“เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำ คุณชายฮั่วคะ ฉันสาบานได้ เธอล้มลงไปเอง ส่วนเรื่องโดนแบนฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่”
อันหรันตอบออกไปตามความจริง อารมณ์ของเธอในตอนนี้เริ่มจะสงบลง
ครั้งแรกที่เธอไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอจะเถียง
ครั้งที่สองที่เธอไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอก็จะเถียง
แต่ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า
พอไม่ได้รับความเป็นธรรมบ่อยขึ้น เธอเองก็เริ่มจะชินกับมันไปแล้วล่ะ คงเหลือเพียงความพยายามที่อยากจะอธิบายในสิ่งที่ถูกต้อง แต่เขาจะเหลือหรือไม่เชื่อนั้นก็ตามแต่
“มาถึงขั้นนี้แล้วเธอยังจะไม่ยอมรับอีกเหรอ! ถ้าเกิดว่าฉันไม่อยู่ตรงนั้น เธอคงจะผลักเขาจนนอนอาบเลือดตายไปแล้ว!” คำพูดเชิงประณามของฮั่วเทียนหลัน ทำให้อันหรนอยากโต้แย้งขึ้นมา แต่เมื่อมองดูแววตาราวกับจะฆ่ากันให้ตายของฮั่วเทียนหลันแล้ว เธอจึงทำได้แค่ยิ้มอย่างขมขื่น
“ในเมื่อคุณชายฮั่วคิดเช่นนั้น งั้นก็ตามนั้นเลยค่ะ ถึงอย่างไรสำหรับคุณแล้ว ฉันก็เป็นได้แค่ผู้หญิงจอมวางแผน!”
ในเมื่อพวกเขากำลังจะแยกทางกัน อันหรันก็ไม่คิดที่จะทนอีกต่อไป
ความโกรธที่มีอยู่กำลังจะเผาผลาญสติของฮั่วเทียนหลันไปจนหมดสิ้น เขาใช้มือข้างเดียวกำไปที่ต้นคอของอันหรัน ราวกับจะกดล็อคมันได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความโกรธ : “เธอ… ”
อันหรันยกศีรษะขึ้น ก่อนจะมองไปที่ฮัวเทียนหลัน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดื้อรั้น
เมื่อเห็นท่าทางดื้อรั้นของอันหรัน ในใจของฮั่วเทียนหลันก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา
หรือว่าเขาเข้าใจเธอผิดอย่างนั้นหรือ
ไม่จริง เป็นไปไม่ได้! เขาเห็นมันกับตา อันหรันเป็นคนทำอย่างแน่นอน
ผู้หญิงคนนี้ช่างแสดงละครเก่งจริงๆ!
เขาผลักอันหรันออก แล้วพูดขึ้นเสียงแข็ง : “ไสหัวลงไปเดี๋ยวนี้ อย่าทำให้เตียงของฉันต้องแปดเปื้อน!”
อันหรันที่กำลังจะลุกขึ้น กลับนึกอะไรขึ้นมาได้ คำพูดที่ฮั่วเทียนหรันเคยพูดเอาไว้เมื่อก่อน แล้วเธอจึงนั่งลงไปดังเดิม : “คุณชายฮั่วเคยบอกว่า ฉันสามารถนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงได้ อีกอย่างเราสองคนก็เป็นสามีภรรยากัน … ”
อันหรันยังไม่ทันได้เอ่ยจบ ก็ถูกฮั่วเทียนหลันจับเข้าที่ข้อมือแล้วกดให้ล้มลงกับเตียง เขาจ้องมองเธอด้วยความโกรธอย่างไม่ละสายตา : “สำหรับฉัน เธอก็เป็นได้แค่รองเท้าขาดคู่หนึ่งเท่านั้น! ไม่ว่าจะตั้งแต่ตอนแต่งงาน หรือว่าหลังจากที่แต่งงานแล้ว เธอก็ยังเป็นได้แค่นั้น เธอคิดว่าการที่เธอทำให้คุณแม่ของฉันหลงเธอจนหัวปักหัวปำแบบนี้ แล้วเธอจะสามารถนั่งอยู่บนแท่นได้อย่างมั่นคงอย่างงั้นเหรอ อันหรัน ฉันจะบอกอะไรให้นะ ตั้งแต่วันนี้ที่เธอผลักมู่เหว่ยตกลงไป ที่ข้างๆฉันทุกๆที่ก็ไม่มีทางที่จะมีเธออยู่ได้อีกต่อไป!
