บทที่ 61 หญิงสาวในศาลา(ต้น)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 61 หญิงสาวในศาลา(ต้น)

ซูอัน ซึ่งวางแผนเอาไว้ว่าหลังจาก เฉิงโซวผิง กลับไปเขาจะแอบออกไปจากสถาบันสักหน่อยแต่เมื่อเห็นว่าไอ้เด็กผู้นี้ไม่ยอมจากไปไหนเขาก็ทำได้แต่ถอนหายใจยาว ถ้าเขาหนีออกไปต่อหน้าต่อตาเฉิงโซวผิง เขารับประกันได้เลยว่าทุกคนในตระกูลฉู่ จะได้ยินเรื่องนี้ภายในไม่เกินเที่ยงวัน

ปัจจุบันเขาไม่มีที่ไปอื่นนอกจากตระกูลฉู่ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกลืนศักดิ์ศรีของตัวเองเล่นตามน้ำที่คนอื่นชี้นิ้วสั่งไปก่อน

เฮ้อ…ชีวิตของแมงดาเช่นเขามันไม่ง่ายเลยจริง ๆ ! สงสัยว่าข้าคงต้องเข้าเรียนซะก่อนและรอจนกว่าจะไม่มีใครคอยจับตาดูแล้วค่อยแอบหนีไป

ซูอัน คว้ากระเป๋านักเรียนที่ เฉิงโซวผิง เตรียมไว้ให้เขาพลางคิด

ในใจว่าคนแก่อย่างเขายังต้องมาแบกกระเป๋านักเรียนไปเรียนแบบนี้มัน

ช่างน่าอึดอัดใจเป็นที่สุด!

ซูอัน เดินผ่านซุ้มประตูทางเข้าและพบว่าตัวเองยืนอยู่บนถนนอันเงียบสงบที่มีต้นไม้เขียวชอุ่มถูกปลูกไว้อย่างเป็นระเบียบทั้งสองข้างทาง

ซูอัน มองไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นว่ามีหญิงสาวหน้าตาสะสวย ๆ สองสามคนทำทรงผมหางม้าเดินนำอยู่ไม่ห่าง กระโปรงสั้นของพวกนางพลิ้วไสวไปพร้อมกับลมอ่อน ๆ ทำให้มองเห็นต้นขาที่ขาวสะอาด

โห ๆ นักเรียนในโลกนี้แต่งตัวน่าดูมากกว่าที่คิดแหะ บางทีการมาเรียนที่นี่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น…

เมื่อเดินไปอีกหน่อย ซูอัน ก็ตระหนักว่ายังมีประตูใหญ่อีกบานอยู่ข้างหน้า แต่ที่หน้าประตูนี้กลับมียามประจำการอยู่เพื่อคอยตรวจสอบตัวตนของนักเรียน

นี่น่าจะเป็นประตูหลักของสถาบันจันทร์กระจ่างสินะ!

ซูอันจัดระเบียบเครื่องแต่งกายของเขาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเดินออกไปจากถนนเข้าพุ่มไม้ข้างทางหวังว่าจะหาทางออกจากพื้นที่

เจ้าต้องการให้ข้ากลับมาเรียนอีกรอบงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้!

ให้ข้าลงนรกยังดีกว่าต้องกลับไปเรียนอีกรอบเว้ย!

แต่แล้วหลังจาก ซูอัน เดินเข้าลัดเลาะผ่านพุ่มไม้เข้าไปเรื่อย ๆ และเลี้ยวไปหลายเลี้ยวเขาก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้เขาหลงทาง!

จากนั้นเมื่อในที่สุดเขาออกจากพื้นที่ของสถาบันจันทร์กระจ่างได้สำเร็จ เขาก็ไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไปว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน

“ที่นี่ที่ไหน?” ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเกือบสองวันแล้วที่ ซูอัน มาอยู่ในโลกนี้ แต่เขาก็ยังไม่คุ้นชินกับเมืองจันทร์กระจ่างขนาดนั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะรู้ว่าเขาตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน

“ด้วยชื่อเสียงของตระกูลอวี๋ ข้าคิดว่าข้าน่าจะหาคฤหาสน์ของตระกูลอวี๋ได้ไม่ยากเท่าไหร่จากผู้คนแถวๆนี้” ซูอัน พึมพำกับตัวเอง ตอนนี้ภารกิจแรกที่เขาอยากจะทำเสร็จให้เร็วที่สุดก็คือภารกิจของ จี้เติ้งถู เพื่อที่เขาจะได้กลับมาเป็นลูกผู้ชายอีกครั้ง

หลังจากเดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ พื้นที่อยู่สักพัก ซูอัน ก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีเพราะตั้งแต่เดินออกมาเขายังไม่เจอมนุษย์เลยสักคน!

ครืนนน…!!

