หลังจากได้ยินคำกล่าวขอบคุณจากรุ่นพี่อันเป็นที่รักหล่อนกระดี๊กระด๊าขึ้นทันตาเห็น

“ไม่เป็นไรค่ะ!”

“ยินดีเสมอ!”

“…” ทราเวียร์แค่นเสียงไม่พอใจ

ทั้งที่คำกล่าวขอบคุณของเขาหล่อนอาศัยวิธีการบีบบังคับแท้ ๆ ยังจะมาอารมณ์ดีเกินเบอร์อีก

“จะขอบคุณมากกว่านี่ด้วยซ้ำ”

“หากเธอไม่แก้ผ้ามานอนเตียงนอนกับฉัน”

“…เล่นเอาใจหายใจคว่ำหมด” เขาถอนหายใจเหนื่อยอ่อน

หากตนไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้รับรองได้เลยว่าบรรลัยกันทั้งบาง

…‘ยังดีที่ไม่มีอะไรเกินเลย’

“…”

…‘ขอให้อย่ามีเลยนะ’

“…”

สุดท้ายความจริงทั้งหมดก็อยู่ที่รุ่นน้องสาวตรงหน้าหากไม่มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้นเมื่อคืนก็รอด

แต่ถ้ามีขึ้นมาละก็รับรองว่ายาว

…‘เพราะฉะนั้นห้ามมีเด็ดขาด’

“…”

ระหว่างทราเวียร์กำลังจมจ่อมอยู่กับห้วงความคิดของตนเอริก็เริ่มกล่าวตอบโต้กลับทันที

“คือ…”

“เรื่องเมื่อเช้าหนูเองก็รู้สึกผิดนะ”

“หนูควรแต่งตัวให้เรียบร้อย”

“ไม่ปล่อยให้รุ่นพี่ต้องกังวลใจแทนหนู”

หล่อนกล่าวระบายความรู้สึกทั้งหมดออกมาไม่มีกักเก็บส่วนจะเป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่ถ้อยคำหลอกลวง

ล้วนแล้วแต่หล่อนจะกำหนดให้

“…” ทราเวียร์ยังคงนิ่งเงียบต่อไป

บรรยากาศเข้าขั้นอึดอัดชวนให้รู้สึกย่ำแย่เป็นที่สุด แต่เพื่อเป้าหมายของตนหล่อนพร้อมเอาตัวเข้าเสี่ยง

สุดท้ายเอริเลือกกัดฟันกล่าวออกไป

“คือมีคำถามค่ะ”

“…ห้ามนอกประเด็นนะ”

“…” เธอพยักหน้ารับคล้ายเข้าใจ

พร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกแววตาปรากฎร่องรอยลังเลให้เห็นคล้ายไม่ต้องการบอกกล่าว

ริมฝีปากขบกันแน่น

“…” หลังจากลังเลอยู่นานในที่สุด

หล่อนก็กล่าวให้เขาได้รับรู้

“รุ่นพี่…”

“เห็นสภาพชุดวันเกิดของหนูแล้ว”

“…รู้สึกยังไงบ้างคะ?”

เสมือนค้อนใหญ่หวนเข้ากลางกระบาลอีกครั้ง

“…” ทราเวียร์อ้าปากค้างอยู่หลายต่อหลายวินาทีก่อนเรียกคืนสติตัวเองกลับมาพร้อมบ่ายเบี่ยงประเด็น

กันไม่ให้หล่อนสอบถามเขาไปมากกว่านี้

“ห้ามนอกประเด็น!”

“ตอบ—

“ฉันบอกห้ามนอกประเด็น!”

…‘ถามคำถามบ้าบออะไรออกมาวะเนี่ย?!’

