ตอนที่ 139 ค่าผิดสัญญาที่สูงเสียดฟ้า
หลังจากรับประทานอาหารเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย คนกลุ่มหนึ่งก็พร้อมที่จะจากไป
หยวนเหยี่ยขนวัตถุดิบยาที่คัดแยกออกมาเพื่อเตรียมส่งไปให้กับลูกศิษย์ตัวน้อยที่เย่ว์ตูไปไว้ที่รถ
ชาวบ้านหลายคนแบกตะกร้าผัก ผลไม้ ขนม และสิ่งของต่างๆ ขึ้นรถตามไม่หยุด
เป่ยซี อาจารย์แม่เล็ก ถังถัง และถุงลมน้อยล้อมรอบมู่เถาเยาพลางพูดคุยกับเธอ
เป่ยซีซึ่งเพิ่งจะได้อยู่กับลูกสาวเพียงไม่กี่วันเอง เมื่อต้องจากกันดวงตาของเธอจึงขึ้นสีแดงระเรื่อ เธอจับแขนของมู่เถาเยาไว้อย่างไม่เต็มใจ
“แม่คะ ทำไมแม่ไม่ไปที่เย่ว์ตูด้วยกันเลยล่ะ”
เป่ยซีรู้สึกสะท้านใจมาก แต่หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เธอก็ปฏิเสธข้อเสนอของลูกสาว
ประการแรก ภาพลักษณ์ในปัจจุบันของเธอไม่ดีนัก และกลัวว่าคนรู้จักของลูกสาวจะหัวเราะเยาะลูกสาวเมื่อเห็นเธอ ประการที่สอง พวกเธอยังค้นหาศัตรูที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่พบ
อันตรายที่ซ่อนอยู่ยังไม่ถูกขจัดไป จึงไม่สามารถทำให้ลูกสาวตกอยู่ในอันตรายใดๆ ได้
แม้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปมาก แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าจะไม่มีใครจำเธอได้
เธอไม่สามารถแบกรับความเสียหายเพียงเล็กน้อยต่อลูกสาวได้อีก
“แม่ครับ เขตเซิ่งซื่อฉางอันนั้นปลอดภัยมาก ทางทิศตะวันออกและเหนือทั้งหมดเป็นของตระกูลตี้และตระกูลเย่ว์ ไม่มีใครบุกรุกเข้าไปในเขตแดนนั้นได้หากไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นถ้าแม่จะไปเย่ว์ตูด้วยกันก็ได้นะครับ” หลังจากพบตัวน้องสาวในท้ายที่สุด เย่ว์จือกวงก็ทนเห็นแม่ของเขาต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานไม่ไหวอีกต่อไป
มู่เถาเยาพยักหน้าเสริม “นั่นสิคะ แม่กลับไปที่เย่ว์ตูกับเรานะคะ”
ทางฝั่งตระกูลเย่ว์ไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก เธอไม่กลัวสักนิดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดจะปรากฏตัวออกมา!
เป่ยซียังคงส่ายหัวปฏิเสธ “แม่พักฟื้นร่างกายอยู่ในหมู่บ้านเถาหยวนซานต่อดีกว่า”
สองพี่น้องจึงหยุดรบเร้า
หมู่บ้านเถาหยวนซานเป็นสถานที่ที่ดี ไม่เพียงแต่จะเต็มไปด้วยบุคคลที่โดดเด่น แต่ยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักฟื้นจากความเจ็บป่วยและการดูแลผู้สูงอายุ
“เสี่ยวเยาเยา รีบขึ้นรถเถอะ มันสายมากแล้ว เมื่อลูกกลับไปถึงเมืองเย่ว์ตูก็คงเป็นเวลากว่าห้าทุ่มแล้ว พรุ่งนี้ลูกยังต้องตื่นแต่เช้าไปเข้าเรียนอีก”
“โอเคค่ะ”
เป่ยซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยแขนลูกสาวของเธอ
ทุกคนบอกลาเธอที่หน้าประตูบ้าน
มู่เถาเยาปฏิเสธที่จะให้ชายชรา เป่ยซี และตี้อู๋เปียนไปส่งที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ดังนั้นผู้อาวุโสจึงบอกลาเธอที่ตรงนี้
