ตอนที่ 128 ขนานนาม

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

ตอนที่ 128 ขนานนาม

การมาเยือนของคาร์ลคลายความกดดันของสถานการณ์ตรงหน้าได้บ้าง

ทว่ากลับเกิดสงครามขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ตแทน

ในข่าวมีการกล่าวถึงประเด็นดังต่อไปนี้

[องค์การอนามัยโลก…หัวหน้าหน่วยป้องกันโรคมาลาเรีย และเลขาธิการองค์กรอนามัยโลกได้กล่าวถึงเป็นการส่วนตัวว่า…]

[การประชุมมุ่งเน้นไปที่การชมเชยหน่วยทดลองของถูโยวสำหรับความพยายามในการศึกษาเคสโรคมาลาเรียชนิดกลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ โดยมีศาสตราจารย์ถูเป็นผู้นำ…]

[ท่านเลขาธิการกล่าวชื่นชม ‘ไป๋เยี่ย’ ผู้ค้นพบสารคาร์บอกซิลิกอาร์เทแอนนิวอิน! โดยยกย่องให้เขาเป็นเสาหลักของการสืบทอดองค์ความรู้ทันสมัยด้านการแพทย์แผนจีนแห่งประเทศจีน…]

ทันทีที่มีการออกอากาศผู้ตนต่างก็พากันตกตะลึง!

บ้าไปแล้ว

ป…เป็นเกียรติขนาดนี้…แต่ทำไมถึงยังตั้งคำถามกันล่ะ

พวกคุณกำลังตั้งคำถามเรื่องไป๋เยี่ยกับองค์กรอนามัยโลกนะ!

ใช่เรื่องที่คุณควรตั้งคำถามเหรอ

ทุกคนพากันตกตะลึงไปชั่วขณะ!

ขณะเดียวกัน สือฉีก็กำลังตั้งใจดูข่าวนี้อยู่อย่างใจจดใจจ่อ นักวิจารณ์อย่างเขาจำเป็นต้องดูข่าวทุกวันอยู่แล้ว!

ทว่าเขากลับต้องตะลึงเมื่อได้ยินชื่อไป๋เยี่ย!

ไป๋เยี่ยงั้นเหรอ

ไม่ใช่หรอกมั้ง

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สือฉีเองก็รีบล็อกอินเข้าเวยป๋ออย่างร้อนรนและลบโพสต์ล่าสุดเกี่ยวกับไป๋เยี่ยออก!

ทว่าเมื่อล็อกอินเข้าไปแล้ว เขาก็พบว่าแอ็กเคานต์ของเขาถูกล็อก!

สือฉีตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า ร่างของเขาสั่นระริก…

จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ถึงผลอันเลวร้ายที่กำลังจะตามมา ก่อนจะสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไป!

ไม่!

ไม่มีทาง!

ไม่มีทาง…ฉันใส่รหัสผ่านผิดแน่ๆ!

ทว่า…มือของเขากลับสั่นเทิ้มจนพิมพ์อะไรลงไปไม่ได้เลย!

ทำไงดี…

แม้ว่าอุณหภูมิในห้องจะหนาวเพียงใด แต่มันกลับทำให้เขาเหงื่อออกท่วมตัวได้!

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และกรอกรหัสผ่านอีกครั้ง…

ไม่ได้!

แอ็กเคานต์ของเขาก็ยังคงถูกล็อกอยู่…

เอาไงดีล่ะทีนี้

แอ็กเคานต์ถูกล็อกหมายความว่าอย่างไร แน่นอนว่าสือฉีก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้เช่นกัน

เรื่องถูกบล็อกนั้นไม่สำคัญ อย่างมากก็แค่ต้องสร้างแอ็กเคานต์ใหม่!

