บทที่ 83 อาจารย์ใหญ่ (ต้น)
สิบสุดยอดสาวงาม?
“ใครกันที่เป็นคนจัดอันดับแบบโบราณๆอะไรแบบนี้กันเนี่ย?” ซูอัน อุทานขึ้นทันที “โครงเรื่องแบบนี้มีแต่ในนิยายเก่าๆตกยุคเท่านั้นที่เขาใช้กัน!”
“นิยาย? นิยายอะไร?” เว่ยสั่ว งุนงงกับคำพูดไร้สาระที่ ซูอัน กำลัง
เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง อย่างไรก็ตาม เขายังคงพูดต่อไป “ใครจะสน
ว่ามันจะเป็นความคิดโบราณหรือไม่โบราณ? อย่างน้อย ๆ ทุก ๆ คน
ก็ชอบการจัดอันดับนี้ทั้งนั้นแหละ!”
ซูอัน ระเบิดเสียงหัวเราะ “มีเหตุผล ๆ เอาละถ้างั้นใครบ้างที่อยู่ในสิบอันดับสุดยอดสาวงาม?”
เว่ยสั่ว พยักหน้าเห็นด้วยจากนั้นเขาจึงเริ่มร่ายยาวเกี่ยวกับสิบอันดับสุดยอดสาวงามด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “สิบสุดยอดอันดับสาวงาม อันดับหนึ่ง แน่นอนก็คือ ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่ ฉู่ชูเหยียน นางเป็นเหมือนเทพทิดาหิมะที่ลงมาจากสวรรค์สู่โลกมนุษย์ ด้วยความงามและพรสวรรค์อันเลิศล้ำ มันจึงทำให้นางเป็นหญิงในฝันของผู้ชายกว่าแทบทุกคนที่อยู่ในสถาบันหรือแม้แต่โลกภายนอก!”
จากนั้น เว่ยสั่ว ถอนหายใจยาวด้วยสีหน้าหดหู่ก่อนที่จะพูดต่อว่า
“แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่นางแต่งงานไปแล้วเมื่อสองสามวันก่อนแถมยังมีข่าวลือว่าสามีของนางเป็นเพียงแค่คนไร้ค่าที่สุดในเมือง มีนักศึกษาหลายคนในสถาบันที่เดือดดาลเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินข่าวนี้ และพวกเขาหลายคนต้องการเจอตัวกับไอ้ผู้ชายไร้ค่าคนนั้น ข้าคิดว่าอีกไม่นานนักไอ้คนไร้ค่าผู้นั้นคงได้ลงไปนอนในโลงเป็นแน่”
ซูอัน กำหมัดแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น เขาคว้าไหล่ของ เว่ยสั่ว
ด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและถามกลับ “เจ้า พูด ว่า ไง นะ? ช่วยพูดซ้ำอีกสักรอบ
จะได้ไหม?”
“โอ๊ย ๆ ๆ !” เว่ยสั่ว ตะโกนลั่นเพราะความเจ็บปวดที่ไหล่ของเขาถูก
ซูอันบีบด้วยแรงมหาศาล และสิ่งนี้เตือนให้เขานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์
ที่ทางเข้าสถาบันว่าเขาได้ยินว่า ซูอัน เนี่ยแหละคือคนที่แต่งงานกับสาวงามอันดับหนึ่ง! เว่ยสั่ว ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนและรีบกล่าวขอโทษอย่างรวดเร็ว “ขออภัย ๆ ด้วยพี่ชายข้าลืมไปเลยว่าท่านคือไอ้สาร….แค่ก ๆ ! พี่ชายข่าวลือพวกนั้นเชื่อไม่ได้เลยจริง ๆ พอข้าได้มาเห็นตัวจริงของท่านแล้วข้าก็เข้าใจได้เลยว่าท่านเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก หากข้ามีความสามารถได้อย่างท่านสัก 7หรือ 8 ส่วน หนึ่งในสิบสุดยอดสาวงามก็คงต้องเลือกข้าเป็นคู่ครองเหมือนกันแน่นอน!”
