ตอนที่ 68 ท่านแม่ข้าจะช่วยถือให้เอง

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว

ตอนที่ 68 ท่านแม่ข้าจะช่วยถือให้เอง

ตอนที่เสิ่นอิงวิ่งมาถึงคลัง เหวินเทียน โม่เสียนและคนอื่น ๆ ก็มาถึงแล้ว และกำลังจะเปิดประตู

เสิ่นอิงที่ยังคงมีคำพูดเหล่านั้นของหลินมาดังวนเวียนอยู่ในหัว ตอนนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองนายท่าน ก็พบว่าสายตาของอีกฝ่ายจ้องมองไปยังอวี้ชิงลั่วตลอดเวลาจริง ๆ เขาก็เกิดอาการใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ขึ้นมา

หรือจะเป็นอย่างที่หลินมาพูด นายท่าน…มีความคิดเช่นนั้นกับแม่นางอวี้จริง ๆ?

แต่แม่นางอวี้มีบุตรชายแล้ว เรื่องนี้ นายท่านไม่มีทางอยู่กับนางเป็นแน่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ทั้งสองท่านที่อยู่เหนือนายท่านก็ไม่มีทางตอบตกลงเช่นกัน

แม้ว่านายท่านจะไม่ฟังคำพูดของทั้งสองคนนั้น แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ลงมือกับแม่นางอวี้

คิดเช่นนี้ เสิ่นอิงก็รู้สึกว่าสมองของเขากำลังพันกันแล้ว เกิดความคิดนับพันหมื่นพรั่งพรูอยู่ในใจ ทำให้เขาเริ่มเกิดความกังวลต่าง ๆ นานา

 

เสียงกลอนประตูลั่นดัง ‘แกรก’ ดึงความคิดของเสิ่นอิงกลับมา เขารีบสูดหายใจเข้าลึก ๆ และทำให้ความคิดเหล่านั้นค่อย ๆ กลับมานิ่งสงบอย่างช้า ๆ และเดินตามนายท่านเข้าไปด้านในคลัง

ของที่อยู่ภายในคลังของจวนแห่งนี้มีไม่มาก ไม่สิ สามารถพูดได้ว่าเย่ซิวตู๋ไม่วางทรัพย์สมบัติจำนวนมากไว้ในคลังภายในจวน

แต่เมื่อเทียบกับครอบครัวธรรมดาแล้ว ก็ยังมีมากเกินพอ

อีกอย่าง โดยปกติแล้วภายในจวนจะโล่งมาก บัดนี้กลับมีกล่องวางซ้อนกันกล่องแล้วกล่องเล่า ทำให้ในคลังดูแน่นไปหมด แม้แต่ตำแหน่งวางเท้าก็ยังไม่มี

  

ไม่เพียงแค่เสิ่นอิง แม้แต่อวี้ชิงลั่วก็อดประหลาดใจไม่ได้เช่นกัน

มีเงินมากจริง ๆ ด้วย

หนานหนานอุทานด้วยความดีใจ เขามองแท่งเงินที่อยู่ในกล่องที่ถูกเปิดฝาไว้ รีบปรี่ตัวเข้าไปราวกับเห็นสมบัติ ใบหน้าขาวนวลเล็ก ๆ ส่งเสียงร้องใส่แท่งเงินอย่างไม่หยุด

เงินเหล่านี้…หรือว่าจะเป็นเงินที่นายท่านให้โม่เสียนไปแลกมา?

จู่ ๆ เสิ่นอิงก็เริ่มเข้าใจความคิดของนายท่านแล้ว เขาก็คิดไว้อยู่แล้วเชียว นายท่านจะยอมปล่อยให้แม่นางอวี้ออกไปง่าย ๆ เช่นนั้นได้อย่างไรกัน ที่แท้ก็รอนางอยู่ตรงนี้นี่เอง

เย่ซิวตู๋เหลือบมองภายในคลังปราดหนึ่ง ก่อนจะหันมามองอวี้ชิงลั่วและกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “ในนี้มีเงินสิบสองล้านตำลึง เป็นเงินจริงทั้งหมด แม่นางอวี้จะไปทดสอบด้วยตัวเองก็ได้ ส่วนสามล้านตำลึงที่เหลือ…ต้องขอโทษจริง ๆ ข้ามิได้มีเงินสดมากขนาดนั้น ดังนั้นคงทำได้แค่ให้เป็นธนบัตรกับเจ้า หวังว่าแม่นางอวี้จะไม่รังเกียจ เอาล่ะ เงินค่ารักษาก็อยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้ว แม่นางอวี้ยกไปได้เลย”

