บทที่ 432 เนื้อตุ๋นกับสุรา ทั้งสังขารและวิถีหมากล้อมล้วนพัฒนา!

รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人

บทที่ 432 เนื้อตุ๋นกับสุรา ทั้งสังขารและวิถีหมากล้อมล้วนพัฒนา!

เมื่อเนื้อตุ๋นได้ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวล หลี่จิ่วเต้าก็ตักมันขึ้นมาใส่น้ำชามก่อนยกออกมา

ชายหนุ่มยังนำสุราออกมาอีกหนึ่งไห สุรานี้เป็นสุราอ่อนฤทธิ์ไม่แรงมากนัก

หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว เขายังต้องการจะเล่นหมากล้อมกับตงฟางเวิ่น จึงไม่นำสุราฤทธิ์แรงออกมา

หากพวกเขาทั้งสองคนเมาก็คงไม่สามารถเล่นหมากล้อมได้

หลี่จิ่วเต้ารินสุราให้อีกฝ่ายหนึ่งจอก ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “สุรานี้ไม่แรงมากนัก ดื่มไปก็ไม่ทำให้เมา ท่านลองชิมดู”

“ตกลง”

ตงฟางเวิ่นยกจอกสุราขึ้นดื่มกับท่านเซียน

สุรานี้ไม่แรง รสสัมผัสนุ่มละมุน หลังจากดื่มเข้าไปหนึ่งอึกกลิ่นหอมก็ลอยอบอวลเต็มปาก ตงฟางเวิ่นตื่นตัวขึ้นมา ทันใดนั้นก็กระดกสุราลงไปหมดจอกในคราเดียว

“สุราดี สุราดียิ่ง!”

เขากล่าวชมออกมาจากใจจริง เพราะไม่เคยดื่มสุราที่ดีขนาดนี้มาก่อน

กล่าวตามจริงแล้ว เขาเคยดื่มสุรามาไม่น้อย ทั้งหมดล้วนเป็นสุราชั้นเลิศทั้งล้ำค่าและหายากเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าตัวเขานั้นชอบดื่มสุรา แต่เป็นเพราะยามเขาทำภารกิจ บางครั้งผู้ที่เป็นเป้าหมายก็ชื่นชอบการร่ำสุรา ดังนั้นเขาจึงเคยลิ้มลองสุราชั้นเลิศมาไม่น้อย

ทว่าเมื่อเทียบกับสุราของท่านเซียน สุราที่เขาเคยดื่มมาก่อนหน้าล้วนประหนึ่งน้ำเปล่า ห่างไกลจนเทียบชั้นไม่ได้!

“สุรารสเลิศอย่างยิ่ง!”

ภายในใจของเขาตื่นตะลึง สุรานี้ประกอบด้วยแก่นแท้ชีวิตมากมายมหาศาล หลังจากที่เขาดื่มเข้าไป ก็สามารถรับรู้ได้ว่าแก่นชีวิตในร่างกายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง อายุขัยของเขายืนออกไปอย่างมาก เทียบในแง่อายุไขเพียงอย่างเดียวตัวเขาเกือบเทียบได้กับขั้นเทียนตี้แล้ว!

สรรพคุณของสุรายังไม่หมดเพียงแค่นี้!

เขามีความรู้สึกคล้ายพร้อมจะตระหนักรู้แจ้งในทุกด้าน ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอย่างเช่นด้านการฝึนตนและเต๋าก็สามารถประสบผลสำเร็จเพียงสองเท่า ด้วยการออกแรงเพียงครึ่งเดียว!

“รสเลิศหรือ?”

หลี่จิ่วเต้ากล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม “นี่คือสุราที่ข้าบ่มขึ้นมาเอง ยังมีเหลืออยู่อีกมาก ไว้ข้าจะแบ่งให้บางส่วนก่อนท่านจะไป”

“ข..ข…ขอบพระคุณคุณชาย!”

ตงฟางเวิ่นตื้นตันใจ สุรานี้กล่าวว่าเป็นสมบัติสูงสุดของท่านเซียนไม่ใช่เรื่องเกินจริง ท่านเซียนกลับบอกว่าจะแบ่งมันให้กับเขาบางส่วน เขา…เขาตื้นตันจนพูดไม่ออก

เขารู้สึกตื่นตันใจจนแทบจะร้องไห้ออกมาเสียด้วยซ้ำ

ไม่มีใครเคยดีกับเขาขนาดนี้มาก่อน!

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ มา พวกเรามากินเนื้อกันเถอะ”

หลี่จิ่วเต้ายิ้มให้ชายชราตรงหน้า ก่อนจะชวนอีกฝ่ายกินเนื้อ

ตงฟางเวิ่นใช้ตะเกียบคีบเนื้อชิ้นหนึ่งขึ้นมาใส่ปาก รสชาติของมันอร่อยมากจนเขาคาดไม่ถึง

ก่อนหน้านี้ที่เขาได้กลิ่นก็รับรู้แล้วว่าเนื้อจะต้องอร่อยอย่างแน่นอน ทว่าเมื่อเขากินเข้าไปจริง ๆ ถึงเพิ่งรู้ว่าเนื้ออร่อยถึงเพียงไหน อร่อยเสียยิ่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

อีกทั้งด้านในเนื้อยังเปี่ยมด้วยขุมพลังอันเหลือเชื่อ หลังจากกินเข้าไป พลังในเนื้อก็ไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขาทันที ทำให้ตัวของเขาได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล ความแข็งแกร่งของร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!