“…”

คำถามสุดอันตรายสมควรถูกทิ้งข้างทางไม่ควรนำเก็บกลับมาใช้ใหม่แววตาหญิงสาวหรี่ลงก่อนเผยรอยยิ้มเบาบาง

ทำเอาทราเวียร์ต้องหลบสายตาไม่กล้ามองต่อ

“…”

“…เลือกไม่ตอบสินะ”

“หนูรู้หนูเข้าใจค่ะ” เอริพยักหน้าสองครั้งติด

เรื่องที่ชายหนุ่มสวมแว่นครุ่นคิดเอาไว้ในหัวสมองล้วนถูกหล่อนอ่านง่ายดาย

พอเห็นรอยยิ้มเหมือนรู้มันหมดทุกอย่างแล้วมันชวนรู้สึกหงุดหงิดเป็นที่สุด

“ต่อ!” ทราเวียร์ใช้เสียงดังตอบโต้

หวังกลบเกลื่อนเรื่องราวแน่นอนว่าเอริไม่ได้ขัดข้องทั้งยังให้ความร่วมมือเต็มที่กล่าวสำหรับหล่อนจะไปขัดข้องทำไมในเมื่อตนได้คำตอบที่ต้องการมาเป็นเรียบร้อยแล้ว

เอริพยักหน้ารู้ความ

“ค่ะ”

“ห้ามนอกประเด็นอีกเข้าใจไหม?”

“ค่ะ ไม่นอกประเด็นอีกแน่นอน”

“หนูสัญญา”

พอเห็นรุ่นน้องสาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีชายหนุ่มสวมแว่นก็รู้สึกอุ่นใจยอมลดท่าทีไปในที่สุด

“…เล่าต่อฉันอยากฟัง”

“…”

เอรินิ่งเงียบไปครู่หนึ่งคล้ายกำลังเรียบเรียงเรื่องราวเมื่อคืนเตรียมพร้อมสำหรับนำเสนอให้ทราเวียร์รับทราบ

หลังจากเตรียมการเสร็จสิ้นหล่อนก็เริ่มถ่ายทอดเหตุการณ์เมื่อคืนให้เขารับฟังทันที

“ถ้าต่อจากที่เล่าค้างไว้”

“หลังจากพารุ่นพี่กลับมาจากร้าน”

“หนูก็ลากพารุ่นพี่เข้ามาในบ้าน”

“พยายามช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้ตั้งแต่เอาน้ำมาให้ดื่มพาไปที่เตียงนอน—”

หล่อนยังกล่าวเพิ่มเติมอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดว่าหลังจากลากพาเขาเข้ามาทำอะไรไปบ้าง

ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าช่างอันตรายเหลือเกิน อันตรายเกินกว่าจะคบหาในฐานะเพื่อนร่วมงานต่อ

แต่พอฟังไปถึงท้ายเรื่องมันออกจะแปลกประหลาดเกินไปเฉกเช่นว่าเขาคว้าหล่อนมาจูบก่อนทำอะไรมากมายกับหล่อนบนเตียงนอน

สุดท้ายปลายทางเรื่องราวสุดแสนจะชวนให้ผู้อื่นใจเต้นก็ต้องมาหยุดลงด้วยฝีมือของชายหนุ่มสวมแว่น

ทราเวียร์ร้องเสียงดังลั่น

“หยุด!”

“หยุดทำไมคะ?”

“…” ลมหายใจสูดเข้าลึก

“ขอถามให้แน่ใจ?”

“เชิญค่ะ”

“เธอกำลังจะบอกฉันว่าพวกเราก้าวข้ามคำว่า ‘รุ่นพี่รุ่นน้อง’ ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานไม่สิตั้งแต่เมื่อคืน?”

“ค่ะ”

“แถมฉันยังเป็นฝ่ายรุกเธอก่อนทั้งที่เธอไม่ต้องการ”

“…ค่ะ”

“เธอก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากสมยอมกับฉัน”

“……ค่ะ”

“…โอเคร” สีหน้าเขาเข้าขั้นซีดเซียว

แม้คำว่า ‘โอเคร’ จะหลุดออกมาจากปากแต่เอาเข้าจริงแล้วใบหน้าเขาหยุดกรอบไปจากคำว่าโอเคร

ชนิดที่ว่าคนละมิติกันเลย

…‘สรุปมันเกิดบ้าอะไรวะเนี่ย?!’

