ตอนที่ 85 แขกจากเมืองหลวง

เก็บตกนักฆ่า มาเป็นหนุ่มบ้านนา

ตอนที่ 85 แขกจากเมืองหลวง
หลังซือถูอวิ๋นมาอยู่ การพักผ่อนบำรุงครรภ์ของซูสุ่ยเลี่ยนก็น่าสนุกขึ้นหลายส่วน น่าจะเรียกได้ว่า วันแห่งการพักผ่อนบำรุงครรภ์ของนางสนุกสนานขึ้นไม่น้อย แม้ว่าในลานบ้านจะเหลือแค่นางกับซือถูอวิ๋นสองคน บวกกับเสี่ยวฉุนอีกตัว เขาก็มีเรื่องขำให้นางได้กุมท้องหัวเราะดังลั่นได้ทั้งวัน ปรากฏการณ์นี้เป็นสิ่งที่หลินซือเย่าเห็นแล้วดีใจมาก ดังนั้นจึงปล่อยให้ซือถูอวิ๋นพูดสนุกปากไป

แน่นอน ซือถูอวิ๋นก็มีเวลาที่สงบปากสงบคำบ้างเช่นกัน เช่นในตอนนี้ ต้นยามเฉิน แดดยังไม่ตรงศีรษะมากนัก เขากำลังแอบงีบอย่างมีความสุขบนง่ามกิ่งต้นอิงเถา

บางครั้งก็ยื่นมือไปเด็ดผลอิงเถาสีแดงที่เหลืออยู่บนต้นไม่เยอะ โยนเข้าปากงับกินเล่น

บางครั้งก็ยื่นมือไปหยิบผลไม้ในจานบนโต๊ะข้างกายซูสุ่ยเลี่ยน “สะอาดมาก ไม่จำเป็นต้องล้างใหม่ พี่สาวคนงามไม่ต้องขอบคุณข้า”

หลังจากเดินวนรอบลานด้านใต้เพื่อย่อยอาหารและตากแดดไปด้วยกัน ตอนนี้ซูสุ่ยเลี่ยนกำลังเอนตัวอยู่บนเก้าอี้นอนพักผ่อนอยู่ ได้ยินก็แทบอยากจะร้องไห้ เงยหน้าเหลือบมองเขาเขาแวบหนึ่งถามว่า “ไม่ต้องไปดูบ้านหรือ”

บอกว่าซือชงส่งมาตรวจดูการสร้างบ้าน ปรากฏนอกจากพาเสี่ยวฉุนไปวิ่งเชิงเขาเลือกผลไม้ป่าเปรี้ยวๆ หวานๆ สดใหม่มาให้นางกินเล่นแล้ว เวลาอื่นๆ เขาแทบจะไม่ได้ออกจากบ้านแม้ก้าวเดียว

“อยู่ที่นี่ ฟังแต่คำสั่งอาจารย์ลุง” ซือถูอวิ๋นตอบทะเล้นกลับ ซือชงกับซือหลิง เขามองออกนานแล้ว ไม่ฟังคำสั่งซือชง อย่างมากก็โดนเขกกะโหลกสองสามที ส่งเสียงตำหนิที่ไม่น่าฟังสักเท่าไรไม่กี่คำ แต่หากไม่ฟังคำสั่งซือหลิง วันหน้าก็ไม่ต้องปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีก

ล้อเล่น ชีวิตที่นี่สบายและมีความสุขขนาดนี้ มีหมาให้พาไปเดินเล่นได้ มีพี่สาวคนงามให้ชื่นชม มีผลไม้ทั้งป่าให้เขากิน ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือหลายวันนี้อาจารย์ลุงยังเหลือห้องในบ้านใหม่ให้เขาด้วย วันหน้ามีโอกาสได้อยู่ที่นี่สบายแล้ว ทำงานเสร็จก็ได้มาหยุดพักผ่อนที่นี่ จะไม่เลือกฟังคำสั่งอาจารย์ลุงได้อย่างไร! อารักขาพี่สาวคนสวย เขาเองก็ทำอย่างเต็มใจ!

