ตอนที่ 89 ฉันจะฆ่าแก!
เสียงซอของชายตาบอดหยุดชะงักลงทันที!
เขามีท่าทางลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าผลีผลามทำอะไรลงไป เพราะไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำอย่างไรดีเช่นกัน?
ชายหนุ่มผมยาวเงยหน้าขึ้นมองหลินหนาน ซึ่งเป็นเจ้าของมือที่กำลังจับข้อมือของเขาอยู่เวลานี้
ในสายตาของเขานั้น หลินหนานไม่ใช่คนรูปร่างสูงใหญ่แต่อย่างใด ออกจะธรรมดาๆด้วยซ้ำไป รูปร่างหน้าตาอย่างหลินหนานนั้น หากพบเจอท่ามกลางฝูงชน ก็ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรให้น่าจะจำเลยแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มผมยาวพยายามที่จะสะบัดข้อมือออก แต่กลับพบว่าไม่สามารถขยับข้อมือได้เลย และเพียงแค่นั้น ก็ทำให้เขารู้ว่าหลินหนานไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างที่คิด
แต่ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มผมยาวก็ไม่ได้มีท่าทีลุกลี้ลุกลนให้เห็นเช่นกัน สีหน้าของเขายังคงนิ่งเรียบไม่แสดงอาการใดๆออกมา
“ถึงฉันจะไม่ใช่เซียน ก็ดูออกว่าหมอนี่มันไม่ได้ตาบอดจริง!” ชายหนุ่มผมยาวบอกกับหลินหนาน พร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง
“แกรู้ได้ยังไง?” หลินหนานย้อนถาม
หลินหนานปล่อยข้อมือของชายหนุ่มผมยาว พร้อมกับนั่งลงคุยกับเขาต่อหน้าชายตาบอด..
และที่ชายผมยาวรู้ก็เพราะว่า เขาแอบเห็นชายตาบอดแอบมองกางเกงชั้นในของแฟนสาว ซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า
หลังจากที่ได้ยินคำถามของหลินหนาน ชายผมยาวก็หัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับขยิบตาส่งสัญญาณให้หลินหนานเข้าใจ
หลินหนานได้แต่ยิ้มอย่างไม่เข้าใจ หากเป็นผู้ชายทั่วไปที่ได้รู้ว่า มีคนแอบมองกางเกงชั้นในของแฟนตัวเองเช่นนี้ คงจะโมโหจนไม่อาจทนอยู่เฉยได้แน่ แต่ชายผมยาวนอกจากจะไม่โกรธแล้ว ยังมีท่าทีสบายอกสบายใจราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกด้วย
“เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว! แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่แกจะฉกเงินของคนอื่นไปง่ายๆแบบนี้” หลินหนานตอบกลับไปทันที
“แต่หมอนี่มันหลอกลวงคนอื่นนะ..” ชายผมยาวตอบหลินหนานกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“จะว่าเขาหลอกลวงก็ไม่ถูกนัก! เพราะเขาก็ไม่ได้ป่าวประกาศว่าตัวเองตาบอดนี่ อีกอย่าง แกเองก็สวมแว่นกันแดด ถ้าไปนั่งแบบนั้น ฉันเองก็อาจคิดว่าแกตาบอดเหมือนกัน..”
ชายหนุ่มผมยาวขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย “ที่แกพูดก็ไม่ผิดนัก..”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดชายผมยาวจึงได้ถามหลินหานกลับไปตรงๆ “โทษทีนะ.. เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับแกเลย นี่แกจะมาทำตัวเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมทำไมกัน?”
“ฉันเองก็ไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น! แต่ธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนนั่น เป็นเงินที่ฉันให้เขาไปเองน่ะสิ..” หลินหนานอธิบาย
ชายหนุ่มผมยาวจึงได้ยกมือขึ้นตบบ่าชายตาบอด พร้อมกับถามขึ้นว่า “ที่หมอนี่พูดเป็นความจริงมั๊ย?”
“จริง.. จริงครับจริง..”
ชายแกล้งตาบอดพยักหน้าหงึกๆ และตอบกลับไปด้วยความกลัว..
เพื่อต้องการขอทานและเอาเงินที่ได้ไปซื้อข้าว เขาจึงต้องแกล้งทำเป็นคนตาบอดมานั่งตามสะพานลอยแบบนี้ แม้จำนวนเงินที่ได้ต่อวันจะไม่มากอะไรนัก แต่ก็พอที่จะทำให้เขาได้มีกินอิ่มท้องตลอดทั้งวัน
“เอาล่ะ.. แกวางเงินนั่นลงไปในชามของเขาคืนได้แล้ว ในเมื่อเงินนั่นไม่ใช่ของแก!”
ชายผมยาวตวัดข้อมือซ้ายของตนเองอย่างรวดเร็ว แล้วบางสิ่งบางอย่างก็เผยออกมาให้ทุกคนเห็น..
