บทที่ 134 ดูพ่อคนอื่นสิ!
บทที่ 134 ดูพ่อคนอื่นสิ!
ภายในห้องเรียน
ผู้ปกครองของนักเรียนหลายสิบคนนั่งถัดจากลูก ๆ ของพวกเขา สายตาก็จ้องมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยราวสี่ห้าคนซึ่งกำลังย้ายกล่องเก็บอุณหภูมิเข้ามาในห้องเรียน
พวกเขาไม่รู้ว่าโรงเรียนนี้กำลังทำอะไร!
พวกเขาไม่เคยพบสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ครั้นมีคนถามขึ้นแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจปัญหานี้อีกต่อไป แต่เปลี่ยนหัวข้อเป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นหน้าประตูโรงเรียน
“คนพวกนั้นกล้าที่จะลักพาตัวเด็กกลางถนนทั้ง ๆ ที่มีกล้องวงจรปิดอยู่มากมายเนี่ยนะ พวกเขากล้าขนาดนี้ได้ยังไง?”
“ใช่ อุกอาจและน่ากลัวเกินไป! โชคดีที่มันไม่ได้เกิดขึ้นกับเรา ไม่อย่างนั้นฉันคงบ้าตาย”
“แล้วเด็กที่ถูกลักพาตัวไปหาเจอแล้วหรือยัง”
“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฉันเห็นพวกตำรวจและรปภ.ไล่กันจ้าละหวั่น อีกเดี๋ยวคงได้เรื่อง”
“บังเอิญฉันเห็นว่าพ่อของเหมียวเหมี่ยวเป็นคนวิ่งไล่คนแรกเลย”
“พ่อของเหมียวเหมี่ยว?”
ผู้ปกครองพูดคุยกันและในที่สุดก็มองไปที่ถังเหมียวเหมี่ยวซึ่งนั่งอยู่คนเดียวในเวลานี้
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นพ่อแม่ของถังเหมียวเหมี่ยวมาร่วมการประชุมผู้ปกครอง แต่พวกเขาก็เคยเห็นพ่อของถังเหมียวเหมี่ยวมารับเธอที่โรงเรียน
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าแม่ของถังเหมียวเหมี่ยวคือถังหว่านซึ่งเป็นดาราดัง แต่ไม่มีใครรู้ว่าข่าวลือนั้นจริงหรือไม่
“เหมียวเหมี่ยว พ่อของหนูเป็นคนช่วยชีวิตเด็กคนนั้นจริง ๆ เหรอ” หญิงวัยกลางคนข้าง ๆ ถามด้วยความสงสัย
“ใช่!” ถังเหมียวเหมี่ยวพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นพ่อของหนูก็กล้าหาญมาก” หญิงวัยกลางคนหยิบอมยิ้มออกมาและใส่ไว้ในมือของ ถังเหมียวเหมี่ยว
“ขอบคุณคะคุณป้า พ่อหนูเป็นซูเปอร์แมน เขาต้องช่วยชีวิตเด็ก ๆ ทุกคนอยู่แล้ว” ถังเหมียวเหมี่ยวกล่าวอย่างมีความสุข
คำพูดของเด็กน้อยสร้างเสียงหัวเราะขึ้นมาในทันที
ไม่ว่าพวกเขาจะรู้จักโจวอี้หรือไม่ก็ตาม แต่พวกเขาก็เคารพในความกล้าหาญของโจวอี้
ระหว่างรอก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา
ผู้ปกครองบางคนรู้จักเฉินเยว่ฉินซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาล พวกเขาแปลกใจที่ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลพาคนมามากมาย
ครั้นทุกคนเข้ามาในห้องเรียนแล้ว เฉินเยว่ฉินก็โบกมือให้โจวอี้นั่งลง จากนั้นก็เดินไปหาผู้ปกครองและเด็ก ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเฉินเยว่ฉิน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนานาชาติเหิงปางซื่อ ขอบคุณทุกคนที่มางานประชุมผู้ปกครองในครั้งนี้”
“วันนี้มีบางอย่างพิเศษเกิดขึ้นที่ประตูโรงเรียนของเรา”
“แต่เพราะว่าพ่อของถังเหมียวเหมี่ยวในชั้นเรียนของเราไล่ทันคนที่ลักพาตัวเด็กอย่างกล้าหาญ และยังปราบพวกเขาได้ จนช่วยเหลือเด็กที่ถูกลักพาตัวกลับคืนมาได้สำเร็จ ทำให้ไม่มีเรื่องเลวร้ายบานปลายเกิดขึ้น”
“พวกเราช่วยกันแสดงความยินดีกับฮีโร่กันเถอะ!”
เธอเป็นผู้นำในการปรบมือ
ผู้ปกครองในห้องเรียนต่างก็ปรบมือตามด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง
โจวอี้รีบลุกขึ้นและจับมือกับผู้ปกครองที่อยู่รอบตัวเขา จากนั้นเขาก็นั่งลงอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“พ่อเยี่ยมมาก!” ถังเหมียวเหมี่ยวกอดคอของโจวอี้และจูบเขาอย่างแรงบนใบหน้า
“พ่อเป็นซูเปอร์แมน และลูกสาวของพ่อ ถังเหมียวเหมี่ยวก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน อันที่จริงลูกสามารถเป็นซูเปอร์วูเมนได้เมื่อลูกโตขึ้น” โจวอี้อุ้มลูกสาวไว้ในอ้อมแขนของตัวเองและพูดด้วยรอยยิ้ม
“เย้ เย้ เราทุกคนจะเป็นซูเปอร์แมน เราจะจัดการคนชั่วและช่วยเหลือพวกเด็ก ๆ” ถังเหมียวเหมี่ยวพยักหน้าอย่างไร้เดียงสาและยิ้มอย่างสดใส
หลายคนได้ยินบทสนทนาระหว่างพ่อกับลูกสาว พวกเขาต่างพากันหัวเราะในความน่าเอ็นดูของคู่พ่อลูก
เฉินเยว่ฉินรอจนกระทั่งเสียงหัวเราะลดลง จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่กล่องเก็บอุณหภูมิจำนวนมากที่ส่งเข้ามาในห้องเรียนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เนื่องจากหมอโจวเพิ่งมาถึงเมืองจินหลิง ก่อนหน้านี้เขาจึงไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมผู้ปกครองได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการทักทายสำหรับการเจอกันครั้งแรกกับทุกคน หมอโจวจึงทำเค้กด้วยตัวเอง และต้องการแบ่งปันกับทุกคน”
“ทุกคนโปรดแสดงความขอบคุณต่อหมอโจวด้วยค่ะ!”
ทันใดนั้นเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอีกครั้ง
โจวอี้ได้รับความนิยมจากทุกคนมากขึ้น
เพียงไม่นาน จานขนมก็ถูกจัดวางบนโต๊ะ เค้กหลากสีสันรูปนักษัตรจีนทำให้เด็ก ๆ หลายคนตาเป็นประกาย แม้แต่พ่อแม่เด็กก็ยังแปลกใจ
เฉินเยว่ฉินเป็นผู้นำในการชิมเค้ก หลังจากทุกคนชิมตามแล้วก็พากันประหลาดใจ
เค้กนี้มีความประณีตและรสชาติดีเยี่ยม โดยเฉพาะรสชาติของเค้กแต่ละราศีซึ่งจะมีความแตกต่างกัน และยังทำมาจากวัตถุดิบที่ไม่เหมือนกันอย่างเห็นได้ชัด
“คุณพ่อเหมียวเหมี่ยวทำขนมพวกนี้ด้วยอะไรเหรอ?” หญิงวัยกลางคนที่อยู่ใกล้ ๆ ถามด้วยความสงสัย
“ใช่! เค้กสัตว์แต่ละชนิดมีรสชาติที่แตกต่างกันและอร่อยมาก คุณทำมันได้ยังไง?”
โจวอี้ยิ้มให้กับคำถามของทุกคนและพูดว่า “มีส่วนผสมมากมายเกือบสามสิบชนิด ผมคงพูดทุกอย่างตอนนี้ไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากจะเรียนรู้วิธีทำขนมชนิดนี้ ผมจะเขียนส่วนผสมที่จำเป็นและขั้นตอนการทำให้ในภายหลังก็แล้วกันครับ”
ขณะเดียวกัน จางหลงหลงที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านหลังก็กำลังกินเค้กด้วยแววตาเป็นประกาย
“กินช้า ๆ ไม่มีใครแย่งลูกหรอก” จางเฉามองดูพฤติกรรมของลูกชายที่เหมือนผีหิวโหย เขาทั้งโกรธและตลกไปพร้อม ๆ กัน
ภรรยาของเขาทำอาหารเช้ามากมายในตอนเช้า แต่ลูกชายกลับแทบไม่กินมันเลย ทว่าตอนนี้กลับมากินเค้กของคนอื่นอย่างมูมมาม
คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกฉันเลี้ยงดูลูกชายไม่ดี ให้อดมื้อกินมื้อแน่ ๆ!
“อร่อยสุด ๆ!”
จางหลงหลงกลืนเค้กเข้าปากแล้วพูดออกมาเสียงดัง “พ่อ ดูพ่อของถังเหมียวเหมี่ยวสิ ทำเค้กอร่อยมากเลย ทำไมพ่อไม่ทำแบบนี้บ้างล่ะ”
“พ่อ…” เมื่อจางเฉาเห็นสายตาคาดหวังของลูกชายตัวเองแล้ว ใบหน้าของเขาก็แดงขึ้นมาด้วยความละอาย
ไอ้เจ้าลูกบ้านี่ ทำไมช่วงนี้ชอบเปรียบฉันกับพ่อคนอื่นอยู่เรื่อยเลย!?
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ห้องเรียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
เด็ก ๆ พูดคุยกันอย่างอิสระ
ทุกคนคิดว่าจางหลงหลงช่างเป็นเด็กแสบที่สร้างความละอายใจให้กับพ่อของตัวเอง
โจวอี้ได้ยินคำพูดของจางหลงหลง เขารู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากใจของจางเฉา เขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อันที่จริงผมยังเตรียมชาสมุนไพรให้ทุกคนด้วย มันไม่เพียงช่วยดับกระหายเท่านั้น แต่ยังทำให้ปอดของพวกคุณสดชื่น และรสชาติของมันก็ดีมาก ๆ”
หลังจากพูดจบ โจวอี้ก็แอบกระซิบสองพ่อลูกที่คุ้นเคยให้ออกไปข้างนอกเพื่อนำชาสมุนไพรจากกระติกน้ำร้อนเข้ามา
“พ่อเหมียวเหมี่ยว ชาสมุนไพรนี้เป็นยาเหรอครับ? ถ้างั้นเราสามารถดื่มมันได้อย่างปกติเลยเหรอ?” ผู้ปกครองคนหนึ่งถามขึ้น
“ดื่มได้เลยครับ แม้ว่ามันจะเรียกว่าชาสมุนไพร แต่ผมใช้วัตถุดิบหลายอย่างที่ดีต่อสุขภาพของ ผู้ใหญ่ เด็ก หรือผู้สูงอายุเองก็สามารถดื่มได้และไม่มีผลข้างเคียง” โจวอี้ยิ้ม
จู่ ๆ เขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา เขาตบหน้าผากตัวเองและยิ้มก่อนจะพูดว่า “ผมลืมแนะนำตัวเอง แต่พวกคุณน่าจะได้ยินจากคุณเฉินแล้ว ผมเป็นหมอในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง ถ้าพวกคุณมีอาการปวดหัวปวดตัวทั่วไป พวกคุณไม่จำเป็นต้องกินยาและฉีดยาอีกต่อไป แค่ส่งข้อความมา แล้วผมจะสอนวิธีทำยาและชาซึ่งมันดีกว่ากินยาและฉีดยาซะอีก”