บทที่ 135 กลับบ้านเขียนหนังสือสำนึกผิด

หลังจากที่พวกซูอิ่งได้ยินเผยยวนพูดเช่นนี้ ย่อมไม่สงสัยใด ๆ อีก เดิมพวกเขาก็เกิดมาเป็นคนของเผยยวนอยู่แล้ว

“นายท่านขอรับ เจียงจือหวยบอกว่า หากท่านต้องการให้เขาช่วยเรื่องอื่น ก็ให้ตอบรับเงื่อนไขของเขา เขาพร้อมจะอ้าแขนรับท่านกลับไปเสมอขอรับ”

เผยยวนรู้ว่าอย่างไรเสียวันนี้ก็ต้องมาถึง ต้องยอมรับว่าเจียงจือหวยเองก็มองการณ์ขาดจริง ๆ คงคิดเอาอยู่แล้วว่าในยามที่เขาถูกคนใกล้ชิดหักหลัง มีเพียงเจียงจือหวยเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาได้

“เรื่องนี้พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ยามโฉ่วคืนนี้ไปรอข้าที่นอกตำบล ตามข้าไปทวงหนี้”

ในเมื่อฮวนฮวนขาดเงิน สามีที่กระเป๋าแบนเช่นเขา หากไม่ไปเอาเงินจากศัตรูมาบ้างก็คงจะเกินไปสักหน่อย

ส่วนเรื่องของเจียงจือหวยเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอยู่แล้ว อย่างไรเสียสำนักหลัวซาก็ไม่หนีไปไหน

พวกซูอิ่งได้ยินดังนั้นต่างก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ในที่สุดนายท่านก็จะเริ่มเอาคืนแล้ว ความแค้นในช่วงที่ผ่านมา พี่น้องทหารเกราะเหล็กของพวกเขาต้องเอาคืนคนพวกนี้ให้สาสมอย่างแน่นอน!

จากนั้นพวกเขาก็มองดูนายท่านที่โดดเด่นกว่าผู้ใดในความคิดของพวกเขา เดินกลับไปตรงทางเข้าตรอกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบไม้ค้ำออกมาและเดินโขยกเขยกอย่างคนอ่อนแรงไปทางภัตตาคาร…

???

เหตุใดจึงมีสองหน้าเช่นนี้เล่า?

ฮูหยินชอบแบบนี้อย่างนั้นหรือ?

ความชอบแปลกจริง ๆ…

ตอนที่เผยยวนกลับมา จี้จือฮวนก็กำลังง่วนอยู่ในครัว วันนี้นอกจากเอาเต้าหู้เหม็นมาแล้ว นางยังทำอาหารจานใหม่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นไก่ต้มเผ็ดเสฉวน ปูขนผัดแป้ง มันฝรั่งเผ็ด บะหมี่ไก่ฉีก

ทำบัตรสมาชิกวันนี้จะได้กินอาหารเหล่านี้เปล่า ๆ โดยไม่ต้องจ่ายเงิน

เรื่องบัตรสมาชิกนี้ ก็เป็นสิ่งที่จี้จือฮวนเพิ่งคิดได้ก่อนนอนเมื่อคืน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ในตำบลฉาซู่ ภัตตาคารเค่ออวิ๋นไหลถือว่าเป็นภัตตาคารที่ใหญ่ที่สุด หลังจากฉือชางไห่ของจุ้ยเซียนจวี่ล้มไป ชาวบ้านต่างก็แห่มาที่เค่ออวิ๋นไหลแทน

กิจการร้านไอศกรีมข้าง ๆ ก็อาศัยลมปลายฤดูร้อนเพื่อกอบโกยเงินเช่นกัน

ถึงเวลาขยายร้านและบอกต่อปากต่อปากแล้ว

คนที่เป็นสมาชิกจะได้รับส่วนลดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ โดยการใช้บัตรที่มีตราประทับและหมายเลขเฉพาะ และยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่ออกใหม่ได้โดยไม่ต้องเสียเงินอีกด้วย ค่าทำบัตรก็ถูกมากเช่นกัน เพียงแค่ใช้จ่ายสะสมครบสามตำลึงก็ทำได้แล้ว

