บทที่ 139 ตลาดมืด
บทที่ 139 ตลาดมืด
ลูกบอลโลหะ?
มันจะช่วยอะไรได้ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้น?
เฉิงฮ่าวคิดแล้วก็ส่ายหัว
มีสิ่งแปลกประหลาดมากมายในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณ เขาไม่เคยเห็นลูกบอลโลหะชนิดนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ความพิเศษของมัน
อย่างไรก็ตาม หญิงชุดขาวบอกว่ามันสามารถช่วยชีวิตได้ นั่นก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ?
นอกจากนี้ เธอยังเฉยเมยต่อผู้คนมาโดยตลอด แต่ทำไมจู่ ๆ เธอถึงให้ของสิ่งนี้กับโจวอี้? ผู้หญิงคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักโอสถหรือไม่? การให้ลูกบอลโลหะนี้มาเป็นการแสดงความปรารถนาดีต่อโจวอี้งั้นหรือ?
“คุณไม่รู้จักมันเหรอ?” โจวอี้ถาม
“ผมไม่รู้!” เฉิงฮ่าวส่ายหัว
“งั้นก็ช่างเถอะ ยังไงซะมันก็เป็นของขวัญฟรี” จากนั้นโจวอี้ก็เก็บลูกบอลโลหะเข้าไปในกระเป๋าแล้วถามว่า “คุณรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นมาจากไหน”
“อืม เธอเป็นหนึ่งในผู้จัดการของตลาดมืด ตำแหน่งของเธอไม่สูงส่งเท่าไหร่ มีหน้าที่เพียงเฝ้าทางเข้าตลาดมืดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น” เฉิงฮ่าวกล่าว
“ตลาดมืดมีผู้จัดการคอยดูแลด้วยงั้นเหรอ? เป็นกลุ่มไหนกัน?” โจวอี้ถามด้วยความประหลาดใจ
เฉิงฮ่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและอธิบายว่า “มีแน่นอน กองกำลังที่ดูแลตลาดมืดอยู่เป็นองค์กรกึ่งทางการที่เรียกว่าคณะกรรมการกำกับดูแลเถิงหลง
พวกเขาเข้ามารักษาความสงบในตลาดมืด ป้องกันไม่ให้พวกนอกคอกฆ่าคนและขโมยสินค้าในตลาดมืด และรับประกันความปลอดภัยส่วนบุคคลของผู้ค้าทุกคน รวมถึงความปลอดภัยของสินค้าที่ซื้อขายกัน”
“พวกเจ้าหน้าที่ทางการไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการขององค์กรนี้ สิ่งของต้องห้ามหรือพวกของเถื่อนต่าง ๆ ที่ถูกซื้อขายในตลาดมืดจึงไม่ถูกกวาดล้างไป”
“กล่าวได้ว่าคณะกรรมการกำกับดูแลเถิงหลงเป็นหนึ่งในกองกำลังชั้นนำ”
โจวอี้พยักหน้า
เขาไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับโลกภายนอก แต่เขาอ่านหนังสือมามาก เขาจึงพอรู้กลไกการดำเนินไปของโลกอยู่บ้าง
ตราบใดที่การมีอยู่ของตลาดมืดไม่ได้คุกคามประเทศ ประเทศก็จะเมินเฉยและปฏิบัติตามกฎของโลกศิลปะการต่อสู้โบราณ
ลิฟต์หยุดก่อนที่ประตูอัตโนมัติจะเปิดออก
โจวอี้ติดตามเฉิงฮ่าวไปยังพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่ ที่นี่มีเพดานสูงหลายสิบเมตรและฝังด้วยหินเรืองแสงจำนวนมาก หินเรืองแสงเหล่านี้ส่องสว่างเสียจนดูเหมือนเป็นเวลากลางวัน
พื้นที่ใต้ดินนี้ดูเหมือนจะกว้างเท่าสนามฟุตบอลสี่หรือห้าสนาม ผนังทั้งสี่ด้านถูกเจาะให้เป็นพื้นที่ร้านค้าขนาดใหญ่เต็มแถว และข้างทางเดินตรงกลางทั้งสองข้างเป็นแผงลอย
เวลานี้มีหลายร้อยคนในพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของแผงขายสินค้า ในขณะที่ลูกค้าราว ๆ สองสามโหลกำลังหยุดอยู่หน้าแผงแต่ละแห่ง และบางคนก็เดินดูไปเรื่อย ๆ
“ที่นี่คือตลาดมืดเหรอ?” โจวอี้ถาม
“ใช่แล้ว เราต้องระวังตัวให้ดี ตลาดมืดมีทั้งคนดีและคนชั่ว คนจิตใจดีก็มี จิตใจดำมืดก็ปะปนอยู่มาก ถ้าไม่ระวังอาจกลายเป็นเหยื่อได้”
“หมายถึงเราจะโดนปล้นงั้นเหรอ?”
