บทที่ 65 ร้านจิ่นฝู
บทที่ 65 ร้านจิ่นฝู
“ไม่ต้องห่วง พี่สาวคนนี้จะทำให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดีในอนาคตอย่างแน่นอน และพี่สาวคนนี้จะส่งพวกเจ้าไปร่ำเรียนอย่างแน่นอน” กู้เสี่ยวหวานกล่าวคำเบา
เด็กน้อยทั้งสามดูเหมือนจะได้ยินเสียงของกู้เสี่ยวหวาน และยิ้มหวานราวกับว่าพวกเขามีความฝันอันงดงาม
เช้าวันถัดมาพวกกู้เสี่ยวหวานและเสี่ยวฉือโถวเข้าป่าไผ่เพื่อไปขุดหน่อไม้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนั้นได้เรื่องบางอย่างแทรกขึ้นมา เมื่อไปที่ภูเขาเพื่อขุดหน่อไม้ก็ได้พบกับหญิงสาวในหมู่บ้านที่เคยดูเรื่องสนุกสนานของแม่เฉา สตรีนางนั้นดูเหมือนจะเพิ่งกลับมาจากการล้างผักในแม่น้ำ ครั้นนางเห็นกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ถือตะกร้าขึ้นเขาอีกครั้ง นางก็สาวเท้าเดินเข้ามาใกล้อย่างสนิทสนม “สาวน้อยกู้ เจ้าจะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อไปขุดหน่อไม้อีกหรือ?”
“อือ” กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า และไม่เอ่ยเอื้อนสิ่งใด
เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานพยักหน้าแต่ไม่ยอมปริปาก ผู้หญิงคนนั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล “สาวน้อยกู้ ข้าแค่ถาม หน่อไม้พวกนี้มักจะพบได้เฉพาะในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น ในเวลานี้จะขุดหน่อไม้บนเขาได้มากขนาดนี้ได้อย่างไร? ”
กู้เสี่ยวหวานเพิ่งจะเข้าใจว่าสตรีนางนั้นต้องการเอ่ยถามเรื่องนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดระแวง และนางก็ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด “โอ้ วันนั้นน้องชายของข้าไปเล่นที่ภูเขา และบังเอิญเจอเข้า จากนั้นพวกเราก็ดึงหน่อไม้ออกมา”
กู้เสี่ยวหวานพูดง่าย ๆ แต่หญิงในหมู่บ้านดูเหมือนจะไม่ต้องการคำตอบนี้ ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าขุดหน่อไม้มามากขนาดนี้ กินอย่างไรหรือ อร่อยหรือไม่?”
ปรากฏว่าประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้ กู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทางกระตือรือร้นของหญิงสาว ก็สามารถเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง
สิ่งที่หญิงคนนี้อยากรู้มากที่สุดคือวิธีการกินหน่อไม้ชนิดนี้?
ครั้นลองนึกดูแล้ว หน่อไม้ชนิดนี้มีรสฝาดเกินไป คนทั่วไปมักไม่นิยมบริโภค แต่ครอบครัวของกู้เสี่ยวหวานขุดมามาก เช่นนั้นแล้วพวกเขากินมันอย่างไร
คาดว่านางคงอยากจะนำวิธีของกู้เสี่ยวหวานกลับไปทดลองเอง หากทำออกมามีรสชาติอร่อย จะไม่มีใครขุดหน่อไม้ในหมู่บ้านมากกว่านี้อีกหรือ?
