ตอนที่ 71 ไปที่สนามประลองหมีกันเถอะ!

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

71 ไปที่สนามประลองแห่งความมืดกันเถอะ!

 

กลางดึก ฉันแอบออกจากหอพัก และรีบไปยังจุดหนึ่งของกำแพงที่แยกเมืองหลวงออกจากพื้นที่สถาบันการศึกษา

 

ในแง่ของระยะทางเมืองหลวงอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว

ก็จะกลายเป็นนอกพื้นที่สถาบันการศึกษา

 

ยังไงก็ตาม ไม่กี่ก้าวเหล่านั้นถูกกั้ยไว้ด้วยกำแพงสูง

 

ด้านบนมีของมีคมคล้ายหอกวางเรียงรายอยู่ ไม่รู้ว่าเพื่อการตกแต่งหรือการใช้งานจริง อาจเป็นสิ่งที่เอาไว้ขัดขวางผู้บุกรุก

 

นี่คือกำแพงสำหรับปกป้องเด็ก ๆ ของสถาบันการศึกษา และยังเป็นกำแพงกันไม่ให้เด็ก ๆ ออกจากสถาบันการศึกษาด้วยเช่นกัน

ดังนั้นจึงมีความสูงที่แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถข้ามได้ง่าย ๆ

 

――ม๊า สำหรับฉันถือว่ายังต่ำล่ะนะ

 

ฉันมองหาสัญญาณที่อยู่นอกกำแพง……อ้า แกนดอล์ฟมาแล้ว ดี ดี

 

ฉันหยิบเสื้อผ้าของฉันออกจากกระเป๋าเดินทางที่เอามาซ่อนไว้ในพุ่มไม้ล่วงหน้า และเปลี่ยนชุดเป็นชุดฝึกที่ใช้ในสำนักทลายสวรรค์

 

เพราะจะทั้งเด่น และทั้งยากที่จะเคลื่อนไหวในชุดนอน นอกจากนี้ในกรณีที่ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าชุดเปื้อนเลือดหรืออะไรทำนองนั้น ริโนกิสจะรู้ แน่นอนว่าฉันจะไม่สู้ จะไม่ แต่ว่า โฮระ เราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดขึ้น จริงไหม เพราะยังมีเหตุบังเอิญได้ จริงไหม เพราะยังมีเหตุที่ทำให้ต่อสู้ได้อยู่ จริงไหม ท้ายที่สุด หากนักรบก้าวออกไปข้างนอก ก็อาจจะถูกท้าทายให้ต้องต่อสู้ที่รุนแรงเมื่อใดก็ได้

 

ฉันยัดชุดนอนที่ถอดออกเข้าไปในกระเป๋าเดินทางแทนที่ชุดฝึก แล้วซ่อนไว้ในพุ่มไม้อีกครั้ง

 

เท่านี้ก็ดูดีแล้ว

 

ฉันวิ่งไปบนทางที่ลาดเล็กน้อย เตะกำแพง และวิ่งไต่กำแพงไปทั้ง ๆ แบบนั้น

ฉันหลบปลายหอกที่ด้านบนอย่างหมดจด และกระโดดข้ามกำแพงมาได้อย่างงดงาม

 

“――เนียโดโนะ”

 

“――รีบไปกันเถอะ”

 

ฉันเข้าร่วมกับแกนดอล์ฟซึ่งรออยู่อีกฟากหนึ่งของกำแพง พวกเราหายตัวไปในยามค่ำคืนของเมืองหลวงโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

 

 

“――ใช้ห้องตรงนั้น”

 

ขอให้อันเซลเปิดประตูเข้าสู่「ที่พักหนูเงาสนธยา」ทางประตูหลัง

 

ฉันค่อนข้างมีชื่อเสียงมากที่นี่ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจว่าจะเป็นการดีกว่าถ้าไม่ไปปรากฏตัวพร้อมกับแกนดอล์ฟอย่างเปิดเผย

 

เมื่อคิดอย่างเอาใจใส่ก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับเจ้าหน้าที่ของสถาบันการศึกษาที่มีหน้าที่ดูแลเหล่าเด็ก ๆ อันล้ำค่า คงจะแย่หากมีคนพบว่าพวกเขาเข้า ๆ ออก ๆ จากสถานที่แบบนี้พร้อมกับเด็ก ๆ ในช่วงกลางดึก

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด แกนดอล์ฟอาจถูกไล่ออกหรือขับไล่ หรืออาจโดนเพิกถอนพร้อมโรงฝึกทั้งหมดให้ออกจากบริเวณสถาบัน

 

