ตอนที่ 101 ผมอยู่ทั้งคน!

สีหน้าของหยวนเพิ่งเวลานี้ บ่งบอกถึงความภูมิอกภูมิใจอย่างมาก จนลืมความเจ็บปวดที่ถูกหลินหนานถีบก่อนหน้านี้ไปสิ้น

เขารู้สึกว่าคืนนี้นับเป็นความโชคดีของตนเอง ที่ได้มีโอกาสแสดงออกต่อหน้าจางเฉิงเช่นนี้ และมั่นใจอย่างยิ่งว่า หลังจากงานเลี้ยงของสมาคมเมิ่งหลานในคืนนี้ เขาจะได้รับรางวัลอย่างงามจากจาง ฉิงแน่

และหลังจากได้ยินคําพูดของหยวนเฟิง ผู้เฒ่าหวูถึงกับหันไปถามหลิวหยิงหยิงทันที

“เถ้าแก่หลิว ที่หยวนเฟิงพูดเป็นความจริงงั้นรึ?”

“อาวุโสหรู คือว่า.. ฉัน”

หลิวหยิ่งหยิ่งได้แต่ย้ําอึ้ง และพูดจาตะกุกกตะกัก เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าห้องจัดเลี้ยงให้ทุกคนฟังได้อย่างไร..

มันก็แค่จูบ!

“ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้ชายคนนั้นยังคลุมเครือไม่ชัดเจนแบบนี้ ฉันเกรงว่าคงจะไม่สามารถรับเขาเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมได้”

“และที่สําคัญกว่านั้น หากเรื่องที่หยวนเพิ่งพูดเป็นความจริงและมีหลักฐานชัดเจน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคุณเสินก็ควรจะต้องสิ้นสุดลงด้วย!” หรู่เพิ่งประกาศเสียงกร้าว

หลิวหยิ่งหยิ่งพิมพ์ออกมา ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโกรธจนตัวสั่นและน้ําตาก็เริ่มไหลริน

นับตั้งแต่เส้นว์เตาเสียชีวิตลง หลิวหยิงหญิงก็ไม่เคยคิดที่จะตกลงปลงใจกับใคร เพราะเห็นแก่เส้นว์เตามาโดยตลอด และทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะในโลกใบนี้ ไม่มีใครที่จะเมตตาและดีกับเธอมากเท่ากับเงินว์เตาอีกแล้ว

ในอดีต เป็นเงินกู้เตาที่ไปพาเธอออกมาจากหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง และได้สอนเธอให้รู้จักกับวิธีการรับมือผู้คนหลากหลายประเภทอีกทั้งยังสอนให้เธอรู้จักป้องกันตัวเองอีกด้วย

แต่.. เส้นว์เตาก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอเลยแม้แต่น้อย!

ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลิวหยิ่งหยิ่งเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเส้นว์เตาเสมอมา และนับเป็นคนสนิทคนหนึ่งของเขา

ความจริงแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น เส้นว์เตาไม่เคยมีความปรารถนาเช่นชายหญิงกับหลิวหยิ่งหยิงเลย หรือพูดง่ายๆก็คือว่า เขาไม่สามารถมีภรรยาได้ และเขาก็ตั้งใจเลี้ยงดูอบรมหลิวหยิงหยิงเสมือนบุตรสาวคนหนึ่งมาโดยตลอด

และความจริงข้อนี้ ก็มีเพียงหลิวหยิงหยิงเท่านั้นที่รู้ดี!

ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่เสิ่นว์เตาเสียชีวิตลง ไม่เพียงหลิวหยิงหยิงไม่คิดที่จะทอดทิ้งและตีจาก แต่เธอยังตั้งใจที่จะอยู่ดูแลสมบัติของเส้นว์เตาให้ดี เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เขาอบรมและเลี้ยงดูเธอมา

ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา ทุกคนต่างก็เข้าใจผิดกันหมด แต่หลิวหยิ่งหยิ่งก็ยังคงอดทนมาโดยตลอด และไม่ยอมปริปากบอกใครแม้แต่คนเดียว ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของเสิ่นวู๋เตา

แต่เวลานี้ หวูเฟิงกลับประกาศกร้าว่า จะตัดความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเส้นเตาที่เคย

มีมา..

