ตอนที่ 143 ต้องปฏิบัติตาม

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 143 – ต้องปฏิบัติตาม

 

จนถึงขณะนี้ ชิ่งเฉินก็มั่นใจแล้วในที่สุดว่าหลี่อีนั่วมีรักแท้ต่อหนานเกิงเฉินแน่นอนที่สุด

เพียงแต่ว่ามันไม่เหมือนกับความรักชื่นชมของเด็กสาวทั่วไป ความรู้สึกที่หลี่อีนั่วมีต่อหนานเกิงเฉิน……เห็นได้ชัดว่าเป็นความรักใคร่และตามใจ!

หลี่ซูถงถามว่า “ก่อนหน้านี้ฉันเห็นเธอจับเด็กผู้ชายคนหนึ่งขึ้นรถ ภายหลังเขาก็มาตามสหายน้อยที่ชื่อหนานเกิงเฉินคนนี้ คนคนนั้นคือ……?”

หลี่อีนั่วอธิบายอย่างสงบนิ่งว่า “นี่ก็ไม่มีอะไรให้ปิดบังท่าน ฉันค้นพบนักท่องเวลาคนหนึ่ง อีกฝ่ายเป็นนักเรียนหัวกะทิของโลกภายนอก เห็นว่าเป็นประเภทที่เรียนมหาวิทยาลัยน่ะค่ะ”

หนานเกิงเฉินอธิบายอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “นักศึกษามหาวิทยาลัยนั่นของพวกเราไม่ได้มีค่าเท่าพวกคุณที่นี่……”

ชิ่งเฉินคิดในใจว่าตามคาด หลี่อีนั่วรู้สถานะนักท่องเวลาของหนานเกิงเฉินแล้ว

แต่อีกฝ่ายเหมือนจะยังไม่รู้ว่าตัวเองกับหนานเกิงเฉินรู้จักกัน ไม่อาจไม่พูดว่า หนานเกิงเฉินถึงจะเก็บความลับของตัวเองไม่อยู่ แต่ตอนที่รักษาความลับของเพื่อนกลับระมัดระวังเป็นพิเศษ

ไม่เหมือนคนคนเดียวกันเลย!

กลับได้ยินหลี่อีนั่วกล่าวต่อว่า “ฉันสัญญากับนักเรียนหัวกะทิคนนั้นว่าจะให้ค่าตอบแทน ให้เขาคอยรับใช้เบบี๋ที่โลกภายนอก ช่วยปกปิดอะไรพวกนั้น อีกอย่าง ฉันก็กังวลมากด้วยว่าโลกภายนอกจะมีปีศาจจิ้งจอกมายั่วยวนเบบี๋บ้านฉัน ชักนำเขาไปทางผิด ดังนั้นหาคนมาดูเขา”

หนานเกิงเฉิน “???”

ชิ่งเฉิน “???”

พูดตามจริง พวกเขาสองคนคิดไม่ถึงเลยว่าหลี่อีนั่วจะยังมีความวิตกอย่างนี้!

เบบี๋บ้านคุณที่โลกภายนอกก็ไม่ได้ฮอตขนาดนั้น!

การเรียกเบบี๋อยู่ทุกคำนี้ทำให้หนานเกิงเฉินอยากตายนิดหน่อย

วิทยุสื่อสารดังขี้นมา การรายงานของเซียวกงช่วยชีวิตเพื่อนนักเรียนหนานคนนี้ได้ทันเวลา “คุณหนูอีนั่วครับ พวกเรามาถึงชายขอบของสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 แล้วครับ แต่ข้างหน้ามีขบวนรถจอดอยู่อย่างเป็นระเบียบแล้วครับ ดูท่าทางบนรถไม่มีคน”

หลี่อีนั่วขมวดคิ้ว “ขบวนรถของที่ไหน”

“โดรนกำลังเข้าใกล้ครับ” เซียวกงกล่าว “ดูชัดเจนแล้ว เป็นรถของกองพลตระกูลชิ่ง! คุณหนูอีนั่วครับ บนรถไม่มีคนสักคน ดูท่าชิ่งไฮวล่วงหน้าเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 แล้ว ข่าวที่พวกเราได้รับก่อนหน้านี้เป็นของปลอม”

