บทที่ 205 ทะเลดอกไม้พิศวง

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 205 ทะเลดอกไม้พิศวง

บทที่ 205 ทะเลดอกไม้พิศวง

ภาพของชายคนหนึ่งที่มีสัตว์ 2 ตัวนั่งบนไหล่ทั้ง 2 ข้างดูพิลึกพิลั่นสุดๆ ทั้งสามเดินไปเรื่อยๆ ข้ามภูเขาและแม่น้ำ ทุกครั้งที่ผ่านสถานที่ต่าง ๆ ฉู่เหินจะสำรวจรอบข้างอย่างละเอียด ขณะที่เดินทางเขารู้สึกว่าสภาพจิตใจของเขาพัฒนาไปมาก แต่ก็ยังห่างไกลกับคำว่าสมบูรณ์แบบ

ไม่รู้เป็นภูเขาลูกที่เท่าไหร่แล้วที่ทั้งสามเจอจู่ๆ พวกเขาก็ได้กลิ่นดอกไม้หอมๆ ดึงดูดพวกเขา ดอกโบตั๋นพวกนี้มีหน้าตาและสีสันไม่สวยงามเท่าไรแต่กลิ่นที่มันปล่อยออกมานั้นหอมมาก!

เมื่อมองไปพวกมันอยู่รวมกันราวกับทุ่งดอกไม้ สายลมที่พัดผ่านทำให้พวกมันราวกับกำลังร่ายรำ เพียงแค่ได้กลิ่นของมันก็ทำให้คุณลืมไม่ลงแล้ว

สถานที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางหุบเขาที่รกร้าง ไม่มีแม้แต่สัตว์ตัวเล็กๆ รวมทั้งไม่มีแม้แต่เสียงของนกที่ควรจะมีด้วยซ้ำ อาจเพราะที่นี่มีสภาพอากาศค่อนข้างอบอุ่น

สีของมันมีทั้งสีฟ้า สีเหลืองอ่อน สีขาว และสีชมพูละลานตาไปหมดแต่สำหรับฉู่เหินที่ไม่มีความรู้เรื่องดอกไม้เลยทำให้เขามึนงงไปหมด

แต่ไม่ใช่แค่ฉู่เหินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสหายสี่เท้าทั้ง 2 ด้วยเมื่อพวกเขามองไปทางทะเลดอกไม้ก็มีความหลงใหลปรากฏในดวงตาของทั้งสาม

ฉู่เหินค่อยๆ เดินไปตามทางราวกับว่าโดนอะไรบางอย่างชักจูงให้เดินไป

ยิ่งเดินลึกเข้าไป จิตใจของฉู่เหินก็เริ่มล่องลอย ลืมกระทั่งว่าตัวเองเป็นใครมาทำอะไรที่นี่ ถูกทดแทนด้วยภาพของทุ่งดอกไม้หลากสี

ฉู่เหินรู้สึกราวกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกมันและสัมผัสได้ว่ากลิ่นหอมพวกนี้มันยอดเยี่ยมขนาดไหน

เขายืนอยู่ที่นี่อย่างเงียบๆ ผสานความรู้สึกเข้ากับพวกดอกไม้ ในเวลานี้ทั้งสามนั้นราวกับว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งในดอกไม้ไปแล้ว

ดอกไม้สีแดงและขาวนั้นช่างดูไกลแสนไกล แต่กลิ่นหอมกลับรุนแรงเหลือเกิน

แต่ในตอนที่เดินเข้าไป ความรู้สึกบางอย่างก็ก่อขึ้นมาในตัวของฉู่เหิน มีสายตาของใครบางคนนั้นกำลังจ้องมองมาทางพวกเขาจากด้านหลัง!

“โบตั๋น ฉันไม่คิดเลยว่าดอกไม้ของเธอจะได้ผลมากขนาดนี้ ถ้าปล่อยเอาไว้อีกไม่นานก็คงจะเสร็จเรียบร้อย ถ้าเขาตายไป งานที่หัวหน้ามอบหมายให้เราก็จะเสร็จสมบูรณ์” ชายร่างเตี้ยมองหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ และพูดออกมา

“ถึงจะมีกัน 3 ตัวแต่ก็อย่าหวังว่าจะรอดไปได้ล่ะ” โบตั๋น หญิงสาวสวมชุดขาวและผ้าคลุมหน้าสีดำ ทำให้มองไม่เห็นสีหน้าของเธอแต่ถ้าดูจากคำพูดแล้วเธอคงไม่ต่างอะไรกับฆาตกรโรคจิต!!!

“โบตั๋น ความเกลียดชังระหว่างเจ้านายกับเด็กคนนี้คืออะไรกัน ทำไมต้องให้พวกเขาตายด้วยล่ะ?”

