บทที่ 106 ใส่ร้าย (ปลาย)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 106 ใส่ร้าย (ปลาย)

ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยสิบสาม สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666 +666 +666…!

“ท่านอาจารย์ ถ้าท่านไม่เชื่อข้า ท่านสามารถค้นตัวเขาได้เลย หินพลังชี่ ที่เขาขโมยจากเรายังคงอยู่ในตัวของเขาแน่นอน ข้าคิดว่าเขาน่าจะไม่รู้ว่า

หินพลังชี่ของสถาบันของเราทุกก้อนถูกสลักหมายเลขและเครื่องหมายเอาไว้ทั้งหมดเขาถึงได้กล้ามาขโมยของของสถาบันเราแบบนี้!”

เพื่อป้องกันการทุจริตภายในสถาบัน ราชสำนักจึงสลักหมายเลขและเครื่องหมายเฉพาะเอาไว้บนหินพลังชี่ทุกก้อนที่แจกจ่ายให้กับสถาบัน

เพื่อที่พวกเขาจะได้ติดตามได้หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น

ส่วนถ้าเป็นในตลาดมืด หากมีการซื้อขาย หินพลังชี่ ที่ออกมา

จากราชสำนักเมื่อใดผู้แลกเปลี่ยนทั้งสองฝ่ายจะต้องลงนามในข้อตกลงซื้อขายให้ถูกต้องทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นการค้าที่ยุติธรรม หรือไม่อย่างน้อย

พวกเขาก็จะต้องแน่ใจว่าได้ลบเครื่องหมายและหมายเลขที่ราชสำนักสลักเอาไว้หมดแล้วพวกเขาจึงจะทำการแลกเปลี่ยนหินพลังชี่ก้อนนั้น

อย่างไรก็ตาม ดอกบ๊วยสิบสาม ไม่คุ้นเคยกับการซื้อขายหินพลังชี่

และเขาก็กำลังหมกมุ่นอยู่กับความล้มเหลวของแผนตั๋วหนี้ จนมันทำให้

เขาพลาดให้กับซูอันอย่างง่ายดาย

“ไอ้เลว เจ้าหลอกข้า!”

เมื่อสิ่งต่าง ๆ มาถึงจุดนี้ มันไม่มีทางที่ ดอกบ๊วยสิบสาม จะไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมไอ้คนไร้ยางอายผู้นี้ถึงมอบเงินให้กับเขาง่าย ๆ ที่แท้มันก็มีแผนชั่วอยู่ในใจตั้งนานแล้ว!

ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยสิบสาม สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +777!

อันที่จริง ซูอัน อยากจะเอ่ยคำว่า ‘เจ้าไม่ได้โง่เหมือนที่ข้าคิด’

เพื่อโกยคะแนนความโกรธแค้นอีกระลอก แต่เนื่องจาก ลู่เต๋อ

ยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่แสดงละครตีสีหน้าเป็นผู้ถูกกระทำต่อไปและเริ่มสะอึกสะอื้นมากกว่าเดิม “เจ้าพูดได้ยังไงว่าข้าโกหก? เจ้ามันเป็นคน

ที่แย่มาก! ท่านอาจารย์ลู่ หากท่านไม่เชื่อท่านลองถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ที่นี่

ดูก็ได้! ข้ามั่นใจว่าพวกเขาสามารถเป็นพยานให้ข้าได้!”

เมื่อพูดจบ ซูอัน คว้าแขนของเฉิงโซวผิงและดึงเขามาหาและพูดว่า

“ข้าไม่ได้โกหกใช่ไหม?”

เมื่อรู้สึกถึงแรงบีบอันหนักหน่วงที่แขนของตัวเอง เฉิงโซวผิง

ก็รีบตอบสนองทันที “ชะ ชะใช่แล้ว ไอ้คนนี้ ๆ มันขโมยหินพลังชี่

ของนายน้อยของข้าไปจริง ๆ ! โธ่ นายน้อยของข้า…ทำไมชีวิตของท่าน

ถึงได้ยากลำบากเช่นนี้? ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหนท่านก็ถูกผู้คนมากมายรุมรังแก!”

