บทที่ 63 คุณคิดอย่างไรกับหมอโจว

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 63 คุณคิดอย่างไรกับหมอโจว?

บทที่ 63 คุณคิดอย่างไรกับหมอโจว?

ทักษะการเล่นกู่ฉินของซีชิงอิ่งนั้นยอดเยี่ยมมาก

เพลง ‘หิมะในฤดูใบไม้ผลิ’ บรรเลงออกมาอย่างลึกซึ้งด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย โจวอี้เป็นคนที่มีมาตรฐานสูงในการรับฟังบทเพลงเช่นนี้ และเขายอมรับว่าซีชิงอิ่งสามารถเล่นเพลงนี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์

หานหาน กลับมาที่โรงน้ำชาในตอนท้ายเพลง และเธอพลันได้ยินเสียงทอดถอนใจและเสียงพึมพำของโจวอี้ “ความงามและความสามารถเป็นของคู่กันจริง ๆ แต่ก็ดีเราจะได้เพลิดเพลินกับอาหาร!”

“เจ้านายของเราน่าทึ่งมากใช่ไหม?” หานหานมีบุคลิกที่เงียบขรึม เธอไม่ค่อยแสดงอารมณ์ทุกข์ร้อนสักเท่าไหร่ แต่ในเวลานี้เธอยังมีความภาคภูมิใจและความนับถือซีชิงอิ่งอยู่บ้าง

“ยอดเยี่ยม!” โจวอี้พยักหน้า

“แสดงว่าคุณมีรสนิยมการฟังที่ดี” หานหานยิ้มและรินชาให้ชายหนุ่ม จากนั้นก็กลับไปต้มชาอีกครั้ง

ครู่ต่อมาเพลงที่สองก็ดังขึ้น บทเพลงนี้มีชื่อว่า ‘ภูเขาสูงและสายน้ำ’

โจวอี้ดื่มชาหอม ๆ แล้วหลับตาฟังจนจบเพลง ท่วงทำนองที่งดงามยังคงติดตรึงอยู่ในใจ

กริ๊งงง!!

ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

โจวอี้มองดูชื่อผู้โทรเข้าก็พบว่าเป็นหวงไห่เทา

“เถ้าแก่หวง คุณเพิ่งตื่นเหรอ?” ชายหนุ่มรับสายด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

“ใช่ผมเพิ่งตื่น แล้วก็เพิ่งเห็นว่าก่อนหน้านี้คุณโทรมา มีอะไรรึเปล่า?”

“พาผมไปโรงเรียนสอนขับรถทีสิ” โจวอี้เอ่ยเข้าประเด็น

“รีบขนาดนั้นเลย?”

“ที่บ้านมีรถคันใหญ่อยู่ จะไม่รีบได้ยังไง? อีกอย่างผมต้องไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน จะให้ลูกสาวผมทนหนาวต่อไปไม่ได้”

“เอาล่ะ คุณเป็นพ่อดีเด่นแห่งปี คุณเชื่อฟังลูกสาวจริง ๆ ตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้…”

“โรงน้ำชาปาชาน”

“โฮ่! โฮ่! คุณชอบซีชิงอิ่งหรือเปล่านั้น ทำไมไปหาเธอเร็วจัง”

“อย่าคิดอะไรลามกเพ้อเจ้อ ผมรอคุณอยู่!” หลังจากที่โจวอี้พูดจบ เขาก็วางสายทันที

หานหานเหลือบมองโจวอี้ เธอได้ยินบทสนทนาเหล่านั้น และหลังจากนั้นความเกลียดชังของเธอที่มีต่อเขาก็ลดลงเล็กน้อย เพราะพ่อที่เอาใจใส่ลูกสาวนั้นก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไร แต่…

มีเมียมีลูกแล้วก็ยังจะมานี่อีกเหรอ?! สันดานผู้ชายนี่มันจริง ๆ เลย!

หนึ่งชั่วโมงต่อมา โจวอี้จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยก่อนจะกล่าวขอบคุณหานหาน

และขณะที่เขากำลังจะผลักประตูออกจากโรงน้ำชา…

“เอ๊ะ! หมอโจว คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ซีชิงอิ่งร้องทักขึ้นทันทีที่เห็นหานหานยืนอยู่กับชายหนุ่มที่เธอคุ้นหน้า

ดูเหมือนเธอจะจำได้ว่าวันนี้หานหานบริการลูกค้าเพียงคนเดียว หรือลูกค้าคนนั้นก็คือโจวอี้?

