“งั้นคำถามสุดท้าย”

เซเลสทีเนียพูดขณะที่เธอมองมาที่ผมด้วยสีหน้าจริงจัง ทัศนคติที่ขี้เกียจและสบายๆ ของเธอหายไปแล้ว เป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่เราเริ่มแข่งกันและเราได้ถามคำถามกันและกันซ้ำแล้วซ้ำอีก จนตอนนี้เรามาถึงทางตันแล้ว เซเลสทีเนียที่มีความรู้อันยอดเยี่ยมของเธอได้ลองถามคำถามด้วยท่าทางที่ซับซ้อนและรวบรัดมากมาย แต่ผมก็ตอบทั้งหมดได้อย่างใจเย็น

สีหน้าเยาะเย้ยก่อนหน้านี้ของเธอไม่มีอีกแล้ว ตอนนี้เธอมองผมในฐานะผู้เท่าเทียม ไม่ใช่ในด้านกำลัง แต่ในฐานะนักวิชาการ รู้ใช่ไหมว่าผมแน่ใจว่าเธอต้องคิดว่าผมต้องเป็นคนที่โต้แย้งเธอด้วยความรู้แน่ๆ ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากความจริง

ในเกมมีตัวเลือกที่เด้งขึ้นมาให้ผมเลือก แม้ว่าผมจะฉลาด แต่ผมก็ไม่ได้มีหน่วยความจำประจำตัวที่จะจดจำพวกมันได้ทั้งหมดและแม้ว่าผมจะจำมันได้ทั้งหมด ผมก็ไม่สนใจที่จะทำตามพวกมัน โลกนี้ไม่ใช่เกมที่ตัวเลือกของผมมีจำกัด ผมมีอิสระอย่างแท้จริงและเส้นทางที่ผมใช้เพื่อทำให้สาวๆ เหล่านั้นตกหลุมรักผมก็แตกต่างออกไป

ฉันหมายถึงในฐานะเด็กเนิร์ดตัวเล็กๆ ผมได้ค้นคว้าเกี่ยวกับรายละเอียดสนุกๆ และประวัติศาสตร์ของโลกในตอนที่ผมเล่นเกม แต่การอ่านชีวประวัติที่น่าเบื่อเกี่ยวกับราชาผู้ล่วงลับนั้น….ใช่แล้ว ผมไม่ได้ว่างขนาดนั้น เช่นเดียวกับวิธีที่ผมตอบ คำถามของเธอ ก็ระบบเพื่อนเก่าเป็นสถานที่ที่ดีในการจัดเก็บ, ซื้อและดูข้อมูลอย่างแท้จริง

ผมหันกลับมาสนใจที่เซเลสทีเนียซึ่งใช้เวลาคิดทบทวนสักครู่ก่อนที่เธอจะถามขึ้นมา

“ซิงเกอร์กินช์, แบลงค์เกอร์โรธ, ไมลี่วิสเคอเรสและเกลือโฮลิอารีส ส่วนผสมเหล่านี้ใช้เพื่อการสร้างเม็ดเลือดที่ถูกลืมประเภทไหน?”

คำถามสุดท้ายค่อนข้างยุ่งยาก ดังนั้นผมจึงทำเหมือนว่ากำลังดำดิ่งลงไปในความคิดแม้ว่าเวลาจะผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็ยิ้มให้เซเลสทีเนียก่อนจะตอบเธอ

“เป็นคำถามที่ค่อนข้างยากเลยนะครับคุณผู้หญิงลึกลับ เกลือโฮอารีสไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง แต่มีไว้สำหรับพิธีกรรมแห่งพระพิโรธของกษัตริย์ ที่ถูกต้องคือน้ำนมของโฮอารีสต่างหาก”

หลังจากผมพูดจบ ผมก็เอนหลังพิงเก้าอี้ขณะที่มองไปที่เซเลสทีเนีย เธอก็เอนหลังเช่นกันขณะที่หลับตาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็เปิดมันกลับด้วยความสงบตามปกติ เธอมองมาที่ผมก่อนจะพูด

“เสมอ…งั้นเหรอ?’