ทำให้รายได้ของวันนี้เพิ่มมากขึ้นไปอีก

เหตุผลหลัก ๆ ที่คนชื่นชอบเค่ออวิ๋นไหลนั่นก็เพราะมีราคาถูก แตกต่างจากจุ้ยเซียนจวี่ที่ราคาสูงเกินจริง ตอนนี้ทุกคนต่างก็ชอบมากินอาหารที่เค่ออวิ๋นไหลทั้งสามมื้อ

ทำบัตรแล้วยังได้ลองชิมอาหารใหม่ ๆ โดยไม่ต้องเสียเงิน มีอะไรที่จะไม่พอใจกัน

เนื่องจากมีคนเข้าร้านมาเป็นจำนวนมาก จี้จือฮวนและเผยยวนจึงยุ่งจนถึงตอนเย็นซึ่งเป็นเวลาที่จะกลับบ้าน จึงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าพวกท่านป้ายังไม่กลับมา

แต่โชคดีขณะที่จี้จือฮวนรีบร้อนเตรียมจะออกไปตามหานั้น ท่านป้าก็กลับมาพอดี

ไม่เพียงกลับมาเท่านั้น แต่ในมือยังถือห่อผ้ามาด้วย โดยด้านในมีของจำนวนมากอยู่ ตะกร้าด้านหลังของอาอินก็หนักจนห้อยลงเช่นกัน แม้แต่อาชิงก็มีพุงน้อย ๆ ยื่นออกมา และมีกระเป๋าใบเล็ก ๆ อยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วย

ทั้งสามคนถูกเจ้าหน้าที่พาตัวมาส่ง

เดิมทีพวกเขาออกไปลาดตระเวนตามปกติ ทว่าตอนที่ผ่านบ่อนก็ได้ยินว่ามีคนก่อความวุ่นวาย หลังจากเข้าไปดูจึงพบว่ามีท่านป้าของแม่นางจี้อยู่ข้างในนั้นด้วย และคนของบ่อนการพนันก็กำลังพูดจาหยาบคายกับท่านป้าของแม่นางจี้อยู่!

พวกเขาจึงทำได้แค่ยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย สุดท้ายก็ได้แต่ยืนมองท่านป้าเล่นจนเจ้ามือของบ่อนต้องเอากางเกงในไปจำนำ แต่โชคดีที่นางไม่ต้องการ

ในห่อผ้านั้นจึงมีทั้งเหรียญทองแดง เศษเงิน ป้ายหยก จี้สร้อยคอ แม้แต่ฟันทองเล็ก ๆ ก็ยังมีมากมายเต็มไปหมด จนเจ้าหน้าที่ตาแทบจะถลนออกจากเบ้า ทั้งยังไม่อาจห้ามนางได้ จนกระทั่งนางเล่นจนพอใจแล้ว พวกเขาจึงได้พามาส่ง

จี้จือฮวนเข้าใจต้นสายปลายเหตุแล้ว จึงมองไปที่ทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงตีนบันไดนิ่ง ๆ

ท่านป้ารีบหลบสายตาพลางมองขึ้นฟ้าทันที “ข้าเองก็ไม่ได้อยากทำเช่นนี้ แต่มันดันมือขึ้นนี่นา วันนี้ปฏิทินยังบอกว่าเราไม่ควรโมโหนะ”

อาอินเข้าไปใกล้ ๆ ท่านป้า พลางเอ่ยอย่างขลาดกลัวออกมา “ท่านยายออมมือมากแล้วนะเจ้าคะ ตอนหลังนางยังบอกด้วยว่าไม่อยากเล่นแล้ว แต่พวกเขาก็ดึงดันจะให้ท่านยายเล่นให้ได้”

