“ได้ยินท่านแม่ข้าว่าเจ้าตั้งครรภ์แล้วผอมลงมาก ยังคิดว่า…” สี่ชุ่ยที่กลับมาเยี่ยมบ้าน ได้รู้ว่าซูสุ่ยเลี่ยนตั้งครรภ์ ก็มาเยี่ยมนางโดยเฉพาะ
“ยังคิดว่าอะไร” ซูสุ่ยเลี่ยนยิ้มมองนางแวบหนึ่ง ยังคงมีท่าทางมีความสุขดังเดิม เอนหลังอยู่บนเก้าอี้นอนสบายนอนอยู่ใต้ต้นอิงเถา กินผลอิงเถาป่าอยู่ ผลอิงเถาป่าบนต้นปีนี้ออกผลดกมาก ก่อนหน้าติดผล ถึงหน้าร้อนช่วงตอนนี้ ก็นับว่าสุกแดงเต็มต้นแล้ว เพราะความดีของมัน ทุกวันนางเลยได้กินผลอิงเถาเปรี้ยวๆ สะใจ ไม่อาจไม่พึงพอใจ
“คนท้องคนไส้ที่ไหนมีน้ำมีนวลเหมือนเจ้า!” สี่ชุ่ยสีหน้าอิจฉา เห็นซูสุ่ยเลี่ยนแม้ว่าผอมกว่าต้นปีไม่น้อย แต่ยังคงใบหน้าขาวผ่องงามละมุนละไม แม้แต่นางที่เป็นสตรีเองยังอดรู้สึกอยากเอื้อมมือไปสัมผัสไม่ได้ แล้วผู้ชายจะขนาดไหนกัน
“พูดตามตรง เจ้าดูแลรักษาตัวเองอย่างไร” เพิ่งเอ่ยออกมา สี่ชุ่ยเองก็ยังอึ้งนึกรู้ไปเอง
ไม่ทำงานบ้าน มือไม่แตะต้องน้ำในหน้าหนาว หากเป็นตนก็คงเหมือนนางเช่นกัน รับรองได้ว่ามีน้ำมีนวลนุ่มละมุนเหมือนสาวน้อยแรกแย้มสูงศักดิ์เช่นกันกระมัง
เพียงแต่ โอย คนเราเมื่อเทียบกันก็ทำเอาโมโหอยากจะตายเสียให้ได้
สามีนางแม้ว่าในเมืองลั่วสุ่ยถือได้ว่าเป็นชายที่เอาใจใส่ภรรยาไม่น้อย แต่งานครัวงานบ้านที่ภรรยาควรกระทำ เขาก็ย่อมไม่แย่งไปทำ อย่างมากถ้าว่างไม่มีอะไรทำถึงจะมาช่วยสักหน่อย ยังต้องคอยระวังสีหน้าพ่อแม่สามีอีก กลัวพ่อแม่สามีจะหาว่านางเอาแต่เป่าหูเขาบนเตียง เขาจึงได้ยอมทำเช่นนี้ให้นาง
ตามที่บิดามารดานางว่า สามีของนางเช่นนี้นับว่าปกติ ที่เหมือนหลินซือเย่าแย่งงานบ้านไปทำหมด กลัวภรรยาจะเหนื่อยทำงาน คงมีแค่เขาคนเดียว ไม่มีอีกแล้ว
ดังนั้นไม่อาจเทียบ ไม่อาจเทียบจริงๆ! สี่ชุ่ยแอบนึกปลอบใจตนเองในใจ อย่างน้อยอย่าไปเปรียบเทียบกับซูสุ่ยเลี่ยน และก็ไม่อาจเทียบด้วย
“อาเย่าว่าดื่มน้ำอุ่นมากๆ กินผลไม้สดเยอะๆ” ซูสุ่ยเลี่ยนยกผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปาก ยกมือขึ้นบังหน้าผากหรี่ตามองแสงแดดที่ลอดผ่านใบไม้ลงเป็นแสงเงา น่าจะยามบ่ายแล้วกระมัง นั่งอยู่ใต้ต้นอิงเถาทางเหนือนี่ก็ได้ตากแดดด้วย
“เข้าไปในห้องได้แล้ว” ตามคาด หลินซือเย่าออกมาจากห้องครัว ให้นางเปลี่ยนที่รับศึก อ้อ ไม่สิ ให้เปลี่ยนที่นั่งพัก
