บทที่ 160 เริ่มการประมูล

บทที่ 160 เริ่มการประมูล

“ใช่ครับ” อู๋ฝานตอบรับ

“เมื่อวานนี้ได้คุยกันสนุกพอสมควร หลังประมูลวันนี้จบลง พวกเรามาคุยกันอีกสักหน่อยดีไหม?” ผู้เฒ่าฟางเอ่ยถาม

“ได้ครับ ได้สนทนากับคุณปู่ผมก็ยินดีครับ” อู๋ฝานตอบรับ

การพูดคุยกับผู้เฒ่าฟาง อู๋ฝานเป็นฝ่ายได้ผลประโยชน์เสียด้วยซ้ำ เพราะชายชรามีประสบการณ์มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่กับวงการของสะสมของโบราณ แต่ยังรวมถึงการประเมินสถานการณ์ที่ตัวเขาแทบไม่มีทางเทียบเปรียบได้เลยแม้แต่น้อย

ผู้เฒ่าฟางมีคนรู้จักที่นี่มากมายเช่นเดียวกัน หลังพูดคุยกับอู๋ฝานได้ครู่หนึ่ง ก็ถูกเรียกตัวไปทักทายต่อ

และที่นี่เอง ชายหนุ่มยังได้พบคนคุ้นเคยอีกคนหนึ่ง ตอนนั้นเจอกันในบ้านของหวังจื่อหมิงเมื่อคืนก่อน เป็นเหล่าหลี่ที่เคยมาช่วยประเมินก่อนหน้านี้ หลังเจออู๋ฝาน เหล่าหลี่จึงเป็นฝ่ายเข้าหามาพูดคุยด้วยอยู่หลายคำ

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็ยิ่งมารวมตัวกันมากขึ้น ตอนที่การประมูลใกล้จะเริ่ม อู๋ฝานคาดการณ์คร่าว ๆ ว่าน่าจะมีมาเข้าร่วมเกือบหนึ่งร้อยคน เรียกได้ว่ามีคนเยอะกว่างานประมูลเล็กเมื่อครั้งก่อนอย่างเทียบไม่ติด

“ผู้คนมากมายที่มาเข้าร่วมงานประมูลในคืนนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ฉันรู้จักในเจียงโจว และก็มีบางส่วนที่มาจากเมืองอื่นด้วย” หวังจื่อหมิงบอกกับอู๋ฝาน พวกเขาทั้งสองนั่งอยู่ข้างกันเหมือนครั้งก่อน

“หลังเริ่มงานประมูล ลองดูสินค้าทุกชิ้นให้ดี บางทีนายอาจจะพบเจอสมบัติอีกก็ได้” หวังจื่อหมิงกล่าวกับอู๋ฝาน

“ครั้งก่อนเพราะมีโชคหล่นทับหรอกครับ โชคดีขนาดนั้นคงแวะเวียนมาไม่บ่อย” อู๋ฝานหัวเราะตอบ

“ก็จริง ของระดับถูกลอตเตอรี่ หนึ่งคนหนึ่งครั้งในชั่วชีวิตนี้ก็เรียกว่าเยอะมากแล้ว” หวังจื่อหมิงหัวเราะตอบรับ

งานประมูลเริ่มต้นขึ้น ภายในโถงจึงเงียบงันลง

“สวัสดีทุกท่านในค่ำคืนนี้นะครับ ขอต้อนรับเข้าสู่โรงประมูลดอกไม้งามในช่วงฤดูร้อน กระผมเป็นผู้ดำเนินงานประมูลในค่ำคืนนี้ครับ” ชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งก้าวขึ้นมาตรงหน้าโพเดียม พร้อมกล่าวกับทุกคนในงาน

“โรงประมูลดอกไม้งามก่อตั้งขึ้นยาวนานหลายปี ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองมาโดยตลอด” ผู้ดำเนินงานประมูลเริ่มแนะนำโรงประมูลดอกไม้งาม รวมถึงรายชื่อสมบัตินำขึ้นประมูลเมื่อปีที่ผ่านมา เมื่อได้ทราบถึงยอดขายอันน่าทึ่ง อู๋ฝานก็ถึงกับใจเต้นรัว

ค่ำคืนนี้ ภาพคัดลายมือส่งแขกกลับของเขาจะถูกประมูลออกไปด้วยมูลค่าเท่าใด?

