ตอนที่ 153 จิตใจที่ซับซ้อนของตระกูลสงคราม (2)
ทว่า ในอาภรณ์สีขาวของซูชี กลับมีรอยแดงเป็นจุดๆ อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
ผู้ใดบ้างที่จะไม่รู้ คุณชายเจ็ดแห่งตระกูลซูไม่เพียงเลือกรับประทาน ทั้งยังรักสะอาด
เวลานี้ ขอเพียงเป็นอาหารที่หนิงเหนียงจื่อทำ เจ้านายสามารถกินทั้งหมดได้ในคราวเดียว
แม้เขาจะไม่ได้มองอย่างพิจารณา แต่จากผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงและเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนสามารถเห็นถึงความน่าเวทนาของหนิงเหนียงจื่อ แต่เจ้านายที่รักสะอาดกลับอุ้มนางเอาไว้ในอ้อมแขน ทั้งยังปกป้องดั่งแก้วตาดวงใจ
แม้เขาจะขี่รถม้าอยู่ด้านนอก แต่ผู้ที่ฝึกวรยุทธ์ มีคนใดบ้างที่ไม่ใช่ตามองหกถนน หูฟังแปดด้าน[1] เสียงหายใจหอบถี่ของสตรีในรถม้า เขาที่บังคับรถม้าอยู่ด้านหน้ายังฟังแล้วหวั่นไหว อย่าได้กล่าวถึงเจ้านายที่นั่งอยู่ด้านใน
แต่เจ้านายของเขากลับยอมทำร้ายตนเองแต่กลับไม่ยอมแตะต้องหญิงในดวงใจแม้แต่น้อย
ส่ายหน้าก็ส่วนส่ายหน้า คำสั่งของเจ้านายยังคงต้องปฏิบัติตาม อาจ้าวบอกกับอาลู่ที่เพิ่งออกมาต้อนรับให้ยกน้ำเย็นเข้าไปที่ห้องของหนังสือหนึ่งถัง จากนั้นเขาหมุนตัวหันหลัง ทะยานตัวมุ่งหน้าออกจากไป๋อวิ๋นจวีอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจสีหน้าสงสัยของอาลู่ว่าเพราะเหตุใดต้องเอาน้ำเย็นไปส่งให้ในเหมันตฤดู
ด้านนอกมีผู้คนพลุกพล่าน รถราวิ่งขวักไขว่ไปมา อาจ้าวเหาะเหินตลอดทาง ตามหาอาอู่ หลังจากบอกสิ่งที่เจ้านายของตนฝากฝังก็หมุนตัวหันหลังแล้วจากไป
แม้อาอู่จะงุนงง แต่ก็ดูออกว่ามีเรื่องเร่งด่วน ทิ้งรถม้า มุ่งหน้าไปยังทิงเฟิงเฉวียน
ความคิดของมั่วเชียนเสวี่ยในเวลานี้พังทลายลงไปหมดแล้ว ตอนที่ซูชีอุ้มนางเข้าไปในห้องหนังสือ มือทั้งสองข้างของนางขาดจากการควบคุมของซูชี จึงดึงผ้าผูกเอวของซูชีทันที ถอดเสื้อตัวนอกของซูชีทิ้ง
หลังจากนั้นมือที่ร้อนผ่าว แนบไปยังแผงอกที่เย็นเล็กน้อยของซูชีด้วยความรวดเร็วและเชี่ยวชาญ
ความเป็นจริงกล่าวว่าเย็นเล็กน้อย เพียงแค่เทียบกับอุณหภูมิในร่างกายของมั่วเชียนเสวี่ยเท่านั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ ซูชีก็ไม่ได้ดีกว่านางสักเท่าใด เขาก็ร้อนผ่าวไปทั้งตัว เลือดลมไหลเวียน เสียงเคาะประตูดังขึ้น ซูชีคิดว่าอาลู่และบ่าวรับใช้ต้องยกน้ำมาแน่นอน เพียงแต่ภาพในตอนนี้ จะให้พวกเขาเห็นได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้เวลาเดียวกันที่บอกให้พวกเขาเข้ามา ก็อุ้มมั่วเชียนเสวี่ยเข้าไปด้านใน
มือทั้งสองข้างของมั่วเชียนเสวี่ยยังคงรู้สึกร้อน ชักมือกลับแล้วดึงผ้าผูกเอวของตน ถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกทันที นางยังคงจะถอดอาภรณ์ทว่าซูชีรีบคว้าตัวนางเอาไว้ จับมือของนางแล้วพันธนาการเอาไว้ด้านหลัง มั่วเชียนเสวี่ยเห็นว่ามือถูกคว้าเอาไว้ ทั้งร้อนใจและทั้งโมโห เงยหน้าขึ้นแล้วกัดคอของซูชี ซูชีรู้สึกปวดที่คอและสั่นเทาไปทั้งตัว เท้าของเขาอ่อนแรง ชั่วขณะหนึ่งยืนไม่มั่น ถอยหลังหนึ่งก้าว ล้มลงบนตั่งไม้พอดี