หวังปิ่งซูกล่าวว่า “ดูจำนวนของรถ ผู้ที่มาน่าจะเป็นกองร้อยสนามหนึ่งกอง พกพาอุปกรณ์ตามมาตรฐาน แม้แต่สุนัขจักรกลยังพามา”

หลี่ซูถงยิ้มแล้วเหล่มองชิ่งเฉินแวบหนึ่ง เขาลดเสียงกล่าวว่า “ดูพวกคู่แข่งของเธอสิ มีกองหนุนแข็งแกร่งมากมาย ส่วนเธออะไรก็ไม่มี ครูกังวลใจแทนเธอจริง ๆ”

ชิ่งเฉินตอบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ว่า “ผมไม่ใช่ว่ามีครูเหรอครับ ครูคนเดียวเก่งกว่าคนทั้งหมด”

“มีเหตุผล” หลี่ซูถงพยักหน้า

ชิ่งไฮวมาสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ก็เพื่อภารกิจของสังเวียนแห่งเงา

เงาเป็นอย่างไร คนที่ทำให้คนหาไม่เจอจึงเป็นเงาที่แท้จริง

คนมากมายนึกว่าเขาจะมาถึงสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 พรุ่งนี้ กลับไม่ทราบว่าวันนี้เขาก็เข้าไปแล้ว

รถยนต์ของทีมล่าฤดูใบไม้ร่วงจอดข้างออฟโร้ดสำหรับกองทัพพวกนั้น รถในกองทัพล้วนมีตัวล็อคสแกนม่านตา คนทั่วไปขโมยไม่ได้เลย

ทุกคนจอดรถของตัวเองข้างรถทหาร

ชายกลางคนหวังปิ่งซูอุ้มนักท่องเวลาโจวเซวียนเดินไปข้าง ๆ หลี่อีนั่ว “ท่านวางแผนจะทำยังไงครับ”

“เซียวกง ชาวป่าข้างหลังถึงไหนแล้ว” หลี่อีนั่วถาม

“ยังห่างจากพวกเรา 2 กิโลครับ พวกเขากำลังเร่งความเร็ว เหมือนอยากจะรีบมาสกัดก่อนที่พวกเราจะเข้าสถานที่ต้องห้าม!” เซียวกงตอบ

“เก็บโดรนไปให้หมด เอาไปทิ้งข้างในสถานที่ต้องห้าม” หลี่อีนั่วกล่าว

ว่าแล้วเธอก็หันศีรษะไปมองหลี่ซูถง

จู่ ๆ เธอค้นพบอย่างตื่นตะลึงว่าข้างหลังที่เดิมทีควรจะมีหลี่ซูถงกับชิ่งเฉินยืนอยู่ไม่มีเงาคนแล้ว

หลี่อีนั่วมองไปทางพวกฉินเฉิง “สองคนนั้นล่ะ”

“ไม่รู้ครับ” ฉินเฉิงเอ่ยอย่างมึนงง “เมื่อกี้ยังดูรถของกองพลตระกูลชิ่งอยู่เลย ไม่ทันสังเกตว่าพวกเขาไม่อยู่ตอนไหน”

หลี่อีนั่วกวาดสายตาไปทางคนอื่น ๆ อีก แต่คนอื่น ๆ ก็ใบหน้ามึนงง!

ไม่มีใครรู้ว่าสองคนนั้นหายไปเมื่อไหร่ อีกฝ่ายก็ไม่เคยวางแผนจะร้องทักพวกเขาเลย!

อย่างกับว่าอีกฝ่ายไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

หลี่อีนั่วขมวดคิ้ว ตอนนี้พวกเขาได้แต่พึ่งพาตัวเองแล้ว

ทิศเหนือมีเสียงหึ่ง ๆ ของโดรนดังมาแล้ว ชาวป่ามาถึงแล้ว!