มันคือปืนพก Desert Eagle!
และเวลานี้ปากกระบอกปืนก็ได้ชี้ไปทางชายแกล้งตาบอด พร้อมกับถามอีกครั้งว่า “ฉันจะถามแกอีกครั้งว่า เงินนี้เป็นของใคร?”
เมื่อเห็นปลายกระบอกปืนสีเงินเงาวับเล็งมาทางตนเองเช่นนั้น ชายตาบอดก็รีบกระโจนลุกขึ้นยืนเกือบจะทันที เพราะปืนนี้สามารถฆ่าคนให้ตายได้จริง!
“ครับๆ เป็นเงินของคุณครับ!”
ชายแกล้งตาบอดเปลี่ยนคำตอบในทันที ในเมื่อถูกปืนจ่อหัวอยู่แบบนี้ เป็นใครก็ต้องรักษาชีวิตของตัวเองไว้ก่อนอยู่แล้ว!
“ได้ยินชัดแล้วใช่มั๊ย? มันบอกว่าเงินนี่เป็นเงินของฉัน!” ชายผมยาวหันไปบอกหลินหนาน พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างผยองในฐานะผู้กุมชัยชนะ
แต่หลินหนานกลับไม่ตอบอะไร และเพียงแค่ยิ้มออกมาเท่านั้น..
จากนั้นชายผมยาวก็หันไปถามชายแกล้งตาบอดต่อ “เอาล่ะ ทีนี้ฉันคงหยิบเงินนี่ไปได้แล้วสินะ?”
“ครับ.. ได้ครับ! เชิญลูกพี่หยิบไปได้ตามสบาย ลูกพี่อยากได้อะไรก็หยิบไปให้หมดเลย ขออย่างเดียวอย่าฆ่าผมก็พอ!” ชายแกล้งตาบอดรีบร้องตอบทันที น้ำเสียงของเขาสั่นเครือราวกับจะร้องไห้
“เอาล่ะ! แกรีบไปจากที่นี่ได้แล้ว ถ้าภายในสิบห้าวินาที แกยังไปไม่พ้นจากสายตาฉันแล้วล่ะก็ ฉันยิงแกทิ้งแน่!” ชายผมยาวแสยะยิ้มมุมปาก พร้อมกับตะโกนสั่งเสียงห้วน
ได้ยินเพียงแค่นั้น ชายแกล้งตาบอดก็รีบวิ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว เวลานี้เขาไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเท่านั้น
ชายหนุ่มผมยาวเหลือบมองนาฬิกาในข้อมือของตนเอง พร้อมกับค่อยๆนับถอยหลัง..
“สิบห้า..”
“สิบสี่..”
“สิบสาม..”
……
และเสียงร้องตะโกนนับถอยหลังของชายผมยาวนั้น ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ชายแกล้งตาบอดวิ่งได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เขาใช้พละกำลังทั้งหมดที่ตัวเองมี พาตัวเองวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วราวกับคนคลุ้มคลั่ง แต่หลังจากเหลือเวลาอีกเพียงแค่ห้าหกวินาที ด้วยความหวาดกลัว ชายแกล้งตาบอดจึงได้กระโดดออกไปอย่างสุดกำลัง
“โอ๊ย!!”
โชคช่างไม่เข้าข้างชายแกล้งตาบอดเอาซะเลย! เขาล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง และเวลานี้ก็กำลังนั่งกอดขาไว้ พร้อมกับอ้อนวอนร้องขอชีวิต
“ไว้ชีวิตผมด้วย.. กรุณาไว้ชีวิตผมด้วย!”
“เฮ้อ.. ในยามที่ต้องกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอด มนุษย์เราสามารถทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆสินะ!” ชายผมยาวแสยะยิ้มออกมาอย่างเหี้ยมโหด
ในขณะที่เด็กสาวใบหน้าเหมือนตุ๊กตา ก็ยังคงนั่งยองๆอยู่กับพื้นเช่นเดิม ศรีษะของเธอส่ายไปหมาอย่างไม่แยแสนัก จากนั้นก็หยิบอมยิ้มออกมาจากกระเป๋ายัดเข้าปากทันที..
หลังจากดึงอมยิ้มออกจากปากแล้ว เธอก็พึมพำออกมาว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ยังจะมีอะไรสำคัญกว่าชีวิตบ้างล่ะ?”
หลังจากที่นั่งมองการกระทำของชายผมยาว และเด็กสาวหน้าเหมือนตุ๊กตาอยู่ครู่ใหญ่แล้ว ในที่สุดหลินหนานก็ถอนหายใจออกมา พร้อมกับถามออกไปว่า
“พอได้หรือยัง?”
