บทที่ 145 ช่วงชิงโชคชะตามังกร
บทที่ 145 ช่วงชิงโชคชะตามังกร
กระเบื้องสีดำไม่ทราบที่มา ถึงกับสามารถแลกเปลี่ยนอาวุธระดับราชันได้งั้นหรือ?!
การจัดวางเช่นนี้ทำให้หลายคนหยุดมอง นอกจากนี้ยังมีหลายคนที่เข้ามาสำรวจแผ่นกระเบื้องดังกล่าว แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันคืออะไร
เซียวเทียนถอนสายตากลับ ถามลู่หยวนว่า “พี่ลู่ เจ้ามองออกหรือไม่ว่ามันคืออะไร?”
ผู้ฟังยังไม่ได้ให้ความสนใจ แน่นอนว่าเขาไม่รู้ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านตามาหลายปี สิ่งที่ปรากฏในลักษณะนี้ …ย่อมเป็นของดี!
นอกจากนี้ ถ้าคนอื่นไม่สนใจ แต่หลังจากบุตรแห่งโชคชะตาได้มาแล้ว ก็ย่อมค้นพบพลังที่ยิ่งใหญ่ได้!
ลู่หยวนสาวเท้าออกไป เมื่อทุกคนเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์กำลังไปที่แผงลอย พวกเขาล้วนก้าวถอยออกมา
เขานั่งยองลงไป ไม่หยิบพวกมันขึ้นมาดูในทันที แต่ถามคนที่อยู่ในชุดคลุมสีดำว่า “ในเมื่อมันมีไว้เพื่อแลกเปลี่ยนอาวุธระดับราชัน เช่นนั้นก็ควรแนะนำบ้างสิ”
ภายใต้ชุดคลุมสีดำ มีเสียงทุ้มต่ำดังออกมา “ของพวกนี้ ข้าก็แค่หยิบมาเท่านั้น ไม่รู้จุดกำเนิดของมัน ช่วงนี้ข้าก็แค่ขาดอาวุธระดับราชัน ก็เลยนำมาแลกเปลี่ยนน่ะ”
ขณะฟังชายคนนี้พูด ผู้คนรอบข้างต่างพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา น้ำเสียงประชดประชันยังคงดังขึ้น
“เหอะ ชายคนนี้ช่างอาจหาญเสียจริง เขาอยากแลกเปลี่ยนอาวุธระดับราชันด้วยของพรรค์นี้เนี่ยนะ!”
“ข้าคิดว่าใครก็ตามที่แลกเปลี่ยนกับมัน ย่อมถูกฉวยโอกาสเอาเปรียบเป็นแน่ กระเบื้องสีดำแผ่นนี้สามารถแลกเปลี่ยนกับอาวุธระดับราชันได้จริงหรือ? ถ้าวันนี้ใครบางคนยอมแลกเปลี่ยน ข้าจะขนกระเบื้องสีดำมาเต็มเกวียน เพื่อเอามาแลกกับอาวุธระดับราชันด้วยเลย!”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนี้ ต่างก็พากันหัวเราะ บางคนที่เห็นว่าชายหนุ่มคล้ายกับสนใจในของสิ่งนี้ยิ่ง จึงกล่าวเตือนว่า “อย่าไปถูกหลอกเข้าล่ะ ทุกวันนี้ มีคนหัวหมอมากมายที่ทำเรื่องทำนองนี้ เพื่อหลอกลวงผู้ซื้อ”
“ใช่แล้ว ๆ ดูเหมือนท่านจะมาจากตระกูลใหญ่ด้วยสินะ คงเป็นครั้งแรกที่ได้มาแดนมัชฌิมละสิท่า อย่ามาพลาดเรื่องอะไรแบบนี้จะดีกว่า!”
ลู่หยวนเมินเฉยทุกคน ก่อนลอบเบิกเนตรเทวะมองทะลุชุดคลุมสีดำ สายตาของเขาจับจ้องไปยังใบหน้าที่อยู่ข้างใน
แต่เมื่อผ่านชั้นของชุดคลุมสีดำ จนใบหน้ากำลังจะปรากฏขึ้น หมอกแปลกประหลาดพลันปกคลุมใบหน้าของคนผู้นั้นเอาไว้
ไม่ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถเห็นใบหน้าของคนที่อยู่ภายในนั้นได้ เขาถอนหายใจออกมา พบว่าคนผู้นี้มีรากฐานการบ่มเพาะอยู่ที่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์เท่านั้น
หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ ลู่หยวนจึงละสายตาออกมา
เขายืนยันได้แล้วว่า คนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ขายตัวจริง!
