ตอนที่ 80 ตรวจคนไข้

“ครอบครัวเฉินไคชุน ไม่มีใครดีเลยสักคน” ฟางจวิ่นเหมยบ่นออกมา แต่เมื่อเห็นตงหลิงกุมท้องด้วยสีหน้าไม่สู้ดี จึงได้เอ่ยปลอบนาง “เจ้าอย่าไปฟังที่หวังกุ้ยฟางพูดจาเหลวไหล เรื่องลูกเมื่อวาสนามาถึงย่อมต้องมีแน่นอน”

ตงหลิงพยักหน้ารับ จากนั้นก็มองไปทางท่านป้าเถียน ขอบตาก็พลันแดงเรื่อขึ้นมา

ท่านป้าหยางเอ่ย “จวิ่นเหมยพูดถูก หากไม่ได้จริง ๆ ก็ไปให้ฮวนฮวนช่วยดูให้ ฝีมือด้านการแพทย์ของนางสูงส่ง ต้องเก่งกว่าหมอในตำบลอย่างแน่นอน”

ท่านป้าเถียนดึงตงหลิงเข้ามาใกล้ ๆ ได้ยินดังนั้นก็เอ่ยด้วยความกลัวขึ้นมา “เชื่อถือได้หรือไม่ เรื่องท้องของตงหลิงไม่มีวี่แววเลย ข้าจึงกังวลมาก…”

“ไม่ต้องกลัว ฮวนฮวนเป็นคนดีมาก”

ฟางจวิ่นเหมยจึงเอ่ยเสริม “ครั้งก่อนอาฝูก็เกือบไม่รอด ทว่านางมาไม่ทันไรก็ช่วยเอาไว้ได้แล้ว ชีวิตคนนางยังสามารถชิงมาจากมือของยมบาลได้ นับประสาอะไรกับแค่เรื่องมีลูกเล่า”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่านป้าเถียนก็สบายใจขึ้นไม่น้อย

ท่านป้าหยางตั้งใจมาตั้งแต่เช้า จะได้ไม่ถูกพวกชาวบ้านเห็น จี้จือฮวนเวลานี้ก็กำลังเช็ดตัวให้กับเผยยวนอยู่ ส่วนเด็กทั้งสามลุกขึ้นมารำไท้เก๊กแล้ว

เมื่อเห็นท่านป้าหยางพาคนมาด้วย อาอินก็มาเปิดประตูให้

“ท่านย่าหยาง”

“อาอินเอ๋ย แม่เจ้ายุ่งอยู่หรือไม่? ย่าพาคนรู้จักเก่าแก่มาให้แม่เจ้าช่วยตรวจอาการให้หน่อย”

อาอินมองไปที่ด้านหลังของท่านป้าหยางเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้ แล้วเอ่ยออกมา “ท่านแม่กำลังนวดให้ท่านพ่ออยู่ ข้าจะไปถามให้เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”

อาอินวิ่งกลับไปที่ห้องใหญ่ เพื่อบอกให้จี้จือฮวนรู้

จี้จือฮวนจึงเก็บน้ำมันที่ใช้นวดผ่อนคลายกลับเข้าไปในกล่องยาน้อย หลังจากห่มผ้าให้เผยยวนเสร็จแล้ว ก็ได้ล้างมือก่อนจะออกมา

“ฮวนฮวน มารบกวนเจ้าแต่เช้าเลย เจ้าสะดวกหรือไม่?” ท่านป้าหยางรู้ว่าท่านป้าเถียนหน้าบาง ดังนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นก่อน

“วันนี้ไม่ยุ่งเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าคนไหนจะมาตรวหรือเจ้าคะ?”

