ตอนที่ 112 ประชากรนับล้าน

“ตึก ตึก ตึก”

ม้าศึกเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

เย่เฉินมองไปยังทหารที่กําลังคุกเข่าและยอมจํานนในสนามรบ และมุมปากของเขาอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น

ผู้นําเหล่านั้นเป็นคนดีจริงๆ

ส่งประชากรจํานวนมากมายมาให้ข้า แม้ว่าคุณสมบัติระดับ C อาจมีน้อยกว่าหนึ่งในสิบ แต่ก็มีถึง 50,000คน

เมืองหลุนฮุยสามารถฝึกทหารเพิ่งขึ้นอีก 50,000 นาย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เย่เฉินก็รู้สึกดีเป็นอย่างมาก

“เตียนอุย” เย่เฉินมองไปที่ผู้นําของกองกําลังผู้เล่นที่ยืนรวมตัวกันในระยะไกลและตะโกนออกมาในทันที

“ข้าอยู่นี้แล้ว!” เตียนอุยตอบเสียงดัง

“ไป ฆ่าคนพวกนั้น” เย่เฉินชี้ไปที่เหล่าผู้นําในระยะไกลแล้วกล่าว

“รับทราบ!” เตียนอุยลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วตอบเสียงดัง หลังจากพูดจบ เขาก็รีบไปยังตําแหน่งของผู้นําเหล่านั้นเพียงคนเดียว

“ไอ้เวร! เย่เฉินคนนี้ดูถูกพวกเราอีกแล้ว! ส่งคนออกไป!” เมื่อเห็นดังนั้นผู้นําคนหนึ่งตะ โกนด้วยเสียงที่โกรธเกรี้ยว

“ใช่แล้ว พวกเราถูกเหยียดหยามมากไป ฆ่าไอ้สารเลวนี้ซะ!” อีกคนหนึ่งตะโกนอย่างโกรธเคือง

“ฆ่าไอ้เวรนี่ ไปฆ่ามัน” อีกคนตะโกน

ขณะที่ผู้เล่นกําลังคุยกัน เตียนอุยก็เข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น

เมื่อเห็นใบหน้ายาวและอัปลักษณ์ดูน่าสะพรึงกลัวของเตียนอุย ใบหน้าของคนเหล่านี้ก็เปลี่ยนไปทันที

“ไม่นะ! นั่นคือเตียนอุย!”

“บัดซบ! ข้ารู้อยู่แล้วว่าไอ้เวรเย่เฉินมันต้องโกง!”

“หนี!”

“ไอ้พวกโจรถ่อย มองง้าวของข้าให้ดีๆ!” เตียนอุยเห็นผู้นําของกองกําลังผู้เล่นที่กําลังจะหนีโดยไม่เอ่ยคําทักทายใดๆ เขาควบม้าพุ่งเข้าไปและตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวในทันที

หลังจากที่เตียนอุยตะโกนออกไป เขาก็คว้าง้าวเหล็กขนาดเล็กแล้วขว้างออกไป

“ตูม ตูม ตูม” เกิดเสียงดังขึ้นหลายครั้ง

ผู้นําทุกคนที่หลบหนี ไม่มีใครรอดพ้นจากการถูกเตียนอุยทุบตี

ในสนามรบ เย่เฉินมองไปยังทหารที่ยอมจํานนทั้งหมด และเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา

“ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นของใครมาก่อน! จากนี้ไป พวกเจ้าจะเป็นผู้อยู่อาศัยในเมืองหลุนฮุย หลังจากกลับไปถึงเมืองหลุนฮุยแล้ว พวกเจ้าจะได้รับการจัดสันทุ่งนาและบ้านเรือนทุกคน! ทุ่งนาจะเป็นทรัพย์สินส่วนตัวและเก็บภาษีเพียง 10% !”

