ตอนที่ 145 ไอเดียของพ่างจื่อ

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

ตอนที่ 145 ไอเดียของพ่างจื่อ

ไป๋เยี่ยมองพ่างจื่อพูดคุยโวโอ้อวดอยู่ครู่หนึ่ง…จู่ๆ ไป๋เยี่ยก็มีความคิดว่าการเป็นคนซื่อบื้อมันก็น่าจะดีเหมือนกัน…อย่างน้อยต่อให้ผิดหวังอย่างไรก็ยังยิ้มออก

ไป๋เยี่ยเริ่มอ่านแบบประเมินของพ่างจื่อ

หัวข้อคือ ‘คุณพอใจกับการพบแพทย์หรือไม่’

พ่างจื่อคิดจะทำอะไรกันแน่

‘คุณเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยในของโรงพยาบาลขนาดใหญ่หรือไม่’

‘คุณพอใจกับทัศนคติของหมอคนนั้นไหม’

‘คุณเคยป่วยและไม่รู้ว่าจะไปหาหมอคนไหนไหม’

ด้านล่างคำถามทั้งสองข้อมีรอยขีดเขียน เห็นได้ชัดว่าน่าจะมีคนที่สนใจประเด็นนี้เข้ามากรอกแบบประเมินกัน

แถมยังมีแบบประเมินที่กรอกแล้วกองกันเป็นร้อยๆ แผ่น คงต้องใช้ความพยายามมากจริงๆ…

พ่างจื่อรอให้ไป๋เยี่ยอ่านจบก่อนจะยื่นสมุดบันทึกให้ “เยี่ยจื่อ ดูนี่สิ นี่คือแผนของฉัน!”

ไป๋เยี่ยเองก็อยากรู้ว่าพ่างจื่อจะทำอะไร จึงก้มลงไปอ่านบ้าง “ที่ฉันกำลังจะทำก็คือ แอปโทรศัพท์ชื่อว่า ‘แอปรีวิวหมอ’”

พ่างจื่อพูดต่อ “ฉันมีไอเดียมาเสนอ ลองฟังฉันหน่อย ฉันอยากลองสร้างแอปที่มีแนวคิดมาจากเว็บเตี่ยนผิงดอทคอม เราประเมินร้านอาหารหรือโรงแรมได้ ทำไมจะประเมินโรงพยาบาลบ้างไม่ได้ล่ะ”

ไป๋เยี่ยขมวดคิ้ว “ฉันจำได้ว่าบนเน็ตก็มีอยู่แล้วนะ”

พูดจบเขาก็ค้นคีย์เวิร์ดแพทย์และแบบประเมิน ทันใดนั้นผลการค้นหาก็ปรากฎขึ้นบนเว็บไซต์โซวหู่เฮลท์

พ่างจื่อส่ายหน้า “นายอ่านดูดีๆ สิ! คิดว่ามันดูโปรเหรอ มันดูไม่โปรเลยสักนิด และด้วยความที่มันอยู่บนเว็บน่ะ ทำให้มันดูไม่น่าเชื่อถืออย่างแรงเลย”

พ่างจื่อหยิบสมุดอีกเล่มขึ้นมาขีดๆ เขียนๆ จนเกือบครึ่งหน้ากระดาษ

ทำเอาไป๋เยี่ยแปลกใจมากที่เห็นพ่างจื่อเอาใจใส่ขนาดนี้!

ทั้งการวางแผน ทั้งแบบประเมินกว่าห้าร้อยแผ่นของเขานั่น

พ่างจื่อชี้สิ่งที่เขาวาดให้ไป๋เยี่ยดู

“ดูสิ! หน้าแอปเรียบๆ แบบนี้ดีกว่าเยอะเลย! ความเรียบง่ายนี่แหละธีมของเรา!”

“สำคัญที่สุดคือ มีเพียงผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาเท่านั้นที่จะเข้ามาประเมินได้ โดยต้องกรอกรายละเอียดการพบแพทย์ในแต่ละครั้งด้วย ทำแบบนี้จะได้ไม่มีการโกงคะแนนรีวิว ไม่มีการเขียนรีวิวแบบส่งๆ ตามที่เห็นในอินเทอร์เน็ต นี่แหละฟีเจอร์หลักของเรา!”

“ข้อที่สาม นายลองดูนี่สิ เราจะแสดงความคิดเห็นไปทำไมกัน ก็เพื่อให้คนอื่นได้เข้ารับการรักษาง่ายขึ้นไม่ใช่เหรอ เราจะมีการจัดอันดับความคิดเห็นตามหมวดหมู่ โดยอิงตามโรคต่างๆ มีทั้งจำนวนครั้งที่ไปพบแพทย์ ทัศนคติและการบริการของแพทย์ จำนวนผู้ป่วย และ ความคิดเห็นเชิงบวก”

“ข้อที่สี่ ความสะดวกสบาย ถ้าป่วยแล้วต้องการรักษาแต่ไม่รู้จะไปหาหมอที่ไหน ก็แค่กกรอกอาการลงไป แล้วจะมีแพทย์แนะนำให้ สะดวกสุดๆ!”

พ่างจื่อบอกว่าหัวใจของแอปรีวิวหมอคือความเรียบง่าย! ทั้งใช้งานง่าย! ใช้งานได้จริง! แถมยังสะดวกสบาย!