ไม่มีทาง!

ไม่มีวันที่เธอจะปล่อยให้ใครทําเช่นนี้แน่!

เธอมีทุกวันนี้ได้เพราะเสิ้นเตา ฉะนั้นแล้ว ชั่วชีวิตนี้ เธอจะไม่ยอมถูกตัดขาดจากเส้นเตาโดยเด็ดขาด ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!

และแน่นอนว่า น้ําตาของหญิงสาวมักทําให้ผู้คนใจอ่อนได้เสมอยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึงน้ําตาของหญิงสาวที่สวยงดงามเช่นหลิวหยิงหยิ่ง!

หลินหนานที่ยืนนิ่งเฉยอยู่นาน ก็ไม่อาจอดทนต่อไปได้อีก และได้แต่กร่นด่าชายชราอยู่ในใจ..

ตาแก่นี่ทําเกินไปแล้ว มีเหตุผลอะไรที่จะต้องบีบคั้นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งขนาดนี้ด้วย?

แต่ในระหว่างนั้น จู่ๆหวูเฟิงก็ตัดสินใจทําเรื่องที่หลายคนไม่คาดคิด เขาหรีตาจ้องมองหลิวหยิ่งหยิง พร้อมกับพูดขึ้นว่า

“เถ้าแก่หลิว ที่ผ่านมาฉันเห็นเธอเป็นภรรยาหม้ายของเส้นเตาจึงยังได้ให้เธออยู่ในตําแหน่งผู้ก่อตั้งทั้งเก้าของสมาคมเมิ่งหลานแต่ ในเมื่อเวลานี้ เธอได้พบเจอผู้ชายที่จะสามารถฝากผีฝากไข้ได้แล้ว ก็ควรจะออกไปแต่งงานแต่งการ มีครอบครัวดังเช่นหญิงสาวปก ติทั่วไป..”

ทุกคนที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงถึงกับแอบถอนหายใจ และได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่า ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ดจริงๆ!

การกระทําของผู้เฒ่าหรู่เวลานี้ ไม่ต่างจากการรบชนะ โดยที่ไม่ต้องสูญเสียเลือดเนื้อแม้แต่น้อย!

เหนือชั้น!

ชั้นเชิงของชายชรานั้น เหนือกว่าหลิวหยิงหยิงหลายขุม!

และเวลานี้ การรุกของชายชราก็ทําให้หลิวหยิงหยิงถึงกับงุนงงและตอบโต้กลับไปไม่ถูก สภาพของหลิวหยิ่งหยิ่งเวลานี้ ไม่ต่างจากจอกแหนที่ล่องลอยอยู่กลางท้องน้ํา โดยที่ไม่สามารถทําอะไรได้

แม้ว่าอาไร่จะไม่อาจทนดูต่อไปได้ และอยากจะเข้าไปช่วยเจ้านายสาวมากเพียงใด แต่ผู้คนที่อยู่ในงานเลี้ยงเวลานี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนใหญ่คนโตทั้งสิ้น ทุกคนล้วนมีอํานาจบารมี และอิทธิพลมาก เกินกว่าที่เขาจะช่วยได้

อีกทั้งเขาเองก็ไม่รู้ว่า หากตนเองเสนอหน้าออกไป จะทําให้เหตุการณ์ต่างๆเลวร้ายลงมากกว่าเดิมหรือไม่?