“สี่ชุ่ย อยู่กินข้าวด้วยกันสิ” ซูสุ่ยเลี่ยนปล่อยให้หลินซือเย่าประคองนาง คอยรับร่างหนักขึ้นทุกวันๆ ของนาง พาเดินเข้าไปในห้อง
“ไม่ละ แม่ข้าบอกว่าวันนี้ตอนเที่ยงบ้านว่าที่อาซ้อรองข้าจะมากินข้าวที่บ้าน ข้าต้องกลับไปนั่งกินด้วย” สี่ชุ่ยหัวเราะ ปฏิเสธเบาๆ
เหลาหย่งเฉียงลูกชายคนรองตระกูลเหลา แต่งงานไปช่วงก่อนหน้า คู่ครองเป็นสตรีจากเมืองชิงเถียนร้านค้าฮั่วหลาง แต่เล็กติดตามบิดานางขึ้นเหนือล่องใต้ไปขายของ วันๆ ไม่ได้อยู่บ้านมากนัก ดังนั้นตระกูลเหลาหาสะใภ้ จึงไหว้วานให้แม่สื่อไปสู่ขอลูกสาวร้านค้าฮั่วหลาง เพราะคำนึงถึงวันหน้าของหย่งเฉียง
ที่แท้เหลาหย่งเฉียงมีแผนจะเปิดร้านขายของจิปาถะในเมืองฝานลั่ว ร้านค้าฮั่วหลางค้าขายสินค้ามาสิบกว่าปี ย่อมต้องมีเส้นทางนำเข้าสินค้าที่ราคาย่อมเยาและมั่นคง หากหย่งเฉียงเปิดร้านค้าสำเร็จ การนำเข้าสินค้ามีบิดาภรรยาคอยแนะนำ ย่อมไม่เสียเปรียบ
ดังนั้นตระกูลเหลาสองสามีภรรยาจึงตัดสินใจเช่นนี้ กำหนดแต่งงานก็กำหนดไว้ในปลายปีนี้ ผ่านปีนี้ไป เหลาหย่งเฉียงสองสามีภรรยาก็เตรียมย้ายไปอยู่ในเมืองแล้ว
“หากเป็นเช่นนี้ไม่ใช่ว่าบ้านลุงเหลากับป้าเหลาก็จะเงียบเหงาหรือ”
ลูกชายคนโตตามลูกสะใภ้คนโตย้ายไปอยู่ร้านตีเหล็ก แม้ว่าอยู่ในเมืองเดียวกัน แต่อย่างไรก็ไม่ได้อยู่ในเขตบ้านเดียวกัน ก็ยากจะดูแลกันได้ ตอนนี้ลูกชายคนรองจะแต่งภรรยาย้ายไปเปิดร้านขายของชำในเมือง บ้านลุงเหลากับป้าเหลาก็ยังไม่มีหลานให้ดูแล ใช่ว่าเงียบเหงาหรือ
“รอเจ้าคลอด ให้ป้าเหลามาช่วย” หลินซือเย่าเอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบหากหนักแน่น
“เอ๋?” ซูสุ่ยเลี่ยนผินหน้าไปมองเขาอย่างแปลกใจเล็กน้อย ไม่นานก็เข้าใจเจตนาของเขา หลังคลอด นางต้องดูแลลูกน้อยที่เพิ่งคลอด อาศัยเพียงหลินซือเย่า คิดว่าคงดูแลได้ไม่ทั่วถึง และเขาเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องการอยู่ไฟหลังคลอดสักเท่าไร ดังนั้นเชิญป้าเหลามาช่วยจึงเหมาะสมที่สุด
“ได้ พรุ่งนี้นางมาลองถามความเห็นนางดู” ซูสุ่ยเลี่ยนพยักหน้า