อวี้ชิงลั่วขบฟันแน่น ยิ้มมุมปากกล่าวทีละคำว่า “ข้าไม่ถือสาหากท่านจะแลกเป็นธนบัตรทั้งหมดมาให้ข้า”

“แบบนั้นคงไม่ดีเท่าไรกระมัง ธนบัตรจะเทียบกับเงินสดของจริงได้อย่างไร อันที่จริงหากมิใช่เพราะสายแล้ว เฉียนจวง[1] ก็ปิดหมดแล้ว ธนบัตรสามล้านตำลึงนี้ ข้าก็คงนำไปแลกเป็นแท่งเงินมาให้แม่นางอวี้ทั้งหมด” เย่ซิวตู๋กระตุกมุมปากขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ทุกครั้งที่เขาได้เห็นท่าทางพูดไม่ออกของนางเมื่ออยู่ต่อหน้าตนเอง เขาก็รู้สึกอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก

 

“เหอะ ๆ” อวี้ชิงลั่วโกรธมากแต่กลับแย้มยิ้ม นางใช้มือข้างหนึ่งแย่งธนบัตรสามล้านตำลึงที่เหลือมาจากในมือของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกอย่างช้า ๆ “เงินสามล้านตำลึงนี้ข้าจะนำไปก่อน ส่วนที่เหลือ รบกวนคุณชายเย่แลกเป็นธนบัตรให้ด้วย วันพรุ่งข้าจะกลับมารับอีกครั้ง เงินสดเหล่านี้ข้าคงนำกลับไปไม่ไหว คงไม่ต้องการ หนานหนาน พวกเราไปกันเถอะ”

 

หนานหนานที่กำลังนอนสำเริงสำราญกับความร่ำรวยอยู่บนกองเงิน จู่ ๆ ก็กระโดดตัวลุกขึ้นยืน

เมื่อครู่ท่านแม่พูดอะไร ไม่ต้องการเงินเหล่านี้?

ท่านแม่โง่เขลาไปแล้วหรือ เงินที่มีจำนวนมากมายขนาดนี้ เขาสามารถนำไปซื้อของกินได้ไม่รู้ตั้งเท่าไร ท่านแม่ไม่มองการณ์ไกลแม้แต่น้อยเลย

ไม่ได้ ต่อให้ท่านแม่ไม่อยากได้ แต่เขาอยากได้

หนานหนานเหลือบมองอวี้ชิงลั่วปราดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าสายตาของนางไม่ได้มองมาทางนี้ เขาจึงมองไปยังคนอื่น ๆ ก็พบว่าทุกสายตาไม่มีใครมองมาที่เขา หลังจากลอบถอนหายใจ จึงใช้มือหยิบเงินที่อยู่ตรงหน้าใส่เข้าไปในกระเป๋าสองกำมือ

  

เพียงแต่ กระเป๋าที่อยู่บนตัวของเขาก็เดิมทีก็ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับเขา ต่อให้ใหญ่กว่านี้ก็ไม่ได้มากเท่าไรนัก ใส่เงินเข้าไปสองกำมือก็ใส่ไม่พอแล้ว

หนานหนานเห็นว่ายังมีหีบจำนวนมากขนาดนั้น จึงแอบอาลัยอาวรณ์ ครั้นได้ลองครุ่นคิดดูแล้ว จึงถอดเสื้อคลุมด้านนอกที่อยู่บนตัวออก แล้วนำมาห่อเงินทั้งหมดไว้ด้านใน

 

น่าเสียดายที่ชุดเล็กไปหน่อย เขาห่อได้แค่สองกำมือก็ห่อไม่พอแล้ว

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงถอดชุดกลางออกเพื่อห่อเงินต่อไป

 

ทางฝั่งหนานหนานกำลังห่อเงินอย่างมีความสุขตื่นเต้นเสียจนเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว ส่วนเย่ซิวตู๋เมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ชิงลั่ว ก็อดหัวเราะไม่ได้ เขาส่ายหน้าและพูดด้วยความรู้สึกเสียดาย “แม่นางอวี้ เงินส่วนนี้ เจ้าต้องนำไปภายในวันนี้เท่านั้น และต้องเอาไปตอนนี้ด้วย ข้าบอกกับคนในจวนแล้วว่าพรุ่งนี้เช้าจะออกจากจวนแห่งนี้แล้ว คงไม่มีเวลาไปช่วยเจ้าแลกธนบัตรและรอเจ้ากลับมารับ ดังนั้น เงินส่วนนี้เจ้าต้องเอาไปตอนนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น…”

“ท่านคิดจะเบี้ยวจ่ายหรือ?” นางทราบอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่มีทางง่ายดายอย่างที่นางคิดจริง ๆ