“คงงั้น”

ผมพยักหน้าตอบเธอ แค่ได้เสมอก็เกินพอแล้ว อันที่จริงนั่นคือเป้าหมายของผม 

เซเลสทีเนียมองมาที่ผมครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพูดอีกครั้ง

“ที่จริงฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอคนที่อายุเท่ากัน มันเซอร์ไพรส์จริงๆ”

“ผมต้องเห็นด้วยกับเธอในเรื่องนี้ ผมเคยคิดว่ามีเพียงเซลีน นักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่จะสามารถแข่งขันกับผมได้”

ขณะที่ผมพูดถึงเซลีน น้ำเสียงของผมก็เจือด้วยความชื่นชม เมื่อได้ยินอย่างนั้นดวงตาของเซเลสทีเนียก็เบิกบานขึ้นด้วยความสนุกสนาน หลังจากที่ได้ผูกสัมพันธ์กับผมแล้วอารมณ์ของเธอก็ไม่ค่อยดีนัก ในความภาคภูมิของเธอบอบช้ำเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินผมพูดถึงชื่อที่ลับของเธอ เธอก็มองมาที่ผมด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความขบขัน น้ำเสียงของเธอแผ่ซ่านขณะที่เธอพูดกับผม

“โอ้~~ เมื่อได้เห็นความรู้ของนาย ฉันคิดว่านายคงคิดว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะนายได้สินะ”

“ไม่หรอก ผมไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเซลีน ผมชื่นชมการอ่านและศึกษาสิ่งเหล่านั้น แต่ไม่มีทางที่ผมจะรับมือกับการถอดรหัสจำนวนมหาศาลเช่นนั้นได้ ผมอยากจะพบเขา/เธอในสักวันหนึ่งจริงๆ”

เมื่อผมพูดคำสุดท้าย มันเต็มไปด้วยความโหยหา 

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ความสุขเล็กน้อยก็เติบโตขึ้นในใจของเซเลสทีเนียการได้รับคำชมอย่างจริงใจ(?)สำหรับความพยายามของเธอจากนักวิชาการคนอื่น ทำให้เธอรู้สึกประสบความสำเร็จมากขึ้น 

เซเลสทีเนียยิ้มเยาะขณะที่ตอบกลับมา

“ก็จริงที่เซลีนนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันก็ทึ่งในตัวนายด้วยเช่นกัน ใครจะคิดว่าฉันจะได้พบกับนักวิชาการที่มีความสามารถเช่นนายที่นี่ มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่สนุกจริงๆ”

“ใช่ จริงของเธอ ผมก็สนุกกับการแลกเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ของเราเหมือนกัน”

เซเลสทีเนียพยักหน้าและเห็นด้วยกับคำพูดของผม นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำสิ่งนี้และเธอต้องบอกว่าเธอสนุกกับมันมาก ผมยกมือขึ้นเพื่อขอจับมือขณะที่พูด

“ถึงเราจะคุยกันจนถึงตอนนี้ แต่ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย ผมชื่อออสติน ไลออนฮาร์ทและการใช้เวลากับเธอมันช่างสนุกจริงๆ คุณผู้หญิง”

มีการหยุดชั่วคราวเมื่อเซเลสทีเนียมองระหว่างมือและใบหน้าของผมอยู่พักหนึ่ง 

เธอไม่เคยติดต่อกับผู้ชายคนอื่นอย่างจริงจังมาก่อนและเขาเป็นคนแรกที่เธอติดต่อด้วย เธอไม่เคยเจอผู้ชายที่ทำให้เธอพึงพอใจเลย 

ผมบอกได้เลยว่าจนถึงตอนนี้ทุกสิ่งที่ผมแสดงไปนั้นสร้างความประทับใจให้กับเธอมากจริงๆ เวลาค่อยๆ ผ่านไปขณะที่บรรยากาศเริ่มอึดอัด และในขณะที่ผมกำลังจะดึงมือกลับ เซเลสทิเนียก็จับมัน

