จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 131
ชายชรากล่าวขึ้นพร้อมยิ้มเย็น “ไอ้หนู ล่วงเกินกลุ่มชิงเทียนมีแต่ตายสถานเดียว”
ชายชราไม่พูดจาอ้อมค้อมอีกต่อไป เขาเผยเจตนาที่แท้จริงโดยตรง
ฉินเทียนหัวใจบีบรัดแน่น ในใจก็ก่นด่า กลุ่มชิงเทียนมือยาวไปแล้ว”
นับตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากเวทีประลอง ฉินเทียนก็ถูกจับตามองแล้วเมื่อเขาเข้ามาที่หอภารกิจ ชายชราก็เริ่มคาดเดาเจตนาการมาของฉุนเทียนไม่ว่าฉันเทียนอยากจะแลกเปลี่ยนอะไรที่นี่ก็จะไม่มีให้เขากระนั้นเขาก็ยังคิดไม่ถึงว่าฉันเทียนจะเลือกแลกกับคุณสมบัติเข้าเป็นศิษย์สายใน
” ต้องการเข้าเป็นศิษย์สายใน?” ชายชราแค่นเสียง”ไว้ชาติหน้าเถอะ”
ศิษย์สายในมีความสําคัญต่างจากศิษย์สายนอกมาก
ศิษย์สายนอกนั้นลงมือง่าย แต่ศิษย์สายในนั้นยากกระทําในสงครามชิงอํานาจ ฉุนเทียนสร้า งชื่อจนเป็นที่รู้จักขึ้นมาและเรื่องนี้ยังทําให้กลุ่มชิงเทียนสูญเสียผลประโญชน์มหาศาลหากฉันเทียนไม่ตายชื่อเสียงของกลุ่มชิงเทียนก็จะด่างพร้อยแล้ว
ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในสิบสองผู้ดูแลหวังซียังตกตายด้วยน้ํามือของฉุนเทียนทําให้กลุ่มชิงเทียนโกรธมากเช่นนี้แล้วยังจะปล่อยให้ฉุนเทียนสุขสบายได้อีกหรือ?
ดังนั้นชายชราจึงใช้ฐานะของเขาบีบคั้นฉันเทียนเข้าสู่ทางตัน
เมื่อกระจ่างแจ้งจิตเจตนาของอีกฝ่าย ฉินเทียนก็สงบใจลงแต่กระนั้นความโกรธในใจกลับไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อยฉินเทียนหรี่ตามองชายชรา ”แค่ข้าไม่แลกก็พอแล้วใช่หรือไม่?”
“ไม่แลก?” ชายชราเงยหน้าส่งเสียงหัวเราะ ”ต่อให้เจ้าไม่แลกแล้วเจ้าก็ต้องส่งมอบป้ายประ จําตัวและรับการไต่สวน”
แม้ฉุนเทียนจะเพิ่งเข้าร่วมสํานักได้ไม่นาน แต่เขาก็ยังทราบว่าไม่มีกฏข้อไหนที่ระบุว่าบุคคลอื่นสามารถตรวจสอบป้ายประจําตัวของศิษย์ได้ตามใจ การตรวจสอบการได้มาของแต้มผลงานก็ยิ่งไม่สามารถ ชายชราคนนี้ยังคงยั่วยุอย่างต่อเนื่อง หวังให้ฉุนเทียนลงอย่างขาดสติ ถ้าหากว่าเขาไม่ได้กําลังอยู่ในหอภารกิจ ฉุนเทียนก็คงปลิดปลงสังหารชายชราไปแล้ว
“มากไปแล้ว” ฉุนเทียนลอบโคจรพลังปราณ ตระเตรียมลงมือ
เพื่อที่จะขึ้นมาดํารงตําแหน่งผู้อาวุโสแห่งหอภารกิจ ระดับบ่มเพาะของชายชราย่อมไม่ต่ําทราม เขาอยู่ระดับสามขั้นสวรรค์ ชายชรามั่นใจยิ่งว่าสามารถสังหารฉุนเทียนในฝ่ามือเดียว เห็นใบหน้าที่ยิ่งมายิ่งโกรธของฉุนเทียน ชายชราก็ยิ้มเยาะ “บังคับเจ้าแล้วอย่างไร? กล้าล่วงเกินกลุ่มชิงเทียน เจ้าก็ควรเตรียมใจตายไว้ก่อนแล้ว”
” ค้นตัวมัน”
” ขอรับ”
ผู้คุ้มกันของหอภารกิจทั้งหกคนล้วนเป็นระดับสุดยอดขั้นกลั่นวิญญาณ ควบคู่ไปกับการมีระดับสามขั้นสวรรค์คุมเชิงอยู่อีกผู้หนึ่ง โอกาสชนะของฉันเทียนย่อมไม่มี
ตกอยู่ในห้วงวิกฤต ฉุนเทียนเร่งใช้ความคิดเร็วรี่
วันนี้ถูกยึดป้ายประจําตัว พรุ่งนี้ที่ถูกยึดก็อาจเป็นชีวิต การอดกลั้นไม่ใช่หนทาง ดังนั้นจึงเหลีอเพียงทางเลือกเดียว ฆ่า!