ท่านป้าเถียนดึงตงหลิงออกมา “สะใภ้ตระกูลเผย นี่คือลูกสาวข้าเอง ตงหลิง นางแต่งงานได้สองปีแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววเรื่องลูกเลย”

จี้จือฮวนเข้าใจได้ทันที คนสมัยโบราณให้ความสำคัญกับเรื่องทายาท คนที่ไม่มีลูกจึงลำบากมากจริง ๆ

“เข้ามาตรวจเถอะ” จี้จือฮวนกลัวว่าพวกเขาจะเข้าไปรบกวนเผยยวน นางจึงเลือกใช้ห้องเล็กของเผยจี้ฉือ จากนั้นจี้จือฮวนก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ให้นางเข้ามาคนเดียวก็พอแล้ว”

ก่อนจะคิดไปคิดมา แล้วจึงตะโกนออกไป “ท่านป้า”

สตรีสูงวัยที่พิงข้างประตูและแทะเมล็ดแตงโมอยู่ก็เงยหน้าขึ้น จี้จือฮวนจึงเอ่ยขึ้นว่า “ช่วยดูแลแขกให้ข้าหน่อยนะเจ้าคะ”

สตรีสูงวัยพยักหน้ารับ ก่อนจะยกเก้าอี้สองสามตัวมาให้แล้วเอ่ยขึ้น “มานั่งเถอะ ให้นางตั้งใจตรวจอาการไป”

ท่าทางเช่นนี้หากไม่รู้มาก่อนว่าจี้จือฮวนเก็บมาจากเขาด้านหลัง คงคิดว่านางเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เสียอีก

เมื่อปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว จี้จือฮวนเห็นท่าทางหวาดกลัวของตงหลิงก็เอ่ยออกมาตามตรง “ไม่ต้องตื่นเต้น บอกอาการของเจ้ามาก่อน พวกเราเป็นผู้หญิงเหมือนกันไม่มีอะไรต้องอายหรอก”

ตงหลิงใบหน้าแดงเรื่อ “ต้องบอกเรื่องอะไรบ้างเจ้าคะ”

“ระดูมาปกติหรือไม่ นานเท่าไรกว่าจะร่วมรักกันหนึ่งครั้ง ร่างกายมีตรงไหนที่ไม่สบายหรือไม่?”

นางเอ่ยไปก็จับชีพจรของตงหลิงไปด้วย ตงหลิงขอบตาแดงเรื่อ “ข้าไม่ได้ร่วมรักมาครึ่งปีแล้ว เรื่องนั้นก็มาไม่แน่นอนนัก ส่วนตรงนั้นก็มักจะคันอยู่บ่อย ๆ”

จี้จือฮวนชะงักไปเล็กน้อย “ถอดเสื้อผ้าออก ข้าขอดูหน่อย”

นางเปิดกล่องยาน้อย แน่นอนว่าข้างในมีถุงมือและอุปกรณ์พิเศษปรากฏขึ้นมาทันที

ตงหลิงยืนขึ้นด้วยท่าทางอึดอัดลำบากใจ “หา?”

“ไม่ตรวจจะรู้ได้อย่างไรว่าป่วยตรงไหน?” จี้จือฮวนค้นดูในกล่องยาน้อย ก็พบว่ามียาที่รักษาอาการอักเสบของผู้หญิงอยู่ด้วย

อืม กล่องยานี่ตรวจอาการเก่งกว่านางเสียอีก

ตงหลิงใบหน้าแดงก่ำ ก่อนจะปลดกระโปรงออก จี้จือฮวนหลังจากตรวจร่างกายให้นางแล้วก็เอ่ยขึ้นมา “สามีเจ้าใส่ใจเรื่องความสะอาดหรือไม่?”

ตงหลิงกัดริมฝีปาก “เรื่องแบบนั้นน่าอายจะตายไป ข้าจะกล้ามองเขาได้อย่างไร”

จี้จือฮวนส่ายหน้า ก่อนโยนถุงมือลงในถังขยะ ตงหลิงเห็นนางส่ายหน้าก็ร้องไห้พลางเอ่ยออกมา “ข้ามีลูกไม่ได้ใช่หรือไม่?”

จี้จือฮวนยังไม่ทันตอบ ท่านป้าเถียนก็พุ่งตัวเข้ามา “อะไรนะ มีลูกไม่ได้หรือ ลูกที่น่าสงสารของข้า!”

