WS บทที่ 143 รอบสุดท้าย PART 2

*หวู่ม*

ทันทีที่วงแหวนเวทย์ล้อมรอบลนประลองเสร็จ ก็เกิดความผันผวนของธาตุลมรอบตัวของเมอร์ลินทันที นี่คือผลของคาถาลมพายุ

ร่าเงาของเมอร์ลินพุ่งตรงยังพ่อมดโลน ทันทีที่เมอร์ลินถึงที่หมาย เมอร์ลินกางมือออกและตาข่ายสายฟ้าขนาดมหึมาตกลงมาจากฟากฟ้า

เขาชิงโจมตีก่อนทันทีโดยไม่ให้โอกาสฝ่ายตรงข้ามได้ตั้งตัว

สีหน้าของพ่อมดโลนกลายเป็นเคร่งขรึม เขามองคาถาข่ายสายฟ้าที่กําลังตกลงมาจากท้องฟ้า ทันใดนั้นม้วนคัมภีร์ก็ปรากฏขึ้นมาในมือเขา

“เขามีม้วนคัมภีร์?”

เมอร์ลินขมวดคิ้วเล็กน้อย โดยปกติม้วนคัมภีร์เป็นของที่มีราคา บางอันราคาห้าสิบไปจนถึงร้อยแต้มสนับสนุน

เมอร์ลินเคยคิดจะซื้อม้วนคัมภีร์มาแต่พอเห็นถึงจํานวนแต้มที่ต้องใช้แล้ว เขาก็ทําใจไม่ได้ที่จะต้องแลกแต้มจํานวนขนาดนั้นกับของที่ใช้แล้วทิ้งและด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ม้วนคัมภีร์คาถาระดับหนึ่งก็ไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่เนื่องจากคาถาที่ผ่านการเสริมความแข็งแกร่งมีความรุนแรงเทียบเท่าคาถาระดับหนึ่ง

“รูปปั้นผู้พิทักษ์!”

พ่อมดโดนปล่อยคาถาจากม้วนคัมภีร์ออกมาทันที มันเป็นคาถาระดับหนึ่งธาตุดิน

เมื่อปล่อยออกมามีการสร้างรูปปั้นหินลึกลับจํานวนมากรอบ ๆ โลนล้อมรอบเขาเป็นวงกลมอย่างสมบูรณ์

มันสามารถป้องกันได้ทั่วทิศทาง แม้แต่คาถาข่ายสายฟ้าของเมอร์ลินก็ไม่สามารถทําอะไรพ่อมดโลนได้

เมอร์ลินไม่รู้ว่าโลนจะมีม้วนคัมภีร์อีกรึเปล่า เขาจึงตัดสินใจร่ายคาถาลูกไฟจํานวนมากล้อมรอบมือของเขาไว้และส่งลูกไฟหล่านั้นพุ่งเข้าหาพ่อมดโลน

*ตูม ตูม ตูม”

การโจมตีแต่ละครั้งทําให้การป้องกันของคาถาจากม้วนคัมภีร์สั่นไหวแต่ไม่สามารถทําลายได้อย่างสมบูรณ์

“ลูกไฟยักษ์!!”

เมอร์ลินตัดสินใจใช้คาถาที่รุนแรงมากขึ้น ลูกไฟที่ส่งออกมาไปมีขนาดใหญ่กว่าปกติถึงสี่เท่า แถมยังมีอุณหภูมิที่น่ากลัว นั่นทําให้สีหน้าของพ่อมดโลนเปลี่ยนไปทันที เขาสังหรณ์ใจว่า เขาไม่สามารถรับมือลูกไฟลูกนี้ได้

“กรงปฐพี!!”

ในที่สุดพ่อมดโลนก็ร่ายคาถาระดับหนึ่งที่เขาสร้างขึ้น มันเป็นคาถาเดียวกับที่พ่อมด โฮล์มส์ใช้ในตอนต่อสู้กับชายชราผมเงิน

ในชั่วพริบตา พลังธาตุดินจํานวนมากกําลังถูกรวบรวมอย่างรวดเร็ว กรงดินขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นรอบ ๆ เมอร์ลิน ถูกขังอยู่ในนั้นโดยไร้ซึ่งทางหนี

*ตูม ตูม ตูม*

คาถาลูกไฟของเมอร์ลินพุ่งโจมตีคาถารูปปั้นผู้พิทักษ์ของพ่อมดโลน ทําให้มันใกล้จะฟังได้ทุกเมื่อ

อย่างก็ตามมีแสงสีเหลืองสว่างวาบ ทําให้รูปปั้นกลับสู่สภาพเดิมและลูกไฟขนาดยักษ์ทําอะไรไม่ได้ สิ่งมันแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของคาถาป้องกันอันนี้

