บทที่ 69 ชุมชนการผลิตเซี่ยงหยางที่แสนโกลาหล

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 69 ชุมชนการผลิตเซี่ยงหยางที่แสนโกลาหล

ซูเถาฮวาไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรอีก อ้าปากได้ก็ลงมือตามแผนเลย

คราวนี้กลุ่มสหายหญิงประมาณยี่สิบคนจากชุมชนการผลิตหงซินก็มาด้วย

พวกเธอไม่ได้ตั้งใจจะลงมือเลยหลังจากที่เดินเข้าไป คิดแค่จะพูดด้วยเหตุด้วยผลก่อน

แต่ดอกชบาบนหน้าอกของไอ้หมาหวัง และคำอวยพรสีแดงขนาดใหญ่ที่ประตูทำให้ดวงตาพวกเธอเป็นแดงก่ำ

เพื่อแต่งงานกับโสเภณีรองเท้าขาด*[1] ถึงกับต้องบีบบังคับให้ภรรยาตัวเองไปตาย ทั้งยังไม่บอกพ่อแม่ฝ่ายหญิงสักคำ นี่คือสิ่งที่มนุษย์เขาทำกันหรือ?

พวกสัตว์เดรัจฉาน เผลอ ๆ ดีไม่เท่าด้วยซ้ำ!

พวกเธอเป็นผู้หญิงจึงมีความเข้าอกเข้าใจกัน และทันทีที่สิ้นเสียงของซูเถาฮวา ผู้หญิงพวกนี้ก็พุ่งเข้าบ้านหลักตระกูลหวังอย่างดุร้ายส่วนหนึ่ง บางส่วนก็พุ่งหนึ่งไปบ้านเจ้าสาวอย่างดุดัน

“มีคนมา โจรมาแล้ว! มีโจรมาปล้นแล้ว!” ยายหวังคิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงมาถึงก็เริ่มทำลายเลย แถมยังทำลายบ้านของเธอด้วย

นั่นคือทรัพย์สมบัติที่เธอเก็บสะสมมาทั้งชีวิต จึงไม่อาจโดนใครทำลายได้!

ขณะเดียวกันเธอไม่ลืมที่จะขอความช่วยเหลือจากพวกลูกสะใภ้ที่กำลังช่วยเตรียมงานเลี้ยงในบ้าน

คุณย่าซูมองไปที่ใบหน้าอันน่าสะอิดสะเอียนของยายหวัง แค่คิดว่าลูกสาวถูกยายแก่เจ้าเล่ห์เหยียบย่ำก็พลันไม่พอใจ

ทนไม่ไหวอีกแล้ว คุณย่าซูพุ่งเข้าไปตบใบหน้าของยายหวัง

เธอใช้เรี่ยงแรงทั้งหมดที่มีตบจนยายหวังร่างกายโซเซ

ซูฉางจิ่วพลาดไปแล้ว พอสหายหญิงในชุมชนการผลิตหงซินเริ่มตบตีกัน

แล้วแต่ละคนก็ดุดันทรงพลัง ซูฉางจิ่วได้แต่อ้าปากค้างไม่รู้ว่าควรห้ามดีไหม

สมาชิกของชุมชนการผลิตเซี่ยงหยางที่เฝ้าดูความตื่นเต้นก็ตกตะลึงเช่นกัน ไม่ใช่ว่าควรเริ่มพูดสักประโยคก่อนแล้วค่อยลงมือหรอกหรือ? ทำไมถึงลงมือกันเลยล่ะ?

แต่พวกเขาก็มองด้วยความสนุก อย่างไรเสียใครใช้ให้พวกบ้านหวังมันทำเรื่องไร้ศีลธรรมกันล่ะ?

สมควรโดนแล้ว!

“อาเถาฮวาคะ อาให้พวกเธอทำร้ายผู้หญิงคนนั้นไม่ได้นะ จับไปส่งชุมชนใหญ่เสียดีกว่าค่ะ”

เมื่อเห็นว่าเรื่องราวชักอยู่เหนือการควบคุม ซูเสี่ยวเถียนก็รีบวิ่งไปหาซูเถาฮวาด้วยขาสั้น ๆ

ซูเถาฮวาเม้มปาก “เสี่ยวเถียน หนูเป็นเด็กอย่ายุ่งกับเรื่องนี้เลย ผู้หญิงคนนั้นกล้ามายุ่งกับสามีของคนอื่นก็สมควรตีให้ตายแล้ว”

“แต่ระหว่างทางมีคนบอกว่าเธอท้องแล้ว!” ซูเสี่ยวเถียนรีบเตือน

หญิงรองเท้าขาด พูดด้วยปากไม่ได้ต้องมีหลักฐาน!

