“เสนาบดีซุน เหรินหยาน ได้คิดก่อการกบฏ พวกเราทั้งสองคนต่างก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา!”

หลังจากออกจากที่พำนักของ เหรินหยาน ไม่นาน เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ก็มาถึงที่พักของซุนฮก

ซุนฮก ได้ถอนหายใจ และตอบกลับ”เดิมข้าต้องการให้โอกาสเขาเพื่อที่จะได้จากไปพร้อมกับชื่อเสียงที่ดีแต่ว่าตอนนี้ดูเหมือน…”

“เสนาบดีซุนท่านได้มอบโอกาสให้เหรินหยานแล้วแต่เขากลับไม่รับมันไว้เองในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ให้มันเป็นไปตามที่ควรเถอะ!”เหวิ่นอานและฮูหยินต่างก็ยิ้มอย่างขมขื่น

พวกเขาได้ต่อต้าน เจี๋ยสวี่ ในฐานะอัครมหาเสนาบดี และ เกาชุน ในฐานะแม่ทัพใหญ่ พวกเขามีเจตนาที่เห็นแก่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังมอบความภักดีให้แก่ลู่เฟิง

แต่เหรินหยาน เขาเลือกความเห็นแกตัวเป็นหลักโดยไม่สนใจสิ่งใด

สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังมาก

ซุนฮก ได้ยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและตอบกลับ”ถ้างั้นข้าจะเริ่ม…”

“รายงานท่านเสนาบดีซุน จินยี่เหว่ย ตรวจพบจดหมายลับถูกส่งออกจากบ้านพักของเหรินหยาน ข้าน้อยได้ส่งคนให้ไปดักรับไว้แล้วพบว่ามันถูกส่งออกไปให้กับเมิ่งอี้!”ในขณะนั้นเอง จินยี่เหว่ย ก็เดินเข้ามารายงาน

“อะไรนะ เมิ่งอี้ ?”

ใบหน้าของ ซุนฮก ได้เปลี่ยนไป เขารู้จักตัวตนของ เมิ่งอี้ น้องชายของแม่ทัพเมิ่งเถียนที่มีกองทัพ 500,000 นายอยู่ในกำมือ เหรินหยาน ต้องการจะทำอะไรกันแน่?

ซุนฮก ได้รับจดหมายจากจินยี่เหว่ยเมื่อเขาเห็นเนื้อหาด้านในเขาก็รู้สึกโกรธมาก”เหรินหยานสมควรถูกลงดาบนับพันครั้ง!”

เมื่อ เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปและกล่าวถามอย่างกังวล”เสนาบดีซุน มีอะไรงั้นหรือ?”

“เหรินหยาน ได้แอบสั่งศิษย์คนสนิทของตนเอง เมิ่งอี้ ให้ยึดอำนาจทางการทหารของ เมิ่งเถียน เพื่อบังคับให้ ฝ่าบาทสละราชสมบัติด้วยกองทัพ 500,000 นาย!”

“อะไรนะ?”

ใบหน้าของ เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ได้เปลี่ยนไปอย่างมากพวกเขาได้พูดอย่างประหลาดใจ”เหรินหยาน เขาเอาความกล้ามาจากไหน!”

“ข้าไม่รู้ว่า เหรินหยาน มีความกล้ามาจากไหน แต่ตอนนี้ พวกท่านอาวุโสทั้งสองคิดเห็นอย่างไร?”

“ตอนนี้ฝ่าบาทอยู่ที่ไหน?”

“สามสิบไมล์นอกเมืองหลวง!”

“พวกเราออกไปรับฝ่าบาทกันเถอะ!”

ซุนฮก ได้พยักหน้า พร้อมกับมองไปที่ จินยี่เหว่ย”สั่งให้ทหารทั้งหมดถอนออกจากจวนของเหรินหยาน แต่ให้ จินยี่เหว่ย คอยสอดส่องอย่างลับ ๆ และ ตรวจดูว่าจะมีจดหมายอื่นถูกส่งออกไปอีกหรือไม่”

“ขอรับ!”

“พวกท่านทั้งสองไปกันเถอะ!”

ซุนฮก ได้พา เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ขี้ม้าเร็วไปยังสถานที่ที่กองทัพของลู่เฟิงประจำการอยู่

“ข้าน้อย ซุนฮก”

“ข้าน้อย เหวิ่นอาน ,ฮูหยิน”

“ถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!”

พวก ซุนฮก ทั้งสามคนได้คุกเข่าลงบนพื้น

ลู่เฟิง มองไปที่ พวกเขาด้วยความประหลาดใจ เขาสงสัยว่า เหวิ่นอาน ฮูหยิน ขุนนางอาวุโสทั้งสองที่ไม่พอใจซุนฮกในฐานะเสนาบดีทำไมถึงมาที่นี่พร้อมกันได้

แต่เขาก็ยังหัวเราะออกมา”เอาล่ะไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอก!”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”

ทั้งสามคนได้ยืนขึ้นอย่างเคารพ

“เหวินยื่อ เจ้าพา อาจารย์เหวิ่นกับอาจารย์ฮู ออกจากเมืองหลวงมาหาข้ามีเรื่องอะไรงั้นหรือ?”ลู่เฟิงกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

“ฝ่าบาท ได้โปรดดูจดหมายฉบับนี้!”

ซุนฮก ได้ส่งจดหมายที่เหรินหยานแอบส่งออกไปให้กับ ลู่เฟิง

ใบหน้าของ ลู่เฟิงได้มืดมนลงทันทีที่เขาอ่านมันเขาได้เยาะเย้ยในใจและพูดว่า”ดูเหมือนว่า ขุนนางในราชสำนักของข้าจะเป็นเสนาบดีที่ดีจริง ๆ คิดจะก่อการกบฏบังคับให้ข้าสละราชสมบัติ!”

“อะไรนะ ใครกันขอรับที่มันกล้าหาญเช่นนี้กับพระองค์ ข้าจะเอาง้าวเล่มนี้ฟาดศีรษะของมัน!”ลิโป้ ที่ยืนอยู่ข้างเขาทันทีที่ได้ยินเขาก็โกรธทันที

ลู่เฟิง ได้โบกมือครุ่นคิดเล็กน้อยและมองไปที่ซุนฮก”มีใครรู้เรื่องจดหมายนี้อีกบ้าง?”

“มีเพียงข้า ท่านอาจารย์ทั้งสอง และ จินยี่เหว่ย ว่านหู่ แต่จินยี่เหว่ย ว่านหู่ ไม่ได้อ่านเนื้อหาของจดหมาย!”ซุนฮก ได้ตอบกลับ

ลู่เฟิง ได้พยักหน้าก่อนที่จะมองไปที่ เจี๋ยสวี่”เหวินเหอ เจ้าคิดว่ายังไง?”

เจี๋ยสวี่ ได้หยิบจดหมายขึ้นมาอ่านและครุ่นคิด”ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่าควรส่งจดหมายฉบับนี้ให้ถึงมือ เมิ่งอี้ ด้วยวิธีนี้เราจะได้เห็นว่า เมิ่งอี้ มีความภักดีต่อฝ่าบาท หรือว่า เหรินหยาน อาจารย์ของเขา”

“ถ้าเขาจงรักภักดีต่อฝ่าบาท พวกเราก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาในกองทัพ แต่ถ้า เมิ่งอี้ จงรักภักดีต่ออาจารย์ของเขา ข้าน้อยหวังว่าพระองค์จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ของเมิ่งเถียน!”

“ฝ่าบาท ข้าน้อยเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน!”ซุนฮกได้ตอบกลับด้วยความเคารพ”ด้วยวิธีนี้เท่านี้จะทำให้อาณาจักรของเราดีขึ้นได้ ฝ่าบาทโปรดอย่าได้ลังเล!”

“ข้าเป็นคนลังเลตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ลู่เฟิงได้ตอบกลับ”เหวินเหอ จัดการส่งจดหมายให้เมิ่งอี้ และ ลอบส่งข้อมูลนี้ให้กับ เมิ่งเถียน ข้าเชื่อว่าเมิ่งเถียน จะสามารถจัดการต่อจากนี้ได้!”