คําพูดของเย่เฉินตรงไปตรงมา เรียบง่าย และฟังดูหยาบคาย

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่คําพูดของเย่เฉินจบลง ทหารที่ไม่หลงเหลือขวัญกําลังใจและไม่รู้ว่าอนาคตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ตกตะลึงทันที และจากนั้นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง

“นายท่าน… ที่ท่าพูดเป็นเรื่องจริงหรือ?” ทหารคนหนึ่งถามออกมาอย่างตื่นเต้น

“แน่นอน ข้าเป็นนายอําเภอชั้นหนึ่งของจักรวรรดิฮั่น และมีตําแหน่งเป็นแม่ทัพผิงเป่ย ผู้ปกครองของเมืองหลุนฮุย เจ้าคิดว่าข้าจะหลอกลวงเจ้าหรือไม่” เย่เฉินตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่ ไม่ ท่านลอร์ด ผู้น้อยไม่ได้บอกว่าท่านลอร์ดโกหก ผู้น้อย.. ผู้น้อย..” ทหารผงะและรีบอธิบายด้วยเสียงตะกุกตะกัก

เย่เฉินโบกมือแล้วพูดออกมาอีกครั้ง

“จําไว้ว่า การจะเป็นผู้อยู่อาศัยในเมืองหลุนฮุย เจ้าต้องจงรักภักดีต่อเมืองหลุนฮุย เพียงจงรักภักดีเท่านั้น เจ้าจะมีทุกอย่างที่ข้าได้สัญญาไว้ ที่ดินยังคงเป็นทรัพย์สินส่วนตัว และภาษีจะเป็น 10% เสมอ จะไม่มีการเพิ่มหรือลด”

เสียงของเย่เฉินดังแพร่กระจายไปทั่วสนามรบอีกครั้ง ทันใดนั้นทั้งสนามรบก็เงียบลง จากนั้นก็มีเสียงหายใจที่หนักหน่วงค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ

ในตอนนี้ ทหารจํานวนนับไม่ถ้วนรู้สึกตื่นเต้นราวกับถูกฉีดด้วยเลือดไก่

พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเย่เฉินจะให้สัญญากับพวกเขาเช่นนั้นจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม ตําแหน่งที่ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการของแม่ทัพผิงเป๋ยในจักรวรรดิฮั่น ทําให้พวกเขามีความมั่นใจมากพอ พวกเขามั่นใจว่าสิ่งที่เย่เฉินพูดเป็นความจริง!

“คารวะท่านลอร์ด!”

“ขอให้ท่านลอร์ด อายุยืนนาน!”

เสียงโห่ร้องที่ดังสนั่นและวุ่นวายยังคงดําเนินต่อไปในสนามรบ และเสียงเหล่านั้นก็ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า

เย่เฉินมองเห็นความกระตือรือร้น ความตื่นเต้น และความยินดีบนใบหน้าของทหารที่ยอมจํานนในสนามรบ

ประชากรนับล้านคน เป็นกุญแจสําคัญที่ใช้ยกระดับเมือง

ในเวลานี้ เพียงพอแล้ว!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็ระบายลมหายใจออกเป็นเวลานาน นี้เป็นโชคดีอย่างมาก และตะโกนว่า “ทําความสะอาดสนามรบ รักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้เต็มใจที่จะยอมจํานน ดูแลพวกเขาให้ดี และผู้ที่ไม่เต็มใจยอมจํานน…”

เมื่อเย่เฉินพูดเช่นนี้เขาหยุดไปชั่วครู่และยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า

“ดูแลพวกเขาให้ดี แล้วปล่อยให้เขาไปตามทางของตัวเอง!”