“ฉันไม่ได้ผลักนะ มู่เหว่ยเธอล้มลงไปเอง” อันหรันโต้กลับอย่างหัวแข็ง
“เหอะๆ… ยังไม่ยอมรับอีกนะ ผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอ แค่เผลอโดนตัวนิดหน่อย ฉันก็รู้สึกอยากจะอ้วกแล้ว!”
อันหรันมองไปที่ฮั่วเทียนหลัน ใบหน้าที่อึมครึ้ม ดวงตาที่เย็นเยียบ มันทิ่มแทงหัวใจของเธอจนเจ็บไปหมด
ความรู้สึกเจ็บปวดในใจเช่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับจะวูบลงไปเต็มที
เธออ้าปากขึ้น แต่คำพูดของเธอกลับดูไร้ซึ่งเรี่ยวแรง : “ไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนี้ … ”
“แล้วมันแบบไหน” มือของฮั่วเทียนหลันวางอยู่บนตัวของอันหรัน ก่อนจะทื่อไปลงอย่างแรง
อันหรันเจ็บปวด แต่กลับไม่ยอมร้องออกมา
หากเป็นเรื่องที่เธอไม่เคยทำล่ะก็ เธอก็พร้อมที่จะโต้แย้งอย่างหัวชนฝา แม้ว่าฮั่วเทียนจะไม่เชื่อเธอเลยก็ตาม
“ทำไมไม่พูดต่อล่ะ ปฏิเสธออกมาสิ ไม่ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วเหรอ” ทุกคำทุกพูดของฮั่วเทียนหลัน ราวกับต่อยเข้ามาที่หัวของอันหรัน
รอบดวงตาของอันหรันเริ่มชื้นขึ้นมา แต่เธอจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
“โอเค ในเมื่อเธอปากแข็งไม่ยอมรับผิด ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะทำให้เธอแงะมันออกมาให้หมด!”
พูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็จัดการฉีกเสื้อผ้าของอันหรันออกทันที
อันหรันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เธอไม่อยากถูกฮั่วเทียนหลันทำร้ายอย่างอัปยศอดสูเช่นนี้อีกแล้ว
นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา แต่มันเป็นการใช้กำลังเข้ามาจัดการ
เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะผลักฮั่วเทียนหลันออก ก่อนจะตะโกนขึ้นมาเสียงดัง : “คุณชายฮั่ว ไม่เอานะ อย่าทำแบบนี้! ฉันไม่ต้องการ… ที่มู่เหว่ยได้รับบาดเจ็บ มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!”