สายฟ้าแลบวาบไปทั่วท้องฟ้า และเสียงฟ้าร้องดังก้องได้ยิน

จากระยะไกล หลังจากนั้นฝนก็เริ่มตกโปรยปราย

ฝนที่ตกลงมาโปรยปรายไม่ใช่สิ่งที่ซูอันกังวลมากนัก แต่สายฟ้าที่แลบแปลบปลาบอยู่บนท้องฟ้ามันทำให้เขารู้สึกจิตตก ก่อนหน้านี้เขาถูกฟ้าผ่าจนมาโผล่ที่โลกนี้ ซึ่งเขาไม่ได้ไร้เดียงสามากจนเชื่อว่าหากเขาโดนฟ้าผ่าอีกรอบเขาจะสามารถกลับไปยังโลกเดิมได้ เขามั่นใจว่า

หากโดนผ่าอีกรอบเขาคงตายจริง ๆ แน่นอน!

ครืนนนน…!!!

เสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวหนักกว่าเดิม ซูอัน สำรวจสภาพแวดล้อมของเขาอย่างรวดเร็วและพบศาลาที่อยู่ไม่ไกลนัก ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งไปหาที่หลบภัยทันที

เมื่อเขาอยู่ในศาลา เขาประหลาดใจที่พบว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่แล้ว

ผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดเรียบง่ายนั่งอยู่ในท่าหลังพิงเอนเสาศาลาอย่างเกียจคร้านพร้อมกับมองผ่านสายฝนไปแบบไร้จุดหมาย ส่วนในมือของนางมีขวดหยกสุราซึ่งนางใช้นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเกี่ยวคอขวดรั้งมันเอาไว้เท่านั้น

จากนั้นต่อมาความสนใจของ ซูอัน ก็ถูกดึงไปยังรายละเอียดอื่น ใบหน้า หน้าอก สะโพก และขา…

“ดูพอรึยัง?” หญิงสาวผู้นี้ไม่หันมามอง ซูอัน แม้แต่น้อย แต่นางรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหลังนาง

“ข้ายังดูไม่มากพอ” ซูอันตอบกลับทันควัน ซึ่งมันทำให้รู้สึกตื่นตระหนกทันทีเพราะนิสัยการตอบแบบนี้มันเป็นนิสัยติดตัวตั้งแต่เมื่อชีวิตที่แล้วที่ไม่ว่าเขาจะตอบกลับพวกในเว็บบอร์ดยังไงเขาก็ไม่มีทางเป็นอะไร แต่ที่นี่มันคือโลกแห่งการบ่มเพาะ คำพูดพล่อย ๆ แค่เพียงครึ่งคำ

มันก็สามารถทำให้เขาตายได้แล้ว!

ถึงแม้ว่าเมื่อวานระดับการบ่มเพาะของเขาจะพัฒนาขึ้นจนมี

ความแข็งแกร่งเท่ากับผู้ชาย 20 คน แต่เขากลับมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาสามารถยั่วยุได้

เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวไม่คิดฝันมาก่อนว่าชายหนุ่มผู้นี้จะกล้าเอ่ยคำตอบที่ไร้ยางอายได้ขนาดนี้ นางหันกลับมามองชายไร้ยางอายที่บุกเข้ามาในศาลาอยู่สักพักด้วยสายตาประเมิน จากนั้นครู่ต่อมา นางก็หันกลับไปสนใจสายฝนพร้อมกับพูดว่า “งั้นก็ดูต่อไป”

คราวนี้เป็นตาของ ซูอัน ที่ต้องตกใจ เขาเคยเห็นบุคคลแปลก ๆ

ทุกประเภทบนอินเทอร์เน็ต แต่เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะตอบกลับ

เขาง่าย ๆ แบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่นางหันหน้ามามองเขาเมื่อครู่ มันทำให้เขาได้เห็นใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจนซึ่งนางคือหญิงสาวที่มีความงามจนน่าเหลือเชื่อ เพียงแต่ว่าดวงตาอันสุกใสของนางกลับมีแววเศร้าสร้อยปนอยู่

ซูอัน ยังคงจับจ้องไปที่นางเพื่อสำรวจนางเพิ่มเติมแต่เมื่อยิ่งเขามองไป มันก็ดูเหมือนว่าความเศร้าโศกของนางดูเหมือนจะแพร่เชื้อได้ ซูอันค่อย ๆ พบว่าหัวใจของเขาเริ่มหนักขึ้นพร้อมกับบรรยากาศรอบข้างเริ่มดูหม่นหมองลงเรื่อย ๆ

เมื่อรู้ตัว ซูอัน จึงถอนสายตาและเบนไปมองทิวทัศน์นอกศาลา ตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงเพลงที่ไม่คุ้นเคยซึ่งมันทำให้เขาตกอยู่ในภาพมายา ในชั่วขณะนั้นเขาเห็นน้ำตกไหลย้อนกลับ เมล็ดดอกแดนดิไลออนล่องลอยไปตามสายลมอันแผ่วเบา ท้องฟ้าเต็มไปด้วยร่มเล็ก ๆ มากมาย ดวงอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตก ตกทางทิศตะวันออก สิบปีกับการตรากตรำหาเลี้ยงตัวเองโดยการทำงานในร้านอาหารระหว่างเรียนหนังสือ…

“เจ้าร้องไห้?”