ตอนที่ 137 เพื่อนของกุยแก

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น

เตียวเมิ่งผู้ซึ่งก้าวไปสู่ตําแหน่งแม่ทัพระดับจักรพรรดิ คุกเข่าลงเข่าข้างหนึ่งและตะโกนอย่างหนักแน่น

“ข้าขอขอบคุณท่านลอร์ดสําหรับโอกาศที่ท่านได้มอบให้กับข้า และข้าจะขอสาบานอีกครั้ง ไม่ว่าปลายดาบของท่านจะชี้ไปทางทิศใด แม้ว่าจะต้องบุกป่าฝ่าทะเลเพลิง ข้าก็จะเต็มใจทําเพื่อท่านโดยไม่มีวันเสียใจ!”

เตียวเมิ่งแทบไม่สามารถระงับความตื่นเต้นไว้ได้เลย เขาคิดว่าที่เขามีวันนี้ได้ก็เพราะเย่เฉินที่เป็นผู้มอบโอกาศให้เขา

หากปราศจากเย่เฉินเขาก็ไม่สามารถไปถึงแม่ทัพระดับราชาได้

หากปราศจากเย่เฉินเขาจะไม่มีวันที่จะได้เป็นแม่ทัพระดับจักรพรรดิ

ด้วยความรู้สึกเหล่านี้ เขาเต็มใจที่จะทําทุกอย่างเพื่อเย่เฉิน แม้ว่าจะเป็นการเสียสละชีวิตของเขาเอง เตียวเมิ่งก็จะทํามันโดยไม่ขมวดคิ้วแม้แต่น้อย

นี่คือสิ่งที่อยู่ในหัวใจของเตียวเมิ่ง ในขณะนี้

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย เดินไปยังเตียวเมิ่งที่กําลังคุกเข่าอยู่ และพยุงเตียวเมิ่งลุกขึ้นแล้วพูดว่า: “เจ้าเพิ่งผ่านระดับอย่าได้คิดถึงเรื่องอื่น ๆ ในตอนนี้จดจ่อกับจิตวิญญาณของแม่ทัพที่เจ้าดูดซับไป เพื่อทําให้ขอบเขตมีความมั่นคง”

“ครับ นายท่าน!” เตียวเมิ่งพยักและพูด

เย่เฉินตบไหล่เตียวเมิ่งจากนั้นมองไปที่กุยแก และถามว่า “กุยแก เจ้าคิดว่าครั้งนี้เราได้ม้ามากี่ตัว”

“ม้าศึกมีอย่างน้อย 150,000 ตัวที่สามารถนําออกสู่สนามรบได้ทันที ถ้าท่านลอร์ดไม่ได้ใช้รูปแบบการต่อสู้สมรภูมิพยัคฆ์ขาว คาดว่าน่าจะมีมากถึง 180,000 ตัว” กุยแก ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้ว

เย่เฉินเลิกคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ และกล่าวว่า ” หนึ่งแสนห้าหมื่น…ก็พอแล้ว”

“ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของลอร์ด ท่านอยากจะรายงานเรื่องนี้ต่อทางการหรือไม่” กุยแก คิดอะไรบางอย่างในเวลานี้แล้วถามออกมา

“ไม่ ถึงแม้ผลงานในครั้งนี้จะไม่เล็กน้อย แต่จริงๆแล้วหัวหน้าใหญ่ของพวกมันยังคงเป็นเตียวซุ่นและชิวลี่จู การก่อกบฏในอิวจิ๋วจะสงบลงหลังจากพวกมันถูกสังหาร” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด

“นายท่าน ชิวลี่จูมีความสามารถในการวางกลยุทธ์อย่างมาก หากท่าลอร์ดต้องการฆ่าชิวลี่จู ท่านต้องส่งกองกําลังออกไปโดยเร็วที่สุดและโจมตีดั่งสายฟ้าแลบ มิฉะนั้นเมื่อเขาได้รับข่าวก่อน ข้าเกรงว่าเขาจะยอมจํานนทันที “กุยแก พยักหน้าแล้วพูด

เย่เฉินพยักหน้าแล้วถามว่า “กุยแก จากการคาดการของเจ้า ต้องใช้เวลานานแค่ไหนชิวลี่จูถึงจะรู้ข่าวที่ข้าสังหารลูกน้อยของเขา?”