แต่ยิ่งเธอเป็นแบบนี้ ฮั่วเทียนหลันก็ยิ่งมีแรงกระตุ้น
เธอบอกกับเขาว่าเธอไม่ต้องการอย่างงั้นเหรอ แล้วทีผู้ชายคนอื่นที่ขึ้นเธอล่ะ ทีไอ้หยางจื่อหยินล่ะ
“เป็นอะไรไป คนอื่นๆยังสามารถขึ้นเธอได้ทุกเมื่อเลย แต่ฉันที่เป็นสามีที่ตัวจริงกลับทำไม่ได้อย่างนั้นเหรอ อันหรัน เธอต้องการจะรักษาตำแหน่งภรรยาฮั่วไว้ไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ยอมให้ฉันขึ้นดีๆซะ ปรนนิบัติให้ฉันรู้สึกดี ตำแหน่งนี้จะเป็นของเธอไปตลอดไง”
พูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็จัดการสอดเข้าใส่ในตัวเธอทันที
ความเจ็บปวดจากการฉีกขาดทำให้ดวงตาของอันหรันเริ่มมืดดับลง จนเธอแทบจะหมดสติไป
ทุกการเคลื่อนไหวร่างกายของเขา อันหรันเพียงกรีดร้องและครวญครางออกมาเท่านั้น เธอไม่มีความสุขทางอารมณ์เลยแม้แต่นิดเดียว
ร่างกายที่ต่อต้านการถูกกระตุ้นจากเขา มันเหมือนเป็นการวางอันหรันไว้บนกองไฟ แล้วจุดไฟเผา
“ได้โปรด มันเจ็บมากเลย เบาหน่อยได้ไหม… ”
ในที่สุดอันหรันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างแผ่วเบา พร้อมกับร้องขอความเมตตา
แต่ฮั่วเทียนหลันเกลียดอันหรัน เกลียดเสียงของอันหรัน เกลียดร่างกายของอันหรัน และเกลียดทุกอย่างที่เป็นเธอ
เขาดึงเอาปลอกหมอนด้านข้าง จับยัดใส่เข้าไปในปากของอันหรันอย่างไม่คิดใส่ใจ
“หุบปาก! ฉันทำแบบนี้เพราะฉันเห็นใจเธอทั้งนั้น เธอหิวมากไม่ใช่เหรอ วันนี้ฉันจะทำให้เธอรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจไปเลยล่ะ!”
อันหรันส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ดวงตาคู่สวยจ้องลึกไปที่ฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงปลอกหมอนออก
แต่ทันใดนั้น มือของฮั่วเทียนหลันก็จับล็อคสองมือของเธออย่างแรง ทำให้อันหรันที่คิดจะที่ต่อสู้ดิ้นรนหมดหนทางลงในทันที
น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ และความรู้สึกของเธอก็ไม่หลงเหลือในที่สุด
เธอไม่อยากถูกกระทำเช่นนี้ ความทรงจำอันมืดมนเหล่านั้น ทำให้อันหรันอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปซะตอนนี้
แต่ความคิดแบบนี้ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป เพราะถูกฮั่วเทียนหลันใช้ปลอกหมอนยัดปากของเธอเอาไว้
ฮั่วเทียนจู่โจมเข้าใส่อันหรันไม่ยอมหยุด ร่างกายของเธอช่างไม่รักดี ราวกับว่ากระดูกข้างในนั้นกำลังต่อต้านการกระทำของเขา
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฮั่วเทียนหลันโมโหขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ : “นังผู้หญิงเลว ตอบสนองสักทีสิวะ อย่าทำเหมือนเป็นศพได้ไหม!”
เขากระแทกอย่างรุนแรงสองสามครั้ง พร้อมด้วยอันหรันที่พยายามสุดกำลังในการรัดหดตัวเข้ามา อย่างต้องการหลบเลี่ยงเขา
อันหรันในตอนนี้ทำได้แค่นอนหายใจเท่านั้น เธอรู้สึกว่าร่างกายส่วนล่างของเธอถูกฉีกขาดไปหมดแล้ว ทันใดนั้น ท้องของเธอก็รู้สึกเจ็บแปรบขึ้นมา ราวกับว่ามีกระแสน้ำอุ่นฉีดเข้าไปข้างในนั้น
ฮั่วเทียนหลันจู่โจมเข้าไปในตัวอันหรันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้อันหรันเจ็บจนแทบจะหยุดหายใจ
เธอส่ายหัวอ้อนวอน แต่ฮั่วเทียนหลันกลับเอาหมอนขึ้นมาปิดหน้าเธอไว้
“อย่ามามองฉัน ฉันรู้สึกขยะแขยง!”