นับเป็นเรื่องน่าคาดหวัง

“ข้อมูลคร่าว ๆ ก็จะประมาณนี้ครับ ผมขอไม่พูดเกินกว่านั้นแล้ว ต่อไปทางเราจะเริ่มงานประมูลสินค้าชิ้นแรก ขอทุกท่านจับตาดูให้ดีนะครับ” หลังพิธีกรเอ่ยแนะนำสถานที่มาอย่างยาวนาน ในที่สุดก็ได้เวลาเข้าสู่ช่วงเวลาที่รอคอยแล้ว

พิธีกรสาวสวยปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับถาดใบหนึ่งที่ปกคลุมด้วยผ้าสีแดง

ในตอนที่พิธีกรสาวยืนหยุดนิ่ง พิธีกรชายที่ดำเนินงานประมูลจึงยกผ้าคลุมสีแดงออก เป็นการเผยให้เห็นรูปโฉมสมบัติที่อยู่ด้านใต้

เป็นแหวนมรกตสีเขียวน้ำงามวงหนึ่ง

“สิ่งที่ทุกท่านได้เห็นอยู่ คือสินค้าประมูลชิ้นแรกของค่ำคืนนี้ แหวนวงนี้นี่เองครับ สินค้าชิ้นนี้มีความล้ำค่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากเคยถูกสวมใส่โดยองค์หญิงหย่งเกอแห่งคังซีในยุคราชวงศ์ชิง ตามตำนานกล่าวขาน แหวนวงนี้เป็นสมบัติตกทอดจากราชวงศ์ ช่วงเวลาหนึ่งจักรพรรดิคังซีได้มอบเป็นรางวัลให้แก่องค์หญิงหย่งเกอ นับแต่นั้นก็เป็นของพระองค์มาโดยตลอด แหวนวงนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีต เป็นรอบกลมที่สีสันงดงาม ผิวลื่นประหนึ่งกระจกไร้ตำหนิครับ” พิธีกรชายเริ่มบอกเล่าถึงแหวนมรกตน้ำงามไปตามลำดับเรื่องราว

ทุกคนในโถงประมูลต่างรับฟังโดยละเอียด ในบรรดาคนที่ครุ่นคิด พวกเขายิ่งมองตาเป็นมัน สายตาจับจ้องแหวนมรกตไม่วาง

อู๋ฝานมองเพียงแค่ตอนแรก เพราะเขาได้ทราบรายละเอียดของแหวนวงดังกล่าวดีเสียยิ่งกว่าทุกคนในที่นี้จะทราบได้

อย่างไรแล้ว วิชาตรวจสอบก็ไม่ใช่ของประดับ

แหวนวงนี้เป็นของแท้ เพียงแต่อู๋ฝานไม่มีความคิดที่จะซื้อหา ค่ำคืนนี้นอกจากสนใจภาพคัดลายมือส่งแขกกลับแล้ว สินค้าอื่นที่นำมาแสดง สำหรับตัวเขาก็เป็นเพียงวัตถุที่ดูเพื่อให้ตื่นตาตื่นใจเท่านั้น

“แหวนวงนี้เป็นยังไง?” หวังจื่อหมิงเอ่ยถาม

นับตั้งแต่อู๋ฝานได้พบของล้ำค่าเช่นภาพคัดลายมือส่งแขกกลับจากงานไร้ค่า หวังจื่อหมิงก็นับถือความสามารถการประเมินของชายหนุ่มจากใจ ขณะนี้จึงไม่เชื่อคำบอกเล่าและแนะนำของพิธีกรดำเนินงานประมูล แต่เลือกที่จะถามจากอีกฝ่าย

“เป็นตามที่ว่าครับ เป็นของจริง พิธีกรพูดเรื่องจริง” อู๋ฝานตอบรับ

หวังจื่อหมิงพยักหน้าตอบรับ “รูปลักษณ์ของมันค่อนข้างดูดีอยู่ เพียงแต่ฉันมองว่าไม่น่าสนใจเสนอราคา”

“ผมได้แนะนำทุกรายละเอียดที่ต้องแจ้งแล้ว หากว่าท่านใดสนใจก็สามารถขึ้นมาตรวจสอบรับชมด้วยตัวเองได้ กฎยังคงเป็นเช่นเดิม ทำได้แค่ดูห้ามแตะต้องนะครับ” พิธีกรเอ่ยคำออกมา

“สามารถขึ้นไปดูได้ด้วยเหรอครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถามหวังจื่อหมิงด้วยความสงสัย เพราะขณะนี้เห็นมีคนบางส่วนเดินขึ้นไปที่โต๊ะจัดแสดงด้านบนกันแล้ว

