ตอนที่ 19-1 อุบัติเหตุ

แม่นมของคุณชายหมินเต๋อ รีบคุกเข่าลงในทันที

“ฮูหยินใหญ่ ในช่วงบ่ายข้าได้พาคุณชายหมินเต๋อออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในสวน

แต่คุณชายหมินเต๋อได้หายตัวไป ข้าตามหาไปทั่วทุกที่แล้วก็ยังหามิเจอ เหลือเพียงสถานที่แห่งนี้เท่านั้นที่ยังมิได้เข้ามาค้นหา”

คิ้วของหลี่เสี่ยวหรันขมวดมากขึ้น

สะใภ้สามมิมีบุตรสืบสกุล ในตอนนี้มีเพียง หลี่หมินเต๋อ ผู้ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมผู้เดียวเท่านั้น

หากมีอันใดเกิดขึ้น ก็มิแน่ว่าโจวชิจะทนได้หรือไม่ ในขณะที่เขาครุ่นคิด จึงเอ่ยถามขึ้นว่า

“ฮูหยินสามทราบเรื่องนี้หรือยัง”

ใบหน้าของแม่นมผู้นั้นซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

“ยังมิทราบ ข้ามิกล้าบอกนาง บ่าวเกรงว่า ฮูหยินสามจะทนมิไหว

ข้าจึงบอกกับนางไปว่า ท่านย่าใหญ่เรียกหมินเต๋อเข้าไปพบ”

หลี่เสี่ยวหรันรู้ดีว่า เด็กผู้นี้มีความสำคัญต่อโจวชิมากเพียงใด จึงสั่งให้คนรับใช้ทั้งหมดรีบค้นหาตัวเขาให้พบ

มุมปากของหลี่ฉางซียกขึ้นเล็กน้อย และกล่าวว่า

“ถูกต้อง เราต้องค้นหาอย่างละเอียด แต่…เอ..จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า เขาอาจลื่นตกลงไปในสระในคืนที่มืดมิดนี้”

หลี่เสี่ยวหรันหันไปมองนางอย่างเคร่งเครียด

“เจ้าเป็นพี่สาวแบบไหนกัน มิช่วยค้นหาแล้วยังจะมาแช่งน้องชายอีก? อย่ากล่าวเช่นนี้อีก!”

“ท่านพ่อ ข้าก็แค่เป็นห่วงน้องหมินเต๋อ มิมีเจตนาที่จะกล่าวอันใดที่ไร้สาระ!”

หลี่ฉาวซีตอบกลับด้วยความรวดเร็ว

หลี่เสี่ยวหรันกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า

ฮูหยินใหญ่มองไปผืนน้ำที่ราบเรียบและสงบนิ่ง ขณะที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า

“ท่านพี่ สิ่งที่ลูกห้ากล่าวนั้น อาจจะมีโอกาสเป็นไปได้.

เมื่อปีที่แล้วบุตรชายคนเล็กของ

จ้าวหยูฉีตกลงไปในสระน้ำ ในตอนที่เขากำลังเดินเล่นอยู่ที่ขอบสระ ?

ที่นี่มีผู้คนช่วยตามหามากมายแล้ว เราควรมุ่งหน้าไปที่ตำหนักหนานหยวนเพื่อพักผ่อน และรอดูสถานการณ์ที่นั่นจะดีกว่า”

หลี่เสี่ยวหรันมิอยากจะเชื่อเลยว่าจะมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นมากมายในช่วงมืกี่วันมานี้

เขาเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น ขณะที่ผงกศีรษะ และเดินไปที่ตำหนักหนานหยวน

ในขณะเดียวกันนั้น ฮูหยินใหญ่ได้ออกคำสั่งว่า

“ค้นหาพื้นที่บริเวณรอบ ๆ สระน้ำอย่างละเอียดด้วย”

จากนั้นนางจึงทำท่าทางบางอย่างเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้กับหลี่ฉางซี

และหลี่ฉางซีเข้าใจถึงความหมายนั้นในทันที

“ท่านแม่มิต้องเป็นกังวล ข้าจะตามหา

หมินเต๋อให้พบ”

จากนั้นฮูหยินใหญ่จึงเดินมุ่งหน้าไปยังตำหนักหนานหยวนด้วยความพึงพอใจ

หลี่ฉางซีเริ่มวางอำนาจ โดยการยกคางขึ้น เชิดหน้า และคำรามออกมาอย่างหยิ่งผยอง

“พวกเจ้าทุกคนรีบค้นหาบริเวณตรงนั้นด้วย!”

ขณะนั้นทุกคนจึงเริ่มค้นหาตามป่าหญ้า และสระน้ำในทันที

พวกเขาถือตะเกียงเดินไปบริเวณโดยรอบ และตะโกนร้องเรียกชื่อของหมินเต๋อซ้ำแล้วซ้ำอีก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้ว ก็ยังมิพบร่องรอยแต่ประการใด

จากนั้นสักครู่ใหญ่ ได้มีเสียงของผู้ใดสักคนตะโกนขึ้นด้วยความตกใจว่า

“นี่มันรองเท้าของคุณชายหมินเต๋อนี่!!”