เด็กในท้องเป็นหลักฐานที่ใหญ่ที่สุด และการส่งเธอไปยังชุมชนใหญ่มันน่าสนุกกว่าการตบตียิ่งนัก

แต่ซูเถาฮวาเข้าใจผิดในความหมายของซูเสี่ยวเถียน โดยคิดว่าเด็กหญิงเป็นห่วงทารกในท้องผู้หญิงคนนั้น

เธอกำลังจะสั่งสอน แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าควรพาหญิงม่ายไร้ยางอายผู้นี้ไปที่ชุมชนใหญ่จะดีกว่า

“เสี่ยวเถียน อาเข้าใจแล้ว หนูไปดูย่าเถอะ อย่าให้ท่านต้องทุกข์ทน!”

ตอนที่ซูเถาฮวาพูดก็เห็นคนที่พุ่งไปบ้านเจ้าสาวถูกขวางเอาไว้ จึงรีบเข้าไปช่วย

บ้านเจ้าสาวจะเป็นบ้านที่แขวนตัวอักษรซวงสี่*[2] เอาไว้ แต่การแต่งงานรอบที่สองแม้จะดูไม่งาม และก็ไม่ได้จัดงานยิ่งใหญ่ เป็นแค่งานเลี้ยงดื่มกินให้เสี่ยวชุ่ยมีหน้ามีตาเท่านั้น

หลิวเสี่ยวชุ่ยนั่งอยู่ในบ้านเจ้าสาวหลังโทรม มีความน่ารังเกียจอยู่บ้าง

แม้กระทั่งใส่ร้ายหญิงโง่ซูหม่านซิ่วคนนั้นที่พึ่งได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้มาหลายปี

แต่ตัวหลิวเสี่ยวชุ่ยยอมไม่ได้ เธอเห็นมาตั้งนานแล้วว่าในบ้านตระกูลหวังมีของดีไม่น้อย ดีกว่าเครื่องของใช้ในบ้านหลังนี้ที่ใช้การไม่ได้มากมาย

ในอนาคต สิ่งของดี ๆ เหล่านั้นจะต้องตกมาสู่บ้านของเธอ

ทว่าไม่รอให้ฝันจบกลับได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากข้างนอกเสียก่อน เธอเหลือบมองผ่านรอยแยกประตูแล้วก็พบว่ามีคนมาหา

สัญชาตญาณของเธอบอกว่าเป็นครอบครัวของซูหม่านซิ่วกำลังมา

หลิวเสี่ยวชุ่ยสัมผัสหน้าท้องแผ่วเบา และรีบลงกลอนประตูจากด้านในทันที

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกสหายหญิงของชุมชนการผลิตหงซินไม่รีบพุ่งเข้าบ้านในครั้งแรก และทำได้เพียงทุบประตูจากด้านนอกเท่านั้น

แต่ซูเถาฮวาคือใครล่ะ? เธอเป็นสตรีเหล็ก แข็งแกร่งมาก กล้าหาญมาก เพียงเตะไม่กีที ประตูที่ไม่ค่อยแข็งแรงก็ถูกเปิดออกแล้ว

“หลิวเสี่ยวฉุย แกนอนกับสามีคนอื่นแล้วยังคิดแต่งงานอีกหรือ? ฝันกลางวันอยู่หรือไง? ฉันไม่สนหรอกนะว่าแกจะคู่ควรหรือเปล่า!”

ซูเถาฮวากอดอกมองหลิวเสี่ยวฉุย สีหน้าแววตาดูถูกเหยียดหยาม

คนไม่รุ่งโรจน์แบบนี้ต่อให้สามีตายยังไม่กลัวเลย แล้วยังหาคนมาแต่งใหม่อีก? ใช้ชีวิตดี ๆ อยู่แล้วมันไม่ดีหรือ? ทำไมยังมองหาสามีคนอื่นอีก?

แล้วยังขี้ขลาดเหมือนไอ้หมาหวังด้วย!

“แกพูดมั่วอะไร ฉัน ฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!” หลิวเสี่ยวฉุยหวาดกลัว

กล้าชักชวนไอ้หมาหวัง แต่ตัวเองกลับไร้ซึ่งความกล้า

“แกกับไอ้หมาหวังยังกล้าฆ่าคนอีก!”

ไอ้หมาหวังตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ จึงตะโกนอย่างร้อนรน “อย่ามาพูดจาไร้สาระ ภรรยาของฉันไม่ได้ทำ ตัวฉันก็ไม่ได้ทำ เป็นนังโสเภณีไร้ยางอายคนนั้นหนีไปกับคนอื่นต่างหาก ฉันถึงได้แต่งกับเสี่ยวชุ่ย”

ไอ้หมาหวังมันนี่เป็นหมาจริง ๆ แม่เฒ่าโดนคนตบตีอยู่ในลานบ้านไม่ยักจะสนใจ แต่พอเห็นซูเถาฮวาพาคนมาบ้านเจ้าสาวดันรีบพุ่งเข้ามาปกป้องเลย

“ไอ้หมาหวังเอ๋ย ไอ้หมาหวัง ทำไมแกมันเป็นทำตัวเยี่ยงหมาแบบนี้? ผู้หญิงคนนี้คือแม่แกหรือไง? ถึงได้กตัญญูกับมันนัก! ภรรยา จะให้ฉันเรียกภรรยาของแกงั้นหรือ!” ซูเถาฮวาถีบไอ้หมาหวังที่ไม่ได้ป้องกันตัวจนร่างพลิกตลบไป

ซูเสี่ยวเถียนเห็นมันผ่านประตูพลันรู้สึกโล่งใจมาก

อย่าให้พูดถึงพลังต่อสู้ของซูเถาฮวาเลย ทำได้ดีมาก!

ถ้าอาใหญ่ทำแบบเดียวกันได้ อีกฝ่ายก็คงทุกข์ระทมไม่น้อย

ถ้าไม่ใช่สถานการณ์เช่นนี้ เด็กหญิงคงโดดขึ้นไปตะโกนเชียร์แล้ว

“เสี่ยวชุ่ยเป็นคนที่ฉันจะแต่งเข้าบ้านด้วย เธอคือภรรยาของฉัน!” ไอ้หมาหวังตะโกนด้วยความไม่พอใจ

“ภรรยา ฉันให้แกเรียกมามากพอแล้ว จับพวกสำส่อนสองตัวนี้ไป ฉันเห็นว่าท้องนังแม่ม่ายนี่ยื่นออกมาแล้วด้วย! ผ่านมาสามสี่เดือนแล้วใช่ไหม?” หลังจากเตะไอ้หมาหวังก็เรียกคนเข้ามาจับไว้

เธอไม่ได้วางแผนที่จะทำอะไรกับหลิวเสี่ยวชุ่ย และหลักฐานในท้องจะทำลายไม่ได้!

ผู้หญิงหลายคนคว้าคนทั้งสองไว้อย่างรวดเร็ว และดึงเชือกผูกเอวที่ทั้งคู่มัดไว้แน่นออก

กางเกงของคนน่าสงสารร่วงลงมาทั้งอย่างนั้น เหลือแต่กางเกงชั้นในที่กั้นความอายเอาไว้แทบไม่ได้

ต่อให้แม่ม่ายหลิวเสี่ยวฉุยกล้าถอดกางเกงต่อหน้าสามี แต่ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ทั้งยังไม่มีกางเกงสวมไว้ เธอก็ร้องไห้ด้วยความอับอาย

“แกจะร้องไห้ทำไม? เป็นนังสารเลวที่อยากได้สามีคนอื่นก็ไม่สมควรใส่กางเกงหรอก!” ตอนที่ซูเถาฮวาด่าคนอื่นด้วยถ้อยคำหยาบคาย

แม่ม่ายรับไม่ได้ร้องแต่ว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ ผู้หญิงข้าง ๆ ทนมองไม่ไหวจึงตบหัวเธอไปทีสองที

“พวกแกไม่ได้รับอนุญาตให้ตีเธอนะ นังแม่ไก่ไม่วางไข่อย่างซูหม่านซิ่วนั่นจะเก็บมันไว้ทำไม” ไอ้หมาหวังกลัวว่าจะทำร้ายเด็กในท้องหลิวเสี่ยวชุ่ยจึงตะโกนเสียงดัง

“งั้นแกบอกมาว่าเอาน้องสาวฉันไปทำอะไร? แกโยนเธอลงแม่น้ำใช่ไหม? แกรู้ใช่ไหมว่าฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิต?” ซูเถาฮวามุ่งเป้าไปที่ไอ้หมาหวังเป็นหลัก ตบใบหน้าไปหลายทีแล้วค่อยถาม

“ไม่ใช่ มันโดดของมันเอง มันไปแอบโดดตอนกลางคืนนู้น” ไอ้หมาหวังกลัวว่าจะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม เลยลืมไปว่าแม่บอกอะไรไว้บ้างจึงพูดความจริงออกไป

“เป็นพวกแกนี่เองที่ฆ่าเธอ ดีจริง ๆ ไอ้หมาหวัง แกยังเป็นคนอยู่ไหม?” ซูเถาฮวาสาปแช่ง