“นั่นไม่ควรที่จะถามออกมานะ ยกเว้นว่านายไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว!” เธอปรายตาไปทางชายหนุ่มด้วยแววตาที่ดุร้าย

หากเป็นคนนอกมาเจอทั้งสองคงไม่มีใครรู้จักพวกเขา แต่ถ้าทั้งสองไปปรากฏตัวในดินแดนตะวัน บ้านทุกหลังรู้จักทั้งสองดี พวกเขาเป็นนักฆ่าจากกลุ่มนักฆ่าสวรรค์ที่หลายประเทศต้องการตัว โบตั๋นและโซ้วโหว พวกเขามาที่นี่เพื่อลอบสังหารฉู่เหิน

ในตอนที่ฉู่เหินเลี่ยงเข้ามาในภูเขา เขาก็โดนสะกดรอยตามตั้งแต่ตอนนั้นแล้วทั้ง 2 คนนี้เลยมาดักซุ่มโจมตีล่วงหน้า

“ดูสิเด็กคนนั้นค่อยๆ เหี่ยวแห้งไปเองช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ ทันทีที่เด็กนั่นตายไป เขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของดอกไม้พวกนี้” โบตั๋นพูดอย่างตื่นเต้น

หัวหน้าของพวกเขาให้สัญญาว่าถ้างานนี้สำเร็จ พวกเขาจะได้เลื่อนขั้น!!

ทุกอย่างนั้นดูดีไปหมด ต้องขอบคุณทุ่งดอกไม้ที่สวยงามเหล่านี้ ตอนนี้

ฉู่เหินใกล้ที่จะถึงฆาตแล้ว เขาควรที่จะไร้ความรู้สึกแล้ว แต่ในตัวของเขาเองตอนนี้มีความรู้สึกที่ไม่ยอมมาตายปรากฏขึ้นมา!

เขาเริ่มที่จะต่อต้าน แต่อีกด้านในจิตใจของเขามันกลับยอมแพ้แล้วให้เขายอมรับชะตากรรมนี้ซะ เพื่อจะได้อยู่ที่นี่ไปตลอดกาล

ตอนนี้ภาพในอดีตต่างๆ ค่อยๆ ทยอยเข้ามาในหัวฉู่เหิน ทั้งเสี่ยวชิง พี่ชายของเขา และสายตาของหวงลี่ลี่ที่จ้องมองเขา

ทันใดนั้นฉู่เหินก็รู้สึกตัวขึ้นมา ชีวิตที่รุ่งโรจน์นั้นเป็นสิ่งที่ต้องสู้ถึงจะได้มา ดังนั้นเขาจึงต้องสู้ต่อไป อย่างน้อยก็เพื่อคนรอบข้าง!

จิตใต้สำนึกของตัวเขา ความรับผิดชอบที่ฉู่เหินต้องการคือการปกป้องผู้อื่น เพื่อที่จะได้อยู่กับพวกเขาต่อไป!

เมื่อเขาคิดถึงเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา เขาก็รู้สึกว่าได้แก้ปมในใจที่มันค้างคาทันใดนั้นสภาพจิตใจของเขาก็พัฒนาขึ้น แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมเพราะขั้นตอนการพัฒนาจิตใจนั้นมันเป็นไปได้ยากมาก แต่ฉู่เหินรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อพลังดวงดาวและสภาพจิตใจของเขาแตกฉาน เขาก็จะทะลวงพลังเข้าสู่ขั้นเต๋า!

ในอีกฟากหนึ่ง โบตั๋นมองมาทางฉู่เหินด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ดอกไม้พวกนี้ไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง ถึงจะเป็นปรมาจารย์มาจากไหนก็ไม่เคยรอดออกไปจากทุ่งดอกไม้นี้ได้

แต่ตอนนี้ใบหน้าของเธอนั้นเริ่มที่จะเปลี่ยนไปเมื่อเธอเห็นว่าฉู่เหินมีท่าทีต่อต้าน แม้ว่าเธอจะควบคุมมันอยู่แต่ความไม่มั่นใจก็มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเธอไม่เคยเป็นมาก่อน

ฉู่เหินตื่นขึ้นมาได้ในที่สุด เขารีบเรียกหาสหายสี่เท้าทั้งสองผ่านทางจิต ทำให้ทั้งสองรู้สึกตัว ถ้าปล่อยเอาไว้นานกว่านี้พวกมันคงจะเฉาตายไปแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังมีท่าทีที่หวั่นกลัวอยู่ ฉู่เหินจ้องมองไปทางดอกไม้ที่อยู่ด้านหน้าอย่างเย็นชา มีใครบางคนกำลังเฝ้าดูเขาอยู่

เนื่องจากอีกฝ่ายใช้ทุ่งดอกไม้นี้จัดการเขา เพราะงั้นเขาจะทำลายดอกไม้พวกนี้ซะ!! ฉู่เหินเอาวัสดุชิ้นหนึ่งออกมาและปาใส่ในทุ่งดอกไม้

ทันทีที่ฉู่เหินปาบางอย่างลงไป ฝั่งโบตั๋นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและอยากไล่ฉู่เหินออกไปให้เร็วที่สุด

แต่ในขณะที่เธอกำลังจะไล่ฉู่เหินไป ทันใดนั้นเขาก็สะบัดมือแล้วตะโกนออกมาว่า ‘ระเบิด!’

หลังสิ้นเสียงของฉู่เหิน ทุ่งดอกไม้ที่เป็นอาวุธของโบตั๋นก็ระเบิดจนสิ้นซาก!