“ทำได้อยู่แล้ว” หวังจื่อหมิงตอบรับ “งานประมูลของโบราณไม่เหมือนงานประมูลสินค้าอื่น เพราะมันมีเส้นบาง ๆ ระหว่างของแท้กับของปลอมกั้นเอาไว้ ราคาก็ผันแปรอยู่ทุกวัน ปัจจุบันคนเลือกที่จะสะสมโดยอาศัยฝีมือการประเมินของตนเองเสียมากกว่า แน่นอนว่าคนที่ไม่เชื่อก็มีเช่นกัน แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร สุดท้ายพวกเขาก็ต้องรับผิดชอบความสามารถการประเมินของตนเอง อันที่จริง งานประมูลเล็กเมื่อสามวันก่อนเองก็อนุญาตให้ขึ้นไปด้านบนเวทีเพื่อตรวจสอบได้ เพียงแต่ไม่มีใครขึ้นไป”

อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ

จากบทสนทนากับเหล่าหลี่และผู้เฒ่าฟาง อู๋ฝานจึงรู้สึกได้ว่าคนทั้งสองต่างก็มีความมั่นใจในฝีมือการประเมินของตนเอง ดังนั้นก่อนจะซื้อหาอะไรสักอย่าง พวกเขาจะต้องประเมินอย่างถี่ถ้วน แน่นอนว่าแม้ประเมินได้ แต่ก็ไม่อาจทำมากจนเกินไป ดังนั้นต่อให้ขึ้นเวทีไปตรวจสอบ ก็ใช่ว่าจะพบเห็นอะไรผิดปกติ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ตรวจสอบเลย

ตรงหน้าแหวนมรกต ปัจจุบันมีหลายคนกำลังยืนรุมล้อม เพียงแต่ก่อนจะขึ้นไปยืนได้ต้องมีการยืนยันตัวตน และเข้าไปตรวจสอบได้ทีละคน ทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวผิดพลาดใดขึ้น

หลังการตรวจสอบ กลุ่มคนจึงลงจากเวทีกันมาทีละคน พร้อมกับผลการประเมินในใจของตน

“ก็ตามนี้นะครับ มีท่านใดต้องการขึ้นมาตรวจสอบรับชมอีกหรือไม่ครับ?” พิธีกรดำเนินงานประมูลสำรวจมองรอบด้าน พบว่าไม่มีใครสนใจขึ้นมาแล้วจึงเริ่มดำเนินงานต่อ “ในเมื่อไม่มีท่านใดต้องการตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว ทางเราขอเริ่มการประมูลอย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนี้ เริ่มที่ราคาห้าแสน เสนอราคาเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นนะครับ”

“ห้าแสนหนึ่งหมื่น!”

“ห้าแสนสองหมื่น!”

“ฉันให้ห้าแสนสี่หมื่น!”

ทันทีที่พิธีกรพูดจบคำ ก็เริ่มมีคนเสนอราคากันขึ้นมา ราคาเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่ช้าก็ทะลุหลักล้าน

อย่างไรที่นี่ก็เป็นงานประมูล สินค้าชิ้นแรกย่อมต้องผ่านเพดานราคาหนึ่งล้านไปได้อย่างไม่ยากเย็น

ชายหนุ่มพึมพำอยู่ภายในใจ

ทั้งอู๋ฝานและหวังจื่อหมิงไม่ได้เข้าร่วมการประมูล เพียงแต่พูดคุยกันเสียงเบา แต่ละคนคาดเดาเสนอกันออกมา ว่าสุดท้ายแหวนวงนี้จะไปจบที่ราคาเท่าใด

ท้ายที่สุดแล้ว แหวนมรกตวงดังกล่าวจึงถูกประมูลไปโดยชายวัยกลางคนพุงโย้ จบที่ราคาหนึ่งล้านแปดแสนห้าหมื่น เป็นราคาที่ทำอู๋ฝานถึงกับพูดไม่ออก

แน่นอนว่า สินค้าที่สามารถส่งเข้ามาประมูลได้ ย่อมผ่านการพิจารณาถึงคุณค่ามาแล้ว

ราคาของสินค้ารายการแรกเรียกได้ว่าไม่เลวเลย นับเป็นการเปิดประเดิมที่ดีสำหรับการประมูลสินค้าชิ้นถัดไป ขณะพิธีกรดำเนินงานประมูลต่อไป อารมณ์ตื่นเต้นของทุกคนก็เริ่มทุเลาลงมาทีละน้อย วัตถุโบราณชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกประมูลออกไป ทั้งยังได้ราคางามกันถ้วนหน้า