ซูสุ่ยเลี่ยนเห็นเขาไม่กังวลแม้แต่น้อยก็ตามใจเขา อย่างไรที่นั่นก็มีอาเย่ากับเถียนต้าฟู่ดูอยู่ ไม่ขาดเด็กอายุสิบสามอย่างเขาหรอก

หลายวันก่อน อยู่ๆ ซือถูอวิ๋นก็บอกว่าเป็นวันเกิดอายุสิบสามของเขา ก็เลยครองครัวทำบะหมี่วันเกิดชามใหญ่รสชาติไม่ต่างกับฝีมือหลินซือเย่าออกมา เพราะถูกหลินซือเย่าเยาะเรื่องฝีมือการทำอาหาร เพราะเขาไม่ชอบเข้าครัว เอาแต่เลี่ยงการทำครัว

ขณะกำลังคิดอยู่นั้น ซูสุ่ยเลี่ยนก็หรี่ตาผล็อยหลับไปคาเก้าอี้นอน

ตั้งแต่ผ่านสามเดือนมา อาการแพ้ท้องก็ดีขึ้นมาก นางค่อยๆ เอาแต่นอน วันๆ เอาแต่นอนสัปหงก

“เอ๋? หลับอีกแล้ว?” ซือถูอวิ๋นเห็นนางเงียบไปนาน ก็หันไปมอง ที่แท้นางไปเฝ้าโจวกง[1]นานแล้ว

เขากระโดดลงจากต้นอิงเถาไปเอาผ้าห่มบางจากในห้องโถงมาห่มให้นาง

กำลังคิดจะโดดขึ้นต้นอิงเถาเด็ดมาลิ้มชิมรสสักหน่อยก็ต้องหยุดชะงัก สั่งเสี่ยวฉุนให้เฝ้านางไว้ ตนเองจะขึ้นไปบนยอดต้นอิงเถา ยืนอยู่บนยอดไม้ มองไปไกลๆ เห็นรถม้าหรูหราเทียมม้าสี่ตัวมากันสองคันห่างจากบ้านอีกราวหลายสิบเมตร กำลังมุ่งมาทางนี้

เขาขมวดคิ้วทันที โดดลงจากต้นไม้ สั่งเสี่ยวฉุนไปตามหลินซือเย่ามา ตนเองรีบไปอารักขาข้างกายซูสุ่ยเลี่ยน จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตู

หากเขามองสัญลักษณ์รถม้าไม่ผิด รถม้าสองคันนั้นก็คือรถจากจวนอ๋องจิ้งเมืองหลวงเฟิงเฉิงที่หลายวันก่อนอาจารย์ให้เขาไปสืบข่าว

น่าแปลก จวนอ๋องจิ้งเมืองหลวงทำไมมาหมู่บ้านห่างไกลเช่นนี้ และตลอดทางมายังเร่งเดินทางมาไม่หยุด เหมือนว่าจุดหมายคือมาที่บ้านหลังนี้

ซือถูอวิ๋นคิดแล้วก็ยกเก้าอี้นอนขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ย้ายเข้าไปโถงด้านใน ก่อนจะกลับไปหน้าประตูหน้า สองมือแนบกายเตรียมพร้อม หูฟังได้ยินเสียงฝีเท้าม้าดังไม่หยุด วิ่งมาเป็นจังหวะใกล้เข้ามา

……

“แน่ใจว่าที่นี่?” เสียงชายชราดังออกมาจากในรถม้า

“ขอรับ พ่อบ้านใหญ่” คนขับรถม้าตอบอย่างนอบน้อม

ตามมาด้วยม่านรถม้าเลิกขึ้น ชายชราอายุราวหกสิบถูกบ่าวรับใช้ยี่สิบกว่าสองคนประคองลงจากรถม้า

พร้อมกับรถม้าหรูหราด้านหลังเหมือนกันอีกคันจอดตามมา มีหญิงชราอายุห้าสิบกว่าลงมา แต่ไม่ได้แต่งตัวเหมือนสตรีสูงศักดิ์อะไร มีสาวใช้คอยรับใช้อยู่ข้างๆ อย่างนอบน้อม คิดว่าสถานะก็คงไม่ได้ต่ำต้อย

สองคนเดินตามกันมา มีบ่าวชายหญิงคอยประคองมายังหน้าบ้าน หนึ่งในนั้นคิดจะเข้ามาเคาะประตู ก็ถูกซือถูอวิ๋นดึงประตูออก

ซือถูอวิ๋นกอดอกยืนพิงประตู มองดูผู้เฒ่าทั้งสองตรงหน้าที่ดูเหมือนเหน็ดเหนื่อยจากการเร่งเดินทางมา

“มาหาผู้ใด” ซือถูอวิ๋นถามน้ำเสียงเยียบเย็น ตอนนี้เขาไม่มีท่าทางทะเล้นเหมือนตอนหยอกล้อซูสุ่ยเลี่ยน หรือเล่นกับเสี่ยวฉุน ล้วนเป็นสายตาเย็นชาแบบฉบับนักฆ่าซือชง

ประตูที่อยู่ๆ เปิดออกทำเอาบ่าวที่กำลังจะเคาะประตูสะดุ้งตกใจ จากนั้นก็หันกลับไปมองสองผู้เฒ่า เห็นสองผู้เฒ่าเองก็มีท่าทางตกใจเช่นกัน

