บทที่ 141 พลังที่ไม่อาจต้านได้ PART 2

เมื่อเมอร์ลินออกจากลานประลอง เอเลน่าและคนอื่น ๆ ก็เข้ามาหาเขาด้วยความตื่นเต้นดีใจ แม้แต่คนที่เงียบ ๆ ก็ส่งเสียงดังด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

เมอร์ลินรู้ว่าเอเลน่าคงจะพูดร่ายยาวยืดมันทําให้เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมา เขาจึงชิงตัดบทเธอว่า

“ฉันเพิ่งใช้พลังเวทย์ไปเกือบหมด ฉันขอไปพักก่อนนะ”

หลังจากนั้นเขาก็ได้นั่งพักและหลับตา เขาหยิบหินธาตุออกมาจากแหวนของเขาและใช้ฟื้นฟูพลังเวทย์ที่เสียไป

หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่กล้าทําลายหินธาตุเพื่อฟื้นฟูพลังเวทย์ อย่างไรก็ตาม เขาได้รับทรัพยากรจํานวนมากจากชายชราผมเงิน ทําให้เขารู้สึกสะดวกสบายและทําอะไรต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น

*ปัง*

ณ ลานประลองอีกแห่งหนึ่ง พ่อมดโฮล์มส์ที่มีสีหน้าซีดเผือด เขาได้ใช้กําลังเกือบทั้งหมดและยังใช้ม้วนคัมภีร์ในการจัดการฝ่ายตรงข้าม

หากเขาไม่มีม้วนคัมภีร์ เขาคงจะแพ้ไปแล้ว

“เฮ้ โฮล์มส์ คุณทําให้อาจารย์เกรเทลดูไม่ดี ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคุณจะใช้ม้วนคัมภีร์ไปกับนักเวทย์สามธาตุอย่างไรประโยชน์” ชายร่างสูงที่ไม่ชอบโฮล์มส์กําลังเยาะเย้ยเขา

“พอได้แล้ว!” โฮล์มส์ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาจ้องมองไปยังชายตรงหน้าและเยอะเย้ย “นีล แกเองก็ไม่ได้เป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งเหมือนกัน ยังเร็วเกินไปที่จะชะล่าใจนะ”

พ่อมดนีลนั้นเป็นลูกศิษย์ของแม่มดเกรเทลเช่นเดียวกับเขา สาเหตุที่นีลไม่ชอบเขาก็เพราะว่าเขาได้รับความสนใจจากแม่มดเกรเทลมากกว่า ด้วยนิสียขี้อ้อนของนีล ทําให้เขาไม่พอใจโฮล์มส์ในเรื่องนี้แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมาเนื่องจากโฮล์มส์มีความสามารถเหนือกว่าเขา

อย่างไรก็ตามเนื่องจากโฮล์มส์การสร้างคาถาระดับแรกล้มเหลวแต่เขาทําสําเร็จด้วยเกตุนี้เขาจึงเหนือกว่าในด้านของความแข็งแกร่ง

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นีลจึงไม่พลาดโอกาสที่จะเยาะเย้ยโฮล์มส์และโฮล์มส์ก็อดทนโดยไม่ตอบโต้สักครั้ง

แม้จะเห็นสีหน้าที่โกรธเคืองของโฮล์มส์แต่นีลก็ไม่หยุดที่จะเยาะเย้ยเขา

“อย่างงั้นเหรอ? แต่แกรู้อะไรมั้ย ฉันสามารถทําสําเร็จในคาถาแรกแต่แกยังทําไม่สําเร็จเลยสักคาถา นอกจากแกจะเริ่มต้นช้าแล้วแต่ยังไม่ได้รับโอกาสความสนใจจากท่านจอมเวทย์ที่ทรงพลังด้วย ในขณะที่ฉันมีโอกาสที่ท่านจอมเวทย์จะมาสนใจฉัน!”