“ไม่มีใครกล้าปล้นที่นี่ ตลาดมืดไม่มีกฎให้ต่อสู้ที่นี่ ไม่อย่างนั้น มันจะไม่ใช่แค่ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการกำกับดูแลเถิงหลงเท่านั้น แต่ยังจะถูกเจ้าของร้านจำนวนมากในที่นี้เข้ามารุมล้อมจัดการ ดังนั้นแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์ก็ไม่กล้าสร้างความวุ่นวายที่นี่” เฉิงฮ่าวกระซิบ
“หมายความว่าถ้าเราออกจากที่นี่ไป เราถึงจะได้รับอันตราย ถูกต้องไหม?”
“ถูกต้อง! เว้นแต่เราจะจ่ายเงินค่าคุ้มกันให้กับคณะกรรมการกำกับดูแลเถิงหลงล่วงหน้า ซึ่งพวกเขาจะส่งคนคุ้มกันเราตอนกลับ”
“คณะกรรมการกำกับดูแลเถิงหลงนี่มีบริการครอบคลุมจริง ๆ”
“แน่นอน ตราบใดที่จ่ายเงิน ก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีผู้คุ้มกันอยู่ด้วยชั่วคราว” เฉิงฮ่าวหัวเราะ
“มีเงินนี่ดีจริง ๆ” โจวอี้ยิ้ม
“ตราบใดที่คุณมีเงิน คุณก็เดินในตลาดมืดได้อย่างไร้กังวล” เฉิงฮ่าวหัวเราะตาม
ไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงร้านหนึ่งด้านใน
อักขระที่เขียนไว้ว่า “นิกายฉีเจี๋ย” ถูกแกะสลักไว้บนแผ่นโลหะสูง
หลังจากที่ทั้งสองเข้ามา พวกเขาก็เห็นวัตถุแวววาวตั้งอยู่เต็มร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหยกที่แกะสลักอย่างสวยงาม ชายวัยกลางคนสองคนนั่งขัดสมาธิอยู่สองฝั่งประตูร้านและแผ่กลิ่นอายอันตรายออกมา
ส่วนด้านหลังเคาน์เตอร์มีหญิงสาววัยกลางคนถือพัดขนนกในมือและกำลังงีบหลับอยู่
“เฒ่าแก่เนี้ยอวี้” เฉิงฮ่าวทักทายอีกฝ่ายด้วยความเคารพ
หญิงงามวัยกลางคนลืมตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน เธอมองไปที่เฉิงฮ่าวและโจวอี้ก่อนจะหาวออกมาแล้วถามเสียงเรียบ “นี่คุณอีกแล้วเหรอ คุณซื้อกุญแจไปแล้วนี่ กลับมาอีกทำไม?”
“ผมต้องการซื้อกุญแจอีกดอก” เฉิงฮ่าวตอบ
“ได้ เราไม่จำกัดจำนวนในการซื้อกุญแจ ตราบเท่าที่คุณสามารถจ่ายได้” เธอพูดพลางหยิบบัตรที่มีเลขบัญชีธนาคารออกมาวางบนเคาน์เตอร์แล้วพูดว่า “สำหรับการซื้อครั้งที่สอง ลด 20% โอนมาได้เลย”
“ได้!”