ในระหว่างที่หลิวหยิงหยิงกําลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลําบาก นี้ จางเฉิงกับหลิวจื่อหยานก็ได้แต่หันไปมองหน้ากัน พร้อมกับยิ้ม เย้ยหยัน

หลิวหยิ่งหยิง.. แย่แล้วสินะ จู่ๆก็กําลังจะหลุดจากปีกที่เส้นว์เตากางปกป้อง ช่างอ่อนหัดซะจริงๆ!

ผู้ชายพวกนี้ล้วนแล้วแต่ไม่ต่างจากแวมไพร์ ที่คอยดูดเลือดหญิงสาว..

และอย่าได้มองข้ามผู้เฒ่าหรูที่แม้จะมีใบหน้าเมตตาดั่งเทพเจ้าแต่ความจริงแล้ว เขาก็คือคนหน้าชื่อใจคดคนหนึ่ง เพียงแต่สามารถเก็บซ่อนมันไว้ได้อย่างแนบเนียนเท่านั้น!

คนซื่อสัตย์ตรงไปตรงมานั้น ช่างหาได้ยากเย็นเสียเหลือเกิน!

“ดูเหมือนการประชุมสมาชิกสมาคมเมิ่งหลานปีนี้ จะน่าสนใจมากทีเดียว!” หลิวจื่อหยานหยิบองุ่นตรงหน้าโยนใส่ปาก พร้อมกับกระซิบเสียงเบา สีหน้าของเขายิ้มแย้ม และดูเบิกบานเป็นอย่างมาก

“นั่นน่ะสิ! การประชุมของสมาคมจืดชืดไร้ชีวิตชีวามาหลายปีแล้ว..” จางเฉิงพยักหน้าเห็นด้วย พร้อมกับยกถ้วยชาขึ้นจิบ

แต่แล้วสายตาที่แหลมคมของหลิวจื่อหยาน ก็เหลือบไปเห็นฝ่า มือบวมเปล่งของจางเฉิงเข้า จึงได้แต่ถามขึ้นว่า

“คุณจาง มือของคุณไปโดนอะไรมา?”

“เมื่อเช้าผมไปฟาดกับกําแพงเข้า ไม่ได้เป็นอะไรมาก” จาง เฉิงตอบกลับและรีบชักมือกลับไปซ่อนไว้ด้านหลังทันที ส่วนสายตาก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของหลินหนานแน่นิ่ง

“อ่อ..”

หลิวจื่อหยานพยักหน้าและพึมพําเบาๆในลําคอ แต่หลังจากครุ่นคิดอะไรบางอย่างได้ เขาก็ได้แต่พูดขึ้นยิ้มๆ

“คุณหยาง คุณต้องระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ อย่าลืมว่าสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งสําคัญที่สุด!”

จางเฉิงได้แต่แอบก่นด่าสาปแช่งอยู่ในใจ “ไอ้จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์!” แต่ปากก็ตอบกลับไปว่า “ขอบคุณที่เป็นห่วง…”

ทางด้านหวังชางหยางเองก็กําลังยิ้มหน้าบานอย่างมีความสุขและหันไปกระซิบกับถังจินซ่งว่า

“คุณชายถึง คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะตัดสินใจได้ถูกมากที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมเมิ่งหลานก่อนหน้านี้ ไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นอะไรสนุกๆแบบคืนนี้แน่!”

“นั่นน่ะสิ! คิดไม่ถึงว่าคนที่เก่งไปซะทุกด้านอย่างไอ้หมอนั่นจะต้องมาตายเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง!” ถึงจินซ่งตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้างด้วยความสะใจ

“พวกเรามารอดูกันว่า สองคนนั้นจะจัดการกับสถานการณ์นี้ได้ยังไง? นี่ถ้ามีการต่อสู้กันจนตายไปข้างก็ยิ่งดี ถ้าหมอนั่นตาย พวกเราจะได้ไม่ต้องไปขอร้องคุณชายหลี่ให้ช่วย!” หวังชางหยางยักคิ้วในขณะตอบกลับ

แต่เมื่อหวังชางหยางยืดตัวตรง เขาก็รู้สึกเจ็บปวดตามเนื้อตามตัวและเหงื่อเย็นก็ไหลออกมาตามร่างกายอีกครั้ง

เช้านี้ หวังชางหยางตื่นขึ้นมา และพบว่ามีป้าอายุราวสี่สิบถึงห้าสิบปี ร่างกายอวบอ้วนคนหนึ่ง กําลังนอนอยู่ข้างกายเขา..