ซูอัน มองไปที่ เว่ยสั่ว ด้วยสีหน้าประหลาดใจไอ้คนผู้นี้มันช่างมีประจบเก่งดีจริง ๆ คำพูดของไอ้เด็กนี่ลื่นไหลอย่างกับมันเตรียมมาแล้วหลายวันเพื่อยกยอข้า! จากนั้น ซูอัน ถามต่อด้วยสีหน้าสงสัย “ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงบอกว่าผู้ชาย‘แทบ’ทุกคนที่ชอบนางแทนที่จะเป็น‘ทุกคน’ต่างชอบนางกันล่ะ?”
“คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ นั้นมีนิสัยที่เย็นชาเกินไป จนทำให้บางคนก็รู้สึกว่านางนั้นเข้าถึงยาก” เว่ยสั่ว ตอบกลับ
“อย่างนั้นเหรอ” ซูอัน หวนนึกถึงนิยายหวานแหววที่ฉู่ชูเหยียน แอบอ่านอยู่ซึ่งมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจ “เหอะ ๆ นี่มันเป็นเพราะพวกเจ้าไม่เข้าใจนางดีต่างหาก”
“คนอื่น ๆ เขาจะไปเข้าใจนางเหมือนกันกับท่านได้ยังไง!” เว่ยสั่ว บ่นด้วยความอิจฉา เจ้าคือคนที่แต่งงานกับนางแล้วเจ้าจะไม่รู้จักนางได้ยังไง?
“นอกจากคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ แล้วมีใครอยู่ในรายชื่ออีกบ้าง?” ซูอัน ไม่สนใจคำพูดของ เว่ยสั่ว เขายังคงถามต่อไป พร้อมกับคิดว่ามันคงจะดีสำหรับเขาที่จะรู้ข้อมูลความเป็นไปในสถาบันให้ได้มากที่สุด
เว่ยสั่ว ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “อันดับสองคือ เพ่ยเหมียนหมาน ซึ่งเพิ่งย้ายมาจากสถาบันอื่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ รูปร่างของนาง… ฮิฮิฮิ! ให้ข้าพูด
แบบนี้ก็แล้วกัน สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดของผู้ชายคนไหนก็ตาม
ที่เห็นนางก็คือเตียง! นางเป็นความเพ้อฝันที่วาบหวามของผู้ชายทุกคนในสถาบัน!”
ซูอัน นึกถึงเหตุการณ์การคลุกวงในระหว่างเขากับนางเมื่อคืนทันทีซึ่งมันทำให้เขาพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่รู้ตัว “อืม เรื่องนี้ข้าเองก็เข้าใจดีเช่นกัน”
เว่ยสั่ว เหลือบมอง ซูอัน ด้วยสีหน้าขุ่นเคือง เจ้าไม่เคยเห็นนางมาก่อนด้วยซ้ำทำไมเจ้าถึงพูดราวกับว่าเจ้าเข้าใจนางดีกว่าพวกข้าอีกแล้วแบบนี้!
ซูอัน จับสังเกตได้ว่าความแตกต่างของอันดับหนึ่งและสองนั้นมีบางอย่างไม่ถูกต้องดังนั้นเขาจึงรู้สึกขัดแย้งในใจนิดหน่อย “ถ้า เพ่ยเหมียนหมาน เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายทุกคนในสถาบัน ทำไมนางถึงได้อันดับสองแทนที่จะเป็นอันดับหนึ่ง?”
“อา นั่นเป็นเพราะท่านไม่ได้คิดในระยะยาว!” เว่ยสั่ว เริ่มสอนเขาด้วยท่าทางราวกับว่าตัวเองเป็นปราชญ์ผู้รอบรู้ “นางเป็นคู่รักในฝัน แต่ไม่ใช่ภรรยาที่เหมาะสม คนอย่างคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่นั้นดีกว่ามากสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงอยู่ในอันดับที่หนึ่ง”
ซูอัน อดไม่ได้ที่จะประทับใจกับความคิดในการเรียงลำดับการจัดอันดับของคนพวกนี้ “นับได้ว่าเป็นการจัดอันดับที่ชาญฉลาดดีจริง ๆ ! เอาล่ะต่อไปใครอยู่อันดับสาม?”