เมื่อทะลวงมาระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณ พลังปราณทั้งหมดก็ถูกฟื้นฟู แม้จะไม่อาจฆ่าชายชราได้ที่นี่ แต่เขาก็ยังสามารถหลบหนีออกไป
พลังปราณปะทุออกพร้อมการลงมือของฉันเทียน
เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ชายชราก็ลอบหัวเราะอยู่ในใจ “เด็กหนอเด็ก ไม่อาจควบคุมโทสะของตนคิดหนีหรือ? เหอเหอ ถ้าเจ้าเลทือกหนีเจ้าจะตายอย่างไม่ต้องสงสัย
หากฉันเทียนฝ่าวงล้อมหลบหนี ชายชราก็จะตั้งข้อหาขึ้นมาสักข้อหา และทําให้ฉุนเทียนไม่อาจกลับเข้าสํานัก ทําได้เพียงหลบหนีการจับกุมของหอวินัยจนสุดหล้า
แต่หากเลือกที่จะไม่หนี ฉิเนีทยนก็ต้องส่งมอบป้ายประจําตัวพร้อมแต้มผลงานจํานวนสองแสนสี่หมื่นแต้มออกมา
หากฉันเทียนเลือกหันมาสู้ตาย ถึงตอนนั้นชายชราก็จะสามารถยัดข้อหาและจับตัวฉันเทียนมาทรมาณจนมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย
ฉินเทียนได้แต่ยอมรับว่าหมากตานี้ของชายชรานั้นยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่ว่าเขาจะเลือกหนทางไหน ความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็จะมากมายมหาศาล
สายตาจับจ้องมองชายชรา แววตายิ่งปรากฏประกายสังหาร แต่ในใจยังไร้ซึ่งหนทาง ภายในสํานักแห่งนี้เขาไม่มีอํานาจใดๆ ต่อให้หนีออกไปจากหอภารกิจได้ แล้วต่อจากนั้นเล่า?
เป้าหมายของเขาคือการเดินทางมาสังหารหลงเสี่ยวเทียน
แต่หากหลบหนีไปตอนนี้ ทั้งสํานักเทียนจี้ก็จะยึดถือเขาเป็นศิษย์ทรยศ แผนการทั้งหมดก็จะพังพินาศไป
ในขณะที่เขากําลังจะหยิบป้ายประจําตัวออกมานั้นเอง เสียงปรบมือก็ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง
” ประเสริฐ ประเสริฐ ผู้อาวุโสอินเว่ยก็คือผู้อาวุโสอินเว่ย ช่างร้ายกาจจริงๆ”
บุรุษที่เดินขึ้นบันไดมามีลักษณะท่วงท่างามสง่า ทุกย่างก้าวของเขาสร้างความกดดันที่ทําให้ผู้อื่นสั่นสะท้านด้วยความกลัวออกมา ดวงตาอันเฉียบคมของเขากวาดมองฉันเทียนคราหนึ่งฉินเทียนรู้สึกราวกับถูกอีกฝ่ายสอดส่องความลับจนทะลุปรุโปร่ง
ยามอยู่เบื้องหน้าบุรุษผู้นี้ เขารู้สึกราวกับยืนเปลื้องผ้า ไม่อาจเก็บซ่อนความลับใด
ผู้อาวุโสอินเว่ยพลันหน้าดําครึม ”นายน้อยอู่เทียน…”
อู่เทียนค่อยๆก้าวเดินขึ้นมา สายตาหันไปจับจ้องอินเว่ย “ผู้อาวุโสอินเว่ย เป็นผู้ใดที่มอบอํานาจในการตรวจสอบป้ายประจําตัวของผู้อื่นให้แก่ท่าน?”