“พออะไรไม่ทราบ?” ชายหนุ่มผมยาวย้อนถามด้วยสีหน้ายียวน
“เลิกทำไม่รู้ไม่ชี้ได้แล้ว.. แกจะรังแกคนไม่มีทางสู้ไปทำไม?” หลินหนานตอบกลับทันทีเช่นกัน
ชายผมยาวยกปืนในมือขึ้น และเล็งไปที่ศรีษะของหลินหนานแทน นิ้วชี้เกี่ยวอยู่ที่ไกปืน พร้อมพูดกับหลินหนานด้วยน้ำเสียง และสีหน้าเยือกเย็น
“แกอยากลองบ้างมั๊ยล่ะ? ลองลิ้มรสชาดความตายหน่อยเป็นไง?”
“ก็ดีเหมือนกัน.. ฉันเองก็เบื่อๆกับการมีชีวิตอยู่เต็มทีแล้วล่ะ!” หลินหนานจ้องหน้าชายผมยาว พร้อมตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความหวาดกลัว
ชายผมยาวเห็นท่าทางของหลินหนาน ก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย..
หมอนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
“นี่ลุง! ลุงไม่กลัวตายจริงๆน่ะเหรอ?” สาวน้อยหน้าตาเหมือนตุ๊กตาคนเดิม หันไปยิ้มกว้างให้หลินหนานพร้อมกับเอ่ยถาม
“กลัวสิ! แล้วก็กลัวมากด้วย! ฉันอยู่มาจนอายุขนาดนี้ยังบริสุทธิ์อยู่เลย!” หลินหนานตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่าสมเพช
“คุณลุง! คุณลุงช่างน่าสงสารมากจริงๆ”
เด็กสาวเบะปากทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้ แววตาทั้งสองข้างเป็นประกายราวกับเด็กสาวไร้เดียงสา
“ไหนๆฉันก็กำลังจะตายอยู่แล้ว เธอก็ลองให้ฉันจับหน้าอกดูหน่อยได้มั๊ยล่ะ?” หลินหนานลองถามเด็กสาวดู
“เป็นความคิดที่ไม่เลว.. ตกลง!”
เด็กสาวตอบตกลงหลินหนานทันที พร้อมกับยืดกายตรง และยื่นหน้าอกอวบอิ่มนั้นไปทางหลินหนาน
ภายใต้ท่าทางก๋ากั่นนั้น หลินหนานแอบเห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างของเด็กสาว มือซ้ายของเธอแอบแตะอยู่ที่เชือกผูกรองเท้าอย่างเงียบๆ
หลินหนานเอื้อมมืออกไปข้างหน้าเพื่อสัมผัสกับหน้าอกอวบอิ่มนั้น แต่แล้วเสียงกระซิบเยือกเย็นของชายผมยาวก็ดังแทรกขึ้นมา
“ถ้าแกกล้าสัมผัสหน้าอกเธอแม้แต่น้อย ฉันระเบิดหัวแกทิ้งแน่!”
แต่มือของหลินหนานยังคงเอื้อมออกไปอย่างช้า ไม่มีแม้แต่อาการหยุดชะงัก ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ชายผมยาวข่มขู่ ในระหว่างที่มือของหลินหนานกำลังจะสัมผัสเข้ากับหน้าอกของเด็กสาวนั้น แววตาทั้งสองข้างของเธอก็ปรากฏร่องรอยของความเหี้ยมโหดขึ้นมาวูบหนึ่ง มือที่แตะอยู่ที่เชือกรองเท้าดูเหมือนจะกำแน่นขึ้น
“นี่แกได้ยินที่ฉันพูดมั๊ย? ฉันสั่งให้แกหยุด!” ชายผมยาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับร้องตะโกนข่มขู่อีกครั้ง
ในที่สุดฝ่ามือของหลินหนานก็สัมผัสเข้ากับร่างของเด็กสาว แต่ไม่ใช่ส่วนที่อ่อนไหวของร่างกายอย่างที่ทุกคนคิด มือของหลินหนานเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว และเพียงแค่กดลงบนไหล่ของอีกฝ่ายเท่านั้น
และทันทีที่นิ้วของหลินหนากดลงบนจุดฝังเข็มบนไหล่ของเด็กสาว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม
มือที่กำลังจะดึงเชือกผูกรองเท้านั้นกลับสั่นสะท้าน จนไม่สามารถบังคับควบคุมได้ ดวงตาของเด็กสาวเบิกโพลงด้วยความตกใจ และประหลาดใจ!
เด็กสาวคิดไม่ถึงว่า เพียงแค่อีกฝ่ายสัมผัสไหล่ของตนเองเบาๆ ก็ทำให้เธอไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้อีก
“ไอ้เวร! ฉันจะฆ่าแก!!”
ชายผมยาวร้องคำรามออกมาเสียงดัง และเวลานี้เขาก็โกรธจนไม่อาจควบคุมตนเองได้อีก นิ้วชี้ของเขากดลงบนไกปืนในทันที