แอ็กเคานต์ถูกล็อกหมายความว่าเขาก็ต้องจัดการตัวเองบ้าง…

แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ

ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น สือฉีจึงลุกไปเปิดประตูด้วยความลุกลี้ลุกลน และพบว่ามีคนยืนถือเอกสารรอเขาอยู่หน้าประตูหลายคน

“ศาลประชาชนชั้นกลาง เขตไห่ซื่อ…”

สือฉีใจเต้นโครมครามก่อนจะทรุดลงไปกับพื้น…

ในวันเดียวกันนั้นก็มีการโพสต์บทความโดยแท็กชื่อไป๋เยี่ยด้วย

‘นี่เป็นข่าวดีของโลก ประเทศชาติ และวงการแพทย์แผนจีนของเรา!’

บทความนี้กล่าวถึงการวิจัยสารอาร์เทแอนนิวอินชนิดใหม่ บทบาทสำคัญของถูโยว และแนวโน้มที่สารอาร์เทแอนนิวอินชนิดใหม่นี้จะช่วยรักษาผู้ป่วยโรคมาลาเรียได้…ส่วนท้ายของบทความก็เป็นการกล่าวถึงไป๋เยี่ยว่าเขามีบทบาทสำคัญในการค้นพบและวิจัยสารอาร์เทแอนนิวอินชนิดใหม่นี้!

แคร์รี่ เลขาธิการองค์กรอนามัยโลกก็ยกย่องไป๋เยี่ยเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์คนหนึ่ง…

จากนั้นคะแนนสอบสี่ร้อยหกสิบเอ็ดคะแนนก็กลายเป็นสถิติใหม่ของการสอบเข้าระดับปริญญาโทสาขาแพทย์แผนจีน!

ทั้งได้เข้าร่วมหน่วยทดลองของถูโยวในฐานะนักศึกษาฝึกงานและได้ค้นพบสารอาร์เทแอนนิวอิน…แม้ว่าจะดูเหมือนโชคช่วยก็ตาม แต่ความสำเร็จไม่ได้มาเพราะความบังเอิญหรอก สำคัญที่ผลลัพธ์ต่างหาก!

ชั่วครู่หนึ่ง บรรดาผู้คนที่สงสัยในตัวไป๋เยี่ย ที่เคยด่า ดุถูกทั้งไป๋เยี่ยและมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิ้นซี ต่างต้องตกตะลึง…

ทว่าพวกเขาก็ยังคงด่าอยู่เหมือนเดิม!

จนกระทั่งมีข่าวหลุดออกมา…

‘สือฉีถูกสงสัยว่ามีเจตนามุ่งร้ายต่อไป๋เยี่ยและมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิ้นซี…ถือเป็นความผิดทางอาญา…’

สือฉีถูกจับแล้ว!

แม้ว่าจะบอกว่าเป็นการพิจารณาคดีก็ตาม แต่หลักฐานก็มากเพียงพอ!

อีกทั้งคราวนี้ สือฉีก็โจมตีทั้งบุคคลที่ได้รับการยกย่องจากองค์การอนามัยโลกและมหาวิทยาลัยของรัฐ!

แม้ว่าผู้คนเหล่านั้นจะทำใจยอมรับไม่ได้ก็ตาม แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับความเป็นจริงให้ได้อยู่ดี!

ไป๋เยี่ยเนี่ย เก่งจนพวกเขาหาเรื่องมาใส่ร้ายไม่ได้จริงๆ!

คนที่สนใจเรื่องนี้บางคนค้นพบว่าแอ็กเคานต์ย่อยๆ ของสือฉีก็ถูกแบนในวันเดียวกันด้วย

นอกจากนี้ ทางเวยป๋อยังได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับนโยบายการคัดกรองโพสต์ของเวยป๋ออีกด้วย…

[แย่แล้ว! ฉันกลัวแล้ว…ที่แท้เขาก็เป็นยอดมนุษย์นี่เอง ผิดไปแล้วจริงๆ…]

[เฮ้อ…ฉันเอาแต่หน้ามืดตามั่วเชื่อคำพูดของสือฉี ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะระดับความรู้อันต่ำต้อยของฉันเอง ทำให้ฉันไม่เข้าใจเนื้อหาในบทความของไป๋เยี่ย ไม่งั้นฉันคงจะไม่ไปพูดจาแบบนั้นหรอก…]

[คุณไป๋เยี่ยได้โปรดชี้แนะผมด้วย ผมคือไอ้คนที่เรียนป.เอกคนนั้นเอง…ถ้าผมไม่มีธีสิสส่งล่ะก็…ผมเรียนไม่จบแน่!]