ต่อให้ใบหน้าของผู้ขายจะถูกปิดบัง แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ยังคงสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ยังมีอีกกลิ่นอายหนึ่งซึ่งเป็นแหล่งที่มาของหมอกปิดบังตัวตน และต่างจากกลิ่นอายของคนตรงหน้า
คนผู้นี้น่าจะได้รับความไว้วางใจจากผู้อื่นมอบหมายให้ดูแลของสิ่งนี้
ของแบบนี้สำหรับดินแดนหยวนหงแล้ว นับว่าเป็นเรื่องธรรมดา
ผู้ขายบางคนที่ไม่อยากเปิดเผยตัวตนจะขอให้คนอื่นมาขายให้ ชั้นหมอกนี้น่าจะเป็นเคล็ดวิชาที่คนหนุนหลังทิ้งไว้เพื่อปกป้องความปลอดภัยของพ่อค้า
ถึงอย่างไรในเมืองแดนมัชฌิมก็ไม่มีใครสามารถต่อสู้ในเมืองได้ นี่คือกฎที่จักรพรรดินีฉวนจงตั้งขึ้น
ทว่า …ผู้คนบางส่วนที่พยายามแหกกฎเสมอ ในอดีตมีผู้อยู่ขั้นเทียมเทพลงมือในเมือง เพราะกองกำลังหนุนหลังเกรียงไกร ทำให้ไม่หวาดกลัวการห้ามปรามของกองทัพองครักษ์ของจักรพรรดินี
แต่ภายในครึ่งชั่วยาม คนสนิทของจักรพรรดินีมาถึงที่เกิดเหตุ และเด็ดหัวพวกเขาด้วยตัวเอง
หลังผ่านเหตุการณ์นี้ ก็ไม่มีใครกล้าแหกกฎของแดนมัชฌิมอีก
แต่ขอเพียงออกจากเมืองเมื่อไหร่ ย่อมไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของจักรพรรดินีแดนมัชฌิม ถึงตอนนั้น จะทำอะไรก็ตามใจ
หากรูปลักษณ์ของคนผู้นี้ถูกปกปิดด้วยชุดคลุมสีดำเท่านั้น หาได้ถูกปกปิดด้วยเคล็ดวิชาลับ ขอเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์มีรากฐานการบ่มเพาะสูงกว่าอีกฝ่ายเสียหน่อย ก็ย่อมสามารถตรวจจับใบหน้าของคนผู้นี้ได้
กระเบื้องสีดำนี้ …หากมีใครบางคนตรวจพบความลึกลับที่อยู่ภายใน หรือมีความคิดชั่วร้ายเกิดสนใจขึ้นมา ถึงแม้จะไม่กล้าสร้างปัญหาในแดนมัชฌิม แต่ถ้ารู้ตัวตนของชายผู้นี้เข้า ย่อมไม่มีหลักประกันว่าเมื่อก้าวขาออกไปจากแดนมัชฌิมแล้วจะไม่ลงไปจูบแทบพื้น
หลังจากคนผู้นั้นถูกจับกุม พวกเขาก็สามารถตามสืบสาวจนพบเจ้านายที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังอีกฝ่าย
ลู่หยวนครุ่นคิดไปพลางลดมือลง กำลังตรวจสอบมัน
เพียงมือสัมผัส ชายหนุ่มก็รับรู้ได้ว่าจิตเทวะพลันสั่นไหว เสียงร้องของมังกรแก่กล้าดังกึกก้องไปทั่วทั้งจิตใจเขาทันที
มังกรเจินหลงในจิตเทวะโผทะยานอย่างมีความสุข ราวกับกำลังเฉลิมฉลองบางสิ่ง
ตอนนี้ลู่หยวนรู้แล้วว่า กระเบื้องมีบางสิ่งเกี่ยวกับเผ่ามังกรอยู่ข้างใน!
แต่สิ่งที่อยู่ข้างในคืออะไรนั้น มีแต่ต้องนำกลับไปเพื่อศึกษาอย่างละเอียดอย่างเดียว
เนื่องจากชายหนุ่มตรวจสอบนานเกินไป ผู้ชายในชุดคลุมสีดำจึงหงุดหงิด “ท่านจะซื้อหรือไม่ซื้อ?”
ลู่หยวนคว้ากระเบื้องสีดำแล้วลุกขึ้น ก่อนโยนอาวุธระดับราชันให้อย่างไม่ใส่ใจ “ข้าต้องการของชิ้นนี้”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็เก็บกระเบื้องสีดำเข้าไปในแหวนเก็บของ ก่อนเดินนำเซียวเทียนไปไกลโดยปราศจากความลังเลแม้แต่น้อย
ผู้ชมเหล่านั้นยังคงสับสน สายตาจับจ้องอาวุธระดับราชันที่ถูกโยนลงกับพื้นตรงหน้า ก่อนจะถูกผู้ชายในชุดคลุมสีดำเก็บมันไป ผ่านไปสักพัก ผู้ชายในชุดคลุมสีดำก็เดินจากไป
“ถึงกับมีใครบางคนถูกหลอกลวงจริงหรือ?!”
ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นในฝูงชน สายตาของทุกคนจึงจับจ้องแผ่นหลังลู่หยวนผู้เดินออกไปไกลแล้ว ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“อาวุธระดับราชันหนึ่งชิ้น เพื่อกระเบื้องหนึ่งแผ่นหรือ? คนผู้นี้เป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ที่ไหนกัน”
ต้องทราบก่อนว่า อาวุธที่สุดยอดขนาดนี้ มีเพียงกองกำลังทรงพลังเท่านั้นที่จะครอบครองได้ อาวุธระดับราชันย่อมเป็นของดีสำหรับผู้คนส่วนใหญ่!
พวกเขารู้ดีว่า ต่อให้เป็นศิษย์ในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ อย่างมากก็ครอบครองอาวุธระดับราชันได้เพียงหนึ่งชิ้นเท่านั้น ดังนั้นการโยนอาวุธระดับราชันหนึ่งชิ้นอย่างไม่ใส่ใจนี้ ย่อมหมายความว่าภูมิหลังตระกูลของอีกฝ่ายไม่ธรรมดา!
ทุกคนต่างคาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของเด็กคนนี้สักพัก
ลู่หยวนและเซียวเทียนย่อมไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นกำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อเซียวเทียนเห็นว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เอากระเบื้องมาแล้ว จึงถามด้วยความสงสัยว่า “พี่ลู่ ของสิ่งนี้คืออะไรหรือ?”
อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้นมอง “เป็นเศษกระเบื้องที่มีร่องรอยค่ายกลอยู่ ดูท่าจะข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ข้าศึกษาเมื่อหลายปีก่อน”
เซียวเทียนพยักหน้า เมื่อได้ยินดังนั้นจึงไม่ถามอะไรอีก
เขารู้ว่าพี่ใหญ่คือนายน้อยแห่งสำนักอักขระสวรรค์ ย่อมรู้วิธีใช้ยันต์เป็นอย่างดี พอวันนี้เห็นเศษเสี้ยวค่ายกลเข้า การเอาอาวุธระดับราชันไปแลกจึงเป็นเรื่องปกติเช่นกัน
เขายังคงเป็นตัวหมากที่ว่าง่ายของวายร้ายผู้นี้เหมือนเดิม
ตอนนี้มุมปากของลู่หยวนยกขึ้น เสียงระบบดังขึ้นในใจ
[ระบบขอแสดงความยินดี ท่านคว้าโชคชะตาของเซียวเทียนผู้เป็นบุตรแห่งโชคชะตามาได้! หากท่านทะลวงผนึกของกระเบื้อง เพื่อแอบดูความลึกลับข้างใน ย่อมเป็นการชิงค่าชะตาของเซียวเทียนผู้เป็นบุตรแห่งโชคชะตา!]
แน่นอนว่า นี่คือสิ่งที่เซียวเทียนควรได้รับ!
เจ้าหนุ่มคนนี้มีเกล็ดมังกรอยู่ในหัวใจ ดังนั้นจึงมีชะตาพัวพันกับเผ่ามังกร
มังกรเจินหลงนั่นก็ควรจะตกเป็นของเซียวเทียนเช่นกัน แต่มันกลับถูกลู่หยวนช่วงชิง วาสนาของเผ่ามังกรทั้งหลายในอนาคต เกรงว่าเป็นการยากหากมันจะตกถึงมือบุตรแห่งโชคชะตาเผ่ามังกรอีกครั้ง
บุตรศักดิ์สิทธิ์ลอบคิดว่าการออกมาในครั้งนี้ไม่ขาดทุน!
หากพาบุตรแห่งโชคชะตาไปด้วย ขอเพียงเด็กคนนี้กวาดตามอง ย่อมพบเจอโอกาสครั้งใหญ่!
ลู่หยวนมองอีกฝ่ายด้วยหางตา แววเนตรซุกซ่อนรอยยิ้มเล่ห์ร้าย
ก่อนจะถอนหายใจด้วยความรู้สึกอันยากจะอธิบาย
วันที่เจ้ารู้ความจริง… สายตาเป็นประกายที่เคยมอบให้ข้าจะแปรเปลี่ยนไปเช่นไร มันจะมอดแสงไปหรือไม่?