โดรนพวกนั้นกำลังไล่ล่ารถออฟโร้ดสีดำหนึ่งคันอย่างบ้าคลั่ง นั่นเป็นคนไม่กี่คนที่หลงเหลืออยู่ของตระกูลจินได

หลี่อีนั่วคิดแล้วกล่าวกับหวังปิ่งซูว่า “เข้าไปซ่อนก่อน ฉันดูสถานการณ์แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะไปหาชิ่งไฮวหรือไม่ จริงสิ ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไป ให้กองพลตระกูลหลี่แถวนี้มาสนับสนุนพวกเราที่นี่”

ต้นไม้ของสถานที่ต้องห้ามยังหนาแน่นว่าในจินตนาการอีก

ยอดของต้นไม้แต่ละต้นคล้ายกับหลังคาแข็ง ๆ ของจริงหนึ่งชั้น แทบจะบังแสงแดดทั้งหมดไว้นอกร่มไม้

่ความอึมครึมในป่าไม้กับแสงรุ่งอรุณข้างนอกเหมือนกับจะเป็นคนละโลก

ประดุจว่าพอย่างเท้าเข้าไปก็จะต้องยอมรับกฎของโลกอีกใบ

เร้นลับ อีกทั้งไม่อาจคาดการณ์

หลี่อีนั่วลังเลอยู่บ้าง

แต่ในขณะนี้เอง รถออฟโร้ดตระกูลจินไดไม่แม้แต่จะหยุด พุ่งชนเข้าไปในป่าไม้

จนกระทั่งชนถูกต้นไม้จึงได้ฝืนหยุดลง

แอร์แบคในรถพองออกทั้งหมด จินได โจสุเกะกับจินได โอริสองคนรีบกระโดดลงจากรถเดินเข้าไปในป่าไม้อย่างไม่เหลียวหลัง

“เข้าไปให้หมด” หลี่อีนั่วกล่าว “หลีกเลี่ยงชาวป่าแล้วรอความช่วยเหลือกันก่อน ชาวป่าพวกนี้ไม่แน่ว่าจะเต็มใจเข้าสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ที่นี่พิเศษนิดหน่อย”

ที่นี่ บทบาทของผู้ล่ากับผู้ถูกล่าสลับกัน ทุกคนล้วนเป็นผู้ถูกล่าในสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 แห่งนี้

คนทั้งกลุ่มรีบเร่งเข้าไปในป่าไม้ พริบตาที่คนทั้งหมดย่างก้าวเข้าไปในสถานที่ต้องห้าม

บนตัวของทุกผู้คนประดุจถูกลมปราณหนาวเย็นอย่างน่าตกตะลึงกวาดผ่าน เหมือนกับถูกตัวตนอันมหึมาสักตัวจับจ้อง

ขนของทุกคนล้วนลุกชันขึ้นมา

และลมปราณอันหนาวเย็นนี้ก็คือสัญญาณถึงการเข้าไปในสถานที่ต้องห้าม พริบตานั้นคุณควรจะเข้าใจว่าตนเองควรจะมีความยำเกรงอยู่ในใจ

หลังจากหลี่อีนั่วและพวกเข้าไป จินได โจสุเกะและจินได โอริสองคนค่อย ๆ แฝงตัวเข้าไปในทีมของการล่าฤดูใบไม้ร่วง

ข่าวดีคือ ชาวป่าข้างนอกหยุดการไล่ล่าชั่วคราวตามคาด ไม่ได้ตามต่อ 

“หยุด” หลี่อีนั่วยกมือขึ้น ทำสัญญาณห้ามไม่ให้พวกลูกหลานล้างผลาญที่กระหืดกระหอบกันแล้ววิ่งไปข้างหน้าอีก

แต่ขณะนี้เอง หลังต้นไม้ต้นหนึ่งจู่ ๆ มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น เห็นแค่ว่าลูกหลานล้างผลาญของกลุ่มการเงินตระกูลเฉินหนึ่งคนกุมลำคอของตนเอง เดินออกมาช้า ๆ ด้วยสีหน้าแดงกล่ำ เบิกตาค้างค่อย ๆ ล้มลงกับพื้น

อย่างกับว่าเขาบีบคอตัวเองตาย

กฎ

พริบตานี้ทุกคนล้วนคิดถึงประโยคหนึ่ง : หลังเข้าสถานที่ต้องห้ามสิ่งเดียวที่จะต้องปฏิบัติตามก็คือกฎ

เล็งใส่ผู้มาจากภายนอกทั้งหมด

…………………………………..

 

ตอนที่ 144 – อย่าโง่ตาย