หลังจากใช้เวลาบินนานกว่าสี่ชั่วโมง กลุ่มคนก็กลับมาถึงเขตเซิ่งซื่อฉางอันในเวลาห้าทุ่มตามเวลาที่คาดการณ์ไว้
ถุงลมน้อยหลับสนิทอยู่บนเครื่องบินแล้ว เย่ว์จือกวงก็อุ้มเขาลงมา จากนั้นบอดี้การ์ดของตระกูลตี้ก็พาเขากลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลตี้ เด็กน้อยไม่ตื่นขึ้นมาเลยตลอดทาง
คืนนี้มู่เถาเยาและคณะของเธอเองก็กลับไปค้างที่คฤหาสน์ตระกูลตี้เช่นกัน
เนื่องจากวิลล่าตระกูลเย่ว์จำเป็นต้องสแกนใบหน้า ตรวจลายนิ้วมือ และตรวจรูม่านตาผ่านการตรวจสอบถึงสามชั้นกว่าจะเข้าวิลล่าได้จึงไม่มีใครอยากเสียเวลานอนเพราะเรื่องนี้ ดังนั้นคืนนี้ทุกคนจึงมาพักที่คฤหาสน์ตระกูลตี้
หลังจากส่งถุงลมน้อยขึ้นเครื่องบินกลับเมืองหลวงในวันถัดไป เธอก็จะย้ายออกจากคฤหาสน์ตระกูลตี้ไปที่เขตเรือนอุ่นรัก และหลีกเลี่ยงการกลับไปที่วิลล่าตระกูลเย่ว์เพื่อจะได้ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบพวกนั้น
เย่ว์จือกวงพาถุงลมน้อยขึ้นไปที่ห้องนอนและวางเขาลงบนเตียง
มู่เถาเยาบอกให้เย่ว์จือกวงไปพักผ่อนก่อน จากนั้นเธอและพี่เลี้ยงจึงช่วยเด็กน้อยเช็ดหน้า มือ และเท้าของเขา
เย่ว์จือกวงยืนพิงอยู่ที่ด้านนอกประตู เฝ้าดูน้องสาวของเขาทำสิ่งเหล่านี้อย่างชำนาญ ในใจพลันรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก
ตระกูลเย่ว์ไม่ใช่ตระกูลธรรมดาๆ แต่แม้พวกเขาจะไม่ได้ตามใจลูกๆ ของพวกเขา แถมยังต้องเรียนรู้วิธีการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง แต่น้องสาวของเขาดูเหมือนจะชำนาญในการดูแลผู้อื่นมากเกินไป สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเป็นทุกข์มาก
เจ้าหญิงน้อยแห่งเผ่าหมาป่าพระจันทร์ที่มีอำนาจอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ไม่ต้องพูดถึงชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ผิวพรรณที่งดงามผุดผ่อง เสื้อผ้าหรูหราและอาหารรสเลิศ แต่น้องสาวของเขามีรสนิยมที่รักในความเรียบง่าย ชาและอาหารเบาๆ สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบราคาถูก สภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ช่างไร้ที่ติเสียจริง
แม้ว่าเธอจะยอมรับกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเย่ว์แล้ว แต่เธอก็ยังไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเธอ
ตระกูลที่ร่ำรวยธรรมดา พวกเขาจะปรนเปรอลูกสาวของตัวเอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าหญิงของชนเผ่าในประเทศเล็กๆ แต่ทรงอำนาจ แต่เธอกลับยังเลือกใช้ชีวิตในแบบที่สามัญธรรมดาและไม่ฟุ้งเฟ้อใดๆ…
เย่ว์จือกวงรู้สึกว่าการที่น้องสาวของเขาชอบวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแบบนี้ช่างดีมาก แต่หัวใจของเขาก็ยังเจ็บปวดอย่างช่วยไม่ได้
