บทที่ 428 วัวตัวเมียกลับกลายเป็นเนื้อหอม เป็นที่เทิดทูนของทุกพื้นที่!

รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人

บทที่ 428 วัวตัวเมียกลับกลายเป็นเนื้อหอม เป็นที่เทิดทูนของทุกพื้นที่!

ตงฟางเวิ่นทลายผนึกสำเร็จ สุดท้ายแล้วระดับสูงของกองกำลังฮวงเฉวียนตัดสินใจสละเขา ปลดผนึกเพื่อสังหารอีกฝ่าย

อนิจจา พวกเขาช้าไปหนึ่งก้าว

ทว่าต่อให้ทันเวลา พวกเขาก็ไม่สามารถปลิดชีพตงฟางเวิ่นผ่านผนึกได้

การปลดผนึกคือการดึงพลังสะท้อนกลับในผนึกออกมา เพื่อคร่าชีวิตของตงฟางเวิ่น

ทว่าพลังวิญญาณของตงฟางเวิ่นกล้าแกร่งเกินไป ต้านรับพลังสะท้อนกลับที่เปล่งออกจากผนึกได้อย่างสิ้นเชิง เพราะอย่างนั้นไม่ว่าจะสายไปหรือไม่ เขาก็ไม่มีทางเป็นอะไร

ผ่านไปไม่นาน จักรพรรดิหานก็ถูกพาเข้ามาในตำหนัก

“ท่านจ้าวตำหนัก หนนี้คงสำเร็จแล้วกระมัง”

จักรพรรดิหานกล่าวพลางยิ้ม เขามั่นใจในกองกำลังฮวงเฉวียนมาก

แม้ว่าก่อนหน้านี้กองกำลังฮวงเฉวียนล้มเหลว แต่ไม่มีทางล้มเหลวไปตลอด

เขาไม่คิดว่าหลี่จิ่วเต้าเก่งกาจปานนั้น สามารถทำให้กองกำลังฮวงเฉวียนต้องล้มเหลวอยู่ร่ำไป

“หัวเราะอะไร!”

นายตำหนักย่อยสีหน้าอึมครึม สภาพจิตใจกำลังย่ำแย่ แล้วจักรพรรดิหานกลับหัวเราะร่าเริงเยี่ยงนี้ เขาทนไม่ไหว ตบจักรพรรดิหานหนึ่งฉาดจนกระเด็นไปอีกด้าน

จักรพรรดิหานกระแทกกับพื้นอย่างแรง ถูกตบจนเห็นดาวเต็มไปหมด

บัดซบ!

หัวเราะก็ผิดหรือ?

อย่าให้พูดเลยว่าในใจจักรพรรดิหานสะอิดสะเอียนเพียงใด เขารู้ว่ากองกำลังฮวงเฉวียนล้มเหลวอีกแล้ว

ไม่ล้มเหลว แล้วไฉนนายตำหนักย่อยถึงมีท่าทีเช่นนี้!?

เรื่องบ้าอะไรกัน!

เหตุใดกองกำลังฮวงเฉวียนถึงปวกเปียกเยี่ยงนี้!

ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า!

เลิก…ขึ้นราคาได้แล้ว!

นึกถึงการเพิ่มราคาถึงพันปีเมื่อคราวก่อน เขาก็รู้สึกระทม กองกำลังฮวงเฉวียนขี้โกงจนยากจะยอมรับ กินคนเข้าไปไม่แม้แต่จะบ้วนกระดูกออกมาด้วยซ้ำ

ครานั้นเหตุไฉนเขาถึงนึกไปไหว้วานกองกำลังฮวงเฉวียนเสียได้!?

แค่คิดเขาก็อยากตบตัวเองในคราวนั้นให้ตาย

ไม่สนแล้ว หนนี้อย่างไรก็ไม่ทำต่อแล้ว ยกเลิกภารกิจ!