“น้องชาย ขอถามหน่อย ที่นี่มีแม่นางชื่อเหลียงเอินซวี่พักอยู่ไหม” ชายชราสบตากับหญิงชรา ก่อนจะถามอย่างเกรงใจ

“ไม่มี” ซือถูอวิ๋นจ้องมองพวกเขาอยู่นาน ก่อนจะค่อยๆ สบถตอบออกมา คิดจะปิดประตู ก็ถูกบ่าวสองคนข้างกายชายชราเข้ามาขวางไว้ทันที

“น้องชาย ช้าก่อน” ชายชราถือไม้เท้า รีบเรียกซือถูอวิ๋นที่ทำท่าจะปิดประตู

“ทำไมอีก” คิ้วดาบซือถูอวิ๋นกระตุก เด็กชายอายุสิบสามมีกลิ่นอายเหมือนผู้มีวรยุทธ์

“น้องชาย กล่าวตามตรง พวกเรากำลังตามหาคน เดินทางรอนแรมมาจากเมืองเฟิงเฉิงนับพันลี้มาถึงที่นี่ เชิญพวกเราเข้าไปนั่งพักหน่อยได้ไหม” หญิงชราส่งสายตาปรามชายชรา ยิ้มถาม

“ขออภัย ที่นี่ไม่ใช่โรงเตี๊ยม” ซือถูอวิ๋นเบ้ปาก หันหลังกลับเข้าบ้าน ไม่สนใจคำขอของหญิงชราท่าทางมีอายุแม้แต่น้อย เขาไม่ได้โง่ ปล่อยสองคนจากจวนอ๋องจิ้งนี้เข้าไป ไม่เป็นไรก็ดี หากเกิดอะไรขึ้นมา อาจารย์ลุงซือหลิงคงไม่เกรงใจเขาแน่!

“น้องชาย น้องชาย!”

“น้องชาย!” ชายชราเห็นซือถูอวิ๋นไม่เกรงใจจะปิดประตูใส่ ก็ร้อนใจส่งเสียงร้องตะโกนดัง

หากซือถูอวิ๋นไม่สนใจพวกเขาหรอก มาจากเมืองเฟิงเฉิง? ชิชะ ไม่ใช่ว่าจวนอ๋องจิ้งเมืองหลวงส่งมาหรือ เพียงแต่คนที่พวกเขาตามหาจะอยู่ที่นี่หรือ เหลียงเอินซวี่? ใครอีกล่ะ หรือว่า…

……

“เกิดอะไรขึ้น”

เพิ่งกลับมาถึงประตูห้องโถง ก็เห็นหลินซือเย่ากับเสี่ยวฉุนพากันโดดจากด้านหลังมาที่นี่อย่างรวดเร็ว

“อาจารย์ลุง สองคนนั้นบอกว่ามาจากเมืองหลวงเฟิงเฉิง มาหาคนที่ชื่อว่าแม่นางเหลียงเอินซวี่อะไรสักอย่าง ข้าคิดว่ามาหาผิดที่แล้วกระมัง” ซือถูอวิ๋นยักไหล่ไม่คิดอะไร ตอบไปง่ายๆ จากนั้นยังเสริมอีกประโยคว่า “ดูรถม้าพวกเขาเหมือนว่ามาจากจวนอ๋องจิ้ง”

หลินซือเย่าได้ยินก็ตัวแข็งทื่อทันที จากนั้นก้มหน้าขมวดคิ้วนิ่งไป ก่อนจะเงยหน้าหรี่ตามองซือถูอวิ๋น “เจ้ากินอาหารกลางวันแล้วไปเฝ้าบ้านให้ดี”

ในเมื่อมาจากจวนอ๋องจิ้งเมืองหลวง แม้ไม่ได้เจาะจงมาหาสุ่ยเลี่ยน แต่ไม่อาจมองข้ามพวกเขา แต่อย่างไรก็ยังต้องปกป้องนางไว้ข้างกายจึงจะสบายใจ

“อาจารย์ลุง?” ซือถูอวิ๋นได้ยินก็ไหล่ตก บ่นงึมงำจ้องมองหลินซือเย่าเป็นนาน เห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เอาแต่อุ้มซูสุ่ยเลี่ยนบนเก้าอี้นอนนุ่มเข้าไปพักในห้องนอน ก่อนหันมาสั่งว่า “ตอนเที่ยงเจ้าทำกับข้าว”

“อาจารย์ลุง!” ซือถูอวิ๋นกระทืบเท้าส่งเสียงดัง

เขาเกลียดการทำอาหารที่สุด ชุดขาวที่เพิ่งเปลี่ยนตอนเช้าถูกเขม่าเตาทำเปื้อนหมดแน่!