――เมื่อฉันชี้ให้เห็น เขาก็พูดแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นว่า 「ถ้าสามารถเป็นลูกศิษย์ของชิโชวได้เต็มตัว ถึงจะต้องถูกขับออกจาสำนักทลายสวรรค์ก็ตาม…… 」น่าแปลกแม้ว่าเขาจะมีใบหน้าเรียบเฉยที่ดูไม่น่าเข้าใจเรื่องตลก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถเล่นตลกได้อย่างคาดไม่ถึง

 

ม๊า ยังไงก็ได้

ถึงอย่างงั้น เพราะมีอันธพาลมากมายแกว่งไปแกว่งมาอยู่แถวทางเข้าร้าน และก็ยังมีอันธพาลในร้านอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงเข้าจากประตูหลังดีที่สุด

 

ห้องภายในร้านที่ถูกพาเข้าไปทันทีหลังเข้ามาจากประตูหลัง――ห้องนอนของอันเซลซึ่งมีเตียงและของใช้ส่วนตัวไม่กี่อย่าง ฉันจะเตรียมตัวที่นี่

 

“――ข้าจะไปเอาของที่พูดถึง ใช้ที่นี่ตามที่เธอต้องการเลย”

 

ขณะที่อันเซลจากไป แกนดอล์ฟก็กุมแจ็คเก็ตของเขาและมองลงมาที่ฉัน

 

“ได้ใช่ไหมขอรับ?”

 

“เชิญเลย”

 

แกนดอล์ฟปฏิบัติต่อเด็กเล็กแบบฉันราวกับหญิงสาวคนหนึ่ง หลังจากได้รับความยินยอมจากหญิงสาว เขาก็ถอดเสื้อผ้าออก และเริ่มเปลี่ยนชุด

 

ตั้งแต่เสื้อผ้าลำลองจนถึงชุดแบบทางการของตนเองก็ถูกนำมาก่อนล่วงหน้า

ดูเหมือนจะเป็นชุดทางการที่ดูดีที่สุดที่ค่อนข้างแพง……

 

“แน่นเปี๊ยะเลยน๊า”

 

“หื~ม……ดูเหมือนว่าร่างกายของคุณจะใหญ่ขึ้นกว่าตอนที่ตัดสิน๊า”

 

ดูคับไปหน่อย……ม๊า ต่อให้คิดว่าเป็นการอวดอ้างตัวเองแบบเงียบ ๆ น่ารัก ๆ ที่ทำไปเพราะภูมิใจในกล้าม จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าที่เล็กเกินไปจนรัดแน่นขนาดนี้เลยเหรอ

 

“――ขอโทษที่ให้รอ”

 

“――สายัณห์สวัสดิ์ลิลลี่ ฉันจะจัดการให้เอง”

 

อันเซลกลับมาพร้อมกับเฟรซ่าพนักงานสาวร่างอวบอึ๋ม

 

“ชุดของคุณแน่นเปี๊ยะจังนะ ยกแขนขึ้นได้ไหม?”

 

“อุมุ……น่าตลกงั้นรึ?”

 

“ถึงจะน่าตลกจริง ๆ แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ยังไงก็มีผู้ชายบางคนที่จงใจใส่เสื้อผ้าตัวเล็กอยู่ ดังนั้นก็พอจะอยู่ในขอบเขตที่รับได้น่ะ”

 

ในระหว่างที่มาสเตอร์มือใหม่กับมนุษย์แน่นเปี๊ยะกำลังคุยกันอยู่ เด็กผมขาวก็ถูกบังคับให้นั่งบนเก้าอี้

 

――ยังไงก็ตาม ที่อันเซลและแกนดอล์ฟได้รู้จักกัน เป็นเพราะฉันมีงานถ่ายทำที่ทำให้หลายครั้งเคลื่อนไหวไปไหนไม่ได้ ฉันจึงขอให้แกนดอล์ฟช่วยทำธุระให้

 

แต่ทว่า อันที่จริงแล้ว ชื่อของบอดี้การ์ด อันเซล นั้นโด่งดังในโลกใต้ดิน และดูเหมือนว่าชื่อของนักศิลปะการต่อสู้แกนดอล์ฟเองก็กำลังเป็นที่นิยมเช่นกัน ดังนั้นดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้จักแต่ชื่อกันและกันเท่านั้น

 

เป็นความรู้ทั่วไปในโลกใต้ดินว่า 「บุคคลที่มีชื่อเป็นที่รู้จักเล็กน้อย」 สามารถใช้แทนการแนะนำตนเองได้

นั่นเป็นเหตุผลที่ดูเหมือนว่าทั้งสองคนสามารถเปิดใจซึ่งกันและกันได้ค่อนข้างเร็ว

 

“――จ๊า เรามาเริ่มกันเลยนะ”

 

และ ขั้นตอนสุดท้ายของฉัน

 

 

 

สิ่งที่เฟรซ่าถืออยู่คือ ขวดเล็ก ๆ ที่บรรจุยาเวทมนตร์ที่ใช้เพื่อย้อมผมชั่วคราว ซึ่งซื้อมาสำหรับช่วงเวลานี้ในวันนี้

