ตอนที่ 174 ตัวตนของผมเป็นยังไง?

เฉิงซินเยวไม่ต้องการพูดโกหก แต่ด้วยความเป็นคนละเอียดอ่อน จึงไม่ต้องการที่จะพูดให้หลินหนานเสียใจเช่นกันใบหน้างดงามจิ้มลิ้มนั้นจึงเปลี่ยนเป็นแดงก่ําขึ้นมาเล็กน้อยเธอลังเลใจอยู่นานแต่แล้วก็ยังไม่สามารถต อบหลินหนานได้เสียที

“ว่ายังไงล่ะ? ถ้าไม่ตอบวันนี้ก็ไม่ต้องกิน!”

หลินหนานยังคงแกล้งเด็กสาวต่อ เขาดึงชามเกี่ยวน้ําเข้าหาตัวอีก และเพื่อชามเกี่ยวน้ําที่อยู่ตรงหน้าเฉิงซินเย่วจึงได้แต่ยิ้มหวาน และตอบหลินหนานไปว่า

“พี่หลินหนานคะ ถึงแม้พี่จะหน้าตาไม่หล่อเท่าเขา แต่สําหรับฉันแล้ว พี่หลินหนานหล่อที่สุดในใจของฉันเลยล่ะ ไม่มีทางที่ใครจะมาเทียบพี่ได้!”

“ยัยเด็กคนนี้นี่! นี่เธอกําลังจะบอกว่า ฉันหล่อแค่ในใจของเธอสินะ?” หลินหนานตอบกลับเสียงขึ้นพร้อมกับทําเสียงอึดฮัดด้วยความไม่พอใจ

“ไม่นะพี่หลินหนาน! ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย! อย่างพี่นี่เรียกว่าหล่อจากข้างในต่างหากล่ะ!” เฉิงซินเยวตอบกลับยิ้มๆ

เด็กสาวหัวเราะจนตาหยี และรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของเธอนั้น ก็ทําให้หลินหนานรู้สึกสะท้อนใจยิ่งนัก เขายกมือขึ้นลูบไล้ศรีษะของเฉิงซินเย่วเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ช่างเถิด! อย่าน้อยพี่ก็หล่อที่สุดในใจของเธอ และพี่จะเป็นแบบนี้ตลอดไป!”

“จริงเหรอพี่หลินหนาน?! พี่พูดแล้วห้ามกลับคําวันหลังนะ แล้วก็ต้องทําให้ได้ตลอดไปด้วย!”

เฉิงซินเยวรีบร้องตะโกนถามเสียงดังทันที และที่หญิงสาวถามออกไปเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเธอเองก็กําลังจะคิดอะไรบางอย่างอยู่ เพราะใบหน้าของเธอเริ่มแดงมากขึ้น ริมฝีปากบางนั้นเม้มเข้าหากันแน่น

จะเป็นแบบนี้ตลอดไป?!

พี่หมายความอย่างที่พูดจริงๆน่ะเหรอ?

“แน่นอนอยู่แล้ว! พี่อาจจะปลิ้นปล้อนกับคนอื่น แต่กลับเธอที่จะ….”

ในขณะที่หลินหนานกําลังจะคุยโม้ต่อนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขาก็ดังขึ้น หลินหนานรีบล้วงออกมาดู จึงพบว่าเป็นสายเรียกเข้าจากผู้เฒ่าคู่ และทันทีที่หลินหนานกดรับ เสียงของผู้เฒ่าคู่ก็ดังขึ้นจากปลายสายทันที

“คุณชายหลิน วันนี้เป็นวันจัดงานประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์ หวังว่าคุณคงจะไม่ลืมไปแล้วนะ?”

สีหน้าของหลินหนานเปลี่ยนเป็นตกใจขึ้นมาทันที เพราะเขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท แต่ปากก็โกหกไปโดยไม่รู้สึกอะไร

“อะไรกัน? งานสําคัญแบบนี้ผมจะลืมได้ยังไง?”

“ผมก็หวังว่าคุณชายหลินจะยังไม่ลืม! ที่ผมโทรมาก็เพื่อจะถามว่า คุณชายหลินจะไปพร้อมกับผม หรือจะให้ผมส่งรถไปรับแทน?” ผู้เฒ่าคู่เอ่ยถามด้วยน้ําเสียงนอบน้อม

หลังจากที่ได้ยินคําถามของผู้เฒ่าคู่ หลินหนานก็รีบตอบกลับไปในทันที “ไม่ต้องส่งใครมารับทั้งนั้นคุณส่งรายละเอียดของสถานที่จัดงานมาให้ผมก็พอ เดี๋ยวผมไปที่นั่นเอง!”

ผู้เฒ่าคู่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ พร้อมตอบกลับไปว่า “ได้เลยครับคุณชายหลิน! นี่ผมก็ได้ยินมาว่างานสัมมนาครั้งนี้ มีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยาหลายบริษัทมาร่วมด้วย ที่สําคัญยังจะมีการประมูลยาตัวใหม่ด้วย!”