เว่ยสั่ว ตอบว่า “อันดับสามก็คือ อาจารย์สอนภาษาของสถาบันของเรา…”
“หะ? อาจารย์สอนภาษา เจ้าหมายถึงภาษาอะไร ภาษาอื่นที่ไม่ใช่ของอาณาจักรเรางั้นเหรอ?” ซูอัน เริ่มรู้สึกเป็นกังวล
ซูอัน ยังคงจำวันอันแสนทรมานที่เขาต้องเรียนภาษาที่สองในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาไม่อยากจะย้อนกลับไปมีความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อชีวิตที่แล้วเนื่องจากเขาสอบตกภาษาอังกฤษ เขาจึงมีคุณสมบัติได้เข้ามหาวิทยาลัยอันดับรองเท่านั้น
“แน่นอนว่านางสอนภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาของเรา!” เว่ยสั่ว มองไปที่
ซูอัน ราวกับกำลังมองคนปัญญาอ่อน “เนื่องจากมหาสงครามครั้งก่อน
ชนเผ่าอื่น ๆ จึงถูกขับไล่ไปยังดินแดนรกร้าง อย่างไรก็ตาม ยังมีคนต่างเผ่าจำนวนมากอาศัยอยู่ในอาณาจักรของเราซึ่งพวกเขาทั้งหลายก็มีวัฒนธรรม ภาษา และแนวปฏิบัติเป็นของตนเอง หากเราไม่เรียนรู้ภาษาหรือเรื่องราวของพวกเขาเอาไว้บ้าง พวกเราจะเสียเปรียบเมื่อต้องรับมือกับคนพวกนั้น!”
ซูอัน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาเพิ่งมาถึงโลกนี้ดังนั้นเขาจึงรู้ข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสงครามระหว่างมนุษย์กับชนเผ่าอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เขาสัมผัสได้ถึงความภาคภูมิใจและความมั่นคงในรากฐานของเผ่ามนุษย์ในโลกนี้ว่ามันเหนือกว่าเผ่าอื่นแน่นอน
“ถึงไหนแล้วนะเมื่อกี้?” เว่ยสั่ว ใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนที่จะย้อนกลับเข้ามาสู่ประเด็นหลัก “อ้อใช่แล้ว อันดับที่สามคืออาจารย์สอนภาษา ซางหลิวอวี้ นอกจากหน้าตาอันงดงามราวกับกับเทพธิดาของนางแล้ว นางยังมีบุคลิกที่สง่างามและอ่อนโยนอีกด้วย ถ้าอันดับสิบสุดยอดสาวงามขึ้นอยู่กับข้า ข้าจะจับนางไปอยู่ในอันดับแรกแน่นอน! แต่ไอ้พวกเด็กเหลือขอในสถาบันกลับเอนเอียงไปทางคนอายุไล่เลี่ยกว่า”
เดี๋ยวนะ! ไอ้เด็กนี่เพิ่งพูดว่าอาจารย์สอนภาษาชื่อ ซางหลิวอวี้ ใช่ไหม?
นี่มันคนที่ จี้เติ้งถู เคยเอ่ยชื่อไม่ใช่เหรอ? อืม ดูเหมือนว่าข้าควรจะหาโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับนาง…
“เจ้ารู้ไหมว่าระดับการบ่มเพาะของอาจารย์สอนภาษาคนนี้อยู่ที่ระดับใด” ซูอัน คิดว่าเขาควรจะรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดเกี่ยวกับอาจารย์สาวสวยผู้นี้ ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะตายอย่างน่าสลดใจเมื่อถูกจับได้ว่าขโมยชุดชั้นในของนาง!
“ระดับการบ่มเพาะ?” เว่ยสั่ว ขมวดคิ้ว “อาจารย์ซาง ไม่เคยเปิดเผยระดับการบ่มเพาะของนางเองเลยสักครั้งดังนั้นจึงไม่มีใครในสถาบันที่รู้เรื่องนี้ แต่ถ้าให้ข้าเดา ข้าเดาว่านางน่าจะอยู่ในระดับ 4 ”
“ระดับ 4 ?” ดวงตาของ ซูอัน เป็นประกาย ดูเหมือนว่าช่องว่างระหว่างเขากับนางจะไม่ไกลมากนักซึ่งมันหมายความว่าเขาสามารถลองดูได้ใช่ไหม?