ตอนที่ 90 เชื่อฟัง
คลิ๊ก..
หลังจากที่ไกปืนถูกกด หลินหนานก็ยังคงนิ่งเฉย และไม่แม้แต่จะกระพริบตา แต่กลับกลายเป็นว่า.. ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
สีหน้าของชายผมยาวกลับมาสงบนิ่งดังเดิม พร้อมกับเอ่ยถามเสียงเย็น “นี่แกไม่รู้สึกกลัวบ้างเลยเหรอ?”
“ก็แค่ปืนปลอมจะต้องกลัวทำไม?” หลินหนานเบะปากขณะตอบ
“แกรู้ได้ยังไง?” ชายผมยาวถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงงสงสัย
“ปืนเด็กเล่นปลอมได้ห่วยขนาดนี้ แกเก็บไว้หลอกคนโง่กับคนตาบอดจะดีกว่า!” หลินหนานตอบกลับพร้อมกับยิ้มเย็น
“ฮ่าๆๆ นายนี่ตาถึงจริงๆ!”
ชายผมยาวหัวเราะเสียงดัง พร้อมกับกดปุ่มที่อยู่บนปืน แล้วเสียงเพลงก็ดังออกมาจากปืนเด็กเล่นกระบอกนั้น หากเด็กสามขวบมาได้ยินเข้า คงจะจำเสียงเพลงนั้นได้เป็นอย่างดีแน่ และถ้านำเหรียญมาหยอดลงไปในรูที่ด้ามปืน เสียงเพลงก็จะดังต่ออีกราวสองสามนาที
“ฉันซื้อปืนเด็กเล่นนี่มาจากตลาดขายของเล่น แล้วก็เอาไว้หลอกพวกคนหน้าโง่..”
ชายผมยาวหัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับโยนปืนเด็กเล่นนั้นทิ้งไป ก่อนจะหันไปถามหลินหนานว่า
“แกอยากจะเห็นของจริงบ้างมั๊ย?”
“ฉันไม่สนใจ!” หลินหนานส่ายหน้า
“นี่! แกดูออกว่านั่นเป็นปืนปลอม ก็แสดงว่าแกต้องมีความรู้เรื่องปืนดีไม่น้อย!”
ชายผมยาวแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว จากนั้นจึงหันไปโบกมือส่งสัญญาณให้กับชายร่างกำยำสูงใหญ่ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“เจ้าหมี.. นายเอาของดีออกมาอวดหมอนี่หน่อย ดูสิว่าเพื่อนของเราจะมีความรู้มากแค่ไหน?”
ร่างสูงใหญ่ราวกับตึกที่ยืนอยู่ด้านหลังนั้นพยักหน้า พร้อมกับยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นมารูดซิปออก ภายในนั้นมีปืนอยู่มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปืนพก ปืนไรเฟิล หรือสไนเปอร์
แม้กระทั่งระเบิดมือก็ยังมี!
หากหลินหนานไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง เขาคงไม่มีทางเชื่อแน่! เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ที่จะมีคนเดินแบกกระเป๋าที่ใส่อาวุธปืนจริงๆ ไปตามท้องถนนแบบนี้ มิหนำซ้ำยังกล้าเอาออกมาอวดผู้คนอย่างโจ๋งครึ่มด้วย!
ไม่รู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นบ้า หรือว่าเป็นพวกที่ไม่สนใจ และเกรงกลัวกฏหมายกันแน่!
แต่ดูจากท่าทางของพวกมันทั้งสี่คนแล้ว น่าจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า!
“เป็นไงบ้างล่ะ? เยี่ยมมากใช่มั๊ย?” ชายผมยาวแลบลิ้นเลียริมฝีปาก พร้อมกับเอ่ยถามหลินหนาน
“ก็ดี! อย่างน้อยก็เป็นของจริง!” หลินหนานพยักหน้า และตอบกลับไปเพียงแค่สั้นๆ
“แค่นี้เหรอ? แกรู้มั๊ยว่าของดีๆแบบนี้ ต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนกว่าจะได้มา?”
ชายผมยาวเอ่ยถามยิ้มๆ พร้อมกับลงไปในกระเป๋าใบใหญ่ หยิบเอาปืน Glock 17 สัญชาติออสเตรเลียออกมาถือไว้ และเพียงแค่สะบัดข้อมือเล็กน้อย ก็สามารถขึ้นลำปืนได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้น ชายผมยาวก็เล็งปากกระบอกปืนไปที่ศรีษะของหลินหนานอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงดุดัน
“แกเป็นใครกันแน่?”