“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”

เจี๋ยสวี่ ได้จากไปทันที

ลู่เฟิง ได้หันหน้าไปมอง ซุนฮก และกล่าวถาม”เหวินยื่อ มีพวกหนอนโผล่หัวออกมาบ้างหรือไม่?”

ซุนฮก ได้พยักหน้า”ฝ่าบาท ตอนนี้พวกเราได้ข้อมูลที่แน่ชัดแล้ว มีข้าราชบริพารกว่า 30 คน ได้แอบส่งข้อมูลกบฏอย่างลับ ๆ กับคนของตนเอง”

“มีหลักฐานหรือไม่?”

“ขอรับ”

“เอาล่ะ ฆ่าให้หมด และ บอกหลักฐานทั้งหมดให้โลกรู้!”

“ขอรับ!”

ซุนฮก ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและมองไปที่ลู่เฟิง”ฝ่าบาท พระองค์คิดจะทำอะไรกับเหรินหยาน จะจัดการเขาอย่างลับ ๆ หรือประกาศความชั่วร้ายของเขาออกมา?”

ลู่เฟิง ได้มองไปที่ เหวิ่นอานและกล่าวถาม”อาจารย์เหวิ่น ท่านเป็นเสนาบดีกรมอาญาท่านคิดเห็นอย่างไร?”

เหวิ่นอานตอบกลับทันที”ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่าพวกเราควรพิจารณาคดีขึ้นตามกฏบัญญัติของราชสำนักสมาชิกตระกูลจิ่วทั้งหมดจะต้องได้รับโทษ!”

“ข้าน้อยก็เห็นด้วยพะยะค่ะ!”ฮูหยินตอบกลับ

เมื่อได้ยินดังนั้น ลู่เฟิง ก็เข้าใจทันที เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ไม่เหมือนกับ เหรินหยาน พวกเขาเป็นห่วงอาณาจักรและภักดีต่อตัวเขามาก ดังนั้น เขาจึงตอบกลับ”เรื่องนี้ต้องรบกวนอาจารย์เหวิ่นแล้ว อย่าได้ทำให้ข้าผิดหวัง!”

“ขอให้ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวัง!”

“เช่นนั้นรอให้ข่าวไปถึงเมิ่งอี้ก่อนพวกเราค่อยจัดการเรื่องนี้กันทีหลัง!”

“ขอรับ!”

เจี๋ยสวี ได้สั่งให้คนรีบเร่งไปยังที่ประจำการนอกหุบเขาหยางผิง และ ขอให้คนส่งจดหมายให้กับเมิ่งอี้

ในเวลาเดียวกันเขาก็ไปถึงค่ายทหารที่เกาชุนและเมิ่งเถียนรออยู่

“ข้าน้อยทักทายอัครมหาเสนาบดีเจี๋ย!”เมิ่งเถียน ได้กล่าวด้วยความเรารพ

“เหวินเหอ ข่าวจากจินยี่เหว่ยนี้เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?”เกาชุนได้มองไปที่ เจี๋ยสวี่

เมิ่งเถียน ก็กังวลมากเช่นเดียวกัน เพราะ จินยี่เหว่ย ได้ส่งข่าวมาบอกทั้งสองคนอยู่ก่อนแล้ว

เจี๋ยสวี่ ได้พยักหน้าและตอบกลับ”เรื่องนี้ได้รับการยืนยันแล้ว มารอดูท่าทีของเมิ่งอี้กันก่อนเถอะ!’

เมิ่งเถียน ได้ยิ้มอย่างขมขื่น เขาเพียงหวังว่าน้องชายของเขาจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ มิฉะนั้นเขาที่เป็นพี่ชายจะฆ่าน้องชายด้วยเงื้อมมือของตนเอง

ในขณะเดียวกัน เมิ่งอี้ ที่ได้รับจดหมาย เขาก็อ่านเนื้อหาข้างในและนิ่งเงียบเป็นเวลานาน การแสดงออกของเขาซับซ้อนอย่างมาก