เพียงใช้เวลาไม่นาน เมิ่งเถียน ก็ได้รับจดหมายยอมจำนนจากเปาซิน

เขามองไปที่มันและยิ้ม”เจ้าคิดว่าข้อความในจดหมายนี้เป็นความจริงหรือไม่?”

“ข้าไม่คิดว่าเขาจะยอมแพ้!”

เมิ่งอี้ ได้ยืนขึ้นและตอบกลับ”ตามที่ข้าได้รู้มา เปาซิน เป็นแม่ทัพที่กล้าหาญของอาณาจักรซีหยาง เขาย่อมไม่เลือกที่จะยอมแพ้อย่างแน่นอน นี่จะต้องเป็นแผนหลอกให้เราตายใจ!”

“ข้าเองก็คิดแบบนั้น!”

เมิ่งเถียน ได้ยืนขึ้นและตอบกลับ”แต่ถ้าเขามีเล่ห์เหลี่ยมอะไรข้าจะใช้แผนทำให้เขายอมจำนนอย่างแท้จริง!”

“ท่านแม่ทัพ ท่านคิดจะทำอะไรงั้นหรือ?”แม่ทัพหลายคนได้กล่าวถาม

“เดี๋ยวพวกเจ้าก็จะได้รู้!”

รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ เมิ่งเถียน เขาได้พูดว่า”นำจดหมายฉบับนี้ไปส่งให้ เปาซิน บอกว่าข้ายอมรับความพ่ายเเพ้ของพวกเขา ขอให้เขายกธงขาวขึ้น และส่งผู้บัญชาการออกมาต้อนรับข้า!”

“ขอรับ!”

หลังจากที่ปล่อยให้คนไปส่งหมายเสร็จ เมิ่งเถียน ก็หันไปหา เมิ่งอี้”เมิ่งอี้ เจ้านำทหารม้า 20,000 นายไปเตรียมพร้อมไว้ เมื่อข้าให้สัญญาณให้บุกเข้าชาร์จทันทีและทำการยึดค่ายของพวกเขา!”

เมิ่งอี้ ผงะ จากนั้นเขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจ”ขอรับ!”

หลังจากที่ข่าวของ เมิ่งเถียน ถูกส่งไปยังเปาซิน เขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก และ รีบตอบกลับจดหมายของ เมิ่งเถียน บอกว่าเขาตกลง

จากนั้นพวกเขาก็เตรียมการยอมจำนน

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เมื่งเถียน ได้นำทหารร้อยนายไปยืนอยู่หน้าค่ายใหญ่ของอาณาจักรซีหยาง

ในเวลานี้ เปาซิน ได้เดินออกมาพร้อมกับแม่ทัพนับโหล

“ข้าน้อย เป่าซิน ยินดีที่ได้พบแม่ทัพเมิ่ง!”

“ยินดีที่ได้พบแม่ทัพเมิ่ง!”

เนื่องจากพวกเขาจะยอมจำนน เปาซิน และ แม่ทัพที่อยู่ด้านหลังของพวกเขา จึงแสร้งทำเป็นอ่อนน้อม

ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยกธงขาวขึ้นบนค่าย

“อืม”เมิ่งเถียนได้ตอบกลับเบา ๆ และ กำลังจะพาใครบางคนเข้าไปในค่าย

เมื่อ เปาซิน และ กลุ่มแม่ทัพเห็นแม่ทัพของอีกฝ่ายเดินเข้าไปในค่ายอย่างไม่เกรงกลัว พวกเขาก็ยิ้มในใจอย่างลับ ๆ พวกเขาเตรียมสั่งการให้พลธนูพร้อมที่จะโจมตี

แต่ในขณะนั้นจู่ ๆ เมิ่งเถียน ก็มองไปที่ เปาซิน และพูดด้วยรอยยิ้ม”เนื่องจากเจ้าเป็นแม่ทัพของค่ายแห่งนี้จะเป็นการดีกว่าหากพวกเจ้านำหน้าข้าไป!”

“นี่…”

ใบหน้าของเปาซินได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย ถ้าเมิ่งเถียน เข้าไปก่อน พวกเขาก็สามารถสั่งพลธนูให้ยิงลงมาได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่ง แต่ก็คงไม่สามารถหลบพลธนูจำนวนมากได้

แต่ถ้าพวกเขานำหน้าเข้าไปก่อนมีโอกาสสูงมากที่ลูกศรจะยิงถูกพวกเขาตาย

เปาซินได้กล่าวพูดขึ้น”ท่านแม่ทัพเมิ่ง พวกเราเป็นเพียงผู้ยอมจำนน ไม่อาจหาญกล้าเดินนำหน้าท่าน!”

“ไม่เป็นไร นี่คือค่ายของพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าไม่เป็นผู้นำทางใครละจะเป็นผู้นำทาง?”เมิ่งเถียน ยิ้มละตอบกลับ”ข้าต้องการให้พวกเจ้าแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ภายในค่าย!”

“แต่…”

“อะไร หรือว่า พวกเจ้าวางแผนให้คนซุ่มโจมตีพวกข้าอยู่?”เมิ่งเถียน ได้ขัดจังหวะเปาซินพร้อมกับชักดาบไปวางไว้บนบ่าของอีกฝ่าย

เปาซินรีบตอบกลับทันที”ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน พวกเรายอมจำนนด้วยความจริงใจ!”

“ถ้าเช่นนั้นก็นำทาง!”เมิ่งเถียน กล่าว

เปาซิน รู้สึกทำอะไรไม่ถูก พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากนำทาง เมิ่งเถียน เข้าไปในค่าย ทั้งยังบังคับให้พวกเขาเดินไปรอบ ๆ ค่ายทหารด้านหลังทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม เมิ่งเถียน ยังคงพูดคุยกับพวกเขาและหัวเราะออกมา

นี่เป็นสิ่งที่ดี การกระทำเช่นนี้ ทำให้อีกฝ่ายน่าจะเริ่มเบาใจว่าพวกเขาคิดจะยอมแพ้ด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง

ดังนั้นพวกเขายังมีโอกาสอยู่ ตราบใดที่ ผู้บัญชาการของพวกเขาให้สัญญาณพวกเขาจะเปิดฉากยิงใส่ เมิ่งเถียน อย่างไร้ความปราณี

ทันใดนั้นเองกองทัพขนาดใหญ่ก็เริ่มคุกเข่าลงบนพื้น

“แม่ทัพเปา ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะยอมจำนนอย่างแท้จริง!”เมื่อเปาซินนำเขากลับไปที่ประตูค่ายอีกครั้ง เมิ่งเถียน ก็ยิ้มออกมา

เปาซิน ได้ยิ้มอย่างขมขื่น”แม่ทัพเมิ่งมีกลยุทธ์อันสูงส่ง ข้าน้อยทำได้เพียงแต่เลือกที่จะยอมรับความพ่ายแพ้!”

เปาซิน ไม่เข้าใจว่า เมิ่งเถียน เชื่อใจเขาขนาดนั้นเลยหรือไม่ หรืออีกฝ่าย เต็มใจที่จะลองเสี่ยงดู

ถ้าเกิดเขาใช้โอกาสในตอนนี้เสี่ยงชีวิตของตนเองก็อาจจะมีโอกาสพอที่จะสังหาร เมิ่งเถียนได้

แต่ยังไงก็ตาม เขายังไม่ได้โอกาสนั้น เมิ่งเถียน ได้สั่งให้ทหารของเขา ตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ ค่ายซึ่งยังไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีเวลาส่งสัญญาณ

เมิ่งเถียนได้ยิ้มละตอบกลับ”แน่นอน ถ้าเกิดพวกเจ้าเล่นตุกติก เป็นธรรมชาติที่ข้าจะสั่งให้ทหารม้าที่รออยู่นอกค่ายบุกโจมตี!”

เปาซิน ได้มองไปที่ เมิ่งเถียน และครุ่นคิดเล็กน้อย”ถ้าเกิดพวกเราซุ่มโจมตีท่านในขณะที่เข้ามายังค่ายของเราล่ะ?”