สังขารของเทียนตี้!

เขารู้สึกเหลือเชื่อ รับรู้ได้ว่าความแข็งแกร่งของร่างกายเขาไม่ด้อยไปกว่าเทียนตี้อย่างแน่นอน มันทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อ!

เขาเพิ่งกินเนื้อไปเพียงหนึ่งชิ้น ร่างกายกลับแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ จะให้เขาไม่รู้สึกเหลือเชื่อได้อย่างไร!

สวรรค์ กายาของเทียนตี้นั้นไม่มีค่าอันใดสำหรับท่านเซียน เพียงแค่เนื้อหนึ่งชิ้นก็สามารถทำให้เขาบรรลุได้แล้ว ท่านเซียนช่างน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน!

เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก บางทีคำว่าเซียนอาจไม่เพียงพอสำหรับใช้นิยามท่านเซียน ท่านเซียนอาจมีพลังมากเสียยิ่งกว่าเซียน!

อาหารมื้อนี้ทำให้ตงฟางเวิ่นตระหนักรู้ขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดมาก่อนว่าอาหารมื้อหนึ่งจะพิเศษได้ถึงเพียงนี้ ดีเสียยิ่งกว่าโอกาสวาสนาการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใด ๆ!

“มาเล่นหมากล้อมกันอีกสักตาไหม?”

หลังจากทานเสร็จเรียบร้อย หลี่จิ่วเต้าก็ถามอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม

กล่าวตามตรงแล้ว หลังจากที่ทักษะหมากล้อมเต็มแล้ว เขาก็เล่นหมากล้อมจำนวนนับครั้งได้ เนื่องจากไม่มีใครสามารถเป็นคู่มือของเขาได้ ซ้ำยังทิ้งห่างกันมากเกินไป

เขาชื่นชอบการเล่นหมากล้อมมาก แต่น่าเสียดายที่ไร้คู่ต่อกร

ทว่าตอนนี้มีตงฟางเวิ่นแล้ว แม้ทักษะหมากล้อมของเขาจะดีกว่ามาก ทว่าก็ยังพอจะเล่นกับเขาได้ ตอนนี้เขาจึงต้องการจะเล่นหมากล้อมกับตงฟางเวิ่นเพื่อลดความคั่นเนื้อคั่นตัวอยากเล่นหมากล้อมของตน

“ตกลง!”

ชายชราตอบรับทันทีด้วยความสุขอย่างมาก

ท่านเซียนเล่นหมากล้อมกับเขา แท้จริงแล้วคือการสอนวิถีหมากล้อมให้กับเขา

‘ยังจะต้องไปหาฝึกวิถีเต๋าที่ไหนอีก ต่อแต่นี้ไปวิถีหมากล้อมจะเป็นวิถีหลักของข้า!’

เขาตะโกนขึ้นมาในใจ ตัดสินใจเลือกวิถีหมากล้อมเป็นเส้นทางหลัก

ท่านเซียนชี้แนะวิถีหมากล้อมให้เขาหลายครั้ง กระทั่งตอนนี้ก็ยังจะชี้แนะวิถีหมากล้อมให้ ตัวเขาบนวิถีหมากล้อมย่อมต้องสว่างสดใสก้าวหน้าไร้ที่สิ้นสุด!

วิถีอื่นที่เขาฝึกฝนมาก่อนกระทั่งเป็นเส้นทางหลัก เมื่อเทียบกับวิถีหมากล้อมแล้วนับว่าไร้ซึ่งอนาคต

หลี่จิ่วเต้าลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบกระดานและตัวหมากออกมา ก่อนจะเริ่มเล่นหมากล้อมกับตงฟางเวิ่น

อาการคันไม้คันมือต้องการเล่นหมากล้อมของเขานับว่าไม่เบาเลยจริง ๆ เขาเล่นหมากล้อมกับตงฟางเวิ่นจนดึกดื่น กว่าจะรู้ตัวและหยุดเล่นก็ดึกมากเสียแล้ว

ในด้านของตงฟางเวิ่นไม่ต้องกล่าวเลยว่าเขาได้รับประโยชน์มากมายเพียงใดจากการเล่นหมากล้อม ความเข้าใจในวิถีหมากล้อมของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จนถึงระดับสูงเป็นอย่างยิ่ง

สาเหตุหลักเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาเพิ่งดื่มสุราเข้าไป

สุราทำให้เขามีความสามารถในการตระหนักรู้ทุกด้าน ทำให้เขาสามารถเข้าใจวิถีหมากล้อมได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว

หากไม่มีสุราก่อนหน้านี้ เขาคงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้เร็วเช่นนี้

“ผู้อาวุโสเวิ่นมีความสามารถจริง ๆ สามารถพัฒนาทักษะหมากล้อมได้อย่างรวดเร็ว!”