“ผมมานานแล้ว แต่ตอนนี้ต้องไปแล้วล่ะ” โจวอี้ยิ้ม

“ทำไมคุณไม่บอกฉันล่วงหน้าว่าจะมาที่นี่ ฉันจะได้เอาชาอันล้ำค่ามาให้คุณด้วย” ซีชิงอิ่งกล่าวอย่างเร่งรีบ

“ชาดีงั้นเหรอ?” โจวอี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็ส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนคงต้องเป็นคราวหน้าแล้วล่ะ ตอนนี้ผมมีบางอย่างที่ต้องทำ”

“ก็ได้ งั้นฉันจะไปส่งคุณเอง”

“ไม่เป็นไรครับ มีคนมารับผมแล้ว!” โจวอี้โบกมือและเดินตรงไปที่บันได

ซีชิงอิ่งมองตามแผ่นหลังของโจวอี้แล้วก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากเธอรู้ว่าแขกที่หานหานดูแลคือโจวอี้ เธอคงจะไปหาเขาทันที เพราะตอนนี้เขาเป็นที่พักพิงทางใจแหล่งสุดท้ายของเธอแล้ว

“คุณรู้จักหมอโจวคนนั้นเหรอคะ?” หานหานรู้สึกงุนงง

“อืม เขาเป็นหมอของฉันเอง” ซีชิงอิ่งพยักหน้าเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองเล็กน้อย

“ครั้งต่อไปถ้าหมอโจวมาที่โรงน้ำชาของเราอีก เธอต้องรีบบอกฉัน ฉันจะดูแลเขาเป็นการส่วนตัวเอง”

“ค่ะ” หานหานสับสน เธอคิดว่าโจวอี้มาที่โรงน้ำชาเพราะความสวยของเจ้านายและนั่นทำให้เธอไม่ชอบหน้าเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเธอคิดผิด

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจความงามของเจ้านายเธอเลย!

“หานหาน หมอโจว…คุยอะไรกับเธอบ้าง?” ซีชิงอิ่งถามด้วยความกังวล

“เราไม่ได้คุยกันมาก แต่ตอนที่คุณเล่นกู่ฉิน เขาบอกว่าคุณเล่นได้ไพเราะ” เมื่อหานหานพูดจบ จู่ ๆ เธอก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงรีบพูดเสริมไปว่า “…เขายังถามฉันด้วยว่าโรงน้ำชามีกู่เจิงไหม ฉันบอกเขาว่าทางเราไม่มี ทางเรามีแต่กู่ฉิน แล้วเขาก็พูดอย่างเสียดายว่าเขาไม่ค่อยถนัดเล่นกู่ฉินเลย”

“กู่เจิง?” ซีชิงอิ่งถึงกับแปลกใจ

“ใช่! เขาบอกว่าเล่นกู่เจิงได้ แต่ไม่ค่อยถนัดกู่ฉิน”

ซีชิงอิ่งตาเป็นเป็นประกาย

เธอไม่คิดเลยว่าหมอโจวจะไม่เพียงแต่รู้จักชาดีเท่านั้น แต่ยังเล่นกู่เจิงได้อีกด้วย!

“หานหาน เธอคิดว่าหมอโจวเป็นยังไง?” ซีชิงอิ่งถามขึ้นทันที

“ดีมาก! เขาชอบดื่มชาและอ่านหนังสือ และยังมีความรู้หลาย ๆ เรื่อง แถมเขายังฟังคุณเล่นกู่ฉินอย่างพอใจ แต่ก็มีความสุขุม ไม่รุ่มร่ามเหมือนผู้ชายคนอื่น ๆ”

เมื่อหานหานพูดเช่นนี้เธอก็มองไปที่สีหน้าของซีชิงอิ่ง และพบว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้ม

จากนั้นเธอก็เอ่ยต่อ “…แต่สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดคือการแต่งตัวของเขา”

“การแต่งตัวเหรอ?” เมื่อซีชิงอิ่งคิดย้อนไปยังตอนที่เธอพบกับโจวอี้ เขามักสวมชุดเสื้อคลุมแบบจีนไม่ก็เสื้อคลุมสีขาว