พอคิดว่าเขาเป็นชายหนุ่มสง่างามชุดพลิ้วไหว ทำไมต้องมาขลุกอยู่หน้าเตากัน! รู้อย่างนี้ไม่ลุกขึ้นมาทำบะหมี่วันเกิดในวันเกิดนั้นก็ดี เห็นชัดว่าถูกอาจารย์ลุงซือหลิงใช้งานเต็มที่เลย

…โบร๋ว โบร๋ว โบร๋ว อาจารย์ ท่านรีบมาเร็ว ศิษย์จะถูกอาจารย์ลุงซือหลิงทรมานเป็นหลินซือเย่าคนที่สองแล้ว วันหน้าจะเป็นนักฆ่าได้อย่างไร! เปลี่ยนไปเป็นชาวนาพ่อครัวหมดเรื่อง! โบร๋ว โบร๋ว โบร๋ว…

“อืม…อาเย่า เจ้ากลับมาแล้ว? ข้าง่วงนอนมาก” ซูสุ่ยเลี่ยนตื่นลืมตาเห็นหลินซือเย่านั่งอยู่หัวเตียง กำลังมองนางเงียบๆ

“เจ้าต้องพักผ่อนมากๆ ในเมื่อตื่นแล้วก็กินข้าวก่อน” หลินซือเย่าประคองนางลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ให้นางดื่มน้ำอุ่นไปสองสามคำ จากนั้นประคองนางลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง กะว่าไปกินกันในห้องครัว

“เรื่องบ้านมีปัญหาหรือ” ซูสุ่ยเลี่ยนเห็นเขาขมวดคิ้ว ในใจก็รู้สึกสงสารเขา นางนวดคลายหัวคิ้วให้เขา

พักก่อนคิดจะเอาเงินที่สะสมไว้ทั้งหมดให้เขาไปสร้างบ้าน คิดไม่ถึงซือถูอวิ๋นนั่นเอาตั๋วเงินมาให้

ตั๋วเงินใบละห้าร้อยตำลึงเป็นปึก ได้ยินอาเย่าบอกว่าเมื่อก่อนเขาสะสมเอาไว้ ตอนนี้ฝากซือชงไปเอามาให้เขา

เอาหนึ่งใบไปแลกที่ร้านเงินเป็นเงินขนาดต่างๆ แล้ว ที่เหลือก็เอาไปให้นางเก็บไว้ พอดีหกพันตำลึง ถูกนางเอาทับไว้ใต้ก้นหีบ พอใช้ก็พอ หากเป็นปีก่อน นางคงดีใจมาก แต่ตอนนี้นางคิดว่าชีวิตผ่านไปอย่างมีความสุขอย่างนี้ดีแล้ว เงินก้อนใหญ่เช่นนั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรเท่าไร

“บ้านไม่มีอะไร” คนที่มีอะไรก็คือนาง หลินซือเย่าแอบกังวลในใจ คิดว่าสองผู้เฒ่าที่มารอด้านนอกประตูอย่างดื้อดึงนั้นแล้วก็อดปวดหัวไม่ได้ อยากจะสะบัดฝ่ามือพัดพวกเขาไปจากเมืองฝานฮัวจริงๆ แต่เขารู้ว่าหากทำเช่นนี้ เมืองฝานฮัวก็อย่าได้คิดสงบสุขอีกเลย ได้แต่อดทนอดกลั้นความอัดอั้นในใจเอาไว้

แต่ว่าเขารู้ว่าคนสองคนด้านนอกคอยต่อไป ซูสุ่ยเลี่ยนช้าเร็วย่อมรู้ แม้ว่าฟังซือถูอวิ๋นบอกว่าคนที่พวกเขามาตามหาไม่ใช่ซูสุ่ยเลี่ยน แต่ก็ไม่อาจรับรองได้ว่าหากพวกเขาได้เห็นหน้าตาคุณหนูสี่จวนอ๋องจิ้งเหมือนกับซูสุ่ยเลี่ยนแล้วจะเกิดความคิดอะไรขึ้นมาไหม

“อาเย่า? เจ้า…” ซูสุ่ยเลี่ยนไม่เข้าใจขมวดคิ้วมองหลินซือเย่าไม่พูด กำลังจะถามให้เข้าใจ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ควรตาย!” หลินซือเย่ากัดฟันกรอดสบถด่าออกมา ตามมาด้วยกระแสลมวาดผ่าน คนข้างกายซูสุ่ยเลี่ยนก็หายไปไร้เงาแล้ว

———————————–

[1] ภาษาไทยมีสำนวนว่าไปเฝ้าพระอินทร์ ภาษาจีนใช้ว่าฝันถึงโจวกง