“ประมูลยาตัวใหม่งั้นเหรอ?” หลินหนานทวนคําพูด

“ใช่ครับคุณชายหลิน! นอกจากนี้ยังมีการนําสมุนไพร และยาหายากมาประมูลในงานนี้มากมายทีเดียวไม่แน่ว่าอาจจะมีสมุนไพรที่คุณชายหลินกําลังเสาะหาอยู่พอดีก็ได้!” ผู้เฒ่าก่ตอบยิ้มๆ

หลินหนานยิ้มออกมาเล็กน้อย และตอบกลับไปว่า “ขอบคุณอาวุโสที่โทรมาเตือน แล้วเจอกันที่งานนะครับ!”

หลังจากที่วางสายจากผู้เฒ่าไปแล้ว หลินหนานก็หันไปพูดกับเฉิงซินเยวที่กําลังกินเกี้ยวน้ําอยู่ “ซินเย่ว พี่จะต้องออกไปทําธุระหน่อย หลังจากที่กลับห้องแล้ว ก็อย่าออกไปข้างนอกล่ะเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย!”

เฉิงซินเย่วตอบกลับไปทันที “พี่หลินหนานคะ อีกไม่นานก็ใกล้สอบเอนทรานซ์แล้ว ฉันต้องอยู่ห้องอ่านหนังสือทบทวน พี่มีอะไรต้องทําก็รีบไปทําเถอะน่า ไม่ต้องห่วงฉันหรอก!”

หลินหนานเพียงแค่พยักหน้า และไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เขารู้ดีว่าแม้ภายนอกเฉิงซินเยวจะดูเป็นเด็กสาวอ่อนแอ แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่มีวินัยในตัวเองสูงมากและไม่เคยทําตัวให้เขาต้องเป็นห่วงเลย

ไม่นานนัก หลินหนานก็ได้รับข้อความจากผู้เฒ่า ซึ่งแน่นอนว่าเป็นที่อยู่ของสถานที่จัดงานสัมมนาในครั้งนี้นั่นเอง

หลังจากที่กินเสร็จแล้ว หลินหนานก็ได้เดินไปส่งเฉิงซินเยวกลับห้อง ส่วนตัวเขาก็กลับไปที่ห้องของตนเองเช่นกัน

หลินหนานหยิบลูกแก้วสยบพิษออกมาจากที่ซ่อน และนําติดตัวไปในงานสัมมนาครั้งนี้ด้วย เพราะนอกจากลูกแก้วนี้จะสามารถใช้ขจัดพิษได้แล้ว มันยังมีผลกับสมุนไพร และยาชนิดต่างๆด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น หลินหนานยังนําเข็มเงินที่ทําจากอุกกาบาตรโลหะติดตัวไปด้วยเช่นกัน เขาจําเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม สําหรับการเข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนทางการแพทย์ในครั้งนี้

จากนั้น หลินหนานก็ได้เดินทางไปยังโรงแรมไคเหยียน ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเมืองเจียงไฮวตามรายละเอียดที่ผู้เฒ่าคู่ส่งมาให้

แม้ว่าจะเป็นการจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านการแพทย์ แต่การจัดงานก็ออกจะเอิกเกริกอยู่บ้างแต่เนื่องจากโรงแรมไคเหยียนไม่ใช่โรงแรมหรูหราระดับห้าดาวอะไร หลินหนานที่แต่งตัวธรรมดาๆจึงสามารถเดินผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรงหน้าประตูเข้าไปได้อย่างง่ายดายโดยไม่ถูกขัดขวาง

หลังจากที่เดินเข้าไปภายในโรงแรมแล้ว หลินหนานก็ได้ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นบนสุดของโรงแรม และเมื่อประตูลิฟท์เปิด หลินหนานก็ก้าวเดินออกมาจากลิฟท์ทันที

แต่แล้วเขาก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ นั่นเพราะภายในห้องจัดเลี้ยงหรูหราขนาดห้าร้อยตารางเมตรนั้นกลับมีผู้คนเนืองแน่นไปหมดหลังจากที่ได้เห็นจํานวนคนที่เข้าร่วมสัมมนาในครั้งทําให้หลินหนานตระหนักได้ว่าเขาประเมินความสําคัญของงานสัมมนานี้ต่ําจนเกินไป

“อ้าวคุณชายหลิน ทําไมถึงมาที่นี่ได้คะ?”