“…”

“คือ…เวรกรรม” ทราเวียร์นิ่งเงียบพลางถอนหายใจก่อนเงยหน้ามองสอดผสานแววตาคู่งาม

“…ฉันเป็นฝ่ายทำส่วนเธอเป็นฝ่ายเสียหายสินะ”

“เข้าใจละ”

“รุ่นพี่?” เอริถามกลับไปด้วยความห่วงผิดกับชายหนุ่มสวมแว่นนั่งหน้านิ่งคล้ายดวงวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้วเรียบร้อย

ก่อนแววตาจะหวนคืนกลับมาอีกครั้ง

…‘เดี๋ยวก่อนนะ’

“…”

“มีอะไรรึเปล่าคะ?”

“…”

“ดะ เดี๋ยวรุ่นพี่จะทำอะไร?”

เห็นอีกฝ่ายหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาหล่อนรู้สึกท่าไม่ดีทันทีจำต้องหักห้ามเอาไว้ก่อน

น่าเสียดายที่ทราเวียร์นำหน้าอยู่ก้าวหนึ่ง

“…” เขาเบี่ยงตัวหลบ

“อย่ามาจับ”

“รุ่นพี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำไม?”

“ฉันไม่เชื่อ”

“หลังจากพวกเรากินข้าวเสร็จ”

”ฉันจะพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลเอาให้แน่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นถ้าเป็นจริงฉันพร้อมรับผิดชอบ”

“แต่ถ้าไม่จริงเป็นแค่เรื่องล้อเล่นขำขัน”

“…แล้วถัามันเป็นเรื่องล้อเล่นละคะ?”

“ถ้าเป็นเรื่องล้อเล่น?”

“รับรองได้เลยว่าจบไม่สวยแน่นอน” ทราเวียร์ฉีกยิ้มโหดเหี้ยม

แรงกดดันมหาศาลแทบกดขี่คนผู้หนึ่งให้กลายเป็นมดแมลงในสายตาอีกฝ่ายทำเอาหล่อนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

เอริยิ้มแห้งแห้งจนไม่รู้ว่าจะแห้งยังไงแล้ว

“…ต้องขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”

“…”

ชายหนุ่มสวมแว่นหรี่ตามองหญิงสาวผู้งดงามจัองมองจนหล่อนเลือกหลบสายตาและเมื่อเลือกหลบสายตา

เขาก็เริ่มดำเนินการต่อเนื่องทันที

“ขอแจ้งฉันตำรวจก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”

“หยุดก่อน!”

“…”

“หยุดทำไม?”

“ทำไมฉันต้องหยุดด้วย?”

“…” กล่าวสำหรับหล่อนมันเป็นคำถามที่ยากจะตอบ

จากเคยขุดหลุมให้อีกฝ่ายกระโดดลงไปกับกลายเป็นว่าตอนนี้เธอต้องกระโดดลงไปบ้างแล้ว

เอริตัดสินใจเลือกสารภาพนำหน้าไปก่อน

“…ขะ ขอโทษค่ะ”

“เมื่อกี้หนูล้อเล่น”

“ที่จริงพวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย”

“หนูแค่จัดฉากนิดหน่อยเท่านั้น”

ต่อหน้าอำนาจยิ่งใหญ่หล่อนเลือกสารภาพความผิดทั้งหมดออกมาไม่มีคิดปกปิดซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด

ทราเวียร์ถอนหายใจยิ้มออก

…‘นั่นไงเห็นไหม?!’

“…”

“กะแล้วยัยเด็กแก่แดดแบบเธอมันหาดีไม่ได้!”

“ดีนะที่แค่จัดฉาก”

“ถ้าเป็นจริงขึ้นมารับรองว่าหายนะแน่นอน”

ความรู้สึกช่วงเวลานี้กับช่วงเวลาตอนแรกเริ่มมันช่างแตกต่างกันเหลือเกินเขากล้าพูดได้เลยว่าตอนนี้เขารู้สึกสดชื่นเป็นที่สุด

สดชื่นจนบอกไม่ถูก

…‘สบายใจแล้วโว้ย!’

“…”