การแสดงที่เป็นธรรมชาติของ เฉิงโซวผิง ทำให้ ซูอัน ประหลาดใจ

ในตอนแรกเขากังวลว่าเฉิงโซวผิงจะทำให้แผนของเขาพัง แต่มัน

กลับกลายเป็นว่าไอ้เด็กคนนี้มันเกิดมาเพื่อเป็นนักต้มตุ๋นโดยกำเนิดจริง ๆ !

ข้าจะเพิ่มน่องไก่ให้เขาสำหรับอาหารค่ำ!

“แน่นอนว่าเขาต้องเข้าข้างเจ้าอยู่แล้ว เขาเป็นคนรับใช้ของเจ้า!”

ดอกบ๊วยสิบสาม ตะโกนลั่นด้วยสีหน้ากังวล ไอ้คู่นายบ่าวคู่นี้ช่างไร้ยางอาย

ไม่ต่างกันเลยจริงๆ!

ลู่เต๋อ ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมแต่เขาก็ยังคงไม่ปักใจเชื่อ เฉิงโซวผิง

เขาหันไปหา ฉู่ฮวนเจา และถามว่า “คุณหนูรองฉู่ เรื่องราวเป็นอย่างที่พี่เขยของเจ้าพูดมาจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”

หากอยู่ในสถาบันมันคงไม่มีปัญหาอะไรที่ ลู่เต๋อ จะเรียกชื่อ ฉู่ฮวนเจา แบบตรง ๆ แต่ตอนนี้พวกเขาต่างอยู่กันที่นอกสถาบัน ดังนั้นเขาต้องเรียกนางแบบนี้เพื่อเป็นการให้เกียรติอ๋องฉู่

“ถูกต้อง! ไอ้คนผู้นี้ไม่เพียงแต่ขโมยหินพลังชี่ ของพี่เขยข้าไปเท่านั้น แต่เขายังขโมยของข้าอีกด้วย! อาจารย์ลู่ หากท่านไม่เชื่อคำพูดของข้า

ท่านค้นร่างกายของเขาดูก็ได้ หนึ่งในหินพลังชี่ที่อยู่กับเขามันเป็นหิน

ที่สลักหมายเลขของข้าเอาไว้!” ฉู่ฮวนเจา กระพือไฟให้แรงขึ้นอีกด้วย

คำพูดอันหลักแหลมของนาง และยิ่งไปกว่านั้นรูปลักษณ์ที่งดงามของนางนั้นยิ่งทำให้ผู้คนต่างเกิดความสงสารได้มากกว่า ซูอัน มาก มันทำให้นางสามารถปลุกเร้าความปรารถนาของผู้ชายทั้งหลายให้วิ่งเข้ามาปกป้องนางด้วยชีวิต

ได้อย่างง่ายดาย

นักศึกษาสองคนที่เพิ่งเดินออกจากสถาบันได้ยินสิ่งที่ ฉู่ฮวนเจา พูดทันที ซึ่งมันทำให้พวกเขาแทบจะพุ่งตัวไปขย้ำดอกบ๊วยสิบสามให้ตายคามือ

ซูอัน อ้าปากค้างกับการแสดงของ ฉู่ฮวนเจา ก่อนหน้านี้ด้วยความกลัวว่าสิ่งต่าง ๆ จะผิดพลาด เขาจึงเตรียมบทพูดคนเดียวที่ยาวและมีเหตุผลมากมายเอาไว้รองรับเรียบร้อยแล้วเพื่อโน้มน้าวความเชื่อของ ลู่เต๋อ

แต่ใครจะไปคิดว่าแค่คำพูดเพียงท่อนเดียวของสาวงามมันกลับทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจจนเขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่ออีก!