“แล้วทำไมแกไม่บอกฉันก่อนล่ะว่า แกเป็นใครกันแน่?” หลินหนางย้อนถามพร้อมกับยิ้มบาง
“นี่แกไม่กลัวตายจริงๆน่ะเหรอ?” ชายผมยาวขมวดคิ้วขณะเอ่ยถาม
“กลัวสิ! แต่ฉันรู้ว่าตัวเองจะไม่ตายด้วยน้ำมือของแก เพราะโอกาสที่แกจะตายก่อนฉันมันมีมากกว่า..”
“มั่นใจขนาดนั้นเชียว?” ชายผมยาวย้อนถามด้วยสีหน้าแววตาสงบนิ่ง
“ใช่! ฉันมั่นใจมาก” หลินหนานพยักหน้า และตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเช่นกัน
“งั้นเราก็มาลองดูกันว่า ระหว่างแกกับลูกปืนของฉัน อะไรจะเร็วกว่ากัน?”
นิ้วของชายผมยาวค่อยๆ กดลงบนไกปืน มือข้างที่ถือปืนนั้นแน่วแน่มั่นคง บ่งบอกว่าเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างช่ำชอง
สีหน้าท่าทางของหลินหนานยังคงสงบนิ่งเช่นเคย แต่ภายในร่างกายของนั้นตื่นตัวอย่างมาก และเวลานี้ระหว่างซอกนิ้วมือของเขา ก็มีเข็มสีเงินซ่อนอยู่เช่นกัน
หากชายผมยาวลั่นไกปืนจริงๆ หลินหนานก็จะไม่รีรอ และพร้อมที่จะซัดเข็มเงินในมือเข้าใส่เขาทันที!
บรรยากาศเวลานี้เริ่มตึงเครียดอย่างมาก และเวลานี้นิ้วของชายผมยาวก็ได้กดไกปืนลงไปเกือบครึ่งแล้ว แต่ยังไม่สุดเท่านั้น
ดวงตาของชายผมยาวยังคงจ้องมองหลินหนานไม่กระพริบ มือของเขายังมั่นคง ไม่มีอาการสั่นแม้แต่น้อย และเวลานี้รูม่านตาของเขาก็เริ่มหดลง พื้นตาขาวมีเส้นเลือดสีแดงปรากฏขึ้นเต็มไปหมด และใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายเหี้ยมเกรียมยิ่งกว่าเดิม!
และหากใครคนใดคนหนึ่งเริ่มลงมือ สถานที่แห่งนี้ก็จะมีเลือดไหลนองในทันที ไม่ใครคนใดคนหนึ่งก็ต้องตายอย่างแน่นอน!
ไม่แกตาย.. ก็ฉันตาย!
ในช่วงวินาทีแห่งความตึงเครียดนั้น จู่ๆ เสียงเนิบๆของใครบางคนก็ดังขึ้น
“เอาล่ะเจ้าบ้า.. พอได้แล้ว!”
น้ำเสียงนั้นไม่ดังมากและค่อนข้างทุ้ม แต่ราวกับแม่เหล็กที่ทำให้ทุกคนต้องหยุดชะงัก!
และชายผมยาวที่มีฉายาว่า ‘เจ้าบ้า’ นั้น ก็รีบคลายนิ้วออกจากไกปืนทันที พร้อมกับถอดตลับลูกปืนออกเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะโยนกลับเข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ตามเดิม
“เจ้านายไม่น่าห้ามเลย ฉันก็แค่จะข่มขู่ให้มันกลัวเท่านั้นเอง!”
เจ้าบ้าส่ายหัวอย่างนึกเสียดาย ในขณะที่ชายคนนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเนิบนาบเช่นเคย “ฉันเกรงแต่ว่านายจะไม่สามารถทำให้สหายคนนี้ตกใจกลัวได้น่ะสิ!”
ในที่สุด ชายที่สวมหมวกและดูธรรมดาที่สุดในบรรดาสี่คน ก็ได้ก้าวเท้าเดินตรงเข้ามาหลินหนาน และหลินหนานเองก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันบางอย่างทันที
ก่อนหน้านี้ แม้แต่ตอนที่เจ้าบ้าเล็งปืนกระบอกจริงเข้าใส่ศรีษะของหลินหนานนั้น เขายังไม่รู้สึกกดดันเหมือนตอนนี้เลย และเพียงแค่ชายสวมหมวกก้าวเท้าเข้าขึ้นมาข้างหน้าเพียงแค่สองเก้า ก็สามารถทำให้หลินหนานรู้สึกกดดันได้
ดวงตาหรี่เล็กของชายสวมหมวกที่จ้องมองมาทางหลินหนานนั้ เป็นประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง..