“เรียกฉันว่าคุณผู้หญิงลึกลับแล้วกัน ยินดีที่ได้รู้จัก”

ผมไม่สามารถสัมผัสมือของเธอได้เป็นเวลานานในขณะที่เธอหยิบมันขึ้นมาหลังจากเขย่าเพียงครั้งเดียว แต่ผมก็ไม่ได้สนใจมันในขณะที่มองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของเซเลสทีเนีย ผมก็พูดขึ้นมา

“งั้นคุณผู้หญิงลึกลับ ดูเหมือนว่าเราทั้งคู่ต่างก็แพ้และชนะ งั้นเรามาบอกเรื่องเกี่ยวกับตัวเรากันไหม?”

“แน่นอน ฉันไม่รังเกียจ”

เซเลสทีเนียตอบกลับโดยไม่ลังเล ดังนั้นผมจึงเป็นผู้นำ

“สิ่งหนึ่งที่เกี่ยวกับผมคือผมไม่ชอบของหวานมากเกินไป”

“โอ้~ ช่างบังเอิญเหลือเกินที่ฉันชอบของหวานเป็นพิเศษ”

“ดูเหมือนว่าเธอจะยังมีความขุ่นเคืองใจอยู่เหรอ?”

“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร~”

ผมส่ายหัวก่อนจะตอบกลับเธอ

“งั้นก็ไม่เป็นไร ผมมีความสุขมากที่ได้พบกับนักวิชาการผู้รอบรู้เช่นนี้ เธอยินดีจะพูดคุยกันต่อไหมคุณผู้หญิงลึกลับ?”

“แน่นอน ฉันอยากจะแสดงให้นายเห็นถึงความแตกต่างระหว่างเรา”

“ถ้าไม่ใช่เพราะลิ้นพิษร้ายของเธอ ผมคงบอกว่าเธอน่ารักไปแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะปลอมตัวมาก็ตาม”

“งั้นเหรอ! ออสตินผู้ยิ่งใหญ่อาจจะคิดว่าฉันน่ารัก ฉันมีช่างความสุขเหลือเกิน~~”

“ดูเหมือนว่าเธอกำลังมองหาการเอาชนะอยู่นะ”

เราทั้งคู่ได้พูดคุย, แซะกัน, แลกเปลี่ยนและผลักดันอุดมคติของเราให้กันและกัน เราหมกมุ่นอยู่กับการสนทนามากจนเวลา 3 ชั่วโมงผ่านไปในพริบตา

“อ๋าาา~~ นี่เป็นหนึ่งในการพูดคุยที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเลย”

เซเลสทีเนียพูดขณะที่เธอเอนตัวไปที่เก้าอี้และเช็ดเหงื่อในจินตนาการของเธอ 

ผมเองก็ผงกศีรษะพร้อมกับเช็ดเหงื่อจริงๆ เช่นกัน การติดตามสัตว์ประหลาดตัวนี้ด้วยความช่วยเหลือจากระบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 

ผมเอนตัวก่อนจะพูดขึ้นมา

“อืม คุณผู้หญิงลึกลับ ผมต้องบอกเลยว่านี่เป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ แต่เวลาของผมหมดลงแล้ว พรุ่งนี้เราพบกันที่นี่เวลาเดิมได้ไหม?”

เซเลสทีเนียเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อนึกถึงคำพูดของผม เธอชอบโต้เถียงกับผมจริงๆ และไม่ใช่ทุกวันที่เธอจะพบคนที่สามารถพูดคุยกับเธอแบบนี้ได้ ดังนั้นเธอจึงคิดทบทวนตามที่ผมพูด

“ได้สิ ครั้งหน้าฉันจะเอาชนะนายให้ได้”

“แล้วผมจะคอยดูวันนั้น”

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต