บทที่ 87 บุตรแห่งโชคชะตาเซียวเทียน

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 87 บุตรแห่งโชคชะตาเซียวเทียน

บทที่ 87 บุตรแห่งโชคชะตาเซียวเทียน

ทันใดนั้นลู่หยวนก็ขมวดคิ้ว ราวกับตระหนักบางสิ่งได้ จากนั้นลุกขึ้นมานั่ง พร้อมปลุกเทียนเม่ยเอ๋อร์ในอ้อมแขน “เลิกนอนได้แล้ว ดมกลิ่นเจ้านี่ที”

เทียนเม่ยเอ๋อร์รู้สึกเหมือนกับตัวเองถูกบังคับให้ตื่นจากความฝัน เมื่อลืมตาขึ้นมา เศษผ้าก็ถูกยัดมาไว้ตรงหน้า พร้อมเสียงกระตุ้นของชายหนุ่มที่ลอยเข้าหูนาง

องค์หญิงหางจิ้งจอกกลอกตา

ข้าผู้นี้คือจิ้งจอกสวรรค์ ไม่ใช่สุนัขของเจ้าเสียหน่อย!

นางระงับโทสะเอาไว้ ก่อนสูดดมเศษผ้า

ลู่หยวนถามว่า “ได้กลิ่นอะไร?”

เทียนเม่ยเอ๋อร์ตอบอย่างจริงจังว่า “เหม็นเหงื่อผู้ชาย”

ชายหนุ่มโบกศีรษะของอีกฝ่าย “ข้าให้เจ้าดมกลิ่นสถานที่ที่ถูกเผาต่างหาก!”

องค์หญิงหางจิ้งจอกร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เอาอุ้งเท้าขนาดเล็กทั้งสองข้างกุมศีรษะไว้ ก่อนจะยื่นศีรษะออกไปเพื่อสูดดมมันอย่างเดือดดาลอีกครั้ง

ร่างของนางพลันแข็งทื่อ ผ่านไปสักพักจึงโน้มตัวไปข้างหน้าอีกครั้ง และดมกลิ่นอย่างระมัดระวัง หลังจากครุ่นคิดสักพัก นางก็หันศีรษะมากล่าวกับลู่หยวนว่า “ดูเหมือนจะเป็นกลิ่นของเพลิงแก่นโลก”

คนฟังยกยิ้ม “เพลิงแก่นโลก …เหมือนข้าจะคาดเดาถูกอีกแล้ว”

ฉินอี่หานขมวดคิ้ว “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

ลู่หยวนตอบว่า “เพลิงแก่นโลกคือเอกลักษณ์เฉพาะของเผ่ามังกรนาคาแห่งหุบเขาบูรพา พวกมันอาศัยอยู่ใกล้กับภูเขาไฟมาโดยตลอด กินหินเพลิงทุกวัน เปลวเพลิงที่พวกมันพ่นออกมาก็คือเพลิงแก่นโลก”

“ดูท่าว่า พวกเราต้องหาเวลาไปหุบเขาบูรพาเสียแล้ว เอาเถอะ”

ชายหนุ่มวางมือบนหัวเล็ก ๆ ขององค์หญิงหางจิ้งจอก “ไปดูทีว่าคนของเจ้ากำลังทำอะไรอยู่”

เทียนเม่ยเอ๋อร์ยินดีทันที “จริงหรือ?! นายท่านใจดีเหลือเกิน!”

ไม่กี่วันต่อมา ผู้พิทักษ์สามคนของสำนักอักขระสวรรค์ก็พาฉินอี่หานกับเทียนเม่ยเอ๋อร์ไปหาตระกูลเสิ่นก่อน

เฉาหงถูกลู่หยวนส่งไปตรวจสอบเรื่องของราชวงศ์อู๋ซวง ส่วนไจ่หลิง ชายหนุ่มได้ทำลายยันต์ลงทะเบียนไปแล้ว จึงส่งตัวให้กับผู้พิทักษ์อย่างไม่ใส่ใจ

เมื่อชายหนุ่มกำลังกล่าวลาอู่หมิงเสวี่ย ท่านแม่จึงมอบแผนที่ให้กับเขา

ว่ากันว่าจากสำนักอักขระสวรรค์ไปตระกูลเสิ่นสามารถผ่านป่าเรืองแสงได้ มียันต์เกี่ยวกับเผ่ามารถูกสลักไว้ที่นั่น ไม่มีใครสามารถทะลวงเข้าไปได้โดยง่าย

ตอนนี้ลู่หยวนก้าวเข้าสู่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ระดับสูงแล้ว พลังมารในร่างกายเพิ่มขึ้นมหาศาล ดังนั้นเขาสามารถไปลองศึกษามันได้

หลังจากบุตรศักดิ์สิทธิ์เก็บแผนที่แล้ว เขาก็ให้พวกฉินอี่หานไปก่อน ส่วนเขาตรงไปยังป่าเรืองแสง

หลังจากผ่านไปหลายวัน ในที่สุดก็มาถึง

ในป่านี้มีหมอกแปลกประหลาดอยู่ ดินแดนรอบข้างเน่าเปื่อย มีซากกระดูกของสัตว์ประหลาดอยู่ทุกหนแห่ง ดูน่าสะพรึงยิ่งนัก

ลู่หยวนค้นจากแผนที่ ไม่ช้าก็พบค่ายกลที่ข้องเกี่ยวกับเผ่ามารในส่วนลึกของป่า เขามองดูใกล้ ๆ อนุมานจากสัมผัสเทวะและจดจำเอาไว้

ค่ายกลนี้ซับซ้อนยิ่ง ชายหนุ่มจดจำได้จากการเอามือแตะเพียงครั้งเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่รู้ผลพิเศษแต่อย่างใด

หลังจากเสร็จทั้งหมดนี้ เขากำลังจะจากไป

ทันใดนั้น ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลพลันล้มลง

โฮก!

เสียงคำรามของสัตว์ประหลาดดังก้องขึ้น พื้นเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

สัตว์ประหลาดรอบข้างคล้ายกับได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ประหลาดตัวนี้ พวกมันเงยหน้าขึ้นแล้วคำรามเช่นกัน ก่อนพุ่งมาทางนี้พร้อมกัน

“ช่วยข้าด้วย!”

เสียงของผู้ชายคนหนึ่งทะลวงผ่านอากาศ พุ่งออกจากป่าที่ไม่ไกลกันนัก

ชายคนนั้นสวมชุดสีดำ มีรูปร่างผอม พกกระบี่เล่มใหญ่พาดอยู่ด้านหลัง พยายามหลบหนีอย่างสุดกำลัง

[ระบบแจ้งเตือน บุตรแห่งโชคชะตาเซียนเทียนปรากฏตัวขึ้นแล้ว! ค่าชะตาตอนนี้คือ 15,000 แต้ม!]

มุมปากของลู่หยวนโค้งขึ้น มหาแดนโชคชะตานี่มันอะไรกัน แค่เดินเล่นรอบ ๆ บุตรแห่งโชคชะตาก็ปรากฏตัวแล้วหรือ?

เซียวเทียนหรือ?

ชื่อนี้ช่างคุ้นเคยยิ่งนัก

ลู่หยวนพลันจำได้ เซียวเทียนผู้นี้คือคนที่มาจากตระกูลเซียวในทะเลใต้ไม่ใช่หรือ?

เมื่อตอนที่เจ้าของร่างคนเดิมไม่มีอะไรทำ เขาได้ไปแทรกแซงเรื่องการหย่าร้างของชายผู้นี้

หึ…

โลกมันช่างกลมเสียจริง!

เซียวเทียนเผ่นป่าราบผ่านลู่หยวน แต่หลังจากห่างไปไม่กี่ก้าว เขาก็รีบวิ่งกลับมาทันที ก่อนกล่าวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ด้วยความวิตกว่า “สัตว์ประหลาดมาที่นี่แล้ว เจ้ามัวทำอะไรอยู่? วิ่งสิ! วิ่ง!”

หลังจากนั้นเขาก็ดึงคุณชายลู่เผ่นต่อไปโดยไม่สนสีหน้าของอีกฝ่าย

แต่เมื่อห่างออกไปไม่กี่ก้าว เขาก็พบสัตว์ประหลาดทุกทิศทาง ห้อมล้อมทั้งสองเอาไว้!

สัตว์ประหลาดรอบข้างล้วนดุร้าย สายตาจับจ้องพวกเขาทั้งสอง พร้อมแผดเสียงคำราม

เซียวเทียนกลืนน้ำลาย มือแตะกระบี่ยักษ์ที่แผ่นหลัง

“ข้าจะสู้กับพวกเจ้าเอง!”

เขากำลังจะชักกระบี่ออกมา แต่ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายทรงพลังพวยพุ่งมาจากด้านข้าง แรงกดดันขนาดใหญ่เคลื่อนลงมาจากท้องนภา

สัตว์ประหลาดตรงหน้าพวกเขาคุกเข่าทันทีเมื่อตกอยู่ภายใต้พลังนี้ ยอมจำนนตัวแล้วตัวเล่า

เซียวเทียนหันศีรษะมาจ้องมองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสุดยอดขนาดนี้เลยหรือ? แล้วทำไมถึงยังวิ่งหนีอีก?”

ลู่หยวนหมดวาจากับอีกฝ่าย “ก็เจ้าเป็นคนลาข้าออกมานี่!”

บุตรแห่งโชคชะตาไม่สนใจเรื่องนี้ ทำแค่ยิ้มออกมา “ขอบคุณที่ช่วยข้า ชื่อของข้าคือเทียนเซียว เจ้าชื่ออะไร?”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ถึงกับพูดไม่ออกหนักยิ่งขึ้น…

เป็นพระเอกที่ชอบเล่นสลับคำเวลาคิดจะใช้ชื่อปลอมหรืออย่างไร?

เทียนเซียว …เซียวเทียน

“ลู่อู่”

ลู่หยวนประกาศชื่อตัวเอง

เขาไม่กลัวว่าเซียวเทียนจะจำเขาได้จากการเอ่ยชื่อดังกล่าว แต่เขายังคงไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมาที่นี่ ถึงอย่างไรเซียวเทียนก็เป็นคนของทะเลใต้ การมาปรากฏทางเหนือน่าจะมีจุดประสงค์บางอย่าง

แต่เขาจำไม่ได้แล้วเช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพูดเช่นนี้ออกมา

“พี่ลู่!”

เซียวเทียนยกมือขึ้นแล้วคารวะ

ลู่หยวนคารวะกลับ จากนั้นถามว่า “พี่เทียนเหมือนไม่ใช่คนจากทางเหนือ ทำไมถึงมาที่นี่ แถมยังถูกสัตว์ประหลาดเหล่านั้นห้อมล้อมไว้อีก?”

เซียวเทียนลังเลสักพัก จากนั้นถามกลับว่า “พี่ลู่รู้จักตระกูลเสิ่นที่อยู่ทางเหนือหรือไม่?”

“รู้จัก”

“จะว่าไป ข้าอยู่ทางเหนือมาสักพักแล้ว อยู่กับตระกูลเสิ่นนี่แหละ!”

“ไม่กี่ปีก่อน ข้าได้หมั้นหมายกับลูกสาวของตระกูลเสิ่น นอกจากนี้ยังฝึกฝนกับคนของตระกูลเสิ่นอีกด้วย แต่ชั่วข้ามคืน ข้ากลับสูญเสียการบ่มเพาะทั้งหมดไป… กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ทันที”

“ตระกูลเสิ่นส่งข้ากลับทะเลใต้ ทำให้ข้าหดหู่อยู่พักใหญ่ ถึงคิดหาหนทางมากมายก็ยังไม่สามารถฟื้นคืนการบ่มเพาะกลับมาได้”

“ภายหลังตระกูลเสิ่นและลูกสาวได้มาหาข้าถึงที่ เพื่อต้องการยกเลิกการหมั้นหมาย”

พูดถึงตรงนี้ แววตาของเซียวเทียนพลันขุ่นเคือง

“ที่จริงข้าก็รู้อยู่แล้วละ รากฐานการบ่มเพาะหายไป ข้าจึงไม่คู่ควรกับนาง ดังนั้นข้าจึงครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ วางแผนจะมาตระกูลเสิ่นด้วยตัวเองในสักวัน เพื่อขอหมั้นหมายใหม่”

“แต่หญิงสาวผู้นี้กลับมาหาตระกูลเซียวด้วยตัวเอง ก่อนโยนสัญญาหมั้นหมายคืนใส่หน้าพ่อข้า แถมยังมีใครบางคนไปเล่นงานตระกูลเซียวของข้า เพื่อบังคับให้ลงนามยกเลิกการหมั้นอีก!”

“นี่เท่ากับเป็นการเหยียบหน้าตระกูลเซียวชัด ๆ! แน่นอนว่าข้าไม่ต้องการ จึงไล่นางออกจากตระกูลเซียวไป!”

“ข้าสาบานกับตัวเองว่า อีกสามปี ข้าจะลบล้างความอับอายนี้! ตอนนี้ผ่านมาสามปีแล้ว! แน่นอนว่าข้าจึงมาทวงคืนความยุติธรรม!”

เซียวเทียนกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ แทบจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความเจ็บช้ำฝังแน่นในอก

ลู่หยวนผู้อยู่ด้านข้างมีสีหน้าสงบ สิ่งที่อีกฝ่ายย้ำเตือน คือตระกูลเสิ่นและลูกสาวส่งใครบางคนไปเล่นงาน ซึ่งในบรรดาคนเหล่านั้น

มีเขา… ไม่สิ เจ้าของร่างคนเก่ารวมอยู่ด้วย