น้องสาวของเขาควรจะเป็นที่รักของใครหลายๆ คน ควรมีชีวิตที่สวยงามที่สุดและดีที่สุดในโลก และเป็นคนที่คนทั้งโลกต่างก็ต้องแหงนหน้ามองด้วยความอิจฉา เธอควรจะมีชื่อเสียงระดับโลกด้วยชนเผ่าที่หนุนหลังเธออยู่…
มู่เถาเยาเดินไปที่ประตู เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเย่ว์จือกวงผิดปกติไปจึงเอ่ยถามขึ้นเบาๆ “พี่รอง เป็นอะไรไปเหรอคะ”
“ตอนเด็กๆ เธอเองก็ได้รับการดูแลแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า…”
“ฉันได้รับการดูแลอย่างดีจากพวกอาจารย์และชาวบ้านค่ะ พี่รอง แม้ว่าครอบครัวเราจะต้องแยกห่างกันช่วงเวลาหนึ่ง แต่เราก็ได้กลับมาพบกันแล้วไม่ใช่เหรอ บางทีนี่อาจเป็นชะตาที่พระเจ้าขีดเขียนเอาไว้ก็ได้”
ยกตัวอย่างเช่นการกลับมาพบกันอีกครั้งของเธอกับป้า การได้ข้ามผ่านช่วงเวลาและมิติมาพบกันที่นี่ ไม่ใช่ชะตาที่พระเจ้ากำหนดเอาไว้แล้วหรอกเหรอ
“อืม น้องสาว นี่ก็ดึกแล้ว กลับห้องไปพักผ่อนเถอะนะ”
“พี่รองเองก็รีบกลับไปพักเถอะค่ะ พี่ขึ้นไปชั้นบนเถอะ”
“โอเค งั้นฝันดีนะน้องสาวพี่”
“ฝันดีค่ะพี่รอง”
มู่เถาเยาเดินไปที่ห้องข้างๆ ถุงลมน้อยซึ่งเป็นห้องที่เธอเคยอยู่มาก่อน
เย่ว์จือกวงมองดูเธอเดินเข้าห้องนอนและปิดประตูไป ก่อนจะขึ้นไปยังชั้นสาม
หลังจากกลับถึงห้องพัก เขาไม่ได้รีบอาบน้ำล้างตัวทันทีแต่ใช้มือถือส่งข้อความวีแชทถึงใครบางคน
“ส่งตารางงานของเธอมาให้ฉัน”
คนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งกำลังจะปิดโทรศัพท์และเตรียมเข้านอน เมื่อเธอเห็นข้อความที่เด้งเข้ามา ร่างเพรียวบางก็รีบผุดลุกขึ้นจากเตียงทันที
“ประธานเย่ว์”
“ฉันเอง”
“คุณเป็นวิญญาณเกาะติดเหรอ” จู่ๆ ก็โผล่มาตกใจหมด
“…ถังถังอย่าทำให้ฉันต้องเสียเวลามาก ฉันต้องการตารางเวลาของเธอ”
“ประธานเย่ว์! คุณตกลงจะพาฉันเข้าไปในเขตป่าชั้นในแล้วใช่ไหม ฉันมีเวลาค่ะ! มีเวลาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย!”
สำหรับเจ้าตัวเล็กน่ารักในป่าชั้นในพวกนั้น เธอยอมเสียค่าผิดสัญญาที่สูงเสียดฟ้าได้!
“…ทางฉันยังมีงานอื่นๆ ที่ต้องจัดการด้วย ส่งตารางงานของเธอมาให้ฉันก่อน”
“โอเคค่ะ ประธานเย่ว์รอสักครู่นะ”
ถังถังพยายามอย่างมากที่จะระงับการเต้นของหัวใจเธอที่แทบจะโบยบินออกไปแล้ว จากนั้นก็ส่งข้อความตอบกลับโดยเร็วที่สุด
“ประธานเย่ว์ อย่ามองว่าตารางงานของฉันแน่นมาก ฉันสามารถปฏิเสธไปได้ทั้งหมดเลยค่ะ!”
เย่ว์จือกวงตอบกลับหลังจากอ่านตารางงานของเธอ
“เธอเซ็นสัญญาเฉพาะกับหนังเรื่องนี้แค่นั้นเหรอ”
เซอร์ไพรส์มาก!
แต่ก็พอจะเข้าใจได้ เพราะชื่อของเธอถูกเสนอให้เข้าร่วมกับเครือเทียนเย่ว์แล้ว
“ฉันวางแผนที่จะกลับไปเรียนต่อมหา’ลัยในเดือนกันยายน ดังนั้นในช่วงท้ายๆ ปีเลยไม่ค่อยรับงานอะไรแล้ว”
“อืม งั้นเอาไว้รอช่วงปิดเทอมฤดูหนาวแล้วกัน”
“…ประธานเย่ว์ เราไปก่อนหน้านั้นไม่ได้เหรอ”
“ฉันไม่รีบ”
เขายังมีสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมอีกมากมาย
“…”
คุณไม่รีบ แต่ฉันรีบโอเคไหม!
ทนรอแทบจะไม่ไหวแล้ว!
“เราอาจต้องอยู่ในป่าเป็นเวลานานถึงหนึ่งเดือนเต็ม หากเธอไม่คัดค้านอะไร ก็หาเวลาสำหรับวันหยุดฤดูหนาวล่วงหน้าซะ”
“หนึ่งเดือน ประธานเย่ว์ คุณกำลังมองหาอะไรในเขตป่าชั้นใน”
นี่ไม่ปกติเลย!
เธอไม่เชื่อว่าตัวเองจะสำคัญถึงขนาดที่ทำให้เขายอมเสียเวลาอยู่ในป่านานขนาดนั้น!
“ใครบางคน”
“…”
“คนที่ลักพาตัวเสี่ยวเยาเยาออกมา เอาเธอมาทิ้งไว้ระหว่างจุดเชื่อมต่อเขตป่าชั้นในกับป่าชั้นนอก ฉันอยากเข้าไปในป่านั้นเพื่อค้นหาเบาะแสเพิ่มเติม”
“…สิบแปดปีแล้ว มันจะยังเหลือเบาะแสอะไรให้ค้นหาอยู่เหรอคะ”
“ไม่ลองก็ไม่รู้นี่ แต่ตราบเท่าที่อันตรายที่แอบแฝงอยู่ยังไม่หมดไป ฝั่งฉันก็จะไม่สามารถเปิดเผยตัวน้องสาวสู่สาธารณะได้”
“ฉันเข้าใจค่ะ”
เกี่ยวกับความปลอดภัยของเสี่ยวเยาเยา เธอย่อมจริงจังเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ชั่วมากที่เอามันมาลงกับเด็กทารก!
ต่ำช้าและน่าเกลียดชังอย่างถึงที่สุด!
โชคดีที่เสี่ยวเยาเยาเกิดมาพร้อมกับความโชคดี ดังนั้นปู่หยวนจึงรับเธอมาเลี้ยงดู!
“ขอบคุณนะ”
“ทางฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ ถือว่าเราช่วยเหลือกันละกัน”
“…”
ก็จริง แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างทะแม่งๆ
“ประธานเย่ว์ เสี่ยวเยาเยาหลับหรือยัง ฉันอยากคุยกับเธอหน่อย” เธอถามเขา
“วันนี้ดึกมากแล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันวันอื่นเถอะ”
“เอางั้นก็ได้ค่ะ แต่ด้วยอารมณ์ของบรรพบุรุษฉัน เขาอาจจะมาที่หมู่บ้านเถาหยวนซานล่วงหน้า ประธานเย่ว์ฝากบอกเสี่ยวเยาเยาในวันพรุ่งนี้ด้วยนะ”
“อืม เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก”
“ยินดีค่ะ ประธานเย่ว์ คุณคิดจะพากี่คนเข้าไปในเขตป่าชั้นในพร้อมกับเรา”
“อาจมีสักห้าหรือหกคน ฝั่งของเธอเองก็สามารถพาคนติดตามไปด้วยสักสองหรือสามคนได้ แต่ทางที่ดีคือต้องเป็นคนที่รู้เรื่องพิษด้วย”
“ตกลงค่ะ! คือว่า…ปู่ทวดของฉันไปด้วยได้ไหม”
“…ชายชราอายุหนึ่งร้อยยี่สิบสามปีน่ะเหรอ…” เย่ว์จือกวงพูดไม่ออก
“…ใช่ แต่ฉันไม่กล้าไปขอเรื่องนี้เสี่ยวเยาเยา ขนาดปู่หยวนกับปู่ซย่าโหวอายุยังไม่ถึงเก้าสิบปีก็โดนเธอปฏิเสธห้ามไม่ให้เข้าป่าแล้ว ปู่ทวดของฉันยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ฉันก็เลยมาขอร้องคุณแทน แต่ฉันรับประกันได้เลยว่าทางฝั่งเราจะหาคนที่ฝีมือดีมาคอยคุ้มกันปู่ทวดอีกแรง และจะส่งคนที่เชี่ยวชาญด้านพิษไปช่วยพวกคุณเป็นพิเศษด้วย”
“อืม เธอบอกน้องสาวฉันละกันหลังจากที่เธอหาคนได้แล้ว ฉันจะกลับไปที่หมู่บ้านเถาหยวนซานกับคนของฉันเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมเป็นพิเศษจากอาจารย์ทั้งสอง”
“ตกลง พรุ่งนี้ฉันจะบอกบรรพบุรุษและขอให้เขาเลือกคนที่จะพาเขาไปด้วย”
“อืม”
“งั้นฉันขอตัวไปนอนก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะประธานเย่ว์”
“ราตรีสวัสดิ์”