“นายท่าน มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบห้าวันกว่าข่าวการทําลายล้างในครั้งนี้จะไปถึงหูของชิวลี่จู ท้ายที่สุดแล้วทหารที่ส่งมามีจํานวนถึง 200,000 นายยากที่จะโดนทําลายเช่นนี้ ในสายตาของพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่กองทัพที่เขาส่งมาทั้งหมดจะถูกทําลาย เมื่อเขาไม่ได้ข่าวกองทัพที่เขาส่งมา เขาต้องส่งคนมาตรวจสอบ กว่าที่เขาจะได้ข่าวคงต้องใช้เวลาพอสมควรอย่างน้อยสิบห้าวัน” กุยแกโค้งคํานับและกล่าว

“สิบห้าวัน…ก็เพียงพอ” เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูด

ในตอนนี้ ทหารที่รวบรวมม้าและทําความสะอาดสนามรบต่างก็กลับมารวมกัน เมื่อมองไปที่ม้าศึกที่อยู่ทั่วภูเขา เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้ม แล้วพูดว่า

“เดินทางกลับนครหลุยฮุย!”

“รับทราบ!” ทหารของกองทัพหลุนฮุย ตอบพร้อมกัน

ทหารหลายหมื่นนายติดตามเย่เฉินกลับนครหลุนฮุยพร้อมกับของที่ยึดมาได้ทันที

ทางเข้าหุบเขาหลุนฮุย

ทันทีที่เย่เฉินมาถึงมาถึงที่นี่ ก็มีเสียงดังโกนด้วยความยินดีดังออกมาทันที

“ ขอแสดงความยินดีกับท่านลอร์ด ที่ได้รับชัยชนะกลับมา!”

“ ขอแสดงความยินดีกับท่านลอร์ด ที่ได้รับชัยชนะกลับมา!”

เย่เฉินมองดูผู้คนของนครหลุนฮุยที่ยืนรอคอยต้อนรับกลับมา มองดูรอยยิ้มที่ออกมาจากใจของพวกเขา เย่เฉินจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม แล้วนําทหารกลับไปยังเมืองหลุนฮุย

นครหลุนฮุย คฤหาสน์เจ้าเมือง

“นายท่าน ผู้คนในนครหลุนฮุยมีความกระตือรือร้นอย่างมาก” กุยแก กล่าวด้วยท่าทางที่ยุ่งเหยิงในขณะที่เยู่เฉินเพิ่งนั่งลง

“ใครๆก็บอกว่าเจ้าเป็นคนฉลาดที่สุด เจ้าเป็นคนที่ชอบดื่มเหล้า ข้าคิดว่าเจ้าก็ดูไม่เลว ทําไมถึงไม่มองหาผู้หญิงซักคน? เมื่อเจ้าคุ้นเคยกับมันแล้ว ทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่าย” เย่เฉินหัวเราะแล้วเปิดปากพูด

อย่างไรก็ตาม ระหว่างทางที่เย่เฉิน นําทหารกลับมายังเมืองหลุนฮุย กุยแก ถูกสาวใหญ่จํานวนนับไม่ถ้วนรุมล้อม

เมื่อกุยแกได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็ดูแย่ยิ่งกว่าเดิม และพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว “ท่านลอร์ดต้องล้อข้าเล่นแล้ว แม้ว่าข้าจะเป็นนักดื่มที่ดี ข้ามักจะเมาอยู่บ่อยๆ แต่ข้าก็ไม่อยากยุ่งยาก

“เจ้าต้องจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง ลอร์ดของเจ้าไม่ของยุ่งเรื่องนี้” มุมปากของเย่เฉินยกขึ้น แล้วกล่าวออกมา

” เฮ้อ” กุยแกถอนหายใจด้วยท่าทางยุ่งเหยิง

เย่เฉินมองไปยังกุยแกที่มีใบหน้าบิดเบี้ยวในขณะนี้ เขาก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็มองไปที่เตียวเมิ่งและพูดว่า

“ที่ทางเข้าหุบเขาหลุนฮุย ให้เริ่มสร้างกําแพงเมือง มันจะต้องมีความสูง 100 เมตรและกว้าง 20 เมตร ข้อกําหนดคือมันจะต้องแข็งแกร่ง!”