ความรู้สึกในเวลานั้น หวังชางหยางแทบไม่อยากจะนึกถึง!

เมื่อคืน เขายังคิดว่าได้ถูกรถบดขยี้ร่างจนแทบแหลกเหลว และ เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของหลินหนานทั้งสิ้น

หลินหนานเป็นผู้บงการทุกอย่าง!

ชายหนุ่มทั้งสองคับแค้นใจเป็นอย่างมาก และต้องการที่จะเห็นหลินหนานตกอยู่ในช่วงเวลาเลวร้ายเหมือนพวกตนบ้างหรือไม่ก็ตายๆไปเลย

ซึ่งเวลานี้ นับเป็นโอกาสที่ดีของพวกเขาทั้งคู่ เพราะเวลานี้หลินหนานได้กลายเป็นเป้าหมายโจมตีของเหล่าสมาชิกสมาคมเมี่งหลาน!

ตําแหน่งผู้ก่อตั้งสมาคมทั้งเก้า ใครๆก็อยากครอบครองทั้งนั้น เพราะนั่นย่อมหมายถึงอํานาจ และผลประโยชน์มากมายที่จะตาม มา ทุกวันนี้ ผลประโยชน์ภายในสมาคมเมิ่งหลานนั้น มีมากมายไม่ น้อยไปกว่าตระกูลใหญ่ๆในเมืองเจียงไฮวเลย

เวลานี้ ยังไม่ทันที่จะได้เริ่มเปิดประชุมเสียด้วยซ้ําก็เกิดเรื่องที่หลิวหยิงหยิงไม่อยากจะเห็นขึ้นเสียก่อนแล้ว

หลิวหยิ่งหยิงสูดลมหายใจเข้าออก และพยายามที่จะสงบสติอารมณ์ของตนเอง ให้กลับมานิ่งสงบดังเดิม!

และในเวลานั้นเอง ฝ่ามือของใครบางคนก็สัมผัสเข้ากับฝ่ามือ ของเธอแม้ฝ่ามือนั้นจะมีแต่กระดูกและหยาบกระด้าง แต่กลับให้ความอบอุ่นกับเธอได้อย่างมากมาย หลิวหยิงหยิงรีบหันกลับไปมองและพบใบหน้าของหลินหนานลอยเด่นอยู่

“ไม่ต้องห่วง มีผมอยู่ด้วยทั้งคน!”

หลินหนานกระซิบบอก พร้อมกับยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงราย หลิวหยิ่งหยิ่งรู้สึกว่า รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้อบอุ่นราวกับ แสงอาทิตย์ที่สามารถละลายหิมะที่กลายเป็นน้ําแข็งได้อย่างง่ายดาย..

และรอยยิ้มของหลินหนานนั้น ก็ทําให้เธอรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก..

“อืมม..”

หลิวหยิ่งหยิ่งพยักหน้า และใบหน้าของเธอก็ได้กลายเป็นสีแดง ระเรื่อ

หลินหนานเดินเอามือไขว้หลังไปด้านหน้า เขากวาดสายตามองไปทั่วทั้งห้อง และพบเห็นสายตาเย้ยหยันที่กําลังจ้องมองมา

ยิ่งได้เห็นสายตาเย้ยหยันของคนเหล่านั้น หลินหนานก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น พร้อมกับคิดในใจว่า..

อยากเล่นใหญ่กันนัก งั้นก็ไปให้สุดเลยก็แล้วกัน!