สิ้นวาจาประโยคนี้ อินเว่ยก็รู้สึกร่างกายเย็นเฉียบ ขาค้ํายันร่างกายอยู่เริ่มสันเทาขึ้นมา
ฉุนเทียนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ที่แฝงอยู่ในคําพูดซึ่งมุ่งเป้าไปที่ผู้อาวุโสเท่านั้นเป็นกลิ่นอายที่น่าตกใจเสียจนทําให้ฉันเทียนต้องทอดถอนใจ แข็งแกร่งมาก”
เหงื่อเย็นเริ่มไหลซึมลงมาตามหน้าผากของผู้อาวุโสใน ขณะที่เหล่าผู้คุ้มกันของหอภารกิจต้องเซถอยไปหลายก้าว สายตาของพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะชําเลืองมองไปทางอู่เทียน
” หรือเป็นท่านที่มอบอํานาจนี้ให้กับตัวเอง?” คิ้วเลิกขึ้นและกลิ่นอายอันแข็งกร้าวก็แผ่ซ่านออกมา อินเว่ยพลันคุกเข่าลง ไม่อาจขยับแม้แต่นิ้วมือ
ใช้พลังจิตวิญญาณอย่างเพียงเดียวก็สามารถทําให้ระดับสามขั้นสวรรค์อย่างผู้อาวุโสอนเว่ยคุกเข่าลง ดูท่าว่าอู่เทียนผู้นี้คงเหยียบถึงธรณีประตูของขั้นจุติแล้ว
“นาย…น้อย…..เทียน….นี่เป็นเรื่องของ…กลุ่มชิงเทียน…ท่านต้องการสอด มือหรือ?.ประมุขน้อย.ต้องไม่ปล่อยไปง่ายๆ ” อินเว่ยหอบหายใจอย่างลําบาก แม้ ความโกรธจะสูงเทียมฟ้าแต่เขาก็ไม่กล้าเผยออกมาแม้แต่เศษเสี้ยว หากแต่ในใจนั้นสบถค่าบรรพ บุรุษสิบแปดรุ่นของอู่เทียนไปแล้วเรียบร้อย
” เหอะ”
แค่นเสียงคําหนึ่ง กลิ่นอายก็ดุร้ายขึ้นอีกขั้น
ใบหน้าของอินเว่ยหมอบฟุบลงกับพื้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ไม่อาจกระทําแม้แต่หายใจเข้าออก ขึ้นเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาต้องตายอย่างแน่นอน
“ใช้ชื่อประมุขน้อยกลุ่มชิงเทียนมาขู่ข้ารึ?” สีหน้าของอู่เทียนพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา แววตาปรากฏจิตสังหาร
อินเว่ยเค้นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายละล่ําละลักกล่าวว่า “ไม่…ไม่กล้า…ไม่กล้า…”
“เจ้าสุนัขรับใช้ ข้าเองก็รู้ว่าเจ้าไม่กล้า” อู่เทียนเก็บรั้งกลิ่นอายแกร่งกร้าวกลับไป จากนั้นจึงหันไปทางฉุนเทียน ” ต้องการเข้าร่วมกลุ่มอู่เทียนรีไม่?”
