ตอนที่ 20-1 ความงามที่ถูกทำลาย
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?!” หลี่เสี่ยวหรันกล่าวออกมาด้วยความตกใจ
ใบหน้าของหลี่เว่ยหยางมีเลือดฝาด และดวงตาคู่นั้นมีความจริงจ้ง อย่างเห็นได้ชัด
“ท่านพ่อ เมื่อครู่ข้าเห็นหมินเต๋อเล่นอยู่ที่สวนดอกไม้ หลังจากนั้นฮูหยินสามก็มารับเขาไป
ข้ายังจับมือเขา และดุว่า เหตุใดจึงวิ่งซุกซนไปทั่ว ท่านเชื่อหรือไม่ว่าเขายังคงวิ่งขณะที่รองเท้าของตนเองหาย โดยมิรู้ตัว”
ราวกับว่า เพิ่งจะสังเกตเห็นรองเท้าคู่ที่หายไป นางจึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข และกล่าวว่า
“ไอหยา มันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? สงสัยว่า หมินเต๋อต้องเล่นซุกซนอยู่ใกล้น้ำ ดูสิ! รองเท้าของเขาเปียกหมดเลย”
เมื่อรู้ตัวว่า เมื่อครู่เขาแสดงความโกรธเว่ยหยางออกมาโดยมิมีมูลความจริงเลย
หลี่เสี่ยวหรันจึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่แล้วคิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นอีกครั้ง
“แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาที่หนานหยวน?”
หลี่เว่ยหยางยิ้มกว้างอย่างร่าเริง
“ท่านพ่อ ท่านย่ากล่าวว่า ข้ามีคนรับใช้น้อยเกินไป
ดังนั้นวันนี้จึงทำตามคำแนะนำของท่านย่า โดยการไปเลือกคนรับใช้สองสามคนจากตำหนักฮุ้ยชุน
และขณะที่เดินผ่านหนานหยวน เห็นว่า มีคนรับใช้มากมายรายล้อมอยู่ด้านนอก
อีกทั้งยังมีคนกล่าวว่า ตอนนี้ทั้งท่านแม่และท่านพ่ออยู่ที่นี่ ดังนั้นข้าจึงเข้ามาคารวะ”
หลี่เสี่ยวหรันตัวแข็งทื่อในขณะที่การแสดงออกของฮูหยินใหญ่กลายเป็นเยือกเย็นทันที
“แล้วเจ้าเลือกได้แล้วหรือยัง” หลี่เสี่ยวหรันเอ่ยถาม
การแสดงออกของหลี่เว่ยหยางเป็นส่วนผสมของความกลัวและความสุข
“แม่นมท่านนั้นกล่าวว่า นางได้เตรียมคนรับใช้เอาไว้ให้ข้าถึงห้าคน และข้าสามารถเลือกสามในห้าคนนั้น
แต่ดูเหมือนว่าทุกคนล้วนมีความน่าสนใจจึงเลือกมิถูก ดังนั้นข้าจะไปหาท่านย่าเพื่อให้ท่านช่วยตัดสินใจ”
เว่ยหยางกลับมาที่ตระกูลหลี่ได้เพียงมินาน การเลือกคนรับใช้สองสามคนมาช่วย เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้
แต่เหตุใดฮัวเหม่ยจึงกล่าวว่า เว่ยหยางมาเยี่ยมชิหยินเหนียง?
หลี่เสี่ยวหรันนึกถึงเรื่องนกกระเรียนขาวที่มิมีอยู่จริง และเรื่องที่ฮัวเหม่ยโกหก
เขาสรุปได้ในทันทีว่า นี่เป็นแผนการทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่าง บิดากับบุตรสาว
การจ้องมองที่รุนแรงของเขาจึงเพ่งเล็งไปยังฮูหยินใหญ่
และในตอนนี้ ฮูหยินใหญ่กำลังมีความคิดว่า ตนเองประเมินหลี่เว่ยหยางต่ำเกินไป
ประการแรกมิพบนกกระเรียนขาวที่ใดเลย
จากนั้น ชิหยินเหนียงก็ยังคงมีชีวิตอยู่
และสิ่งที่เพิ่มเติมคือ หมินเต๋อ ผู้ซึ่งควรจะตายไปแล้ว ก็ยังคงมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกัน
ทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หลี่เว่ยหยางคือตัวการที่ทำให้ทั้งสองคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ และหลักฐานเดียวที่ทิ้งไว้คือ…
เพื่อมิให้ฮูหยินใหญ่มีโอกาสได้กล่าวอันใด หลี่เว่ยหยางจึงอุทานออกมาด้วยความตกใจว่า
“ไอหยา เกิดอันใดขึ้นกับน้องห้าหรือนี่?