“ข้ารู้ว่าเจ้ามีพลธนูที่ถูกเพาะขึ้นมาเพื่อสังหารผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ แต่ข้าเชื่อว่าความแข็งแกร่งของข้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะทำให้ตายได้ในไม่กี่จังหวะ อย่างน้อย ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นจริงข้าก็สามารถลากพวกเจ้าหนึ่งในสี่เข้าไปได้ทั้งหมด จากนั้นทหารม้าของข้า ก็คงจะบุกโจมตีค่ายและสังหารพวกเจ้าทุกคน!”เมิ่งเถียนได้ตอบกลับ

“ท่านแม่ทัพหมายความว่า ทหารม้าของท่าน เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้วแม้ว่าเราจะบอกยอมจำนนไป?”เปาซิน ได้กล่าวถาม

“แน่นอน!”

เมิ่งเถียน ได้พูดพร้อมกับส่งสัญญาณ ไม่ช้า พื้นดินก็สั่นสะเทือนทหารม้าจำนวนมากกว่า 20,000 นาย รีบมุ่งหน้ามาที่่ค่ายอย่างรวดเร็ว

เมิ่งเถียน มองไปที่ เปาซิน และยิ้ม”ทีนี้เจ้าหายสงสัยแล้วหรือยัง?”

เปาซิน ที่เห็นกองทหารม้าจำนวนมากเขาได้ยิ้มอย่างขมขื่น”ดูเหมือนว่าข้าจะเดินหมากผิดตั้งแต่แรก!”

“เอาล่ะ ถ้าเจ้ายอมจำนนจริง ๆ ตั้งแต่ตอนนี้อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตของเหล่าทหารได้!”

เปาซิน ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

ในไม่ช้า เมิ่งเถียน ก็ให้กองทัพเข้าไปรวบรวมอาวุธ ในเวลาเพียงสองชั่วโมง ทัพหลังทั้งหมดของอาณาจักรซีหยางก็ถูกยึดครองโดยสมบูรณ์

ข่าวการยอมจำนนของทัพหลังไปถึงแม่ทัพศึกหน้าที่ต้านศึกศัตรูอยู่ เขาก็รีบสั่งการให้ถอยทัพทันที

กองทัพของพวกเขายอมจำนนกันหมดแล้วมีหรือที่เขาจะยอมสู้ศึกต่อ

ในเวลานี้ เมิ่งเถียน ได้ส่งข่าวให้กับ เกาชุน ว่าจัดการทัพหลังได้สำเร็จแล้ว เกาชุน ได้นำค่ายกลยุทธ์ของเขาบุกโจมตีออกไปจัดการพลธนูของอีกฝ่าย

หลังจากทำลายรูปแบบการรบได้สำเร็จ กองทัพที่เหลือทั้งหมดก็ตกอยู่ในความโกลาหล หลายคนได้ทรุดตัวบ้างก็วิ่งหลบหนีไป

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เกาชุน ได้ส่งคนไปจับกุมทหารที่ยอมจำนนเหล่านั้น

เพียงใช้เวลาไม่นาน เมิ่งเถียน ก็มาพร้อมกับกองทัพของเขา

“ข้าน้อยแม่ทัพเมิ่ง ยินดีที่ได้พบแม่ทัพเกา!”เมิ่งเถียน ได้ลงจากม้าและคุกเข่าลงข้างหนึ่ง

“ฮ่าฮ่า,แม่ทัพเมิ่ง ท่านไม่จำเป็นจะต้องสุภาพก็ได้ ยังไงท่านก็อาวุโสสุดในค่ายแห่งนี้!”เกาชุนหัวเราะออกมา

เมิ่งเถียน รู้สึกเขินเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาได้ตอบกลับ”ข้าน้อย เมิ่งเถียน ฝ่าฝืนคำสั่งของฝ่าบาท ข้าน้อยพร้อมที่จะรับโทษทัณฑ์จากฝ่าบาท!”