อาชิงเองก็พยักหน้าหงึก ๆ “ใช่ขอรับ ยังมีท่านลุงอีกสองคนข้างหลังข้าชอบส่งเสียงร้องให้กำลังใจท่านยายด้วยนะขอรับ”

เจ้าหน้าที่เห็นแม่นางจี้มีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาก็ช่วยพูดเช่นกัน “ใช่ขอรับ เรื่องเป็นเช่นนี้ขอรับ…แต่ต่อไปอย่าให้ท่านยายไปที่ซ่องสุมเหล่านี้อีกจะดีกว่าขอรับ”

จี้จือฮวนเอ่ยขอบคุณเหล่าเจ้าหน้าที่พร้อมรอยยิ้ม จากนั้นจึงได้เอ่ยกับทั้งสามคนที่ยืนก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ “เข้ามา!”

ท่านป้าและเด็กน้อยทั้งสองสบตากันเล็กน้อย ก่อนจะรีบตามเข้าไป

ท่านป้าพยายามส่งสายตาให้เผยยวนอีกครั้ง ด้วยการยักคิ้วหลิ่วตาอยู่นาน เจ้าช่วยพูดให้พวกเราหน่อยสิ! ข้าไม่อยากเขียนหนังสือสำนึกผิด ข้าจะเพิ่มเงินค่าขนมให้เจ้าอีกหน่อยก็ได้ (ー ー;)

เผยยวน “???”

ดูท่าทางต้องพาท่านป้าไปหาหมอแล้วจริง ๆ

เผยยวนเองก็เลียนแบบท่าทางของนาง คราวหน้าไปหาหมอดีหรือไม่ เพราะกล้ามเนื้อของท่านกระตุกค่อนข้างแรงทีเดียว (ー ー;)

ท่านป้าเข้าใจแล้ว อืม ยวนจื่อรู้ใจข้าจริง ๆ นางรีบหันไปยกนิ้วโป้งให้เด็กน้อยทั้งสองทันที วางใจเถอะ อีกเดี๋ยวรอดูพ่อพวกเจ้าจัดการได้เลย!

จี้จือฮวนไม่คิดจะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ

พอดีกับที่สวนด้านหลังของเค่ออวิ๋นไหลนั้นค่อนข้างเงียบสงบ จี้จือฮวนจึงกระแอมเล็กน้อย “เหตุใดถึงไปเข้าบ่อนได้ วันนี้หลังจากกลับไปถึงบ้านให้เขียนหนังสือสำนึกผิดห้าร้อยตัวอักษรมาให้ข้า! ไม่อย่างนั้นอย่าคิดว่าจะได้ออกมาเที่ยวตลาดอีก! ให้อาหารหมูอยู่ที่บ้านไปเถอะ”

เมื่อท่านป้าได้ยินว่าจะไม่ได้ออกมาตลาดอีกก็ร้อนใจขึ้นมา จึบรีบส่งสายตาให้กับเผยยวนทันที เจ้าพูดอะไรบ้างสิ! (._.)

เผยยวนไหนเลยจะรู้ว่าท่านป้ากำลังต้องการอะไร จึงกระแอมออกมาเล็กน้อยและมองจี้จือฮวนอย่างเชื่อฟัง ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของท่านป้าและเจ้าตัวเล็กทั้งสอง เผยยวนจึงหันหน้าไปเอ่ยกับพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ใช่แล้ว ไปสถานที่อย่างบ่อนการพนันได้อย่างไร หากเกิดเรื่องขึ้นจะทำเช่นไร?”

ท่านป้าจึงได้รู้ว่า การสื่อสารที่ผ่านมา นางได้รู้แล้วว่าไว้ใจคนผิดไป

เด็กน้อยทั้งสอง ไหนบอกว่าท่านพ่อจะจัดการเรียบร้อยอย่างไรเล่า? ท่านพ่อมีอำนาจที่ใดกัน!