ซูชีผ่อนแรงและล้มลง มั่วเชียนเสวี่ยล้มลงบนตัวของเขา มือกลับมามีอิสระอีกครั้ง ขึ้นคร่อมซูชีที่กำลังจะลุกขึ้น
หากไม่ใช่ด้านนอกมีเสียงของอาลู่ตำหนิบ่าวรับใช้ในวางถังน้ำดังขึ้น คุณชายเจ็ดคนนี้เกือบขาดสติเสียแล้ว
อาลู่สั่งให้คนยกน้ำเข้ามาในห้อง ทว่ากลับไม่เห็นเงาของเจ้านาย ได้ยินเพียงเสียงดังขึ้นจากด้านใน “ไสหัวออกไป”
เสียงนั้นแหบพร่าทว่าเคล้าไปด้วยความสั่นเทาที่ยากจะควบคุม
แม้อาลู่จะไม่เข้าใจว่าเจ้านายเป็นอะไร แต่จากน้ำเสียงฟังออกถึงความรีบร้อน รีบบอกให้บ่าวรับใช้ที่ยกน้ำเข้ามาให้ถอยออกไป ปิดประตูห้อง เฝ้าเอาไว้ด้านนอก
ตำแหน่งที่มั่วเชียนเสวี่ยขึ้นคร่อมเป็นตำแหน่งที่ไม่อาจพูดออกไปได้ ซูชีเหยียดกายลุกขึ้นอย่างสุดจะทน มือและเท้าของมั่วเชียนเสวี่ยเกาะเกี่ยวบนกายของเขาราวกับลิง
ริมฝีปากของมั่วเชียนเสวี่ยแดงจนม่วงเล็กน้อยแล้ว หายใจหอบถี่มากยิ่งขึ้น เท้าทั้งสองข้างหนีบเอวของซูชีแน่นมาก เขาแกะอย่างไรก็แกะไม่ออก
ดูท่าคงต้องทำเช่นนี้เท่านั้น รอให้สามีของนางมาถึง ไม่แน่ นางอาจจะถูกเพลิงไฟที่ร้อนแรงแผดเผาจนเลือดออกทั้งเจ็ดทวารแล้ว
อุ้มนางเดินไปยังข้างถังน้ำ ไม่อาจแกะมือของมั่วเชียนเสวี่ยออกได้ ซูชีร้องเรียกมั่วเชียนเสวี่ยเสียงเบาสองสามครั้งแต่กลับไม่ได้การตอบกลับแม้แต่น้อย เวลานี้เรี่ยวแรงทั้งหมดของนางใช้ไปกับการเกาะเกี่ยวเขาแล้ว คล้ายกลัวว่าจะถูกเขาผลักออกอย่างไรอย่างนั้น
ซูชีลอบถอนหายใจ ช่างเถอะ อากาศที่เหน็บหนาว น้ำนี่ก็ยังหนาวเย็นเช่นนี้อีก นางลงไปในน้ำตามลำพัง ต้องทุกข์ทรมานมากแน่ๆ ลงไปเป็นเพื่อนนางหน่อยก็ดี
ด้วยเหตุนี้จึงอุ้มมั่วเชียนเสวี่ยแล้วกระโดดเข้าไปในถังน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำเย็น
อ๊าก… น้ำเย็นสัมผัสกาย คลื่นความร้อนในกายยังคงไหลเวียน ทว่าแววตาของมั่วเชียนเสวี่ยมีสติขึ้นมาเล็กน้อย
รูม่านตาหดเล็ก สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตากลับเป็นใบหน้าขยายใหญ่ที่ขาวดั่งหยกและแดงระเรื่อของซูชี
“เจ้า…เจ้า…”
เดิมที นางอยากจะถามว่าเขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เป็นเจ้าได้อย่างไร ทว่าในหัวกลับฉายภาพเศษเสี้ยวบางส่วน คำพูดนี้หยุดชะงักทันที หยุดลงกะทันหัน มั่วเชียนเสวี่ยดึงสติกลับมา พบว่าตนซบอยู่บนกายของเขาราวกับหมึก ปากที่อ้าค้างอยู่นานครึ่งค่อนวันของนางจึงไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาอีก
ท่ามกลางความกระอักกระอ่วน มั่วเชียนเสวี่ยดึงมือกลับมา ดึงเท้ากลับมา ก้มหน้าลง…จนกระทั่งจมลงไปในน้ำ
ให้นางตายเถอะ! กลั้นหายใจตายไปเสีย ขายหน้าไม่มีชิ้นดีแล้ว!
