ตอนที่ 122 จิตสำนึกที่ทรงพลังที่สุด

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

บทที่ 122 – จิตสำนึกที่ทรงพลังที่สุด

 

ร่างของมิวพุ่งผ่านท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็ว เอาเข้าจริงตั้งแต่ที่มาอยู่ในหอคอยก็ผ่านมานานพอสมควรแล้วสำหรับมิว แม้ถ้านับเวลาจริงๆ จากตั้งแต่เข้ามาจะยังไม่ถึงสิบห้าวันเลยด้วยซ้ำก็ตาม

แต่การอยู่ในนี้เจออะไรต่อมิอะไรก็แทบจะทำให้มิวรู้สึกเหมือนตัวเองโดนขังในหอคอยเลย ไม่ใช่แค่นั้น ความสามารถในการบินเธอก็ดีขึ้นมากแล้ว

ตอนนี้ต่อให้ไม่ใช้ยานพาหนะก็คงบินออกจากเมืองเหนือน่านน้ำได้ไม่ยากเท่าไหร่นักหรอก เพราะอันที่จริงมิวออกจากเมืองมาจนถึงตอนนี้

ระยะทางมันก็น่าจะไกลพอๆ กันเมืองเหนือน่านทะเลกับแผ่นดินใหญ่นั่นแหละ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้มิวเห็นชัดเจนว่าโลกนี้

โลกในหอคอยมันเป็นโลกจริงๆ เหมือนกับว่ามันเชื่อมต่ออีกโลกเข้ามาในหอคอย.. ไหนจะมีเรื่องของประตูบอร์เดอร์อีก

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่มิวต้องคิดหรือสนใจตอนนี้ เธอไม่ได้รู้สึกว่ามันสำคัญหรือเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องคิดอะไรมาก

มิวใช้เวลาไม่นานในการเดินทางมาถึงป่าทึบแห่งหนึ่ง ป่านี้เป็นป่าที่มีต้นไม้สูงหลายสิบเมตร เหมือนกับตึกสูงเสียดฟ้าในโลกด้านนอกเลย

แต่มันเป็นต้นไม้ และก็เรียงกันเต็มไปหมด เป็นป่าที่มีแต่ต้นไม้ยักษ์บรรยากาศค่อนข้างชื้นนิดหน่อย

‘ป่าไททัน’

นี่คือชื่อของป่าแห่งนี้ และแน่นอนว่าป่านี้ก็คือป่าที่เจ้าปีศาจจิตมรณะที่มีกิ่งก้านแห่งความตายอยู่บนหัวมันซ่อนตัวฟื้นร่างกายอยู่นั่นเอง

อาณาเขตจิตมังกรของมิวก็แผ่ขยายออกพร้อมกับมุ่งหน้าเข้าไปในป่าด้วยความรวดเร็ว เพราะกลัวมันจะทันได้รู้ตัวมิวจึงต้องชิงลงมือก่อน

หากมันหนีไปได้ละก็นั่นไม่ตลกแน่ๆ

กลางป่าไททันนี้จะมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ใหญ่กว่าเพื่อนอยู่ ใช่ ต้นไม้ทุกต้นในป่าล้วนแต่ใหญ่ยังกับยกตึกมาตั้ง

แต่ท่ามกลางต้นไม้ยักษ์เหล่านี้ยังมีต้นที่ใหญ่กว่าเกิดอยู่กลางป่า ลำต้นของมันบางทีต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดินในการวิ่งรอบด้วยซ้ำ

ใบไม้และกิ่งก้านของมันแตกกว้างออกมากกว่าสิบกิโลเมตร หากพูดถึงความยิ่งใหญ่ของมันแล้ว นี่คงจะใหญ่ที่สุดในชั้นนี้แล้วล่ะ

มันใหญ่กว่าโบสถ์ลอยฟ้าของศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ.. ตำนานเล่าว่ามันคือต้นไม้ที่เกิดจากกิ่งก้านของต้นอิกดราซิล

ทำให้มันเติบโตมาใหญ่ได้ขนาดนี้.. และเจ้ากิ่งก้านแห่งความตายมันก็ซ่อนตัวอยู่ในโพรงของต้นไม้ต้นนี้นั่นแหละ

ร่างของมิวพุ่งตามความทรงจำจากอนาคตด้วยความไวปานสายฟ้าแลบพุ่งเข้าไปเจอสิ่งมีชีวิตที่สูงพอๆ กับคน