ขืนยังทำต่อ ตระกูลหานของพวกเขามีหวังต้องเป็นทาสรับใช้กองกำลังฮวงเฉวียนไปชั่วกัปชั่วกัลป์!

ทว่าไม่รอให้เขาได้พูดจา นายตำหนักย่อยก็ปริปากออกมา

“ภารกิจนี้จบเพียงเท่านี้ กองกำลังฮวงเฉวียนของเราไม่ต้องการทำต่อแล้ว”

นายตำหนักย่อยกล่าว

ให้ทำต่ออย่างไรไหว

ขืนทำต่อมีหวังได้สูญเสียหนักกว่านี้!

“ได้สิ!”

จักรพรรดิหานยินดีปรีดา ในใจชื่นมื่นสุดขีด

คราวก่อนเขาเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอยกเลิกภารกิจ นายตำหนักย่อยกล่าวว่าหลังยกเลิกภารกิจเขายังต้องแบกรับค่าเสียหาย ต้องรับใช้กองกำลังฮวงเฉวียนไปอีกร้อยปี

บัดนี้นายตำหนักย่อยเป็นฝ่ายเสนอเอง ราคานี้คงมิต้องให้เขาจ่ายแล้วกระมัง ตระกูลหานของเขาคงปลีกตัวไปได้แล้ว!

“อาวุธมหาจักรพรรดิและอาวุธจักรพรรดิ รวมถึงสมบัติล้ำค่าอื่น ๆ ข้าไม่ต้องการแล้ว”

จักรพรรดิหานกล่าว “ถึงแม้ภารกิจไม่ลุล่วง ทว่าการซื้อขายไม่สำเร็จสัมพันธ์ยังอยู่ ของเหล่านี้ถือว่าข้ายกให้กองกำลังฮวงเฉวียนแล้วกัน”

ขณะที่เอ่ยประโยคนี้ เขารู้สึกเจ็บช้ำหัวใจจนราวกับมีเลือดไหล

คลังสมบัติตระกูลหานถูกกองกำลังอื่น ๆ ขนไปจนเกลี้ยง สิ่งที่เขามอบให้กองกำลังฮวงเฉวียนคือทั้งหมดที่ตระกูลหานเหลืออยู่

ทว่าเขามิกล้าขอคืน

กองกำลังฮวงเฉวียนอันธพาลจนน่าพรั่นพรึง ยามนี้เขาเพียงต้องการไปให้ไกลจากกองกำลังฮวงเฉวียน!

“เจ้ายังคิดอยากได้ของเหล่านั้นอยู่หรือ”

นายตำหนักย่อยมองจักรพรรดิหานด้วยสีหน้าประหลาด

โอ้…โห!

หมายความว่าอย่างไร

จักรพรรดิหานคิดในใจว่าเจ้าเป็นฝ่ายยกเลิกภารกิจเองยังต้องให้ข้ารับภาระค่าเสียหายอีกหรือ?

บัด…ซบ ยังมีเหตุผลอยู่หรือไม่!

“ครั้งนี้กองกำลังฮวงเฉวียนของเราเสียหายใหญ่หลวง กระทั่งสมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นห้าคนหนึ่งยังเสียให้กับหลี่จิ่วเต้า เจ้ายังคิดขอของเส็งเคร็งของเจ้าคืนอีกหรือ!?”

สีหน้านายตำหนักย่อยอึมครึม เอ่ยเสียงเย็น “ของเส็งเคร็งพวกนั้นของเจ้าชดใช้ความเสียหายของพวกเราได้รึ? คิดอันใดอยู่! นับแต่นี้ไป ตระกูลหานของพวกเจ้าต้องรับคำสั่งจากกองกำลังฮวงเฉวียนของเราชั่วกัปชั่วกัลป์!”

ไอ้…เวรเอ๊ย!

รอบนี้ไม่แม้แต่จะเพิ่มราคา ชั่วกัปชั่วกัลป์ทันทีเลยหรือ!?