เฉิงฮ่าวจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโอนเงินให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
โจวอี้ยืนอยู่ข้างเฉิงฮ่าว เขากำลังรู้สึกประหลาดใจเมื่อเหลือบไปเห็นยอดโอน
กุญแจ…ร้อยล้านหยวน
ส่วนลด 20% เหลือแปดสิบล้านหยวน
แพงมาก!
เมื่อสาวงามวัยกลางคนได้รับแจ้งว่าเงินเข้าเรียบร้อยแล้ว เธอจึงกดที่ปุ่มบนเคาน์เตอร์ และในไม่ช้า ผู้หญิงร่างผอมบางก็ออกมาจากห้องด้านในพร้อมกับถาด
“ชำระค่าสินค้าเรียบร้อย คุณเก็บกุญแจไว้ได้เลย”
“ขอบคุณมาก!” เฉิงฮ่าวพยักหน้าก่อนจะหยิบแผ่นหยกขนาดเท่ากำปั้นบนถาดมา แล้วขยิบตาให้โจวอี้เพื่อพากันออกจากร้าน
“แผ่นหยกนี้คือกุญแจเหรอ?” โจวอี้ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ใช่ มันคือกุญแจ”
“ราคาแพงเกินไปไหม”
“กุญแจไม่แพงเลยถ้าเทียบกับการที่เราได้สมบัติมามากมาย” เฉิงฮ่าวยิ้มอย่างขมขื่น
“เหมือนกับต้องสะสมแต้มสมาชิกเพื่อให้ได้มีสิทธิ์ซื้อกุญแจในร้านใช่ไหม” โจวอี้สงสัย
“ถูกต้อง ไม่ใช่ทุกคนที่มีคุณสมบัติที่จะซื้อกุญแจได้” เฉิงฮ่าวไม่ได้บอกว่าเขาจ่ายไปในราคาเท่าไหร่ แต่รอยยิ้มอันขมขื่นบนใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นว่าราคาที่เขาจ่ายไปนั้นต้องสูงมากแน่ อย่างน้อยก็มากกว่าสองร้อยล้านหยวน
แทนที่จะรั้งอยู่ในตลาดมืด พวกเขาก็รีบขึ้นลิฟต์เพื่อออกจากพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่นี้
เมื่อมาถึงบนพื้นดินแล้ว โจวอี้ก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่โถงทางเข้าอีกต่อไป
เวลานี้มีคนอีกห้าคนอยู่ในห้องโถง
หญิงชุดขาวและชายชุดดำนั่งขัดสมาธิอยู่ที่มุมทั้งสี่
โจวอี้มองไปที่อาคารเล็ก ๆ ทางด้านซ้าย เขาคิดถึงตัวตนของผู้หญิงในชุดขาวคนนั้นอีกครั้งขณะเดินตามเฉิงฮ่าวไปที่รถ
เขารู้สึกไม่ดีขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ตอนที่โจวถงมาพบเขา อีกฝ่ายเตือนเขาว่าห้ามไปที่ตลาดมืดเพราะมีอันตรายรออยู่
ในตอนแรกเขาไม่เข้าใจว่าโจวถงหมายถึงอะไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่อันตรายนั้นไม่ใช่ตลาดมืด แต่เป็นโลกตงเทียน
นอกจากนี้ สตรีชุดขาวยังเตือนเขาไม่ให้ไปที่โลกตงเทียน
แม้เขาจะไม่รู้ว่าหญิงชุดขาวคนนั้นเป็นใคร แต่เมื่อได้สื่อสารกับอีกฝ่าย เขาก็รู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย ซึ่งคำเตือนของเธอก็ยิ่งทำให้เขากังวลใจมากยิ่งขึ้น