เมอร์ลินรู้สึกประทับใจกับประสิทธิภาพของมัน เขาตัดสินใจเลือกคาถารูปปั้นพิทักษ์ไว้ใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน

“มันไม่ง่ายเลยที่จะหนีรอดจากคาถากรงปฐพี ดูเหมือนการแข่งขันในรอบนี้ พ่อมดโลนจะเป็นฝ่ายชนะ”

แม่มดนาชาส่ายหัวเล็กน้อย แม้ว่าเมอร์ลินจะมีคาถาหกธาตุแต่เขาไม่อาจจะสู้กับพ่อมดโลนที่มีคาถาระบดับหนึ่งถึงสองคาถาและยังมีม้วนคัมภีร์ที่ยังไม่ใช้อีกด้วย

ทางด้านพ่อมดลีโอยังคงนิ่งสงบ แม้ว่าจะมีความกังวลปรากฏบนใบหน้าของเขา

“ลมประกายแสง!!”

มุมปากของพ่อมดโลนได้โค้งขึ้นมา ตอนนี้เมอร์ลินถูกจับด้วยคาถากรงปฐพี เขาจึงตัดสินใจร่ายคาถาโจมตีธาตุลม ลมประกายแสง

*หวู่ม*

สายลมที่เจิดจ้าได้หลอมรวมเป็นลูกศรที่แหลมคม จากนั้นมันก็ถูกยิงไปยังเมอร์ลินโดยไม่ลังเล

*ครี่ก*

ทันใดนั้นกรงปฐพีทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ําแข็งหนา ทําให้กรงปฐพีถูกทําลายไปพร้อมกับชั้นน้ําแข็ง

*ตูม*

เมอร์ลินตัดสินใจร่ายคาถาธารน้ําแข็งออกมา ทําให้กรงปฐพีแข็งตัว นั่นจึงทําให้คาถาสายลมประกายแสงที่ยิงมาทําลายกรงแตกสลายพังทลายทันที

จากนั้นเมอร์ลินได้ปรากฏตัวออกมา แม้ว่าจะหน้าซีดไปสักเล็กน้อย

“เปลี่ยนที่ที่อันตรายที่สุดให้กลายเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ช่างเป็นวิธีที่น่าสนใจในการทําลายกรงปฐพีของพ่อมดโลน”

ในตอนนี้แม่มดนาชาคิดว่านี่น่าจะเป็นจุดจบของเมอร์ลินแต่เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้วิธีการอันชาญฉลาดเช่นนี้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงไหวพริบในการรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉิน

“พ่อมดโลน ฉันทําลายกรงปฐพีของคุณแล้ว ต่อไปถึงตาฉันแล้ว!”

ประการแสงปรากฏผ่านดวงตาของเมอร์ลินและพลังธาตุมืดผันผวนรอบตัวเขา

“ถึงคุณจะรอดออกมาได้แต่ฉันก็สามารถจับคุณขังไว้ในกรงปฐพีอีกรอบได้” พ่อมดโนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อที่จะร่ายคาถากรงปฐพีอีกครั้ง

“หวู่ม”

ร่างของเมอร์ลินหายตัวไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงเสี้ยววินาที เขาก็ปรากฏที่ด้านหลังของพ่อมดโลน

คาถากรงปฐพี่ไม่ใช่คาถาควบคุมวงกว้างดังนั้นพ่อมดโลนจะไม่สามารถขังเมอร์ลินได้ถ้าเขาร่ายคาถาลมพายุ

“หมอกรัตติกาล!!”

ทันทีที่เขามาถึงที่หมาย เขาก็ร่ายคาถาหมอกรัตติกาลใส่พ่อมดโลนทันที เขาไม่ได้ครั้งเดียวแต่ร่ายถคงสามครั้ง

หมอกหนาสีดําได้ปกคลุมไปทั่วลานประลอง เหล่าผู้ชมแทบจะไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นภายในหมอกรัตติกาล

ภายในหมอกสีดํามืดสนิท พ่อมดโลนมองไปรอบ ๆ เขาได้รับการป้องกันจากคาถารูปปั้นผู้พิทักษ์ ตัวเขาที่สร้างคาถาระดับหนึ่งถึงสองคาถา ทําให้พลังจิตของเขาไม่ได้อ่อนแอ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่กลัวคาถาหมอกรัตติกาลของเมอร์ลินเลย

นั่นจึงทําให้โลนหัวเราะออกมา “หมอกรัตติกาลไม่ได้ผลกับกับฉันหรอกพ่อมดเมอร์ลิน อย่าเสียเวลาร่ายออกมาเลย”

“มันจะเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ?” เสียงของเมอร์ลินได้ดังออกมาจากทิศทางหนึ่งซึ่งเมอร์ลินพยายามเคลื่อนที่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้โลนให้พลังจิตตรวจจับเขาได้ หากโลนหาเขาเจอเขาจะร่ายคาถากรงปฐพีโดยไม่ลังเล

“หมอกรัตติกาล!”