นางเหลาย่อมรับปาก แม้ซูสุ่ยเลี่ยนไม่เอ่ย นางก็คิดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมาช่วยนางตอนอยู่ไฟหลังคลอด สำหรับหลินซือเย่าเสนอค่าตอบแทนให้หนึ่งร้อยเหรียญทองแดงต่อวันนั้น ถูกนางปฏิเสธหน้าตาดุดัน “หากนับถือข้าเป็นป้าจริงๆ ก็อย่าได้เอ่ยอะไรก็เป็นเงินเป็นทองเช่นนี้อีก”
ซูสุ่ยเลี่ยนเห็นดังนี้ ก็คิดว่าวันหน้าสองบ้านคงสัมพันธ์อันอีกยาวนาน ปีใหม่ไปมาหาสู่มีโอกาสมอบของขวัญขอบคุณอีกไม่น้อย ก็คงได้กระมัง
……
ด้วยเหตุนี้ซูสุ่ยเลี่ยนจึงอยู่บ้านบำรุงครรภ์ไปอย่างสบายใจ ส่วนหลินซือเย่าก็ไปยุ่งกับการสร้างบ้าน
ดีที่เขาคิดการณ์รอบคอบ มอบงานทั้งหมดให้เถียนต้าฟู่ดูแล
เดิมเถียนต้าฟู่ดูแลแค่งานไม้ ตอนนี้รวบงานหลายตำแหน่ง เป็นดังตัวแทนหลินซือเย่า และคอยฟังคำแนะนำของช่างปูน หลักๆ ก็คือนำทีมโดยช่างไม้
ใช่สิ การสร้างบ้านเริ่มขึ้น เขาก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหน แต่หลินซือเย่านอกจากวันๆ มาตรวจดูสองรอบแล้ว ที่เหลือก็ขลุกอยู่แต่ที่บ้านเป็นเพื่อนซูสุ่ยเลี่ยน ทำขนมและของอร่อยให้นางกิน
ทำเอานางเถียนบ่นไปยิ้มไป
บ่นที่ว่าสามีนางพอกลับถึงบ้าน นอกจากกินข้าวก็บ้วนปากเข้านอน แม้แต่ความสุขของสามีภรรยายามค่ำคืนก็ละเลย ครึ่งเดือนกว่าแล้วไม่ได้เห็นเขาจะลากนางขึ้นเตียง หากไม่ใช่รู้ว่าระยะนี้เขาต้องไปยุ่งกับการสร้างบ้านทางที่ว่างฝั่งตะวันตกนั่น ยังคิดว่าเขาไปแอบกินข้างนอกมาจนอิ่มแล้ว
ยิ้มดีใจก็ย่อมเป็นเพราะว่างานดูแลครั้งนี้ได้ค่าตอบแทนมากกว่าปกติมาก ควรกล่าวได้ว่างานของหลินซือเย่าแต่ไรไม่เคยขี้เหนียว
ดังนั้นนางเถียนเห็นแก่ก้อนเงินวาววับ จึงได้ยอมอดทนความวุ่นวายต้องการทางกาย พยายามตุ๋นน้ำแกงต้มสมุนไพรให้เถียนต้าฟู่บำรุงร่างกายแก้กระหายในหน้าร้อนนี้
……
วันนี้หลินซือเย่าเก็บกวาดในห้องครัว ดูแลพาซูสุ่ยเลี่ยนไปพักผ่อนยามบ่ายแล้วก็รีบไปที่พื้นที่ก่อสร้าง ตรวจสอบความคืบหน้าเสร็จก็ตรวจดูวัตถุที่สั่งเข้ามาใหม่
เสียงเคาะประตูหน้าดังขึ้น
“อาจารย์ลุงซือหลิง?” ข้างนอกมีชายหนุ่มอายุราวสิบสองสิบสามหน้าตาสดชื่นแจ่มใส “ซือถูอวิ๋น คารวะอาจารย์ลุง อาจารย์สั่งข้านำจดหมายมา”
ซือชง? หลินซือเย่าขมวดคิ้ว เล่นบ้าอะไร ส่งลูกศิษย์มา ไม่กลัวหูตาเฟิงชิงหยาหรือ
ซือถูอวิ๋นควักจดหมายที่เก็บไว้อย่างดีในอกเสื้อออกมา นอบน้อมส่งให้หลินซือเย่า