“รับทราบ ท่านลอร์ด!” เสียงตะโกนของคนนับไม่ถ้วนดังขึ้นในทันที

ทหารที่ยอมจํานนเริ่มลงมือทําตามคําสั่งของเย่เฉิน

ทันใดนั้น เตียนอุยก็ขี่ม้ามาที่ด้านข้างของเย่เฉินและกล่าว

“นายท่าน! ภารกิจเสร็จสิ้น”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “เตียนอุย ข้ามีงานให้เจ้าทํา”

เมื่อเตียนอุยได้ยินดวงตาของเขาก็เป็นประกายและเขาก็รีบถามว่า “ท่านลอร์ด ภารกิจอะไรไม่ว่าท่านต้องการอะไรปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของข้า ข้าสัญญาว่าจะทํามันให้สําเร็จ!”

“ดี!” เย่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วพูดต่อ:

” ทหารเหล่านี้จะถูกนําตัวกลับไปยังเมืองหลุนฮุยโดยเจ้า”

“ขอรับ…หืม?” เตียนอุยที่เพิ่งตอบตกลงก็ต้องผงะไป

เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเยู่เฉินขอให้เขาพาทหารเหล่านี้กลับไปยังเมืองหลุนฮุย

“คนเหล่านี้มีความสําคัญมาก หากเจ้าสามารถนําพวกเขากลับเมืองหลุนฮุยได้ เราจะไม่ต้องรอนานเกินไปอีก เราสามารถยกระดับเป็นเมืองขนาดกลางได้อย่างแน่นอน” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด

ทันใดนั้นเตียนอุยก็รู้สึกขัดแย้งในใจเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้

เขาต้องการติดตามเย่เฉินต่อไปเพื่อปกป้องเย่เฉิน แต่เขาอดไม่ได้ที่จะต้องฟังคําสั่งของเย่เฉิน

เมื่อมองไปที่เตียนอุย ที่มีใบหน้ายุ่งเหยิงในขณะนี้ เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่น สิ่งที่เตียนอุยกําลังคิด แน่นอนว่าเย่เฉินต้องรู้โดยธรรมชาติว่าเตียนอุยต้องการติดตามเขาและปกป้องตัวเขาเอง

อย่างไรก็ตาม เย่เฉินไม่ต้องการการปกป้องใดๆ

สําหรับภารกิจพิเศษนี้เย่เฉินเพียงต้องนําเตียวเสี้ยน กลับไปที่ เมืองหลนฮุยโดยเร็วที่สุด ดังนั้น เย่เฉินจึงไม่สามารถพาทหารมากกว่า 800,000 คนไปพร้อมกับเขาได้

พวกเขายังไม่มีม้า อาศัยเพียงการเดินเท้าเท่านั้น และไม่สามารถตามให้ทันเย่เฉินได้

และการกลับไปที่หลุนฮุย นั้นค่อนข้างอันตรายเย่เฉินต้องเผชิญกับการโจมตีจากผู้เล่นเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนที่เย่เฉินอยู่ในลกเอี๋ยง เขาเผชิญหน้ากับผู้เล่นมากมายเพียงลําพัง เขาไม่เคยหวาดกลัว

ตอนนี้มีกองทัพหลุนฮุยตามไปพร้อมกับเขา ยิ่งไม่ต้องกลัวอะไรอีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืน รูปแบบการต่อสู้โดยกําเนิดของกองทัพหลุนฮุย รูปแบบการต่อสู้สมรภูมิพยัคฆ์ขาวจะสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

ความมั่นใจของเยู่เฉิน ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น เย่เฉินจึงตัดสินใจขอให้เตียนอุยเป็นผู้นําทหารจํานวนมากเหล่านี้กลับไปที่เมืองหลุนฮุย

“ผ่อนคลายเถอะ ในโลกใบนี้ ยังไม่มีใครที่จะสามารถทําร้ายข้าได้ในขณะนี้ เตียนอุย เจ้าาต้องนําทหารทั้งหมดเหล่านี้กลับไปที่เมืองหลุนฮุย! นี่คือคําสั่ง!” เย่เฉินเห็นเตียนอุย ยังคงขัดขืน เขาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดออกมา

“ครับท่านลอร์ด!” เตียนอุยตอบกลับด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว