็ไม่ยาก…’

เขาคลี่ยิ้ม มั่นใจในแผนการนี้มาก

แน่นอนว่าแผนนี้ต้องใช้เวลา ไม่สามารถเห็นผลในระยะสั้น

แต่สำเร็จเมื่อใด ย่อมเป็นแผนที่แน่นอนปลอดภัยที่สุด!