 

นี่คือ「ของที่พูดถึง」ที่อันเซลพูดถึงก่อนหน้านี้

ผลจะคงอยู่ประมาณหนึ่งวัน แต่เนื่องจากมียาลบล้างด้วย จึงไม่มีข้อตำหนิเกี่ยวกับระยะเวลาที่ยาวนาน

 

ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ปกปิดตัวตนโดยราชวงศ์และขุนนาง ดังนั้นจึงมีราคาแพงพอสมควร แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะน๊า

ผมสีขาวของฉันเด่นชัดมาก ดังนั้นฉันจะไปไม่ได้เลยหากไม่มีสิ่งนี้ ――ยังไงก็ตาม แหล่งข้อมูล ตัวแทนซื้อ และค่าธรรมเนียมคือ มาสเตอร์มือใหม่ของร้านเหล้าราคาถูกแห่งนี้

 

ฉันได้ลองเล็กน้อยมาก่อนหน้านี้แล้ว สินค้าไม่มีปัญหา

เฟรซ่าพรมน้ำยาลงบนหัวของฉัน จากนั้นก็หวี และยืดด้วยมืออย่างคุ้นเคย

 

ฉันไม่มีกระจก แต่เห็นได้ชัดว่าสีผมของฉันเปลี่ยนไปแล้ว จากปฏิกิริยาของอันเซล และแกนดอล์ฟที่กำลังมองมาที่ฉัน

 

“――จ๊า หมดแล้ว”

 

เฟรซ่าทำงานเสร็จในเวลาไม่นาน และยังเปลี่ยนทรงผมด้วยการรวบผมด้านหลังหัวขึ้นเล็กน้อย

 

ทั้งสีทั้งทรงผมแตกต่าง

ไม่มีทางรู้ว่าเป็นฉันได้ง่าย ๆ แน่นอน

 

ฉันคว้าผมด้านหลังที่ดูเหมือนหางม้ามาไว้ตรงหน้า เพื่อตรวนสอบสี

 

――อุมุ เยี่ยม ย้อมเป็นสีน้ำตาลจนเกือบดำ เช่นเดียวกับแกนดอล์ฟ นี่จะช่วยผ่านเงื่อนไขความเป็นพ่อลูกกัน

 

“เป็นไง?”

 

เพื่อความแน่ใจ ฉันถามผู้ใหญ่ทั้งสามคนที่มองมาทางนี้

 

“――น่ารัก”

 

“――ดูจืดดี พอเสียเอกลักษณ์ผมขาวไปแบบนี้”

 

“――เหมาะมากขอรับ ชิโชว”

 

อ้า เหรอ ทำไมไม่มีใครพูดถึงประเด็นหลักเลย

 

นี่เป็นการปลอมตัวนะ

ใครก็ได้ช่วยบอกว่า「ดูเหมือนเป็นคนละคน」ออกมาสักคำที ฉันไม่ได้มองหาความน่ารักหรืออะไรแบบนั้น

 

……ม๊า อย่างน้อยก็ดูเหมือนจะกลายเป็นพื้น ๆ และเสียเอกลักษณ์เด่นไปแล้ว ก็ยังสู้หน้าสวย ๆ ของพี่ชายไม่ได้อยู่ดี

 

ดูเหมือนว่ามียาเวทมนตร์ที่สามารถเปลี่ยนสีดวงตาได้ด้วย แต่ฉันคิดว่าคราวนี้ไม่จำเป็น แถมแพงมาก

 

“ที่สำคัญกว่านั้น จ่ายค่ายาย้อมผมด้วย”

 

ราคาแสนแพงที่ฉันบ่นไปก่อนหน้านี้ ที่จริงฉันขอยืมเงินจากอันเซลเพื่อซื้อยาย้อมผม

 

เงินค่าขนมของฉันถูกจัดการโดยริโนกิส ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถใช้เพื่อจุดประสงค์ที่ไม่สามารถพูดออกไปได้ แล้วฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีเงินอยู่เท่าไหร่กันแน่

 

“ฉันจะคืนให้เมื่ออายุมากพอที่จะเข้าสู่สังเวียนใต้ดินได้ หรืออย่างน้อยก็จนกว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่”

 

ฉันจะทำเงินในไม่กี่วินาทีถ้าฉันสามารถเล่นเดิมพันได้

การสำรวจเกาะลอยน้ำที่ยังไม่ได้สำรวจก็ดี หรือการรวบรวมทรัพยากรในดันเจี้ยนก็ดี ฉันบอกเขาไปว่าจะคือให้ เมื่อใดก็ตามที่ฉันโตพอจะทำเรื่องพวกนั้นได้ตามกฎหมายอย่างถูกต้อง

 

“อีกกี่ปีกันเล่า……ทางนี้มีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายนะเฟ้ย”

 

ม๊า บางทีคงจะต้องใช้เวลาเป็นสิบปีหรือมากกว่านั้น

 

“จะคิดดอกเบี้ยฉันด้วยก็ได้ แต่ให้ติดหนี้บุญคุณแทนดอกเบี้ยไม่ดีกว่าเหรอ?”

