บทที่ 64 เริ่มเรียนขับรถ

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 64 เริ่มเรียนขับรถ

บทที่ 64 เริ่มเรียนขับรถ

โรงเรียนสอนขับรถเต๋อเอ๋อร์ เป็นโรงเรียนสอนขับรถที่ใหญ่ที่สุดในจินหลิง

หวงไห่เทาขับรถตรงไปที่ประตูหน้าอาคารสำนักงานโรงเรียนสอนขับรถ เขาโยนกุญแจรถให้พนักงานที่ทักทายเขาอย่างอบอุ่น แล้วพาโจวอี้ขึ้นไปชั้นบนทันที

ภายในสำนักงานอันกว้างขวางนี้ โจวอี้ได้พบกับอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนสอนขับรถ

และเป็นไปตามที่หวงไห่เทากล่าว อาจารย์ใหญ่ของที่นี่เป็นผู้หญิงอายุห้าสิบปลาย ๆ หรือบางทีเธออาจมีความเครียดมากมายทำให้ดูแก่เกินไปหน่อย

“ป้าถาน นี่คือโจวอี้ น้องผมเอง” หวงไห่เทาแนะนำ

“สวัสดีครับป้าถาน” โจวอี้กล่าวทักทายทันที

“สวัสดี เสี่ยวโจว ไห่เทาเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว ฉันจัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้เธอแล้ว” ถานหมิ่นฟางยิ้ม

“ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือครับ”

“ด้วยความยินดี” ถานหมิ่นฟางโทรหาลูกน้องและขอให้พาโจวอี้ไปกรอกข้อมูล จากนั้นก็ไปที่สนามฝึกเพื่อดูการเรียนการสอน

ในสำนักงาน…

ถานหมิ่นฟางมองตามแผ่นหลังของโจวอี้ จากนั้นเธอก็เดินไปปิดประตูห้องและหันไปหาหวงไห่เทา

“ป้าถาน ทำไมมองผมแบบนี้ล่ะ?” หวงไห่เทานึกถึงงานรื่นเริงเมื่อคืนนี้และถามด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ

“เธออายุเท่าไหร่แล้ว?” ถานหมิ่นฟางถาม

“เกือบสามสิบแล้ว!” หวงไห่เทาตอบอย่างตรงไปตรงมา

“เธอจะแต่งงานตอนวัยสามสิบปลาย ๆ หรือไง หรือเธอจะรอแต่งงานกับลูกสาวป้าใช่ไหม?” ถานหมิ่นฟางแสร้งทำเป็นโกรธ

“ผมไม่กล้า แค่ก ๆ! พอคุณปู่ฟื้นดีแล้ว ผมจะบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานทันที”

“ก็แค่นั้นแหละ” ถานหมิ่นฟางจากโกรธก็กลายเป็นมีความสุข จากนั้นเธอก็ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “แล้วปู่ของเธอเป็นยังไงบ้าง? ป้าจำได้ว่าไปเยี่ยมเขาเมื่อสองสามเดือนก่อน ตอนนั้นเขาก็ยังแข็งแรงอยู่เลย!”

“มันเป็นอาการกำเริบจากโรคเก่า แต่ก็ไม่เป็นไร เขาได้รับการรักษาจากแพทย์แล้วอีกไม่นานก็หายดี” หวงไห่เทากล่าว

เมื่อโจวอี้เดินตามพนักงานโรงเรียนสอนขับรถออกมาจากสำนักงาน เขาก็ได้ยินเสียงปิดประตูตามหลัง ก่อนจะพบว่าหวงไห่เทาไม่ได้ตามเขามาด้วย

ทิ้งกันไว้แบบนี้เลยเหรอ? แถมปิดประตูด้วย?

เถ้าแก่หวง แกอดอยากปากแห้งนักใช่ไหม?! คนอายุห้าสิบกว่า ๆ แล้วแกก็ยังไม่เว้น!