นีลที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เขาหันขึ้นไปมองหอคอยนักเวทย์ที่อยู่สูงกว่าหอคอยอันอื่น ๆ ในดินแดนมนต์ดํา

หอคอยพวกนี้คือหอคอยของนักเวทย์ระดับเจ็ดหรือสูงกว่า

สําหรับงานชุมนุมที่จัดในแต่ละครั้ง พวกนักเวทย์ต่างคาดหวังที่จะได้รับความสนใจจากนักเวทย์ระดับเหล่านั้นและนีลเองก็ต้องการแบบนั้นเช่นเดียวกัน

โฮล์มส์ได้มองตามนีลไปด้านบน เขาเองก็คาดหวังให้ตัวเองโดดเด่นเพื่อดึงดูดนักเวทย์ระดับเจ็ดเหล่านั้นเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม เขาล้มเหลวในการสร้างคาถาระดับหนึ่ง ทําให้ความฝันอยู่ห่างออกไปไกลโพ้น

“รอบที่ห้า พ่อมดเมอร์ลิน กับ พ่อมดโฮล์ม!”

ทันใดนั้น พ่อมดชุดเทาเรียกผู้เข้าแข่งขันในรอบถัดไป

“เมอร์ลิน?” พ่อมดโฮล์มส์รู้สึกประหลาดเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่คนรู้จักที่อยู่ห่างออกไป…

“รอบต่อไปเจอพ่อมดโฮล์มอย่างงั้นเหรอ?”

ทางด้านเมอร์ลินเขาก็ได้ยินเสียงประกาศเช่นกัน คู่ต่อสู้ในรอบที่ห้าของเขาคือพ่อมดโฮล์มส์

เขาเงยหน้ามองขึ้นและเห็นโฮล์มส์กําลังมองมาที่เขา

เมื่อทั้งสองฝ่ายขึ้นไปยังลายประลอง พวกเขาก็ยิ้มให้กัน

“ พ่อมดเมอร์ลิน ฉันไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”

เมอร์ลินก็พยักหน้าเช่นกัน ในขณะที่เขากําลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานอันมหาศาลที่พัดผ่านพวกเขาไป

ไม่เพียงแต่เมอร์ลิน โฮล์มส์ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามก็ดูตกใจเช่นกัน หลังจากนั้นทุกคนที่อยู่ที่แห่งนี้ก็สัมผัสได้ถึงพลังจิตอันมหาศาลนี้

*หวู่ม!*

ดวงตาสีแดงของพ่อมดลีโอกระพริบเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเบา ๆ และพูดอย่างร่าเริงว่า “ในที่สุดนักเวทย์ระดับเจ็ดก็หันมาสนใจพวกเราซะที”

พ่อมดนีลที่อยู่ในที่นั่งของผู้เข้าแข่งขัน เขาได้ขึ้นไปมองหอคอยสูงที่อยู่ห่างออกไปด้วยความตื่นเต้น เขาได้พูดออกมาเบา ๆ ว่า “ในที่สุดท่านจอมเวทย์ก็ให้ความสนใจพวกเรา ฉันต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้แล้ว ใครก็ตามที่มาขวางเส้นทางของฉัน มันต้องตาย!” สีหน้าของเขาฉายแววอย่างดุร้ายออกมา

นอกจากพ่อมดนีล นักเวทย์หลายคนก็มีท่าทีที่คล้ายคลึงกัน

เป้าหมายของพวกเขาในงานชุมนุมก็คือต้องการเป็นผู้โชคดีและถูกรับเลือกไปเป็นลูกศิษย์ของท่านจอมเวทย์

บนลานประลอง พ่อมดโฮล์มส์ถอนหายใจยาวและมองเมอร์ลินด้วยสายตาที่ซับซ้อน

“ในที่สุดท่านจอมเวทย์ก็เลือกเป้าหมายแล้ว นี่เป็นโอกาสที่สําคัญที่สุดในชีวิต พ่อมดเมอร์ลินขอให้คุณโชคดี”

เมอริ้ลนขมวดคิ้ว เขาไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่พ่อมดโฮล์มส์บอกเขา ในระหว่างที่เขาจะถามอะไร พ่อมดโฮล์มส์ก็พูดขึ้นมาว่า