หลี่จิ่วเต้ายิ้ม ยอมรับในทักษะการเล่นหมากล้อมของตงฟางเวิ่นมากยิ่งขึ้น

หลังจากเล่นหมากล้อมไปเพียงไม่กี่เกม เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าทักษะของตงฟางเวิ่นพัฒนามากยิ่งขึ้น เหนือกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก

“ต้องขอบคุณคุณชายเป็นอย่างมาก!”

ตงฟางเหวิ่นกล่าวออกมาอย่างจริงใจ

หากไม่มีท่านเซียน เขาจะสามารถพัฒนาได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?

ไม่มีทางเป็นไปได้!

“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องถ่อมตัวไป สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้อาวุโสเวิ่นมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด”

หลี่จิ่วเต้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสเวิ่นรอสักครู่”

เขาเดินกลับเข้าไปในบ้าน

ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้งพร้อมของบางอย่างในมือ

“นี่คือตำราหมากล้อมที่ข้าเขียนขึ้นมาเอง บันทึกประสบการณ์ความรู้ความเข้าใจของข้าเอาไว้ หากผู้อาวุโสเวิ่นได้อ่านมัน คงจะสามารถช่วยท่านได้”

หลี่จิ่วเต้าส่งตำราหมากล้อมให้กับตงฟางเวิ่น

ตงฟางเวิ่นสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เขาต้องการให้ทักษะหมากล้อมของตนเองพัฒนาสูงมากยิ่งขึ้น เพื่อที่เขาจะได้เล่นหมากล้อมได้สนุกยิ่งขึ้นในอนาคต

“นี่…ขอบคุณคุณชายมาก!”

ชายชราพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้นอย่างอดไม่อยู่

เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?

นี่คือตำราหมากล้อมที่ท่านเซียนเขียนขึ้นมาด้วยตัวเอง ด้านในบันทึกประสบการณ์ความรู้ความเข้าใจของท่านเซียนเอาไว้ นับเป็นสมบัติล้ำค่าถึงขั้นสะท้านฟ้าอย่างแน่นอน!

“ไม่ต้องขอบคุณ อ่านมันให้มากเถอะ เช่นนี้แล้วเกมหมากล้อมระหว่างพวกเราสองคนในอนาคตจะยิ่งน่าสนใจมากยิ่งขึ้น”

หลี่จิ่วเต้าพูดพร้อมรอยยิ้ม

หลังจากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในครัวแล้วหยิบสุราออกมาหนึ่งไหมอบให้ตงฟางเวิ่น

“เมืองชิงซานนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ทิวทัศน์รอบ ๆ ก็งดงามไม่น้อย หากผู้อาวุโสเวิ่นต้องการจะใช้ชีวิตหลังเกษียณเมืองชิงซานก็นับเป็นทางเลือกที่ดี”

หลี่จิ่วเต้าพูดต่อ “ภูเขาลี่ด้านนอกเมืองชิงซานทิวทัศน์งดงามเป็นอย่างยิ่ง ที่กล่าวมาล้วนเป็นความจริง ถ้าผู้อาวุโสเวิ่นไม่มีอะไรทำก็สามารถไปเดินเล่นเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของเขาลี่ได้”

“ดี!”

ตงฟางเวิ่นพยักหน้ารับคำ ก่อนกล่าวอำลาท่านเซียน กลับไปยังบ้านของตนเอง

“ภูเขาลี่งั้นหรือ?”

เขาคิดออกมาหลังจากถึงห้อง รู้สึกว่าภูเขาลี่น่าจะมีสิ่งใดสักอย่าง

ไม่เช่นนั้นท่านเซียนจะกล่าวถึงภูเขาลี่ขึ้นมาด้วยเหตุใด?

นั่นเป็นความคิดที่หลี่จิ่วเต้าไม่รู้ หากรู้ว่าตงฟางเวิ่นคิดอะไรอยู่ เขาคงพูดไม่ออกอย่างแน่นอน

ภูเขาลี่จะมีสิ่งใดอยู่กัน เขาเพียงแค่บอกกับตงฟางเวิ่นโดยไม่มีเจตนาอะไร นอกจากแค่กลัวว่าชายชราจะไม่มีอะไรทำในเมือง จึงแนะให้ไปเดินเล่าที่ภูเขาลี่คลายความเบื่อหน่าย

“พรุ่งนี้ข้าจะลองไปที่ภูเขาลี่ดู!”

ยิ่งตงฟางเวิ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าท่านเซียนกำลังจะบอกใบ้อะไรบางอย่างให้เขา ท่านเซียนดีต่อเขาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจะต้องไม่ทำให้ท่านเซียนผิดหวัง!

ไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องทำเรื่องนี้ให้ออกมาดีให้จงได้!