นี่ทำตัวเป็นโจรปล้นสะดม ไม่มีเหตุผลสักนิดแล้วใช่หรือไม่!

“เราคุยกันด้วยเหตุผลมิได้หรือ!”

จักรพรรดิหานร่ำไห้ สำนึกเสียใจเหลือคณา รู้อย่างนี้เหตุใดเขาถึงต้องไปยุ่งกับกองกำลังฮวงเฉวียนด้วย!

กองกำลังฮวงเฉวียนทั้งขี้โกงทั้งอันธพาล!

“ไสหัวไปเสีย!”

นายตำหนักย่อยพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ตบจักรพรรดิหานออกจากตำหนักในฉาดเดียว

เขากำลังหงุดหงิด เพิ่งถูกสิ่งมีชีวิตในชุดคลุมสีทองตำหนิมา ขี้เกียจจะเสวนากับจักรพรรดิหานให้มากความ

ณ แดนบูรพาทิศ เหยียนโจว ดินแดนหยิน นอกเมืองชิงซาน ภายในภูเขาซึ่งมีทัศนียภาพงดงามรื่นรมย์แห่งหนึ่ง

“เก็บข้าวเก็บของ จากนี้ไปข้าจะไปอาศัยอยู่ในเมืองชิงซานแล้ว”

ตงฟางเวิ่นเอ่ยด้วยรอยยิ้มชื่นมื่น อย่าให้พูดเลยว่าดีใจปานใด

เขาตัดการเชื่อมต่อทั้งหมดที่มีกับกองกำลังฮวงเฉวียน แม้กระทั่งผนึกยังทลายไปแล้ว จากนี้ไป เขากับกองกำลังฮวงเฉวียนไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก เขาจักติดตามอยู่ข้างกายท่านเซียน เริ่มต้นชีวิตใหม่อันสวยงาม!

และในวันนั้นเอง เมืองต่าง ๆ ในดินแดนหยินและดินแดนฮวงชุลมุนกันหมด มีผู้ฝึกตนมนุษย์มากมายเดินทางเข้ามาตามหาสัตว์อสูรวัวตัวเมียให้ควั่ก

“นี่มีจุดประสงค์อันใดกัน!?”

“ไยต้องตามหาวัวตัวเมีย”

สิ่งมีชีวิตมากมายไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง เห็นแล้วงุนงงไปหมด

วัวตัวเมียเนื้อหอมเยี่ยงนี้ตั้งแต่เมื่อใด เป็นที่แย่งชิงของทุกคนเชียว!

มอมอมอ!

“ข้าไม่ไป พวกเจ้าจะทำอะไร!”

ตระกูลใหญ่เผ่ามนุษย์รังแกวัว! พวกเจ้าคิดจะกำจัดอสูรวัวอย่างเราให้เกลี้ยงหรือไร พาวัวตัวเมียของเราไปหมด เพื่อให้อสูรวัวอย่างเราไม่มีลูกวัวน้อยถือกำเนิด!”

ในดินแดนหยินและดินแดนฮวง อสูรวัวในสองมหาดินแดนล้วนโหวกเหวกโวยวาย

พวกมันไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องใดขึ้น ถึงมีผู้ฝึกตนมนุษย์ยกทัพเข้ามาหาพวกมัน หมายจะพาตัวพวกมันไป!

“มิใช่!”

“พวกเรามิได้มีความคิดเช่นั้น พวกเราเพียงต้องการให้พวกเจ้าไปกับเรา พวกเราไม่มีทางทำไม่ดีกับพวกเจ้า และจะมอบสมบัติล้ำค่า วาสนาการเปลี่ยนแปลง โอสถวิเศษมหาศาลแก่พวกเจ้า!”