 

“เอาล่ะ เรื่องเงินช่างไปก่อน แต่ถือว่าทั้งสองคนเป็นหนี้บุญคุณข้าแล้วกัน สองสิ่ง เงินกู้และดอกเบี้ย เมื่อถึงเวลาก็จงทำงานให้ข้าซะ”

 

สองเหรอ ม๊า ไม่มีปัญหา

 

“จ๊า พวกเราไปกันเลยไหม”

 

“ขอรับ”

 

 

 

แกนดอล์ฟในชุดทางการส่วนฉันในชุดฝึกของทลายสวรรค์

เงื่อนไขคือ ความรู้สึกของพ่อแม่ที่คลั่งไคล้ศิลปะการต่อสู้ และลูกที่หลงไหลในความบ้าคลั่งของพ่อแม่

 

มีคนดีไม่กี่คนที่เข้าและออกจากสังเวียนใต้ดิน

ถ้าจะให้พูด ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง

 

และถึงแม้จะเป็นพ่อลูกกันจริง ๆ ก็ใช่ว่าจะหนีจากพวกคนสอดรู้สอดเห็นได้

 

ด้วยเหตุผลนั้น――ฉันจึงขอให้「หน้าตาที่ดูเหมือนกันในแวบแรก」

 

“จดหมายเชิญ”

 

“มี”

 

ถูกเตรียมไว้แล้วด้วยคอนเนคชั่นของอันเซล ฉันได้รับการดูแลจากเขามากจริง ๆ

 

“หน้ากาก”

 

“มี ให้ถูกคือสวมแล้ว”

 

ดูเหมือนว่าแกนดอล์ฟจะค่อนข้างมีชื่อเสียงในโลกใต้ดิน ดังนั้นในกรณีนี้ เขาจึงสวมหน้ากากที่ปิดทั้งใบหน้าเพื่อไม่ให้ตัวตนและใบหน้าของเขารั่วไหล

ดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ขุนนางที่เข้า ๆ ออก ๆ สังเวียนใต้ดินจะสวมหน้ากาก ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่ปัญหา

 

“ชื่อของฉันคือ?”

 

“ลิลลี่”

 

“ชื่อของคุณคือ?”

 

“ดอล์ฟ”

 

ฉันไม่รู้ว่าจะนึกชื่อนั้นขึ้นมาได้ทันทีไหม และไม่รู้ว่าจะตอบสนองเมื่อถูกเรียกได้ไหม แต่ฉันไม่ต้องการเรียกชื่อจริงของตัวเอง นี่เป็นเพียงการเผื่อไว้ก่อน

 

อืม

 

หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบขั้นสุดท้าย ฉันพยักหน้า

ตอนนี้ฉันพร้อมไปสังเวียนใต้ดินแล้ว

 

“ที่เหลือคือการใช้คำพูด”

 

“โอะ โอ แบบนี้……ใช้ได้ไหม?”

 

“โปรดระวังตัวให้มากนะคะ ท่านพ่อ(จิจิอุเอะ)”

 

“โอะ โอ ขอ ได้”

 

น้ำเสียงของแกนดอล์ฟค่อนข้างน่าสงสัย แต่ ม๊า ไม่เป็นไร

เพราะเมื่อเข้าไปข้างในแล้ว ก็คงไม่มีโอกาสมากมายที่จะพูดคุยอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ

 

หากมีจดหมายเชิญที่อันเซลเตรียมไว้ให้ เราก็ควรได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นขุนนาง และเข้าไปได้โดยไม่มีการตรวจสอบ หากสามารถทะลุเข้าไปได้ถึงขั้นนั้นแปลว่าการยอมรับค่อนข้างดีเลย

 

เช่นนั้น

 

“ไปกันเถอะ”

 

เราก้าวออกมาจากความมืด และมุ่งหน้าไปยังเขตโกดังท่าเรือของขุนนางคนหนึ่ง

 

――ตื่นเต้นสุด ๆ เลย! ในที่สุด!

 

 

 

 

 

 

 

 

ช่วงนี้แถวบ้านร้อนๆฝนๆ แปรปรวนไม่ใช่น้อย ก่อนตกนี่ทำเหนียวเหนอะทั้งตัวทั้งจิตใจเลย เวลาตากผ้าร้อนจนแห้งแต่ก็รู้สึกหนึบหนับชื้นๆเหมือนกัน ฮา