หลินหนานรู้สึกว่า ดวงตาคู่นี้ช่างดูล้ำลึกยิ่งนัก ราวกับมีมนต์ขลัง และแรงดึงดูดบางอย่าง!
“ผมต้องขอโทษด้วย ลูกน้องของผมเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น!” ชายสวมหมวกบอกกับหลินหนานยิ้มๆ
ไม่เพียงดวงตาของเขาจะยิ้มให้กับหลินหนานอีกครั้ง แต่น้ำเสียงของชายผู้นี้ยังราวกับแม่เหล็ก ที่สามารถดึงดูดจิตใจคนฟังได้อย่างมากด้วย
“ผมเข้าใจ!” หลินหนานตอบกลับไปเพียงแค่สั้นๆ
“ผมชื่อฉินเฟิง..”
ชายสวมหมวกแนะนำตัว พร้อมกับยื่นมือให้หลินหนาน ฝ่ามือของเขาขาวราวกับหิมะ และนิ้วก็เรียวงามประหนึ่งนิ้วของนักเปียโน
“หลินหนานครับ!”
หลินหนานแนะนำตัวเอง พร้อมกับยื่นมือออกไปจับฝ่ามือของชายสวมหมวก แต่ไม่ได้มีการประลองกำลังภายในเหมือนในนวนิยาย ทั้งคู่เพียงแค่สัมผัสมือทักทายกัน แล้วต่างคนต่างก็ปล่อยเท่านั้น..
“เอาล่ะ.. ผมไม่รบกวนเวลาของคุณแล้ว ลาก่อน!” ชายหนุ่มสวมหมวกร่ำลาหลินหนาน
“ลาก่อน!”
หลินหนานเอ่ยตอบพร้อมกับโบกไม้โบกมือร่ำลา พร้อมกับหันหลังเดินจากไปทันที
เจ้าบ้ามองตามแผ่นหลังของหลินหนานไป พร้อมกับบ่นพึมพำว่า “เจ้านาย ทำไมถึงไม่ให้ผมจัดการกับหมอนั่น?”
“การฆ่าคนโดยไม่จำเป็น มีแต่จะนำความเดือดร้อนยุ่งยากมาให้!” ฉินเฟิงตอบกลับอย่างใจเย็น
“แต่เมื่อครู่หมอนั่นมันจองหอง แล้วก็ยะโสโอหังมาก!” เจ้าบ้าตอบโต้กลับ
“ฉันกลัวว่านายจะตายก่อนที่จะทันได้ทำอะไรเขาน่ะสิ!” ฉินเฟิงได้แต่ส่ายหน้าไปมา
“จะมีใครเร็วกว่าลูกกระสุนของผมอีก?” เจ้าบ้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ
“นายดูอะไรนี่!”
ฉินเฟิงร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปตรงพื้นที่หลินหนานยืนอยู่ก่อนหน้า และเมื่อเจ้าบ้าได้เห็น เขาก็ถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ!
นั่นเพราะ บนพื้นบริเวณที่หลินหนานยืนอยู่นั้น ยังคงมีรอยเท้าลึกที่บุ๋มลงไปกับพื้นซีเมนต์อย่างเห็นได้ชัด
หมอนั่น.. ยังใช่คนอยู่รึเปล่า?!!
“ฉันว่าพวกเราได้เจอยอดฝีมือเข้าแล้วจริงๆ! จากนี้ไปทุกคนต้องใจเย็นให้มากกว่านี้ แล้วก็ต้องรู้จักถ่อมเนื้อถ่อมตัวให้มาก เพราะพวกเราจะล้มเหลวไม่ได้ เข้าใจมั๊ย?” ฉินเฟิงกำชับทุกคน
“เข้าใจครับ!”
ลูกน้องทั้งสามคนของฉินเฟิงต่างก็ร้องตอบกลับไปพร้อมๆกัน และในเมื่อฉินเฟิงเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของพวกเขา ไม่มีเหตุผลใดที่พวกเขาจะไม่เชื่อฟังฉินเฟิง!