“อาจารย์ยังบอกว่า พอข้าส่งจดหมายแล้วก็ให้อยู่ต่อที่นี่ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น” เห็นหลินซือเย่าไม่ได้มีสีหน้าคิดอ่านจดหมายต่อหน้าเขาแม้แต่นิดเดียว กลับมีสีหน้าส่งแขก แอบนึกเยาะคำสั่งของซือชง
“ไม่มีห้องว่าง” หลินซือเย่าโต้กลับเสียงเรียบ
ซือชงบ้าไปแล้วหรือ ส่งตั๋วเงินมาก็พอแล้ว อย่างไรตอนนี้ก็กำลังต้องใช้เงิน ยังเป็นเงินที่ใช้สำหรับพวกเขาสามคน แต่ส่งเจ้าเด็กนี่มาเฝ้าที่นี่ทำไมกัน? หรือว่ามาอารักขาบ้าน? ช่างประหลาดเสียจริง
“ไม่เป็นไร นอนบนต้นไม้ก็ได้”
ซือถูอวิ๋นชี้ไปที่ต้นอิงเถาที่แผ่กิ่งก้านเหนือลานกว้าง หรี่ตายิ้มไม่ถือสาสักนิด
เป็นศิษย์ซือชงมาหกปี เรื่องแปลกประหลาดอะไรไม่เคยทำ? ก็แค่นอนบนต้นไม้ หน้าร้อนยังเย็นสบายกว่านอนในห้องเสียอีก!
หลินซือเย่าได้ยินก็แอบกลอกตามองบน เชื่อจริงๆ แล้วว่าเป็นศิษย์ซือชง พูดตรงๆ ก็คือคนที่ไม่รู้จักยางอาย
แม้ว่าการจะใช้คำนี้มาเรียกร้องเอาจากนักฆ่าถือว่าเป็นเรื่องที่เอาหินไปกระทบไข่แตกเสียเปล่าโดยแท้ เสียเวลาเปล่า เพียงแต่…เอ่อ คิดว่าเพราะเขาอยู่กับสุ่ยเลี่ยนมา จึงเริ่มชินกับคำสอนเรื่องคุณธรรมจรรยาเหล่านี้แล้ว แต่ไม่อาจเรียกร้องให้พวกซือชงเป็นอย่างเขาได้ในทันที
“ตามสบาย” หลินซือเย่าทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่งก่อนจะหันหน้าเดินเข้าห้องนอนไป เดินไปได้ครึ่งทางก็หยุดฝีเท้าลง หันมาสั่งเสียงนิ่งเรียบว่า “ในเมื่ออาจารย์เจ้าส่งเจ้ามา เช่นนั้นก่อนมา ก่อนบ้านสร้างเสร็จ เจ้าต้องรับผิดชอบดูแลบ้านหลังนี้ให้ดี”
หลายวันนี้ต้าเป่าไปช่วยต้าฟู่วิ่งหาซื้อวัสดุสร้างบ้านแต่ละอย่าง ดังนั้นมีแต่เสี่ยวฉุนอยู่บ้าน เขาไม่วางใจสุ่ยเลี่ยนที่เริ่มอุ้ยอ้ายมาก หากว่าเขาเพิ่งออกจากบ้านไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ไม่มีคนเห็นจะทำเช่นไร ในเมื่อซือถูอวิ๋นเป็นศิษย์ซือชง ไม่ใช้งานก็น่าเสียดาย
ซือถูอวิ๋นอึ้งมองหลินซือเย่าที่เดินลับหายไปทางประตูห้องโถง หรี่ตาส่งสายตาประหลาดมองไปยังเสี่ยวฉุนที่นอนหมอบขี้เกียจจ้องเขาอยู่ ในใจก็ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ อาจารย์ลุงเขา…ถึงกับยอมรับให้เขาอยู่แล้ว…แม้ว่าจะให้เขาทำหน้าที่เหมือนกับเจ้าหมาใหญ่นี่ก็ตาม เฝ้าบ้าน?!