“ฉันขอยอมแพ้”

พ่อมดโฮล์มส์ยอมจํานน เขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของเมอร์ลินเป็นอย่างดี เขาไม่สามารถสู้เมอร์ลินได้ แม้ว่าเขาจะใช้ม้วนคัมภีร์ก็ตาม โฮล์มส์หันไปมองนีล ดูเหมือนเขาจะคิดว่าตัวเองเหนือกว่าเมอร์ลินและจะสามารถเอาชนะเมอร์ลินในรอบที่หกได้อย่างง่ายดาย

โฮล์มส์ได้เผยรอยยิ้มออกมา เขาหันมากระซิบเบา ๆ กับเมอร์ลินว่า

“พ่อมดเมอร์ลิน ในรอบต่อไป อย่าลืมสอนบทเรียนให้กับนิลแทนฉันด้วย!”

หลังจากนั้นโฮล์มส์ก็ลงจากลานประลอง เนื่องจากคู่ต่อของเมอร์ลินได้ประกาศยอมแพ้ ทําให้เขาผ่านเข้าสู่รอบที่หกทันที

เมอร์ลินที่ยืนอยู่บนลานประลอง เขาได้เงยหน้าไปมองหอคอยที่สูงที่สุดเพียงไม่กี่พียงของดินแดนมนต์ดํา ตอนนี้พวกนักเวทย์ระดับเจ็ดเริ่มให้ความสนใจในงานชุมนุมเรียบร้อยแล้ว ถ้าเขาทําได้ดี บางทีเขาอาจจะมีโอกาสได้รับเลือก ดังนั้นเขาตั้งใจจะทําเต็มที่เพื่อที่จะได้รับโอกาสได้รับคัดเลือก

“ พ่อมดนีล คน ๆ นั้นสินะ?”

เมอร์ลินหรี่ตามองพ่อมดนีลที่กําลังลานประลองอีกแห่งหนึ่ง เขาจําชายคนนั้นได้ เขาเป็นนักเวทย์ที่เยาะเย้ยโฮล์มส์เมื่อก่อนหน้านี้

เมอร์ลินที่แทบจะไม่ได้ทําอะไรเลยในแมทช์เมื่อกี้ ดังนั้นเขาจึงไม่จําเป็นต้องรีบออกจากลานประลอง เขายืนรอเงียบ ๆ เพื่อให้การแข่งขันของคู่อื่นสิ้นสุดลง

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง พ่อมดนีลได้รับชัยชนะอย่างที่คาดไว้ หลังจากนั้นเขาก็พักช่วงสั้น ๆ และถูกเรียกไปต่อสู้ในรอบต่อไป

“รอบที่หก พ่อมดเมอร์ลิน กับ พ่อมดนีล”

ตอนนี้เหลือนักเวทย์ในงานชุมนุมอีกเพียง 8แปด เท่านั้น

พ่อมดนีลมองมาที่เมอร์ลินด้วยสายตาที่ดุร้าย เขารู้มาว่าเมอร์ลินเป็นนักเวทย์ห้าธาตุแต่ท่าทีหยิ่งยโสของเขาก็ไม่เลี่ยนแปลง

“โฮล์มส์ช่างขี้ขลาดไม่ต่างกับหนู ฉันไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ว่าเขาจะยอมแพ้โดยที่ไม่คิดจะสู้ เขาไม่สมควรที่จะเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เกรเทล เขาไม่คู่ควรกับอาจารย์ด้วยซ้ำ!”