โจวอี้ส่ายหัวขณะเร่งฝีเท้าไปข้างหน้า

สิบนาทีต่อมา เขาก็ถูกพาไปที่สนามฝึก

ภายในสนามฝึกซ้อมขนาดใหญ่แห่งนี้ นักเรียนจำนวนมากกำลังฝึกโดยมีโค้ชคอยแนะนำทุก โจวอี้มองภาพเหล่านั้นแล้วก็พลันรู้สึกตื่นเต้น

“คุณโจว มาแลกข้อมูลติดต่อกัน ทุกครั้งที่คุณมาที่นี่เพื่อฝึกซ้อม ให้โทรหาผมล่วงหน้าเพื่อที่ผมจะได้จัดโค้ชให้”

“ไม่เป็นไรครับ แล้วพี่ชื่ออะไรครับ?” โจวอี้ยิ้มพลางเอ่ยถาม

“แซ่ของผมคือโจว…โจวอีซิง”

“นี่มันเป็นโชคชะตา! เราเป็นครอบครัวเดียวกันเมื่อห้าร้อยปีที่แล้วแน่ ๆ! ผมชื่อโจวอี้” โจวอี้ยิ้มออกมาขณะแนะนำตัวอย่างกระตือรือร้น

“โชคชะตา” โจวอีซิงยิ้มในใจ

“พี่โจว ตอนเที่ยงคุณว่างไหม? ออกไปนั่งกินข้าวด้วยกันเถอะ ผมเจอร้านอาหารดี ๆ แถว ๆ นี้ด้วย” โจวอี้ถาม

โจวอีซิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

เขารู้ว่าโจวอี้เป็นน้องชายที่สนิทสนมกันของหวงไห่เทา เช่นนี้แล้วเขาก็เกรงว่าตัวตนและภูมิหลังของอีกฝ่ายคงจะไม่ธรรมดา

ถ้าเขาสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างมิตรภาพกับโจวอี้ มันอาจจะดีสำหรับอนาคตของเขาก็เป็นได้!

ไม่นานนัก โจวอี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากหวงไห่เทา

โจวอี้ โจวอีซิง และหวงไห่เทา ทั้งสามมาทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารใกล้เคียง ก่อนจะปล่อยให้หวงไห่เทากลับไปตามลำพัง เพราะโจวอี้มีซ้อมขับรถที่โรงเรียนสอนขับรถในตอนบ่าย

ณ สนามซ้อม…

เฉินอันฉีนั่งเงียบ ๆ ใต้ร่มเงาของต้นไม้อย่างรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเธอไม่ชอบที่มีเพื่อนร่วมการฝึกมากเกินไปด้วยรถคันเดียว

แต่มันเป็นเพราะแสงจากดวงอาทิตย์นั้นร้อนเกินไป

“เงียบก่อนได้ไหม คั่นคั่น!” เฉินอันฉีจับมือซุนคั่นและกระซิบต่ออีกว่า

“เธอไม่เห็นเหรอว่านักเรียนที่ฝึกกับเรากำลังมองเธอแปลก ๆ?”

“ใครอยากมองก็มองไปสิ!” ซุนคั่นบ่นแต่ก็ยังนั่งลงข้าง ๆ เฉินอันฉีด้วยความรู้สึกผิด

“ใจเย็น ๆ ถึงตาเราเรียนแล้ว” เฉินอันฉีปลอบใจ

“ที่สำคัญคือฉันอารมณ์เสียมาก ถ้ารู้แบบนี้ ฉันจะไม่ลงทะเบียนในโรงเรียนสอนขับรถพรรค์นี้หรอก!” ซุนคั่นพูดด้วยความไม่พอใจ

“…”

เฉินอันฉีถึงกับพูดไม่ออกและส่ายหัว

ทันใดนั้นสายตาของเธอก็ถึงกับชะงัก เธอแตะแขนของซุนคั่นแล้วชี้ไปที่ใครบางคนซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก “ดูนั่น! ใช่หมอโจวหรือเปล่า?”