เอ่อ ท่านอาจารย์ เงินเดิมพันท่านครั้งนี้ไม่ได้คืนแน่แล้ว อาจารย์ลุงไม่เพียงไม่ได้ไล่เขากลับ ยังให้เขาอยู่ต่อ ให้เขาทำงานโดยไม่จ่ายค่าแรง เฝ้าบ้าน!
ซูสุ่ยเลี่ยนถูกหลินซือเย่าประคองออกมาจากในห้อง ซือถูอวิ๋นสีหน้าตะลึงอย่างเกินเลยไปมาก ไม่ปิดบังอาการแม้แต่น้อย อ้าปากกว้างเกือบยัดไข่เป็ดเข้าไปได้
อ้อ ท่านอาจารย์ ท่านไม่ได้บอกข้าว่าอาจารย์ลุงมีภรรยางดงามเช่นนี้ด้วย ประเด็นคือ…สวรรค์…นางยังท้องโตอีกด้วย คงไม่ใช่ว่าใกล้คลอดกระมัง
“อึ้งทำอะไร ยังไม่รีบมายกเก้าอี้นอนนี้ออกไปใต้ชายคาด้านนอกอีก” หลินซือเย่ากวาดสายตามองซือถูอวิ๋นที่อึ้งอยู่อย่างไม่พอใจ สั่งเสร็จก็หันกลับไปอธิบายกับซูสุ่ยเลี่ยน “เขาเป็นศิษย์ซือชง ซือถูอวิ๋น มาช่วยงานโดยเฉพาะ”
“ซือชงคิดได้รอบคอบมาก” ซูสุ่ยเลี่ยนได้ยินก็ยิ้มพยักหน้า
ทันทีที่ลงมือสร้างบ้าน ก็มีงานมากมายให้ต้องทำ หลินซือเย่าก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลนาง ยังต้องทำงานในที่นาอีก ยากแยกร่างจริง แม้ว่าศิษย์ที่ซือชงส่งมาอายุน้อยไปสักหน่อย แต่ก็ทำงานพวกเฝ้าระวังตรวจสอบอะไรพวกนี้ได้ ไม่น่ามีปัญหากระมัง
คำพูดซูสุ่ยเลี่ยนทำเอาสองคนในที่นั้นต่างพากันอึ้งไป
ก่อนจะเงยหน้ามองฟ้าถอนหายใจเฮือก
ซือชงหวังดีขนาดนั้นที่ไหนกัน ก็แค่ส่งคนมาดูเรื่องสนุก และเป็นสายรายงานเขาเท่านั้นกระมัง หลินซือเย่าแอบก่นด่าในใจ
ท่านอาจารย์คิดได้รอบคอบ? ฮา ฮา ฮา…ช่างเป็นเรื่องน่าขันที่สุดในใต้หล้านี้จริงๆ! อาจารย์เขาไม่มาคอยถ่วงก็ไม่เลวแล้ว ยังมาช่วย? นอกจากกลับไปออกมาจากท้องแม่ใหม่เหอะ อืม พูดถึงอาจารย์อย่างนี้ได้อย่างไรกัน ถุย ถุย ถุย อกตัญญูจริง! แม้ว่าเรื่องจริงก็ไม่ควรกล่าวเช่นนี้! ซือถูอวิ๋นแอบหัวเราะบ้าคลั่งในใจไม่หยุด