ขณะที่ ฉู่ฮวนเจา ฟ้องกับ ลู่เต๋อ อย่างน่าสงสารว่านางถูกรังแกอย่างไร ชั่วครู่นั้น ซูอัน ขยี้ตาของตัวเองหลายรอบเพราะคิดว่าเขาเห็นเขาปีศาจคู่หนึ่งงอกอยู่บนหัวของนาง เขาบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่า ไม่ว่าเขาจะทำให้

ใครขุ่นเคืองในอนาคต เขาต้องแน่ใจว่าจะไม่ทำให้ผู้หญิงคนนี้ขุ่นเคือง

ในขณะเดียวกัน ดอกบ๊วยสิบสาม พบว่าตัวเองโกรธจนแทบ

จะกระอักเลือดออกมาเป็นถัง ๆ

แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ไร้เดียงสาแต่คุณหนูรองของตระกูลฉู่กลับมีนิสัย

ที่ชั่วร้ายไม่ต่างอะไรกับนางจิ้งจอกน้อย! นางสามารถโกหกได้ยืดยาว

โดยที่ไม่มีแววตาระส่ำระสายแม้แต่น้อย! ผู้หญิงของตระกูลผู้สูงศักดิ์

ควรจะซื่อตรงและสง่างามไม่ใช่เหรอไง!

พ่อบุญธรรมของข้าพูดถูก! เหล่าขุนนางล้วนแต่เป็นพวกสวะที่เชี่ยวชาญในเรื่องการหลอกลวงผู้คน!

จากนั้นเมื่อรู้สึกว่าสายตาของ ลู่เต๋อ เปลี่ยนมาเป็นจ้องเขม็งที่ตัวเขาเอง ดอกบ๊วยสิบสาม ก็รู้สึกว่าทั้งร่างของเขาหนาวไปถึงขั้วกระดูก เขารีบอธิบายทันทีด้วยอาการสั่นเทา “ดะ เดี๋ยวผู้อาวุโสเรื่องมันไม่ใช่อย่างนั้น…”

แต่ก่อนที่เขาจะสามารถอธิบายทุกอย่างได้ ลู่เต๋อ พูดแทรกขึ้นมาสั้น ๆ “เจ้าไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ความจริงจะถูกเปิดเผยเมื่อข้า

ค้นตัวเจ้าเสร็จ!”

ดอกบ๊วยสิบสาม ยังคงอยากจะพูดต่อไป แต่น่าเสียดายที่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันของฝ่ายตรงข้ามจนมันทำให้เขารู้สึกแน่นหน้าอก

จนพูดไม่ออก แม้แต่การหายใจก็ยังยากสำหรับเขา นับประสาอะไรกับการแก้ตัว

ที่ต้องพูดเป็นประโยคยาวยืด

สถานการณ์นี้ทำให้เขาตื่นตระหนกจนอยากจะร้องไห้

ต้องรู้ว่าเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบสามผู้พิทักษ์แห่งสำนักดอกบ๊วย ในโลกใต้ดินของเมืองจันทร์กระจ่างเขาคือหนึ่งในมือสังหารที่โด่งดังที่สุด

และแทบไม่เคยล้มเหลวในภารกิจของเขาเอง ทว่าชายหัวล้านคนนี้

สามารถทำให้เขาไร้อำนาจได้อย่างสมบูรณ์ด้วยแรงกดดันเพียงอย่างเดียว

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมก่อนหน้านี้เจ้าสำนักของเขา

จึงเตือนนักเตือนหนาว่าอย่าได้ไปยุ่งกับคนในสถาบันเด็ดขาด!

แต่ปัญหาคือตอนนี้ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย!