“หมอโจว หมอโจวคนไหน?!” ซุนคั่นมองไปตามนิ้วของเฉินอันฉีและตระหนักได้ทันทีว่าชายที่อยู่ตรงนั้นคือดาวนำโชคที่ทำให้พวกเธอมีแฟนคลับนับแสน!

“ใช่ เป็นเขาจริง ๆ!” เฉินอันฉีกล่าวอย่างมั่นใจ

“เป็นเขาจริง ๆ!!” ซุนคั่นรู้สึกผิดเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้เธอโพสต์วิดีโอของโจวอี้ที่ดูแลผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และยังเคยดูหมิ่นเขาด้วย เมื่อเธอเห็นเขาอีกครั้งในเวลานี้ เธอก็กังวลว่าเขาจะตอบโต้เธออย่างไรหากพบเธอที่นี่

หากเธอตอบโต้กลับไป แขนและขาที่ผอมบางของเธอจะต้านทานหมัดและแรงเตะของเขาได้อย่างไร เขาเป็นคนแข็งแรงจนฉีกประตูรถด้วยมือเปล่าเชียวนะ!

“ฉันจะไปทักทายเขา” จู่ ๆ เฉินอันฉีก็ลุกขึ้นและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

“อย่า… อย่าไป!” ซุนคั่นร้องเรียกอย่างตระหนก แต่น่าเสียดายที่เฉินอันฉีไม่อยู่แล้ว

มันจบแล้ว!!!! มีปัญหาตามมาแน่ๆ!

ไม่! ไม่! ถ้าเขาต้องการแก้แค้นละ แบบนี้เราก็ต้องหาโอกาสหลบหนี เพราะชีวิตของเราสำคัญที่สุด!

โจวอี้ยืนอยู่ที่ลานฝึกเพื่อรอให้โจวอีซิงเตรียมรถที่จะใช้ในการฝึก ทว่าจู่ ๆ ใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา

“คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?” โจวอี้ถามหญิงสาวตรงหน้า

“หมอโจว เราเคยเจอกันมาก่อนตอนที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อไม่นานมานี้” เฉินอันฉีกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้นโจวอี้ก็นึกขึ้นได้ว่าสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าเขาคือใคร และเธอยังเป็นคนที่มีจิตใจดีอีกด้วย

“สวัสดีครับ” โจวอี้ยิ้ม

“สวัสดีค่ะ หมอโจว คุณมาที่นี่เพื่อฝึกขับรถด้วยเหรอคะ?” เฉินอันฉีถาม

“ใช่ วันนี้ผมมาที่นี่เป็นครั้งแรก”

“งั้นฉันคงได้ทดสอบก่อนคุณนะ ฉันฝึกที่นี่มาอาทิตย์กว่าแล้ว” เฉินอันฉียิ้ม

เอี๊ยด…!!

รถโค้ชจอดอยู่ข้างคนสองคนที่กำลังสนทนากัน…

โจวอีซิงลงจากรถและพบสาวสวยที่ยืนอยู่กับโจวอี้ “คุณโจว นี่คือ…”

“เพื่อนผมเอง!” โจวอี้ตอบอย่างไม่แยแสนัก

“ฉันซ้อมด้วยรถเบอร์สิบแปด อยู่ตรงนั้นน่ะ” เฉินอันฉีกล่าว

เพื่อนของคุณโจว? โจวอีซิงตื่นเต้นทันใดและพูดด้วยรอยยิ้ม “โค้ชของรถเบอร์สิบแปดคงเป็นหลี่ชางขุย ผมจำได้ว่ามีนักเรียนหลายคนที่เขาดูแลอยู่ แต่ช่างมันเถอะ! ผมจะบอกเขาว่าคุณมาฝึกขับรถคันนี้แทน เพราะบังเอิญว่ารถคันนี้มีแค่คุณโจวเท่านั้น คุณโจว คุณว่ายังไง…?”

“ได้เลยครับ” โจวอี้ไม่สนใจมากนัก

“งั้นก็เอาตามนั้น” โจวอีซิงยิ้ม