กู้เสี่ยวหวานมีวิธีดี ๆ มากมายในการปรุงรสหน่อไม้ฤดูหนาว นางไม่เชื่อว่าหน่อไม้ในฤดูใบไม้ผลินี้จะนอนอยู่บนภูเขาอย่างไร้ซึ่งผู้คนสนใจ
แน่นอนว่านั่นเป็นส่วนหลัง
ไม่ต้องกล่าวว่าจะมีสักกี่คนที่มาขุดหน่อไม้หลังจากที่ทุกคนเรียนรู้วิธีการทำ กู้เสี่ยวหวานจะไม่สามารถควบคุมได้ ถ้าทุกคนเรียนรู้ที่จะทำมัน พวกเขาจะขุดหน่อไม้อย่างบ้าคลั่งเป็นแน่แท้
สิ่งที่นางต้องการในตอนนี้คือไม่อยากให้คนรู้วิธีปรุงหน่อไม้ให้มีรสชาติอร่อย
กู้เสี่ยวหวานครุ่นคิด จะให้ผู้คนล่วงรู้ได้อย่างไร นางทำได้เพียงแสร้งทำเป็นเศร้าหมองแล้วพูดว่า “รสชาติไม่อร่อยจริง ๆ มันฝาดเกินไป แต่จะทำอย่างไรได้?” เด็กสาวหยุดชะงักชั่วคราว แล้วหันไปหาน้อง ๆ ทั้งสามพลางเอ่ยขึ้นอย่างขมขื่น “ในครอบครัวยังมีปากท้องรออาหาร และเราต้องหาอาหารประทังชีวิตแม้ว่ามันจะมีรสชาติแย่แค่ไหนก็ตาม ก็ดีกว่าปล่อยให้หิวโหย โชคดีที่พี่น้องของข้ามีเหตุผลและเชื่อฟัง เรียกให้กินอะไรก็กิน ข้าผู้เป็นพี่สาวไม่สามารถทำอะไรได้! เฮ้อ ท่านป้า ท่านมีข้าวให้ข้ายืมบ้างไหม? ข้าจะคืนให้ทันทีเมื่อมี!”
กู้เสี่ยวหวานพูดกับหญิงสาวข้างหน้าตนเองด้วยความหวัง ท่าทางที่สาบานด้วยความจริงใจนั้นเกือบจะทำให้น้องอีกสามคนในครอบครัวกู้หลงเชื่อ
เดิมทีหญิงสาวคนนี้ต้องการแอบเรียนรู้วิธีการที่กู้เสี่ยวหวานจัดการกับหน่อไม้ แต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะขอข้าวจากนาง ใบหน้ายิ้มแย้มของหญิงสาวนั้นมลายหายไปและเอ่ยอย่างไม่มีความสุขเล็กน้อย “สาวน้อยกู้ บ้านข้ามีข้าวให้ยืมที่ไหนกัน ที่บ้านข้าก็ไม่มีอะไรจะกินเหมือนกัน” หลังจากนั้นก็สะบัดมือของกู้เสี่ยวหวานที่ดึงแขนเสื้อตนเองไว้ และรีบเดินจากไป
เมื่อเห็นสตรีผู้นั้นเดินออกไป กู้เสี่ยวหวานก็หัวเราะออกมาดัง เห็นว่าพี่สาวของตนหลอกหญิงสาวในหมู่บ้านด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ กู้หนิงอันก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้และพูดอย่างจริงใจว่า “ท่านพี่ ท่านยอดเยี่ยมมาก!”
“พี่สาวของพวกเราเก่งมาก อืม อยากแอบถามว่าพวกเราขุดหน่อไม้และจัดการมันอย่างไร หึ ใครจะไปบอกนางกันเล่า” กู้หนิงผิงพ่นลมไปทางด้านหลังของหญิงคนนั้นอย่างเย็นชา
“นางเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลกุ้ยสวิ่นเหอ บ้านของนางยังมีลูกสาวอีกสองคน” เสี่ยวฉือโถวที่เงียบอยู่เป็นเวลานานกล่าวขึ้น “นางชอบเอาเปรียบคนอื่น เสี่ยวหวาน เจ้าอย่าไปสนใจนางเลย!”