แต่มีหัวเป็นกิ่งไม้ดูแปลกประหลาดน่ากลัว.. แต่พอมองดีๆ แล้วรูปร่างนี้ก็คุ้นเคยพอสมควร

มิวไม่รีรอให้มันตอบสนองหรือตกใจ ดาบผู้กล้าเอริเนียถูกชักออกมาโจมตีใส่มันโดยไม่ลังเล ซึ่งจังหวะนี้เป็นจังหวะที่ความทรงจำจากอนาคตสิ้นสุดลง

มิวไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้.. แต่สิ่งที่มิวต้องทำมีเพียงอย่างเดียวคือกำจัดไอ้สัตว์ประหลาดนี่ซะ และในวินาทีนั้นเอง

คมดาบของมิวพุ่งโจมตีใส่กิ่งก้านแห่งความตาย ร่างกายของมันตอบสนองกับคมดาบนั้นราวกับเกรงกลัว เกรงกลัวที่สุดในชีวิต

แม้มันจะยังไม่ทันความเร็วของมิวก็ตามแต่.. มันเบี่ยงตัวหลบทั้งๆ ที่ตายังปิดสนิทอยู่ด้วยซ้ำ มิวเบิกตากว้าง

“หลบได้เหรอ”

แต่เธอไม่มีโอกาสให้มันตั้งตัว มิวกำเป็นหมัดแล้วก็ต่อยใส่กลางอกของมันที่หลบออกไปด้านข้าง พลังช้างสารจากการต่อยของมิว

ทำให้อากาศรอบนั้นยุบตัวลง หน้าอกของมันก็ยุบตัวลงก่อนจะฉีกขาดเป็นรูโหว่ตรงกลางอกตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่แสบหู

“กร๊าดดดดดดดส์”

ร่างของมันลอยละลิ่วเหมือนกับว่าวที่สายป่านขาด กลิ้งตลบอยู่บนพื้นหลายครั้ง ก่อนที่ได้สติกลับคืนมาแล้วก็รีบเช็คสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อมันมองเห็นหน้ามิวสีหน้ามันก็เปลี่ยนสีแทบจะทันที…

“แก… อีกแล้ว!”

เสียงแสงแก้วหูดังออกมาจากปากของมัน พร้อมกับจ้องมองมิวด้วยความเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัด

หน้าอกของมันเริ่มฟื้นฟูอย่างว่องไว แต่มิวไม่รอเช่นนั้น เธอพุ่งดิ่งเข้าไปหามันอีกครั้ง คราวนี้มันมองร่างของมิวแทบไม่ทัน

แต่ความขนหัวลุกวิ่งผ่านสันหลังของมัน มันใช้มือจับคอตัวเองแล้วก็ฉีกออกอย่างเหี้ยมโหด ดาบของผู้กล้าเอริเนียตัดโดนความว่างเปล่าแทนที่จะเป็นคอของมัน

ทว่ามันที่แม้จะตามความเร็วของมิวไม่ทันก็ตาม แต่ก็ยังใช้สัญชาตญาณในการต่อสู้กับมิวได้นั้น มิวเองก็เช่นกัน

เมื่อมันฉีกหัวที่เป็นกิ่งไม้ตัวเองออก มิวก็ปล่อยมือจากดาบพร้อมใช้มือที่เหวี่ยงดาบแตะใส่ร่างของร่างกายมัน

ลำแสงสีขาวถูกพ่นออกจากมือของมิว นั่นคือลมหายใจมังกร ลมหายใจมังกรถูกปล่อยออกทำลายร่างกายของมันไม่เหลือซาก แม้แต่ต้นไม้ที่อยู่ตรงข้ามกับฝ่ามือของมิวยังถูกทำลายล้างตามไปด้วย

ส่งผลให้ต้นไม้ยักษ์หลายต้นถูกโค่นลงมา.. แต่มิวก็เงยหน้าขึ้นพบว่าหัวของมันถูกโยนขึ้นไปบนฟ้าตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้

ร่างกายของมันฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะทิ้งตัวลงมาใส่มิวที่พึ่งปล่อยพลังชุดใหญ่ไป

แม้จะไม่มีดวงตาให้เผยแววชั่วร้าย แต่ความชั่วร้ายโผล่ออกมาชัดเจน มือมันสัมผัสกับหัวของมิวและ

“จิตใจแกข้า.. จะกินมันเอง”

ความจริงแล้วสิ่งมีชีวิตใดก็ตามขอแค่มาอยู่ต่อหน้ามันก็ล้วนถูกพรากจิตสำนึกไปทันที แต่มิวเหมือนจะมีความต้านทานทางจิตสำนึกที่สูง

แต่ต่อให้มีความต้านทานทางจิตที่สูงขนาดไหนก็ตาม หกถูกสัมผัสจิตหรือสมองโดยตรง.. มันก็ไม่มีทางทนได้หรอก

มันกรีดร้องด้วยเสียงที่ชั่วร้าย..