[เฮ้อ…ระหว่างที่ฉันกำลังกังวลกับธีสิสของฉัน คุณไป๋เยี่ยก็กำลังอุทิศตนเพื่อการช่วยเหลือผู้คนบนโลก…]

ไม่เพียงแค่ชาวเน็ตที่ตกใจเท่านั้น ทางมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิ้นซีเองก็เช่นกัน

ทุกคน รวมถึงหูเฟิงอวิ๋นมองเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ

ใครจะไปเชื่อว่าไป๋เยี่ยจะเก่งขนาดนี้

คุณคิดว่าคุณจะเป็นคนที่ได้รับการยกย่องและเสนอชื่อโดยองค์กรอนามัยโลกได้เหรอ

แม้ว่าสิ่งที่ไป๋เยี่ยค้นพบจะมาจากความบังเอิญ ทว่าจะมีสักกี่คนที่ได้พบเจอกับความบังเอิญเช่นนี้

ในบทสัมภาษณ์ของถูโยวกล่าวว่า ‘จริงๆ แล้ว การพัฒนาสารอาร์เทแอนนิวอินเป็นสิ่งที่เราได้ทำการวิจัยและพัฒนามาโดยตลอด ซึ่งทางเราก็ได้ทุ่มเทเพื่อสิ่งนี้อย่างเต็มที่ ส่วนการค้นพบสารอาร์เทแอนนิวอินของไป๋เยี่ยก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด ไป๋เยี่ยค้นพบสารชนิดนี้จากการค้นคว้าประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเขาเองในช่วงหลายปี รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังจากทางองค์กรอนามัยโลก จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการค้นพบอาร์เทแอนนิวอินนั่นเองค่ะ’

อย่างไรก็ตาม ถูโยวไม่ได้แนะนำอะไรเกี่ยวกับไป๋เยี่ยมากนัก ทั้งยังปิดบังเรื่องการค้นพบสารโพลีคาร์บอกซิลิกอาร์เทแอนนิวอินของไป๋เยี่ยอีกด้วย

ทว่าสารอาร์เทแอนนิวอินชนิดใหม่ที่ถูกค้นพบโดยไป๋เยี่ยนั้น ก็ได้สร้างแนวทางการวิจัยใหม่ๆ ให้กับหน่วยทดลองมาก ทุกคนต่างร่วมกันพยายามค้นหาสารโพลีคาร์บอกซิลิกอาร์เทแอนนิวอิน

ไป๋ยี่ยเข้าใจดีว่าอาจารย์ถูเป็นห่วงเขา หากเธอเปิดเผยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ต่อสื่อ ก็คงไม่เอื้อต่อการพัฒนาตนเองของเขาสักเท่าไหร่

แน่นอน อิทธิพลของสื่อทำให้ชื่อ ‘ไป๋เยี่ย’ โด่งดังขึ้นมาในแวดวงวิชาการ!

และทำให้ทุกคนยอมรับคะแนนไอเอฟสองร้อยห้าสิบแปดของไป๋เยี่ยด้วย เพราะทุกอย่างสมเหตุสมผลไปหมด

หนึ่งในผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากเหตุการณ์นี้ก็คงหนีไม่พ้นมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิ้นซี

เนื่องจากเป็นสถาบันที่อบรมบ่มเพาะไป๋เยี่ยจนกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนนั่นเอง