ไป๋เยี่ยถึงกับตกตะลึงในความสร้างสรรค์นี้! แต่…เขาก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ไอเดียนายดีมากเลย แต่ฉันว่านายยังขาดบางอย่างไปนะ! นายจะรู้ได้ไงว่าใครได้รับการรักษาแล้วบ้าง แล้วก็…โรง’ บาลกับหมอจะยอมให้นายทำแบบนี้เหรอ”

พ่างจื่อถอนหายใจ “ใช่! มันก็ยากแหละนะ…หมอส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากทำประเมินหรอก เพราะว่าแบบประเมินผู้ป่วยมันไม่ค่อยตรงวัตถุประสงค์เท่าไหร่ ก็เลย…”

พ่างจื่อเอนตัวพิงเก้าอี้ด้วยความไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป หลายๆ ไอเดียของเขานั้นเรียบง่ายเกินไป…

“เฮ้อ…ถ้าเราร่วมมือกับโรงพยาบาลได้ล่ะก็ เราก็คงทำได้อยู่หรอก…”

“สิ่งที่ยากที่สุดคือการได้รับอนุญาตจากโรงพยาบาลและจากหมอ การจะนับจำนวนผู้ป่วย นับข้อมูล และการจัดอันดับ รวมถึงการค้นหาโรงพยาบาลและระบุตัวตนผู้ป่วยนั้นค่อนข้างยาก ไม่ใช่แค่ไอเดีย…แต่ยังมีเรื่องเทคโนโลยี…เรื่องเงินทุนด้วย!” ไป๋เยี่ยพูดต่อ

ไป๋เยี่ยพูดความคิดเห็นของตน อย่างไรก็ตาม การประเมินผลทางการแพทย์ก็คล้ายกับการประเมินข้าราชการ ทางรัฐบาลหรือโรงพยาบาลคงไม่อนุญาตให้คุณทำแบบนั้นได้โดยง่ายหรอก

ไป๋เยี่ยพูดต่อ “จริงๆ แล้ว ฉันคิดว่านายลองปรับหน่อยก็น่าจะดีขึ้นแล้ว เช่น ทำเป็น ‘แอปหาหมอ‘ คอยแนะนำหมอตามอาการของผู้ป่วย น่าจะเป็นไปได้มากกว่า”

“ที่สำคัญคือมันมีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างมาก นายทำได้อยู่แล้ว ถ้านายจะสร้างแอปประเมินอะไรนั่นจริงๆ ฉันรับประกันเลยว่าคงไม่มีโรง‘ บาลไหนอยากร่วมมือกับนายแน่ๆ”

พ่างจื่อได้ฟังก็กลับไปครุ่นคิดกับตนเองครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วตบขาตนเองดังฉาด!

“นายหัวดีมาก งั้นนายก็ควรเข้าแก๊งฉันนะ!”

พ่างจื่อหัวเราะก่อนจะยื่นใบสมัครให้ไป๋เยี่ย “นี่ ลงชื่อและปฏิญาณตนซะ ว่านายจะเป็นร่วมมือกับพ่างจื่อ!”

ไป๋เยี่ยยิ้มแล้วหยิบใบสมัครไปอ่าน เขาดูจะลังเลเล็กน้อยจึงตอบไปว่า “พ่างจื่อ ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก เกรงว่าจะไม่มีเวลาเท่าไหร่…”

พ่างจื่อหัวเราะออกมาพลางตบบ่าไป๋เยี่ย “ไม่ห่วง ปล่อยให้ฉันจัดการเถอะ นายเป็นโฆษกของฉัน ฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องแอปเอง ไม่รู้เหรอว่าที่บ้านฉันทำงานอะไร”

ไป๋เยี่ยส่ายหัว เขารู้แค่ว่าครอบครัวของพ่างจื่อมีฐานะดีเงินทองไม่ขาดมือ แต่เขาไม่รู้ว่าพ่อของพ่างจื่อทำงานอะไร!

พ่างจื่อยิ้ม “ครอบครัวของฉันทำงานเป็นบริษัทโฆษณา ไม่ต้องกังวลกับแค่แอปธรรมดาๆ นี่หรอก”

“ฉันก็กำลังคิดแบบนั้นเหมือนกัน ฉันเรียนหมอไม่รอดจริงๆ แทนที่จะดิ้นรนต่อไป ฉันว่าฉันควรออกมาทำอะไรที่ชอบได้แล้ว”

“ฉันปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อแม่แล้ว หลังเรียนจบฉันว่าจะลองดูสักตั้ง ถ้ามันไม่สำเร็จ ฉันก็จะกลับไปทำงานกับพ่อ”

“ฉันคิดว่าฉันจะลองเข้าร่วมการแข่งขันนวัตกรรมครั้งนี้ดู”

ทั้งสองออกไปกินข้าวเย็นพร้อมกับพูดคุยเรื่องแอปหาหมอด้วยกัน

ไป๋เยี่ยกำลังสื่อว่าไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับโรงพยาบาลมาก เราขอข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์จากโรงพยาบาลได้ แต่ต้องไม่ลืมที่จะคงความเรียบง่ายไว้ และอย่าฝืนทำอะไรจนเกินตัว

ก็แค่ต้องกำหนดแนวทางการเข้ารับการรักษาพยาบาลและแนะนำแพทย์ให้กับผู้ป่วย คนเรา ทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้ดีได้ จากนั้นจึงค่อยๆ แตกแขนงไปทำอย่างอื่นให้ดีบ้าง ไม่ใช่คิดทำการใหญ่แต่ทำไม่สำเร็จสักอย่าง

ทั้งสองพูดคุยกันเป็นเวลานาน ต่างคนก็ต่างมีไอเดียดีๆ มาเสนอกัน คงบอกได้ว่าพ่างจื่อเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจดีมากคนหนึ่ง

เขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!