ในระหว่างที่หลินหนานกําลังจะโทรหาผู้เฒ่าคู่นั้น เสียงร้องถามด้วยความประหลาดใจของใครบางคนก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา และทันทีที่ได้ยินน้ําเสียงอ่อนหวานไพเราะนี้หลินหนานก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

เขาหันหลังกลับไปอย่างช้าๆ และพบว่าหลิวหยิ่งหยิงซึ่งอยู่ในชุดกระโปรงคอวีสีดํา สวมรองเท้าส้นสูง กําลังเดินตรงเข้ามาหาพร้อมกับยิ้มหวานให้

หากคืนนั้นหลิวหยิงหยิงซึ่งอยู่ในชุดกี่เพ้างดงามดั่งนางจิ้งจอก ในวันนี้เธอก็อยู่ในชุดกระโปรงที่ทําให้งดงามกุหลาบแรกแย้มที่ไร้พิษสง พร้อมด้วยกลิ่นหอมจากเรือนร่างงดงามนั้น และไม่ว่าจะเป็นร่องอกลึกที่ปรากฏต่อหน้า หรือเอวคอดเล็กภายใต้กระโปรงรัดรึงล้วนแล้วแต่ดึงดูดให้ชายหนุ่มที่พบเห็นยากจะละสายตาได้

แม้จะเป็นนางจิ้งจอกที่น่าหลงไหล แต่ก็อันตรายยิ่งนัก หลินหนานได้แต่ถอนหายใจออกมาและนึกเสียดายที่ครั้งนั้นเขายังไม่ได้ทําตามข้อตกลงที่หลิวหยิงหยิงให้ไว้เลย แต่วันนี้นับเป็นโอกาสดีของเขาแล้ว!

“อ้าวเถ้าแก่หลิว.. ไม่ได้พบกันซะนาน! คิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่หลิวที่มีงานรัดตัว จะยังจําคนอย่างผมได้หรือเป็นเพราะว่าคุณคิดถึงผมมากกันแน่?”หลินหนานหยอกเย้าหลิวหยิงหยิงพร้อมกับยิ้มให้เธอ

“คุณชายหลิน.. ครั้งที่แล้วคุณผลุนผันออกไปโดยไม่ร่ําลาแบบนั้น รู้มั้ยว่าฉันเป็นห่วงคุณชายหลินมากแค่ไหน? ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับแล้วก็เฝ้าคิดถึงแต่คุณชายหลินจนน้ําหนักลดลงไปมากเลยทีเดียว..”

หลิวหยิงหยิงตอบกลับหลินหนาน พร้อมกับทําสีหน้าน่าสงสาร และแสร้งทําเป็นโกรธเล็กน้อยหากเป็นคนอนอาจจะหลงกลเสน่ห์ของจิ้งจอกสาวตนนี้ไปแล้วแต่หลินหนานนั้นรู้ดีว่าจะต้องรับมือกับจิ้งจอกสาวอย่างไรเพื่อไม่ให้ตกหลุมพลางของเธอ

หลินหนานกวาดสายตาไปทั่วเรือนร่างอันน่าดึงดูดของหลิวหยิงหยิง พร้อมกับยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะตอบไปว่า

“ผมเองก็ดูไม่ออกว่าส่วนไหนของคุณบ้างที่ซูบผอมไปเพราะผมเห็นแต่ส่วนที่นูนขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน!”

“คุณชายหลินยังคงเป็นคนมีอารมณ์ขันไม่เปลี่ยนเลยนะคะ! ว่าแต่คุณมางานนี้ได้ยังไง? ใครเชิญมา?”

แม้จะเผชิญหน้ากับการถูกลวนลามทั้งทางสายตา และคําพูดของหลินหนานอย่างโจ่งแจ้งแต่หลิวหยิงหยิงก็สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

หลินหนานหันไปมองหลิวหยิงหยิงด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะถามขึ้นว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่ามีคนเชิญผมมา? ผมอาจจะมาที่นี่เองก็ได้”

หลิวหยิงหยิงตอบกลับยิ้มๆ “เพราะฉันรู้ว่าคนอย่างคุณชายหลิน ต้องไม่ชอบมางานแบบนี้แน่ๆน่ะสิ!”

“เฮ้อ.. คุณมองผมผิดไปมากทีเดียว! ผมชอบงานแบบนี้มากเลยล่ะ เพราะมันทําให้ผมดูเป็นผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นมาทันที!” หลินหนานตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้าง

หลิวหยิงหยิงค่อยๆเยื้องย่างเข้าไปใกล้หลินหนานมากขึ้น พร้อมกับยื่นริมฝีปากเย้ายวนนั้นเข้าไปกระซิบข้างหูของเขาอย่างรู้ทัน

“ที่นี่มีแต่หมอแล้วก็นักธุรกิจร่ํารวย ดูไม่เข้ากับความเป็นตัวตนของคุณชายหลินเลยแม้แต่น้อย!”

หลังจากที่ได้สัมผัสไออุ่นจากริมฝีปากของหญิงสาว และได้กลิ่นหอมที่โชยมาจากเรือนร่างเย้ายวนนั้นหลินหนานก็ถึงกับปากคอแห้งผาก จนต้องกลืนน้ําลายเข้าไปอีกใหญ่

“งั้นเหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นเถ้าแก่หลิวก็ช่วยบอกผมที่ว่า ตัวตนที่แท้จริงของผมเป็นอย่างไรกันแน่?”

หลินหนานย้อนถามและเขาก็เริ่มที่จะอดทนต่อการเย้ายวนของหญิงสาวผู้นี้ไม่ได้อีกแล้ว!