“พี่ฉือโถว ข้าไม่สอนนางอย่างแน่นอน หากสอนลูกศิษย์และทำให้อาจารย์อดตายก็คงจะไม่คุ้มค่า” กู้เสี่ยวหวานยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ใบหน้าเรียวและดวงตาที่โค้งขึ้นเล็กน้อยยามนางยิ้มดูสว่างไสวราวกับพระจันทร์เสี้ยวบนขอบฟ้า ทั้งระยิบระยับและเป็นประกาย
“ท่านพี่ อะไรคือหากสอนลูกศิษย์และทำให้อาจารย์อดตาย?” กู้หนิงผิงถามตามประสาเด็กใฝ่รู้
“หมายความว่าถ้าข้าสอนนางขุดหน่อไม้และสอนวิธีจัดการกับหน่อไม้ นางจะสู้กับข้า และจะมีคนขุดหน่อไม้เพิ่มอีกหนึ่งคน และจำนวนหน่อไม้ที่ข้าจะขุดจะน้อยลงไปด้วย”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว ท่านรู้เยอะจังเลย”
“แน่นอน ท่านพ่อของเราเก่งมาก” กู้เสี่ยวหวานยกคุณงามความดีให้กับกู้ฉวนฝูอีกครั้ง
สี่พี่น้องครอบครัวกู้จับมือกันด้วยรอยยิ้ม และมุ่งหน้าเดินต่อไป เสี่ยวฉือโถวเดินตามหลังพวกเขาอย่างเชื่องช้า หลังจากไม่ได้เจอกันสักพัก เสี่ยวฉือโถวก็รู้สึกว่ากู้เสี่ยวหวานโตขึ้นแล้ว แม้ว่าร่างกายจะยังผอมบางเท่าเดิม แต่ความคิดกลับซับซ้อนกว่าเมื่อก่อน
เมื่อคิดถึงดวงตาที่โค้งขึ้นเล็กน้อยของกู้เสี่ยวหวานยามแย้มยิ้ม เสี่ยวฉือโถวก็อดไม่ได้ที่จะแหงนมองดูท้องฟ้า โดยไม่รู้ว่าคืนนี้จะมีดวงจันทร์หรือไม่
ในเช้าวันที่สาม กู้เสี่ยวหวานก็เร่งรีบออกจากบ้าน วันนี้นางกำลังจะไปรับเสื้อผ้าที่ในเมืองและแวะที่ตลาดเพื่อดูว่านางจะขายหน่อไม้ได้หรือไม่
นางนำหน่อไม้มาสองสามหน่อ และกินอาหารเช้าอย่างง่าย ๆ หลังจากอธิบายให้กู้หนิงอันและคนอื่น ๆ ฟังแล้ว นางก็รีบมุ่งหน้าเข้าไปในเมือง
ครั้นมาถึงในเมือง กู้เสี่ยวหวานไม่ได้รีบร้อนที่จะไปเอาเสื้อผ้าแต่อย่างใด ก่อนจะกลับหมู่บ้านค่อยแวะรับเสื้อผ้าก็ยังไม่สาย เด็กสาวเดินไปที่ถนนสายหลักของเมืองหลิวเจีย ถนนสายหลักนี้ไม่เพียงแต่มีร้านค้า ร้านอาหารที่หรูหราอีกมากมาย
ถนนสายหลักเต็มไปด้วยผู้คน ทุกคนล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้างดงาม ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คนคุ้นเคยมาพบปะและทักทายกัน และบางคนที่รีบร้อนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
กู้เสี่ยวหวานมองไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก พลางไตร่ตรองขณะมองดูว่าจะมีโอกาสทางกิจการในสถานที่เหล่านี้หรือไม่?
ขณะที่กู้เสี่ยวหวานกำลังเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นนางก็เห็นว่าประตูข้างหน้า ราวกับมีคนกำลังโต้เถียงกันอยู่
“เจ้ารีบไปเถอะ ข้าไม่รับสิ่งนี้จริง ๆ ในเมืองนี้ไม่มีใครกินมัน!”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มาหลอกถามความลับจะได้เอาไปทำเองล่ะสิ ร้ายกาจ แต่ขอโทษนะที่เสี่ยวหวานรู้ทัน
มีใครมาขายหน่อไม้อีกคนหนึ่งหรือ?
ไหหม่า(海馬)