สตรีที่มีลูกไม่ได้ ชาตินี้คงไม่มีใครเอาแล้ว

“ท่านแม่ ข้าไม่ขออยู่แล้ว!” ตงหลิงร้องไห้พลางจะเอาหัวไปโขกกำแพง จี้จือฮวนจึงเคาะโต๊ะเสียงดัง “ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลย พวกท่านอย่าเพิ่งร้อนใจไปก่อนสิ”

เสียงร้องของท่านป้าเถียนจึงติดอยู่ในลำคอทันที “หมายความว่าอย่างไร?”

จี้จือฮวนกลอกตามองบน “นางมีอาการอักเสบตรงส่วนนั้น ยาผงนี่ใช้ผสมน้ำอาบ ส่วนยาแก้อักเสบนี่ก็ให้กินก่อนนอน และให้สามีของนางอาบน้ำให้สะอาดทุกครั้งก่อนจะร่วมรัก รักษาอาการคันให้หาย ปล่อยใจให้ผ่อนคลาย ก็จะตั้งท้องได้อย่างแน่นอน”

จี้จือฮวนให้เผยจี้ฉือเข้ามาเขียนใบสั่งยาปรับธาตุน้ำให้ท่านป้าเถียน “วางใจเถอะ เป็นปัญหาเล็กน้อย ต้องมีลูกได้อย่างแน่นอน แต่อย่าหักโหมทำงานหนัก อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป เรื่องการตั้งท้องอาศัยแค่ฝ่ายหญิงอย่างเดียวคงจะไม่ได้ เข้าใจหรือไม่?”

ท่านป้าเถียนเมื่อได้ยินว่าสามารถมีลูกได้ ก็ดีใจเป็นอย่างมาก

“เช่นนั้นสามารถมีลูกชายได้หรือไม่?”

จี้จือฮวนจ้องหน้าท่านป้าเถียน “จะได้ลูกชายหรือลูกสาวไม่มีเคล็ดลับ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องแบบนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ชาย ไม่เกี่ยวกับผู้หญิง”

ท่านป้าเถียนยังคงไม่สบายใจ “เช่นนั้นดื่มน้ำมนต์จะช่วยได้หรือไม่?”

“ไม่ช่วย ดื่มน้ำมนต์ก็เท่ากับเร่งให้ตัวเองตายเร็วขึ้น หากเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว จะกินสักสองชามก็ได้” จี้จือฮวนเอ่ยจบ เห็นท่านป้าเถียนไม่พอใจก็ถอนหายใจออกมา แล้วเอ่ยกับตงหลิง “กลับไปตั้งใจดูแลตัวเองเถอะ เจ้าต้องท้องได้แน่นอน”

ตงหลิงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นางไม่มีเงินไปหาหมอ ที่สำคัญก็ไม่สะดวกใจจะบอกอาการของตนกับหมอผู้ชายด้วย ตอนนี้มีหมอผู้หญิงยืนยันว่านางสามารถมีลูกได้ ปัญหาที่หนักอกของนางจึงได้มลายหายไปแล้ว

“ขอบคุณพี่สะใภ้เผยมากเจ้าค่ะ หากว่าข้าท้องจริง ๆ ข้าจะเอาไข่ไก่สีแดงมาให้ท่านแน่นอนเจ้าค่ะ”

การที่คนชนบทให้ไข่ไก่สีแดงถือว่าใจกว้างมากแล้ว จี้จือฮวนจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ได้ ข้าจะรอฟังข่าวดีของเจ้า”

ท่านป้าหยางดึงมือท่านป้าเถียนออกไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “คราวนี้เจ้าวางใจได้แล้วใช่หรือไม่ ฮวนฮวนเป็นคนจริงใจและมีความสามารถ นางบอกว่ามีลูกได้เช่นนั้นก็ต้องมีได้แน่นอน”

ท่านป้าเถียนพยักหน้ารับ “อืม”

ขอเพียงสามารถมีลูกได้คนหนึ่ง เช่นนั้นการจะมีคนที่สองก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่มีให้ได้สักคนหนึ่งก่อนจะดีกว่า

“เช่นนั้นค่ารักษาเท่าใดหรือ?”