เมอร์ลินมองที่พ่อมดนีลอย่างสงบและสังเกตเห็นกลิ่นอายที่คุกคามแผ่ออกมาจากเขา

บางที่นั่นอาจจะมาจากคาถาระดับหนึ่ง เมอร์ลินรู้ว่าพ่อมดนีลสามารถสร้างคาถาป้องกันระดับหนึ่งได้สําเร็จ ด้วยคาถานี้เองสามารถทําให้ผ่านเข้ารอบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

“พ่อมดนีล ก่อนหน้านี้ พ่อมดโฮล์มส์ได้ขให้ฉันสอนบทเรียนได้แก่คุณ” หลังจากนั้นเขาก็หยุดชั่วคราวและสายหัวเล็กน้อย “ดังนั้นถือว่าเป็นคราวเคราะห์ของคุณ”

“จะมาสอนบทเรียนให้ฉันอย่างงั้นเหรอ ฮ่าฮ่า จากเจ้าโงโฮล์มส์คนนั้นงั้นเหรอ…”

พ่อมดนีลต้องการต้องการจะเยาะเย้ยโฮล์มส์ต่ออีกแต่ในระหว่างนั้นเขาสัมผัสได้ถึงพลังธาตุที่หมุนวนรอบตัวเมอร์ลิน

ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว เมอร์ลินก็เปิดฉากโจมตีเรียบร้อยแล้ว

*เปรี้ยะ เปรี้ยะ เปรี้ยะ*

คาถาข่ายสายฟ้าปรากฏขึ้นในทันที มันคลอบคุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของสนามประลอง เส้นใยสายฟ้าได้ห่อหุ้มร่างของพ่อมดนีลเอาไว้

ในเวลาเดียวกันร่างของเมอร์ลินได้หายตัวไปราวกับภูต เขาปรากฏตัวต่อหน้าพ่อมดนีลในชั่วพริตา

“แช่แข็ง!!”

เขาได้ร่ายคาถาแช่แข็งหลายสิบครั้งในคราเดียวเพื่อไม่ได้นีลหลบหนีได้

ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเสกลูกไฟหลายสิบลูกปรากฏรอบตัวเขา

“ไป!”

เขาได้เสกคาถาข่ายสายฟ้า แช่แข็งและลูกไฟแทบจะพร้อม ๆ กัน พวกมันพุ่งเข้าไปนีลจากทั่วทิศทาง

ด้วยการโจมตีที่รุนแรง ทําให้เหล่านักเวทย์ตกตะลึงทันที พวกเขาอ้าปากค้างและจ้องมองไปที่เมอร์ลินซึ่งกําลังยืนอยู่บนสนามประลอง

ทางด้านพ่อมดนีล แม้เขาจะสร้างคาถาป้องกันระดับหนึ่งได้แต่มันก็ไม่มากพอที่จะป้องกันการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้

ด้วยพลังที่มากขนาดนี้ เขาไม่มีทางสู้เมอร์ลินได้เลย

“พอแล้ว พอแล้ว ฉันยอมแพ้แล้ว!!

นีลรู้ดีว่าเขาไม่มีทางรอดจากคาถาองเมอร์ลินได้ เขาจึงกรีดร้องขอยอมแพ้ทันที หากเขาช้าไปแม้แต่นิดเดียวเขาก็จะจมลงไปคาถาอันมหาศาลนี้

*วิ้ง วิ้ง*

วงแหวนเวทย์บนสนามประลองได้ส่องแสงขึ้นมาทําการปกป้องนีลทันที

แม้ว่าการโจมตีของเมอร์ลินจะรุนแรงถึงขนาดทําลายคาถาระดับหนึ่งได้แต่มันไม่มีทางผ่านการป้องกันของงวงแหวนเวทย์ได้แน่นอน

เหล่าผู้ชมต่างคาดหวังว่าจะได้ชมการต่อสู้ที่สูสีแต่พวกเขาไม่คิดว่าการต่อสู้จะจบเร็วเช่นนั้น พ่อมดนีลแพ้ไปโดยที่ไม่มีโอกาสร่ายคาถาใด ๆ เลย ผู้ชมต่างตกใจกับพลังที่ยิ่งใหญ่ของเมอร์ลิน

“หากเพิ่มคาถาลูกไฟไป เขาก็จะเป็นนักเวทย์หกธาตุใช่มั้ย”

หลังจากผ่านไปสักพักก็มีใครบางคนพูดขึ้นมา นั่นทําให้ทุกคนหันกลับไปมองเมอร์ลินที่ยืนอยู่สนามประลองเป็นตาเดียวทันที