“นายท่าน กําแพงเมืองแบบนี้มีค่าใช้จ่าย…” เตียวเมิ่งผงะไปครู่หนึ่งแล้วเขาก็พูดออกมา

“สร้างมันขึ้นโดยไม่ต้องคํานึงถึงค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ก็ต้องสร้างมัน” เย่เฉินโบกมือแล้วพูด

“ท่านลอร์ดท่านกังวลว่าศัตรูต่างเผ่าพวกนั้นจะโจมตีมาอีกใช่หรือไม่?”

กุยแกมองไปที่เย่เฉินและถามด้วยความสงสัย

“ไม่ต้องกังวลไป มันจะเกิดขึ้นแน่นอน ไม่เกินหนึ่งเดือน จักรวรรดิฮั่นอาจจะเริ่มปั่นป่วน” เย่เฉินสายหัวก่อนจะพูด

“ท่านลอร์ดกําลังพูดถึงโจรโพกผ้าเหลืองนั่น?” กุยแก ผงะไปครู่หนึ่งแล้วถาม

“เป็นพวกมัน มันมีบางอย่างไม่ธรรมดา” เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูด

หลังจากที่เย่เฉินพูดจบ เขาโบกมือขวาเล็กน้อย เหรียญทองสีม่วงก็ปรากฏขึ้นในห้องโถงทันที

“นี่คือสองแสนเหรียญทองม่วง มันน่าจะเพียงพอแตหากไม่พอก็มาบอกข้า กําแพงเมืองนี้จะต้องสร้างเสร็จภายในหนึ่งเดือน!”

เตียวเมิ่งที่เห็นเย่เฉินนําเหรียญทองม่วงออกมาในครั้งเดียว ดวงตาของเขาว่างเปล่า แต่เขาไม่ได้คิดว่าเย่เฉิน จะใช้เงินจํานวนมากขนาดนี้ในคราวเดียว

ต้องรู้ก่อนว่าเหรียญทองม่วงหนึ่งเหรียญมีค่าเท่ากับหนึ่งหมื่นเหรียญทอง และเหรียญทองม่วงสองแสนเหรียญนี้เท่ากับสองพันล้านเหรียญทอง

เตียวเมิ่งไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน

หลังจากฟื้นคืนสติ เตียวเมิ่งก็รีบโค้งคํานับและกล่าวว่า “นายท่าน! ชายชราผู้นี้จะรีบสร้างกําแพงให้เสร็จภายในหนึ่งเดือน!”

เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูดต่อว่า

“ถนนในป่าหลุนฮุยก็ต้องเริ่มสร้างเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนนหรือสร้างกําแพงเมือง เจ้าสามารถสั่งให้เชลยศึกเผ่าอูหวนพวกนั้นมาเป็นแรงงานได้ พวกเขาจะทํางานอย่างหนักหากใครขัดขืนก็ลงโทษไม่ก็ฆ่าซะแต่หากผลงานดี ก็ตอบแทนด้วยรางวัลที่เหมาะสม”

“ครับท่านลอร์ด!” เตียวเมิ่งโค้งคํานับและตอบ

เย่เฉินมองไปที่กุยแกและถามว่า “เมื่อตอนที่เจ้าศึกษาอยู่ที่ อิ่งชวน เจ้ามีเพื่อนที่เล่าเรียนด้วยกันหรือไม่ พวกเขาสนใจอาชีพราชการหรือไม่”

“ท่านลอร์ด ข้าจะเขียนจดหมายให้พวกเขาในภายหลัง โดยบอกให้พวกเขาเดินทางมายังนครหลุนฮุย” กุยแก ประหลาดใจเล็กน้อยจากนั้นก็โค้งคํานับและตอบ

ความหมายของเย่เฉินกุยแกเข้าใจดีว่าเขาต้องการรวมรวมคนที่มีความสามารถมากขึ้น

กุยแกภัคดีต่อเย่เฉินอย่างมาก ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่หลอกลวงเย่เฉิน

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เอาล่ะ ให้พวกเขามา ยิ่งมากันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”