“ไม่ต้องเจ้าค่ะ รอมีลูกเมื่อไรค่อยเอาไข่ไก่สีแดงมาให้ข้าก็พอ” เด็กทั้งสามกำลังต้องการโปรตีนเสริมร่างกายพอดี

คราวนี้ท่านป้าเถียนรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก คนเขาไม่คิดเงินแล้วยังให้ยามาอีก ไม่แน่อาจจะได้ผลจริง ๆ ก็ได้

เพิ่งจะส่งท่านป้าเถียนสองแม่ลูกกลับไป ฟางจวิ่นเหมยก็ดึงจี้จือฮวนไว้แล้วเอ่ยขึ้นมา “น้องสาว เจ้าช่วยตรวจให้ข้าหน่อยสิ”

“พี่สะใภ้เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?”

ฟางจวิ่นเหมยเอ่ยอย่างขัดเขิน “หลังจากที่ข้าคลอดอาฝู หน้าอกข้าก็มักจะรู้สึกไม่สบาย มีวิธีรักษาหรือไม่?”

“เข้าไปดูในห้องเถอะเจ้าค่ะ”

อาการนี้ของลูกสะใภ้ ท่านป้าหยางเองก็ทราบดีจึงตามเข้ามาด้วย หลังจากปิดประตู ฟางจวิ่นเหมยก็ไม่ได้เขินอายอะไร นางถอดเสื้อให้จี้จือฮวนดูทันที

แต่ตอนที่จี้จือฮวนยื่นมือมาบีบ ฟางจวิ่นเหมยกลับเริ่มรู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อจี้จือฮวนมีท่าทางเคร่งเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ฟางจวิ่นเหมยก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา พักใหญ่กว่าจี้จือฮวนจะเอ่ยออกมา “ท่านมีก้อนเนื้อที่เต้านม มักจะหงุดหงิดอยู่บ่อย ๆ แน่นหน้าอก และอารมณ์เสียง่ายใช่หรือไม่?”

ฟางจวิ่นเหมยอึ้งไปเล็กน้อย “สวรรค์ น้องสาวเจ้ารู้ได้อย่างไร บางครั้งข้าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จริง ๆ”

ท่านป้าหยางเอ่ยด้วยความกลัวขึ้นมา “ก้อนเนื้ออะไรหรือ อาการหนักหรือไม่?”

“ก้อนเนื้อจะแบ่งออกเป็นเนื้อดีกับเนื้อร้าย โดยพื้นฐานแล้วมักจะเป็นเนื้อดี ต้องรอดูว่ามันจะใหญ่ขึ้นหรือไม่ ถ้าใหญ่ขึ้นก็ต้องตัดออก”

คำพูดนี้ทำให้ท่านป้าหยางและฟางจวิ่นเหมยตกใจจนหน้าซีดไปหมด

จี้จือฮวนดูก็รู้ว่าพวกนางต้องเข้าใจผิดไปแล้วแน่ ๆ “นี่ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะ คนส่วนใหญ่ก้อนเนื้อมักจะไม่ใหญ่ขึ้น ขอเพียงพักผ่อนให้มาก อย่าโมโหบ่อย เข้านอนเร็วและตื่นเช้า ๆ ส่วนที่รู้สึกไม่สบาย ข้าจะออกใบสั่งยาให้ ท่านกินทุกวันน่าจะดีขึ้นเจ้าค่ะ”

ฟางจวิ่นเหมยตอนนี้ไหนเลยจะกล้าปฏิเสธ นางจึงรีบพยักหน้ารับคำทันที ก่อนจะนั่งเกวียนวัวไปซื้อยาที่ตำบลในวันเดียวกันนั้นเลย

.

.

.