“พวกที่ชอบใส่ชุดเสื้อคลุมแบบจีนมักเป็นวัยกลางคนหรือวัยสูงอายุ ถ้าคนหนุ่มสาวใส่ชุดเสื้อคลุมแบบจีนคงจะดูเชย แต่หมอโจวใส่แบบนั้นแล้ว ฉันกลับรู้สึกว่ามันดูใส่สบายไม่อึดอัด แถมยังไม่เชยอีกด้วย…”

ความคิดของหานหานเปลี่ยนไป ตอนนี้เธอก็ชื่นชมชายหนุ่มอย่างมาก

“ถูกต้อง นับว่าเธอตาถึงนะ” ซีชิงอิ่งยิ้มและพยักหน้า

“ฉันไปทำงานก่อนนะคะ”

“ดี ไปได้แล้ว!” ซีชิงอิ่งโบกมือ และหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจออกไปซื้อกู่เจิง

โจวอี้ขึ้นรถของหวงไห่เทาและได้กลิ่นอะไรบางอย่าง สักพักเขาก็กลอกตาและถามว่า “ผมลืมถาม คุณมีภรรยาและลูกไหม?”

“ไม่นะ” หวงไห่เทาส่ายหัวทันที

“แล้วแฟนคุณอยู่ไหน?” โจวอี้ถามอีกครั้ง

“ผมมีคู่หมั้นอยู่คนหนึ่ง แต่เธอมีความทะเยอทะยานมากแถมยังเอาแต่ใจนิดหน่อย อีกทั้งยังไม่ค่อยเห็นหัวใคร” หวงไห่เทาหัวเราะ

“คุณมีคู่หมั้นแล้ว แล้วคุณกล้าดียังไง ตอนนี้ผมได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงอย่างน้อยสองแบบในรถของคุณ แปลว่ารถคันนี้เคยมีผู้หญิงนั่งมาแล้วถึงสองคน” โจวอี้วิเคราะห์

“อ้าวเฮ้ย! คุณเป็นหมาเหรอ?! ได้กลิ่นแม่นยำอะไรขนาดนั้น” หวงไห่เทาตกตะลึง

เมื่อคืนเขามีนัดกับผู้หญิงสองคนเพื่อเล่น ‘สนุก’ บางอย่างด้วยกัน วันนี้เขาจึงตื่นสายมาก และก่อนที่จะมารับโจวอี้ เขาก็ยังพาผู้หญิงสองคนนั้นไปส่งแล้วด้วย…

แต่โจวอี้จมูกดีอะไรแบบนี้…เขาสามารถไปเป็นสุนัขตำรวจได้เลยนะ นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!!!

“ผมได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเมื่อตอนที่ผมยังเด็ก ผมก็เลยมีจมูกที่สามารถรับรู้กลิ่นที่ผิดแปลกไปจากเดิมได้ดี” โจวอี้ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์ที่เขาเคยฝึกฝน

การมีจมูกที่ดีจะทำให้เขาสามารถระบุชนิดของวัตถุดิบยาได้ดียิ่งขึ้น

ยาบางชนิดมีความคล้ายคลึงกันมาก แม้ว่าเขาจะสามารถระบุชนิดของมันได้ด้วยตา แต่ถ้าหากสัมผัสจากกลิ่นเข้าไปด้วยมันก็จะยิ่งช่วยให้แม่นยำมากกว่า

“เราจะไปโรงเรียนสอนขับรถกันใช่ไหม?” โจวอี้ถาม

“ใช่ ผมโทรหาผู้รับผิดชอบโรงเรียนสอนขับรถแล้ว ให้เขาส่งข้อมูลประจำตัวของคุณไปที่โรงเรียน และคุณสามารถไปฝึกได้ตลอดเวลา” หวงไห่เทาอธิบายด้วยท่าทีสบาย ๆ

“ผมมีคำถาม คนดูแลโรงเรียนสอนขับรถเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?”

“เป็นผู้หญิง” หวงไห่เทาตอบ

“ไม่แปลกใจเลยที่คุณจะรู้จักเขา…” โจวอี้ล้อเลียนเขา

หวงไห่เทาถลึงตาใส่ “ไอ้บ้า! เธออายุห้าสิบกว่าปีแล้ว! คุณคิดอะไร?! เห็นผมดูบ้ากามขนาดนั้นเลยหรือไง?!!”