ดอกบ๊วยสิบสาม ได้ทำสิ่งเลวร้ายมามากมายในช่วงชีวิตของเขา

และเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการเอาคืนของศัตรูทั้งหมด แต่ถึง

จะเป็นแบบนั้น สถานการณ์ตอนนี้มันกลับทำให้เขารู้สึกท้อแท้เหลือเกิน

เรื่องทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดของไอ้คนขี้โกหกซูอันคนเดียว!

ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยสิบสาม สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +888!

ซูอันสังเกตเห็นว่าดอกบ๊วยสิบสามกำลังจ้องมาที่เขาอย่างโกรธจัด

เขาจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มเขินอายกลับไปซึ่งนั้นทำให้เขาได้รับคะแนน

เพิ่มมาอีกชุดใหญ่

ไม่นานต่อมา ลู่เต๋อ ก็ค้นตัวดอกบ๊วยสิบสามเสร็จและก็พบกับ

หินพลังชี่ 8 ก้อนที่มีสัญลักษณ์ของสถาบันสลักเอาไว้จริง ๆ ซึ่งมันทำให้

เขาเดือดจัด เขามองดอกบ๊วยสิบสามด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า “หินพลังชี่ เหล่านี้มาจากสถาบันการศึกษาของเรา และหมายเลขที่สลักเอาไว้ก็บ่งชี้

ว่ามันเป็นหินชุดที่พวกเราเพิ่งจ่ายให้กับนักศึกษาวันนี้ ไหนเจ้ายังมีอะไร

จะแก้ตัวอีก!”

ในที่สุดแรงกดดันที่ทับร่างของเขาเอาไว้ก็คลายลงเล็กน้อย ให้โอกาสดอกบ๊วยสิบสามได้หายใจออกอย่างสะดวกและอธิบายตัวเอง “ข้าทำผิดไปแล้ว! ทั้งสองคนมอบหินพลังชี่ ให้กับข้าจริง ๆ แต่ที่พวกเขามอบให้กับข้าเป็นเพราะ ซูอัน เป็นหนี้ข้า 1,000 ตำลึงเงินจากการพนัน ซึ่งพวกเขาใช้หินพลังชี่พวกนี้ในการจ่ายหนี้!”

ซูอัน ปฏิเสธทันทีอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเย็นชา “อย่างน้อย ๆ เจ้าก็ควรคิดที่จะหาข้อแก้ตัวที่มันดีกว่านี้ไหม? ไม่ว่าใครในเมืองจันทร์กระจ่าง

ต่างก็รู้กันหมดว่าตระกูลฉู่มีบทลงโทษสมาชิกรุนแรงแค่ไหน

หากไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน! เอาแค่เมื่อปีที่แล้ว อ๋องฉู่ ถึงขนาดลงมือหักขาสมาชิกตระกูลคนหนึ่งด้วยตัวเองเพียงเพราะเขาเข้าไปในบ่อนเพียง1ชั่วยาม! ในฐานะที่ข้าเป็นลูกเขยของตระกูล ไม่ว่าข้าจะดื้อรั้นแค่ไหน มันก็ไม่มีทาง

ที่ข้าจะกล้าเล่นการพนัน นับประสากับติดหนี้เจ้าตั้ง 1,000 ตำลึงเงิน!

“นั่นเป็นเรื่องจริง! ใครจะไม่รู้ว่าตระกูลฉู่ ของเราเข้มงวดเรื่องการพนันขนาดไหน?” ฉู่ฮวนเจา วางมือเท้าสะเอวพร้อมกับชี้หน้า ดอกบ๊วยสิบสาม ด้วยสีหน้ารังเกียจ “อย่างน้อยเจ้าก็ควรทำการบ้านมาก่อนเพื่อให้คำโกหก

มันดูเนียนกว่านี้!”

“สารเลวเอ๊ย!!!!” ดอกบ๊วยสิบสาม โกรธจนแทบเส้นเลือดในสมองระเบิดเขาไม่เคยนึกเลยว่าไอ้คู่พี่เขยน้องภรรยาคู่นี้มันจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้!

ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยสิบสาม สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!