นางก็รู้สึกแปลกใจ บุรุษผู้นี้จู่ ๆ ก็บอกว่าจะให้เงินและให้นางออกไปจากที่นี่อย่างง่ายดาย ที่แท้ก็เป็นเพราะมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้นี่เอง

 

เย่ซิวตู๋ส่ายหน้า “จะเรียกว่าเบี้ยวจ่ายได้อย่างไรกัน? เงินก็วางอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่นิดเดียว แม่นางอวี้อยากนำไปข้าก็ไม่ห้าม แต่จะจัดการอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับแม่นางอวี้ทั้งหมด ก็นับว่าข้าได้ทำตามที่สัญญากับเจ้าแล้ว”

อวี้ชิงลั่วหันไปมองเงินที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกไม่ค่อยสู้ดีขึ้นมาแล้ว

เงินมากขนาดนี้ นางจะเอากลับไปได้อย่างไรกัน อย่าว่าแต่ตอนนี้ไม่มีที่ให้นางก้าวเท้าเหยียบเข้าไปเลย ต่อให้มีที่ให้เหยียบก็ต้องจ้างให้คนมาขนเงินเหล่านี้ไปทั้งหมด นี่เป็นแท่งเงินของแท้ หากใช้รถขนก็ต้องดึงดูดความสนใจจากคนอื่น ถึงเวลานั้นไม่เพียงแต่จะถูกปล้นจากพวกโจรที่ไม่ต้องการชีวิต นางก็จะกลายเป็นคนมีชื่อเสียงด้วย ชื่อเสียงของอวี้ชิงลั่วผู้ที่ตายไปเมื่อหกปีก่อนแต่กลับมาปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง

อวี๋จั๋วหลินก็ดี ตระกูลอวี้ก็ดี รวมถึงตระกูลใหญ่โตเหล่านั้นก็คงมาหานางถึงที่

หากนางไม่ต้องการเงินเหล่านี้…นางที่ใช้เวลาอยู่กับเขานานขนาดนี้ มิเท่ากับเสียเปล่าทั้งหมดหรอกหรือ?

เย่ซิวตู๋ ท่านช่างเก่งกาจนัก โหดเหี้ยมด้วย

“แม่นางอวี้ คิดดีหรือยัง? อันที่จริงข้าก็ไม่ได้บังคับฝืนใจเจ้าหรอก หากเจ้าอยากแลกเป็นธนบัตรทั้งหมดจริง ๆ ก็ย่อมได้ แต่ก็คงต้องรบกวนให้แม่นางอวี้อยู่ข้างกายข้าต่ออีกสักหน่อย รอให้ข้ามีเวลาว่าง ข้าจะยื่นธนบัตรทั้งหมดให้เจ้าด้วยสองมือ” อยู่ต่ออีกสักหน่อยก็คืออีกสักหน่อย ไม่ใช่เรื่องที่นางจะควบคุมได้แล้ว

เย่ซิวตู๋ทราบดี สตรีผู้นี้มิอาจบังคับให้มากเกินไปได้ มิเช่นนั้นหากนางองค์ลงขึ้นมาจริง ๆ และไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น คนที่เสียเปรียบจะเป็นตัวเขาเองมิใช่หรือ?

อวี้ชิงลั่วรู้สึกปวดหัว ในสมองของนางกำลังคิดวกไปวนมาว่าจะจัดการกับเงินเหล่านี้อย่างไร

 

ทันใดนั้น ก็มีเสียงคมชัดและหอบหายใจดังขึ้นจากที่มุมห้อง “ท่านแม่ ข้าเก็บของเสร็จแล้ว เงินเหล่านี้ข้าจะช่วยท่านแม่ยกไปเอง พวกเราไปกันเถอะ”

เงินมีจำนวนมาก เขาถือเงินไปได้เยอะเชียว

หนานหนานใช้มือซ้ายถือถุงมือขวาถือกระเป๋า ใต้เท้าของเขายังมีถุงอีกสองห่อ ทั้งหมดนี้ใช้เสื้อผ้าบนร่างกายของเขาห่อไว้ทั้งหมด

นอกจากกางเกงที่อยู่ช่วงล่างแล้ว บนร่างกายของเขาก็เปลือยเปล่าทั้งตัว…

………………………………………………………………………………………………………………………

[1] เฉียนจวง (钱庄) เป็นร้านค้าที่ดำเนินกิจการรับฝากเงิน แลกเปลี่ยนเงิน คล้ายธนาคารในปัจจุบัน

สารจากผู้แปล

ร้ายมากนายท่าน มัดมือชกแบบไม่ให้โอกาสได้หนีเลย

หนานหนานขนไปไหวไหมลูก ช่างมีความพยายามโดยแท้

ไหหม่า(海馬)