ทว่าวินาทีที่มันจับหัวของมิวนั่นเอง.. โลกทุกอย่างก็มืดดับสนิทลงแทบจะทันที ร่างกายของมันมายืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดที่ไร้สิ้นสุด

ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น มันไม่สามารถมองเห็นอะไรได้นอกจากความมืด..กับพื้นที่มันยืนอยู่

“นี่มัน…”

มันมองซ้ายมองขวาในพื้นที่มืดแต่ก็ยังไม่สามารถรับรู้ถึงอะไรได้ เวลาราวกับถูกยืดออกเป็นไม่มีสิ้นสุด

หรืออาจจะชั่วพริบตาเดียว เพราะวินาทีถัดมานั้นเอง.. ร่างกายมันตอบสนองต่อความหวาดกลัวครั้งใหญ่ มันเงยหน้าขึ้น

และสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันก็คือดวงตาสีแดงฉานของมังกรกำลังจ้องมองมัน.. .. ร่างกายมันสั่นสะท้าน เหมือนกับการที่ปาเล็กพยายามจะกินปลาที่ใหญ่กว่า

มันเหมือนกับการที่พยายามจะใช้น้ำหนึ่งถังดับดวงอาทิตย์ทั้งดวง หรือมันเหมือนกับการที่ของก็อป..พยายามจะกลืนกินของจริง

ร่างกายของมันแตกกระจุยกระจายออกทันที .. ในโลกแห่งความจริงร่างกายของมันถูกแรงกระแทกอัดกระเด็นกลับไปนับสิบหลา

กิ่งก้านแห่งความตายเหี่ยวเฉาลงอย่างชัดเจน

“แก… แก..!!”

มันคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวใส่มิว.. มิวกุมขมับเล็กน้อย เธอส่ายหน้าตัวเอง เมื่อกี้รู้สึกเหมือนตัวเองพึ่งอ้าปากเคี้ยวไม้แห้งไปเลย

แต่ก็ตามที่มิวคิดเอาไว้ ก่อนหน้านี้มิวเคยจะประกาศชื่อตัวเองในฐานะคางาริ ในตอนนั้นเงาของ ‘มิว’ ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ

ราวกับมันต้องการจะบอกว่า.. เธอคือมิว ไม่ใช่คางาริ คางาริเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเธอเท่านั้นด้วยซ้ำ

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ‘จิต’ หากพูดถึงเรื่องจิตแล้วสิ่งมีชีวิตใดบนโลกล้วนไม่สามารถเทียบเคียงได้กับจิตมังกร

ก็จิตมังกรสามารถกระทั่งกางออกมายังโลกภายนอกได้ด้วยซ้ำนะ ไม่มีทางที่สิ่งมีชีวิตไหนจะเทียบเคียงได้หรอก

แน่นอนว่ามิวก็พอจะเดาได้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำมันเกือบตายทันทีแบบนั้น อีกอย่างแทนที่จะถูกกินเมื่อกี้..

“กลับกัน.. ไอ้เมื่อกี้มัน”

มิวพึมพำมองไปที่กิ่งก้านแห่งความตาย

มันคำรามใส่มิว

“แก.. แกคือ… คนเมื่อตอนนั้น!”

“เป็นเพราะแก.. เป็นเพราะแก… ข้าถึงได้.. ข้าถึงได้สูญเสียทุกอย่าง บ้านหรือแม้แต่รูปลักษณ์”

มันคำรามแบบนั้นใส่มิว.. ดวงตาของมิวที่เหมือนตามไม่ทันก็ค่อยๆ หดเล็กลง.. เดี๋ยวนะ.. อย่าบอกนะว่า..

ไอ้นี่..มันคือเจ้าปีศาจในโบราณสถานนั่น!?!

ไอ้เจ้าที่ชื่ออิกดร้าอะไรนั่นแหละ