นี่นางกำลังทำสิ่งอยู่ เกือบจะขืนใจบุรุษที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแล้ว ขายหน้าเสียจริง!
ซูชีเห็นนางมีสติขึ้นมาเล็กน้อย จึงปล่อยตัวนาง เดิมทีเตรียมจะกระโดดออกมาจากถังน้ำ แต่กลับเห็นมั่วเชียนเสวี่ยก้มหน้าลงกระทั่งจมลงไปในน้ำ กลัวว่านางจะกลั้นหายใจจนป่วย ด้วยเหตุนี้จึงยื่นมือออกไปแล้วบังคับนางให้เงยหน้าขึ้นมา
“เจ้าทำเช่นนี้จะกลั้นหายใจจนป่วยเอาได้…” น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความทะนุถนอม
“…” มั่วเชียนเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองซูชี สวรรค์! ปล่อยมือเถอะ ปล่อยนางกลั้นหายใจจนตายเถอะ!
ตึ้ง…
เสียงประตูดังขึ้น เปิดมาจากด้านนอก ร่างหนึ่งพุ่งตัวเข้ามา
ซูชีและมั่วเชียนเสวี่ยหันหน้ากลับไป
ด้วยเหตุนี้ภาพที่ประจักษ์อยู่ในสายตาของหนิงเซ่าชิงจึงเป็น ‘ชายหญิงอาบน้ำร่วมกัน บุรุษเชยคางของสตรี สตรีมองบุรุษด้วยความรักใคร่ หลังจากนั้น…’
หลังจากนั้น เขาตวัดฝ่ามือ ทำร้ายอาลู่ที่กำลังจะเข้ามาห้ามเขา หลังจากนั้นปิดประตูลง
สิ่งที่เหลือ มีเพียงความโมโหของเขา ใบหน้าที่เปี่ยมด้วยเมฆครึ้ม โอบล้อมด้วยสายฟ้า ดวงตาที่เต็มไปด้วยแรงสังหารและความอาฆาต…
สวรรค์รู้ดี ตอนที่เขาได้รับเรื่องให้ไปรับมั่วเชียนเสวี่ยที่ไป๋อวิ๋นจวี เขาเริ่มกังวลไปต่างๆ นานา หลังจากนั้นเริ่มคาดเดาไปต่างๆ นานา เพียงแต่ ไม่ว่าเขาจะคาดเดาเช่นไร ก็ไม่คิดว่าจะเป็นภาพที่เย้ายวนเช่นนี้
ไม่สิ เป็นภาพที่ทำให้สะเทือนใจ แทบจะบ้าคลั่ง
หนิงเซ่าชิงไม่ได้คิดสิ่งใดมากมาย ยกฝ่ามือขึ้น จู่โจมไปทางซูชี
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความคิดที่จะให้ทั้งคู่ได้ครองรักกัน แต่หลังจากที่หาตัวหมอประหลาดเจอ ความคิดนั้นก็ถูกเขาโยนทิ้งไปไกล
แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยมีความคิดที่จะให้ทั้งคู่ได้รักกัน แต่ว่า ขอเพียงเขายังมีชีวิต ขอเพียงยังมีลมหายใจ แม้จะเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้าย เขาไม่มีวันยอม ไม่มีวันยอม… นัยน์ตาของหนิงเซ่าชิงมีความเคียดแค้น ฝ่ามือเหี้ยมเกรียม เคล้าไปด้วยเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่า พุ่งไปตรงหน้าซูชี
ซูชีเห็นท่าไม่ดี สายเกินไปที่จะต้านทาน แต่ว่า ด้วยวรยุทธ์ของเขา อยากจะหลบเลี่ยงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป แม้ฝ่ามือนั้นจะพุ่งมาที่เขา แต่หากเขาหลบเลี่ยง เช่นนั้นฝ่ามือนั่นย่อมกระเทือนโดนถังน้ำ
คนที่นั่งอยู่ในถังน้ำคือมั่วเชียนเสวี่ย นางเพิ่งถูกพิษของยาปลุกกำหนัด ตอนนี้แช่อยู่ในน้ำเย็น หากถูกฝ่ามือนี้กระทบกระเทือนอีก เกรงว่าจะอันตรายถึงชีวิต
[1] ตามองหกถนน หูฟังแปดด้าน หมายถึง ฉลาดคล่องแคล่ว สามารถสังเกตและวิเคราะห์เหตุการณ์ได้รอบด้าน