บาดแผลบนใบหน้าของนางสาห้สถึงเพียงนี้เลยหรือ?”
ฮูหยินใหญ่จึงกล่าวเย้ยหยันออกมาว่า
“ผู้ใดจะไปรู้ว่า เหตุใดอยู่ดี ๆ นางจึงตกลงไปในสระน้ำ และได้รับบาดเจ็บถึงเพียงนี้!”
หลี่เว่ยหยางดูประหลาดใจอย่างแท้จริง
“ตอนนี้ น้องห้า…”
จากนั้นหลี่ฉางซีได้ส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างแผ่วเบา
สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้างจึงตะโกนอย่างตื่นเต้น
“คุณหนูห้าฟื้นแล้ว!”
หลี่ฉางซีลุกขึ้นนั่ง และนางใช้มีอสัมผัสใบหน้าของตนเองโดยสัญชาตญาณ และได้พบว่า มือของนางนั้นเต็มไปด้วยเลือด
“หน้า…หน้าข้าเป็นอันใด! ท่านแม่หน้าของข้าเป็นอันใดหรือไม่!”
นางร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ฮูหยินใหญ่อธิบายด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยว่า
“ฉางซี ใบหน้าของเจ้าได้รับบาดเจ็บ อย่าแตะต้องมันอีก
ข้าได้สั่งให้คนไปตามหมอแล้ว เจ้าเพียงแค่อยู่นิ่ง ๆ และพักผ่อนเสีย”
หลี่ฉางซีสังเกตเห็นว่าทหลี่เว่ยหยางยืนอยู่ที่บริเวณด้านข้างของตนเอง จึงตวาดขึ้นในทันที
“เจ้ามันดาวโชคร้าย! ทุกอย่างเป็นความผิดของเจ้า!
เจ้าทำให้ข้าต้องกลายเป็นเช่นนี้!”
หลี่ฉางซีมีอาการหอบหนักขึ้น และชี้นิ้วไปยังจมูกของหลี่เว่ยหยาง
“น้องห้าเจ้าเป็นอันใดไป?”
หลี่เว่ยหยางตะลึง และกล่าวอีกว่า
“ผู้ใดทำให้เจ้าเสียใจ?”
“เจ้ายังมิรู้ตัวหรอกหรือ! ฮา! เจ้ามันเป็นสัตว์ประหลาดที่ชั่วร้าย!
หากมิใช่เพราะโชคชะตาที่ถูกสาปของเจ้า ข้าจะพลัดตกลงไปในน้ำได้อย่างไรกัน!”
หลี่เว่ยหยางมองนางด้วยสายตาที่เมินเฉย
“น้องห้า เจ้าควรจะคิดให้ดี ก่อนที่จะกล่าวอันใดออกมา
ถึงแม้ว่า ข้าจะเกิดในเดือนกุมภาพันธ์ แต่จนถึงตอนนี้ทั้งท่านแม่และท่านพ่อก็ยังคงมีสุขภาพดีอยู่
หากเจ้ากล่าวอันใดเช่นนั้น แสดงว่า เจ้ามิเห็นแก่หน้าของท่านแม่กับท่านพ่อเลย!”
หลี่เว่ยหยางมิได้ใช้คำกล่าวที่รุนแรง แต่มันก็ยิ่งทำให้หลี่ฉางซีโกรธจนถึงขั้นบ้าคลั่ง
หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้นแล้ว หลี่ฉางซีผู้โกรธแค้นต้องการที่จะผลักหลี่เว่ยหยาง ขณะที่ตะโกนว่า
“เจ้ามันเป็นผู้ที่ไร้ยางอาย! เจ้าทำเช่นนี้กับข้า แล้วยังจะกล้ากล่าวว่าเจ้ามิมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือ!”
ชิหยินเหนียงกำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนก สิ่งที่นางต้องการทำในตอนนี้คือการรีบไปข้างหน้าและปกป้องบุตรสาวของตนเอง
แต่ในขณะนี้ซีอุยเอ๋อได้ดึงต้วกลับ มาตอนนั้นเองที่นางเริ่มมีความคิดที่ชัดเจนเกิดขึ้น
เนื่องจากสถานะที่ต่ำต้อยของตนเองจึงมิสามารถทำอันใดเช่นนั้นได้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ปากของหลี่เว่ยหยางก็เกิดอาการกระตุกเล็กน้อย