เมอร์ลินร่ายคาถาหมอกรัตติกาลอีกครั้ง นั่นทําให้โลนขมวดคิ้วขึ้นมา

“ พ่อมดผมอร์ลิน แม้ว่าฉันจะไม่สามารถหาคุณเจอได้แต่หากคุณทําอย่างนี้ต่อไปในไม่ช้าพลังเวทย์ของคุณก็จะหมดโดยที่มันไม่ได้ผลกับฉัน…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขารู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เขาเริ่มวิงเวียนศีรษะและจากนั้นพลังจิตของเขาไม่สามารถใช้ในหมอกรัตติกาลนี้ได้

“เกิดอะไรขึ้น ทําไมพลังของหมอกรัตติกาลถึงเพิ่มขึ้นได้!” พ่อมดโลนเริ่มตกใจ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าหมอกรัตติกาลของเมอร์ลินมันไม่เหมือนก่อนหน้านี้

“รุกฆาต!!”

เสียงอันเฉยเมยได้ดังขึ้นในหูของโลน ทันใดนั้นลูกไฟขนาดใหญ่หลายลูกกับตาข่ายสายฟ้าที่หนาราวกับขาโต๊ะ ในขณะเดียวกันก็มีไอเย็นยะเยือกที่ดูเหมือนจะสามารถแช่ทุกอย่างให้กลายเป็นน้ําแข็ง ทั้งหมดที่กล่าวมานี้กําลังพุ่งเข้าหาโลน

*ตูม!*

เสียงกัมปนาทดังจนหูแทบดับ การระเบิดของลูกไฟยักษ์ทําให้คาถารูปปั้นผู้พิทักษ์แตกเป็นเสี่ยง ๆ ชิ้นส่วนกระจายลอยขึ้นไปในอากาศ

เมอร์ลินไม่ได้โจมตีต่อ เขาสลายคาถาหมอกรัตติกาล ทันทีที่โลนหลุดออกมาจากหมอกสีดํา เขาก็หันมามองเมอร์ลินทันทีและจ้องมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า

“ฉันยอมแพ้!!”

พ่อมดโลนยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดีเนื่องจากคาถารูปปั้นผู้พิทักษ์ที่เสกออกมาโดยม้วนคัมภีร์นั้น มันได้ถูกทําลายจนย่อยยับ กล่าวคือแม้แต่การป้องกันที่แข็งแกร่งมันไม่สามารถรับมือการโจมตีอันหนักหน่วงของเมอร์ลินได้

ทางด้านเมอร์ลิน เขารู้สึกถึงกับผลลัพธ์ของหมอกรัตติกาลมาก ก่อนหน้านี้เขาลังเลที่จะคาถาหมอกรัตติกลแบบเสริมความแข็งแกร่งเพราะเขาไม่รู้ว่าพ่อมดโลนมีอะไรซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อของพ่อมดโลนบ้างเพราะในท้ายที่สุดคาถานี้เป็นไม้ตายที่สําคัญของเขา หากพ่อมดโลนสวนกลับมาได้ เขาก็ไม่มีอะไรไปสู้กับพ่อมดโลน

นับตั้งแต่ที่เมอร์ลินสร้างคาถานี้ขึ้นมา เขาได้เอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากมาย เขาจึงไม่แปลกใจเลยที่คาถานี้จะประหลาดที่สุดให้หมู่คาถาระดับศูนย์แถมยังใช้พลังจิตมากมายในการสร้างมันด้วย

ด้วยโครงสร้างที่ยุ่งยากซับซ้อนทําให้มีนักเวทย์ไม่กี่คน สร้างคาถานี้สําเร็จ หากเมอร์ลินไม่มีเดอะเมทริกซ์ เขาก็ไม่สามารถสร้างมันได้สําเร็จเช่นกัน

ด้วยโครงสร้างเวทมนต์ที่ซับซ้อนและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทําให้มันเป็นคาถาที่ทรงพลังที่สุด ในบรรดาหกคาถาที่เมอร์ลินมีอยู่ ด้วยพลังของมัน หากฝ่ายตรงข้ามไร้ซึ่งพลังจิตที่แข็งแกร่งมากพอ คน ๆ นั้นจะพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบ

จากนั้นเมอร์ลินเดินออกจากลานประลอง ก่อนหน้านี้เขาใช้พลังเวทย์ไปจํานวนมาก เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสําหรับคู่ต่อสู้ในรอบชิงชนะเลิศที่กําลังจะมาถึง