ตอนที่ 21-1ฆ่ามด

ท่านหมอหลินบรรจงทายาลงบนใบหน้าของหลี่ชางซี ขณะที่จ้องมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร

ท่านหมอถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ และกล่าวว่า

“คุณหนูห้า เป็นเรื่องที่ไปมิได้ที่เมื่อบาดแผลหายแล้ว ใบหน้าของท่านจะกลับไปเป็นเช่นเดิม”

การแสดงออกของหลี่ฉางซีเปลี่ยนไปทันที นางขว้างถ้วยชาลงบนพื้นและสะอึกสะอื้นอย่างรุนแรง

ซื่อหยินเหนียง และหลี่ฉางเซี่ยวรีบวิ่งเข้าไปหา พร้อมกับผ้าเช็ดหน้าในมือ

ฮูหยินใหญ่ชำเลืองตาดูเหตุการณ์ด้วยความเย็นชา

ซื่อหยินเหนียงผู้นี้มาจากเมืองเจียงหนาน นางมีความสง่างามและอ่อนโยน และยังมีวาจาที่สุภาพ และอ่อนหวาน

แม้แต่ท่าทางที่นางเคลื่อนไหวก็ช่างมีความละเอียดอ่อนยิ่งนัก อีกทั้งยังมีพรสวรรค์ในด้านกวีนิพนธ์และงานศิลปะหลายประเภท

นอกจากนี้นางยังมีทรวดทรงที่งดงามและเย้ายวน ซึ่งน่าหลงใหลมาก

แม้หลังจากที่ได้ให้กำเนิดหลี่ฉางเซี่ยว และหลี่ฉางซีแล้ว หลี่เสี่ยวหรันก็ยังคงให้ความสำคัญกับนางอยู่

เมื่อมองไปที่ทั้งสามคนแม่ลูก คุณหนูใหญ่หลี่จางเล่อจึงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม การขยับเพียงเล็กน้อยของคิ้วนั้น มันได้ทำให้ท่านหมอหลินถอนหายใจออกมาอย่างรุนแรง

มิน่าแปลกใจที่ทุกคนมักกล่าวกันว่า บุตรสาวคนโตของท่านอำมาตย์หลี่นั้นมีความงดงามดั่งเช่นนางฟ้า พวกเขากล่าวได้ถูกต้องแล้ว

ฮูหยินใหญ่ไอเบา ๆ ทำให้ท่านหมอหลินหลุดจากความงุนงง

หลี่จางเล่อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และสุภาพว่า

“ท่านหมอหลิน น้องห้ายังมิได้แต่งงาน ความงามของผู้หญิงมีความสำคัญมากที่สุด ดังนั้น โปรดทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือนางด้วย

นอกจากนี้ ท่านต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับ เพื่อมิให้เรื่องนี้หลุดลอดออกไป”

ท่านหมอหลินคิดในใจว่า คุณหนูใหญ่ผู้นี้ มิเพียงแต่งดงามอย่างน่าทึ่ง แต่นางยังมีจิตใจดีมาก

หญิงที่มีสองสิ่งนี้อยู่ในคนผู้เดียวนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยาก

เขาประสานมือของตนเองเข้าไว้ด้วยกันและกล่าวว่า

“คุณหนูใหญ่ ในฐานะที่ข้าเป็นหมอเรื่องแผลเป็นของคุณหนูห้านั้น ข้าจะพยายามรักษาอย่างเต็มที่

ส่วนที่จะให้เก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับนั้น ท่านมิต้องเป็นกังวล

เพราะนี่มิได้เป็นครั้งแรกที่ข้ามาทำงานให้กับบ้านตระกูลหลี่”

หลี่จางเล่อพยักหน้าแล้วจึงสั่งคนรับใช้ออกไปส่งท่านหมอกลับ

ในห้องนั้น เสียงสะอื้นยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“เจ้าจะร้องไห้เพื่ออันใดอีก? ต้องการให้มีคนรู้เรื่องนี้เพิ่มขึ้นใช่หรือไม่”

ฮูหยินใหญ่เอ่ยถามอย่างแข็งกร้าว

หลี่ฉางซีรู้สึกเสียใจหนักขึ้นไปอีกจึงร้องไห้จนแทบจะหายใจมิออก

เมื่อซื่อหยินเหนียงซึ่งยืนอยู่ด้านข้างได้เห็นเช่นนั้น จึงจ้องมองไปฮูหยินใหญ่ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด และมีความขุ่นเคืองในดวงตาของนาง

“ฮูหยิน คราวนี้ท่านต้องล้างแค้นให้กับฉางซี!”