ผู้ฝึกตนมนุษย์พากันเอ่ยบอก มีมารยาทกับอสูรวัวเหล่านี้เป็นอย่างมาก ทั้งยังนำสมบัติล้ำค่า วาสนาการเปลี่ยนแปลง โอสถวิเศษออกมาให้อสูรวัวเหล่านี้มากมาย

เริ่มแรกอสูรวัวเหล่านี้ล้วนพากันต่อต้าน ทว่าท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้านสิ่งยั่วยุไม่ไหว สุดท้ายก็เลือกไปกับผู้ฝึกตนมนุษย์

“ให้ตายสิ เนื้อหอมขึ้นมาจริงหรือนี่”

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!”

สิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุสับสนยิ่งกว่าเดิม ผู้ฝึกตนมนุษย์เหล่านี้เกรงอกเกรงใจวัวตัวเมียมาก เห็นวัวตัวเมียเป็นสมบัติล้ำค่า พยายามโน้มน้าวเข้าเป็นพวกสุด ๆ!

และเหตุผลของเรื่องราวทั้งหมดเพราะประโยคเดียวของหลี่จิ่วเต้า

‘นมวัวนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์อย่างมาก ที่บ้านเกิดของข้า ทุกคนดื่มกันถ้วนหน้า!’

นี่คือวาจาที่หลี่จิ่วเต้าเคยกล่าวกับไป๋มู่

ไป๋มู่จดจำประโยคนี้ไว้ หลังจากกลับมา เขาออกคำสั่งให้กองกำลังเผ่ามนุษย์ต่าง ๆ ลงมือปฏิบัติ ตามหาวัวตัวเมียทั้งหมดให้เจอ แล้วนำวัวตัวเมียมาเลี้ยงดูเทิดทูนเอาไว้ เพื่อให้สะดวกต่อการดื่มนมของผู้ฝึกตนทุกคน!

เขาเป็นถึงผู้นำตระกูลไป๋ ซ้ำตระกูลไป๋ยังเป็นถึงยอดนิกาย เมื่อเป็นคำสั่งของเขา ในเวลาเพียงไม่นาน วัวตัวเมียจากสองมหาดินแดนก็ถูกเลี้ยงดูเทิดทูนไว้ทั้งหมด

ส่วนดินแดนฝอนั้น เขามิได้ติดต่อ พุทธศาสนาค่อนข้างพิเศษ มีกฎศาสนามากมาย ซ้ำยังให้ความสำคัญกับการดื่มกิน ไม่อาจกินดื่มได้ตามใจชอบ

ทว่า ต้าเต๋อซึ่งประทับบนเขาญาณไม่สนเรื่องนั้น

“เร็วเข้า พวกเราก็เลี้ยงดูเทิดทูนวัวตัวเมียทั้งหมดในดินแดนฝอเสีย แม้นไม่รู้เพราะเหตุใด กระนั้นเลี้ยงดูเทิดทูนไว้ก่อนย่อมเป็นการเตรียมการที่ไม่เสียหาย!”

ต้าเต๋อกล่าว

ตอนนี้ สถานะของเขาในพุทธศาสนาสูงส่งอย่างมาก วาจาของเขามีผลพอสมควร

บัดนี้ดินแดนหยินและดินแดนฮวงตามหาวัวตัวเมียจนแทบพลิกแผ่นดิน ดินแดนฝอย่อมทราบข่าวนี้ ต้าเต๋อเสนอให้พวกเขารีบลงมือเข้า

“คำสั่งออกโดยตระกูลไป๋ เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่! อืม เตรียมการไว้ก่อนย่อมดีกว่า!”

พระสังฆราชพยักหน้า เห็นว่าต้าเต๋อพูดมีเหตุผล จึงออกคำสั่งลงไปทันที ให้พุทธสาวกตามหาวัวตัวเมียในดินแดนฝอ แล้วเลี้ยงดูเทิดทูนให้หมด

‘เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับท่านเซียนกันนะ’

ต้าเต๋อพึมพำในใจ