” หากเจ้าต้องการเผชิญหน้ากลุ่มชิงเทียน เข้าร่วมกับเรา มีเพียงเข้าร่วมกับเรา ประมุขน้อยกลุ่มชิงเทียนจึงไม่กล้าลงมือต่อเจ้า”
” ว่าอย่างไรฉุนเทียน? หากไม่ใช่เพราะข้าให้ค่าเจ้าอย่างสูง ข้าก็คงไม่ปรากฏตัวด้วยตนเอง”
สายตาอันร้อนแรงของอู่เทียนทําให้ฉันเทียนลอบตกใจ เมื่อขบคิดดูแล้ว เขาก็พลันเข้าใจว่าทําไมเรื่องราวถึงดูบังเอิญได้ขนาดนี้
แม้ฉุนเทียนจะไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มอู่เทียนมากนัก แต่ก็มีบางเรื่องที่เขากระจ่างอย่างชัดเจน กลุ่มอู่เทียนและกลุ่มชิงเทียนเป็นดั่งน้ํากับไฟ
สําหรับสถานการณ์ของทั้งสองกลุ่มนี้ ฉุนเทียนไม่ต้องการเข้าไปร่วมประสมโรง แต่ตอนนี้เขาล่วงเกินกลุ่มชิงเทียนไปแล้ว และประมุขน้อยกลุ่มชิงเทียนแน่นอนว่าย่อมไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ
แม้การเข้าร่วมกับกลุ่มอู่เทียนจะสามารถคุ้มลมคุ้มฝนได้ระยะหนึ่ง แต่ในอนาคตก็จะมีพายุลูกใหญ่กวาดม้วนมาอยู่ดี
และบางที ตอนนั้นเขาอาจต้องรับบทตัวประกอบที่วิ่งไปตายเป็นกลุ่มแรกๆ
ลึกลงไปในใจแล้วฉุนเทียนไม่ต้องการเข้าร่วมกลุ่มอู่เทียน แม้ว่าอู่เทียนซึ่งเป็นประมุขน้อยของกลุ่มจะมาเชิญเขาด้วยตนเองก็ตาม เขาก็ไม่ต้องการ หากเขาตกปากเข้าร่วม ปัญหายุบยับก็จะเกิดขึ้นตามมาไม่หยุด
“ถ้าหากข้าตอบว่า “ไม่” ล่ะ ท่านจะฆ่าข้าหรือไม่?”
คําตอบของฉุนเทียนทําให้อู่เทียนชะงัก
ตัวเขาไม่เคยเอ่ยปากชักชวนผู้ใดด้วยตนเองมาก่อน นึกไม่ถึงว่าเพียงเอ่ยปากครั้งแรกก็ถูกปฏิ เสธเสียแล้ว รอยยิ้มแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าขณะที่อู่เทียนเอ่ยถามออกไป “เจ้าไม่กลัวว่ากลุ่มชิงเทียนจะตามสร้างปัญหาให้เจ้ารึ?”
ย่อมกลัว!” ฉุนเทียนตอบโดยไม่ปิดบัง ” แต่เมื่อเดินอยู่บนเส้นทางแห่งการฝึกตน ย่อมไม่อาจหาที่คุ้มภัยเพียงเพราะหวาดกลัว หยุดดิ้นรน ก็เท่ากับหยุดเส้นทางไว้เพียงเท่านั้น กลุ่มชิงเทียนเป็นเพียงกลุ่มอิทธิพลหนึ่งในสํานักเทียนจี้เท่านั้น เทียบกับทวีปเทียนหยวนทั้งทวีปแล้วนี่ไม่ใช่ว่าเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้นหรือ?”
ทุกถ้อยวาจาที่กล่าวออกมาล้วนสร้างความตะลึงให้กับอู่เทียน คิดไม่ถึงว่าฉันเทียนจะมีความทะเยอทะยานสูงส่งถึงเพียงนี้
สุดท้ายอู่เทียนก็หัวเราะออกมา
“ในอนาคต หากพบปัญหาจงมาหาข้า จําไว้ได้ทุกปัญหา!”
กล่าวจบร่างของอู่เทียนก็พลันหายไป!