ฮูหยินใหญ่กระแทกถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะทันที การแสดงออกนั้นเป็นเพียงหนึ่งในความโกรธแค้นภายในใจ

“ล้างแค้น ล้างแค้น! เจ้าคิดจะล้างแค้นผู้ใดกัน นี่เป็นเพราะฉางซีทำผิดพลาดเอง มิเช่นนั้นทุกอย่างก็จะมิเป็นเช่นนี้”

ซื่อหยินเหนียงมีอาการตกใจ จากนั้นน้ำตาได้เริ่มร่วงหล่นจากดวงตาของนางด้วยความเสียใจ

ฮูหยินใหญ่มีความเกลียดชังซื่อหยินเหนียงมากที่สุด

เหตุผลเดียวที่ทำให้ต้องอดทนกับทั้งสามคนนี้ เพราะนางหวังที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสามแม่ลูกนี้ในภายหลัง

“ซื่อหยินเหนียงมิจำเป็นต้องทนทุกข์ทรมาน ท่านแม่มิได้กล่าวว่านางจะมิสนใจพวกเจ้า

อย่างไรก็ตาม สังเกตุจากคำกล่าวของน้องสามแล้ว นางมีความฉลาดหลักแหลมมิใช่น้อยเลย

นางสามารถทำให้ท่านพ่อเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ตนเองได้

ตอนนี้แม้ว่าท่านแม่จะต้องการปกป้องน้องห้า ก็มิสามารถทำอันใดได้อีกแล้ว”

หลี่จางเล่อปลอบใจ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า คำกล่าวเหล่านั้นพุ่งเป้าไปที่หลี่เว่ยหยาง

ตามที่คาดไว้ มันเป็นการเพิ่มความเกลียดชังให้กับซื่อหยินเหนียง

เห็นได้ชัดว่า เป็นฉางซีที่รบกวน เว่ยหยางก่อน ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องรับผลกรรมที่ตนเองได้ก่อเอาไว้

มุมมองของคุณหนูสี่มีความแตกต่างออกไป แต่นางมิกล้าที่จะกล่าวอันใดออกมา

ตอนนี้น้ำเสียงของฮูหยินใหญ่ดูเป็นมิตรมากขึ้น

“ลูกห้าก็เป็นเหมือนลูกในไส้ของข้า เมื่อเห็นนางบาดเจ็บเช่นนี้ จะมิรู้สึกเจ็บปวดได้อย่างไร?

ข้าคิดมิถึงเลยว่า เว่ยหยางแม้จะอายุยังน้อย แต่นางยังมีความดุร้ายและชั่วร้ายถึงเพียงนี้

ขณะนี้นางได้ทำลายความงดงามของฉางซีไปแล้ว

อีกทั้งในตอนนี้ยังเป็นคนสนิทของท่านย่าใหญ่อีก และยังได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างมาก

แม้ว่าข้าจะมีบางอย่างอยู่ในใจ แต่ก็มิสามารถระบายได้ พวกเจ้าพากันกลับไปก่อน ให้เวลาข้าคิดเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน”

ซื่อหยินเหนียงระงับความรู้สึกคับแค้นใจเอาไว้ และช่วยพยุงหลี่ฉางซีไว้

หลี่ฉางเซี่ยวหันกลับไปมองฮูหยินใหญ่ซึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้อง และมีความรู้สึกเกิดขึ้นในใจว่า

แม้ว่าฮูหยินใหญ่ผู้นี้ จะมีใบหน้าที่แสดงถึงความมีจิตใจดี แต่ภายใต้หน้ากากนั้นนางดูมีความเย็นชา และโหดเหี้ยมมาก

หลี่จางเล่อเฝ้ามองร่างที่กำลังถอยห่างออกไป ขณะที่สายตาของนางเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นในทันที

“ท่านแม่ ในวันนี้เกิดอันใดขึ้น . .”

ฮูหยินใหญ่ขบฟันแน่น พร้อมกับกล่าวด้วยความเกลียดชังว่า

“ข้ามิคาดคิดเลยว่า นังเด็กบ้านนอกผู้นี้ จะอันตรายถึงเพียงนี้!”

“หากท่านแม่ต้องการที่จะจัดการกับมัน เรายังมีโอกาสอีกมากมาย

เพียงแค่รอจังหวะที่ท่านย่าใหญ่ และท่านพ่อมิอยู่บ้านเท่านั้น

จากนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือ ฆ่ามันทิ้งเสีย”

หลี่จางเล่อผู้ซึ่งมีจิตใจที่งดงาม กล่าวออกมาอย่างเรียบง่าย ราวกับว่า นางต้องการเพียงแค่จะฆ่ามดตัวน้อยสักตัว

หากมีคนนอกอยู่ในห้องตอนนี้ พวกเขาคงมิเชื่อหูของตนเองเป็นแน่

จะเป็นไปได้อย่างไร ที่คำกล่าวชั่วร้ายเหล่านั้นจะออกมาจากปากของคุณหนูใหญ่ ผู้ซึ่งมีความงดงามที่สุดในบ้านตระกูลหลี่