สุดท้ายทั้งสามคนก็ต้องกลับบ้านไปเขียนหนังสือสำนึกผิด

ตอนที่ทั้งครอบครัวมารวมตัวกันอยู่ที่ประตูทางเข้าของตำบล เผยจี้ฉือก็เลิกเรียนพอดี หลังจากขึ้นไปบนรถม้า ก็เห็นทั้งคนสามที่ไปบ่อนมานั่งคอตกกันอยู่

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”

ทั้งสามต่างก็ส่ายหน้าหวือโดยพร้อมเพรียง

“กลับบ้าน” จี้จือฮวนปรายตามองพวกเขาสามคนเล็กน้อย ก่อนจะสั่งจ้านอิ่ง

จ้านอิ่งกำลังรอคำนี้อยู่ จากนั้นก็ยกเท้าวิ่งออกไปทันที

มือสังหารทั้งสองที่กำลังจูงม้ามาเพื่อเตรียมจะตามไป จึงถูกฝุ่นปลิวใส่หน้าเต็มไปหมด…

“บัดซบ! ข้าต้องสังหารครอบครัวนี้ให้ได้!”

แม้แต่ม้าก็ยังนิสัยไม่ดี!!!!!

ตอนที่จี้จือฮวนกลับถึงบ้าน เหล่าเติ้งได้สร้างห้องตามแบบที่ร่างเอาไว้ในแผ่นสุดท้ายเสร็จพอดี พวกท่านป้าทั้งสามคนจึงไปที่ห้องหนังสือเขียนหนังสือสำนึกผิดตามเผยจี้ฉือ ภายในลานบ้านเผยยวนรับผิดชอบขนของที่ซื้อมาวันนี้ลง

จี้จือฮวนกลัวเขาจะเหนื่อยเกินไปจึงได้เข้ามาช่วย

จ้านอิ่งมองดูเจ้านายแสร้งทำเป็นอ่อนแอ ก็กลอกตามองบนอย่างดูแคลน

ห้องเก็บของใหม่เป็นเรื่องสุดท้ายในส่วนของการตกแต่ง และจะแล้วเสร็จในอีกสองวัน เหล่าเติ้งกลับรู้สึกอาลัยอาวรณ์ครอบครัวเผยขึ้นมา

“จะว่าไปแล้วพวกชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่เจ้าให้ข้าทำไว้ด้านล่าง พอประกอบกันแล้วมันคืออะไรกันแน่? ตั้งแต่ข้าทำบ้านมายังไม่เคยเห็นพวกนี้มาก่อนเลย”

จี้จือฮวนจึงยกยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ แค่กลเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น เอาไว้ป้องกัน”

นางไม่ใช่คนที่จะเดินไปทีละก้าว ดูไปทีละก้าว นิสัยของสายลับก็คือต้องหารังที่ปลอดภัยเสมอที่จะยอมอยู่ รวมถึงอะพาร์ตเมนต์ระดับไฮเอนด์ในตอนนั้นด้วย นางก็ใช้เงินไปจำนวนมากเพื่อสร้างมันขึ้นมา

แม้ว่าเทคโนโลยีในสมัยโบราณจะมีจำกัด แต่จี้จือฮวนก็ยังคงซ่อนกลไกไว้ตามมุมต่าง ๆ ของเรือนหลังนี้ได้

แม้แต่สีน้ำมันที่ทาด้านนอกนางก็เอาออกมาจากห้องทดลองในช่องว่างมิติ ซึ่งเป็นสีที่ยังใช้ไม่หมดหลังจากปรับปรุงห้องใหม่ในตอนนั้น

กันน้ำได้กันไฟได้ เรือนหลังนี้จึงแข็งแรงกว่าที่นางจินตนาการเอาไว้มาก