คนผู้นั้นหยิบรองเท้าที่ลอยขึ้นมาจากน้ำ และถือราวกับว่ามันเป็นอัญมณีล้ำค่า จากนั้นจึงส่งมอบมันให้กับหลี่ฉางซี

หลี่ฉางซีพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า

“โอ้ ดูเหมือนว่า หมินเต๋อจะตกลงไปในน้ำจริง ๆ ด้วย รีบค้นหาอีกครั้ง เร็วเข้า!”

ตอนนี้ในหัวของนางกำลังคิดถึงสิ่งที่หญิงสาวสองคนกล่าวว่า พวกเขาได้โยนศพลงไปในสระน้ำแล้ว

มันต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งที่นี่ และในมิช้าร่างกายนั้นควรจะลอยขึ้นมา

หลี่ฉางซีสั่งให้ผู้คนค้นหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน และพวกเขาก็ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

หลี่ฉางซียืนรอที่จุดนั้น เป็นเวลานานมากจนกระทั่งนางเริ่มหมดความอดทน และเกิดความเบื่อหน่าย

เมื่อกำลังมองไปบริเวณโดยรอบ และมิทราบด้วยสาเหตุใด นางได้ลื่นล้มลง

ฉางซีตะโกนร้องออกมาด้วยความตกใจ และเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมาก จนนางมิทันได้จับโขดหินเอาไว้

ในตอนนี้ ทุกคนเห็นว่า ร่างของนางกำลังจมลงไปในสระน้ำแห่งนี้

ฉางซีเติบโตในเมืองหลวง นางมีชีวิตที่สุขสบายและหรูหราในฐานะคุณหนูของตระกูลหลี่ จึงทำให้ว่ายน้ำมิเป็น

ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่นางสามารถทำได้ก็คือ การกวักน้ำไปรอบ ๆ และพยายามตะเกียกตะกายอย่างสุดชีวิต

และขณะนี้ มีความรู้สึกราวกับว่า มีมือคู่หนึ่งจับที่ข้อเท้า และกำลังดึงร่างของนางลงไปที่ก้นสระ

จิตใจของนางว่างเปล่า ขณะที่กรีดร้องอยู่ใต้ผิวน้ำ และสิ่งนี้เป็นผลให้น้ำได้ทะลักเข้าไปในปอด

นางมีความรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ในตอนนี้วัชพืชในสระน้ำได้พันกันยุ่งเหยิงรอบตัวนาง ทำให้ต้องดิ้นรนอย่างหนัก

เป็นผลให้ฉางซีได้พบว่า ตนเองมีความสับสน ตกใจ และมีอีกหลายอารมณ์เข้ามารวมกันอยู่ในหัวของนางในขณะนี้

และในตอนนี้ มันดำเนินมาถึงจุดที่นางเริ่มหายใจมิออก และหมดเรี่ยวแรงที่จะดิ้นรนอีกต่อไป

ขณะที่อยู่ใต้ผิวน้ำนั้น มีความรู้สึกเหมือนกับว่า ได้เห็นใบหน้าที่ขาวซีดของผู้ใดบางคน แต่มันได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว

มันรวดเร็วมากเสียจนมิมีโอกาสได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบ ราวกับว่ามันเป็นเพียงจินตนาการของนางเอง

ในตอนนี้ร่างของนางจมดิ่งลงไปลึกถึงก้นสระแล้ว

ในขณะเดียวกันบนฝั่งผู้คนต่างก็ตะโกนออกมาด้วยความพร้อมเพรียงกัน

“เร็วเข้า! เร็วเข้า! รีบไปช่วยคุณหนูห้า เร็วเข้า!”

ภายในมิกี่อึดใจต่อมา คนรับใช้มาก มายได้วิ่งเข้ามาบริเวณมี่เกิดเหตุ

แต่ทุกคนยังคงมีความลังเลที่จะกระโดดลงไปช่วย

เพราะต่างก็รู้ดีว่า ร่างกายของคุณหนูห้ามีค่าเพียงใด

หากนางถูกสัมผัสโดยชายผู้ที่มิคู่ควรกับสถานะของนาง ความตายคงจะเป็นทางออกเดียวสำหรับชายผู้นั้น

ในท้ายที่สุด มีแม่นมผู้หนึ่งซึ่งว่ายน้ำเป็นได้กระโดดลงไปในสระน้ำนั้น

เวลาผ่านไป ขณะที่แม่นมผู้นั้นพยายามตามหาตัวหลี่ฉางซี

และได้พบว่า มีวัชพืชมากมายพันร่างนั้นเอาไว้ แม่นมจึงรีบว่ายน้ำเข้าไปใกล้

และลากตัวนางออกมาจากที่นั่น จากนั้นจึงขึ้นฝั่งได้ในที่สุด

ทุกคนเริ่มเข้ามารุมล้อมร่างที่หมดสติของฉางซี รูม่านตาของนางขยายออก และเปลี่ยนเป็นสีขาว

ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มตบ และเขย่าร่างของนาง ในมิช้าหลี่ฉางซีจึงเริ่มหายใจอีกครั้ง

ทันใดนั้น แม่นมผู้หนึ่งก็ได้ร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง…