บทที่ 156 หมอเทวดาแห่งหย่งอันถัง

ความจริงแล้วคนอื่น ๆ ในหย่งอันถังนอกจากถังซุ่นแล้วล้วนคิดว่าแม่นางน้อยผู้นี้กำลังจะก่อปัญหา

การรักษาคนหากตายขึ้นมาจะต้องมีการขึ้นโรงขึ้นศาล ดีไม่ดีคนเหล่านั้นอาจจะสั่งโบยด้วย

เผยยวนประคองจั๋วฉวินไปหาที่นั่ง จั๋วฉวินจึงเอ่ยขึ้นด้วยความกังวล “ท่านแม่ทัพขอรับ แม่นางคนเมื่อครู่จะเป็นอะไรหรือไม่ขอรับ”

เผยยวนมองหน้าเขาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่ง “เรียกฮูหยิน”

จั๋วฉวินอึ้งไปเล็กน้อย และไร้ซึ่งการตอบสนองใด ๆ

อะไรนะ? ท่านแม่ทัพแต่งงานแล้วหรือ? เรื่องตั้งแต่เมื่อใดกัน?

อีกอย่างดูท่าทางของท่านแม่ทัพแล้วก็เหมือนจะกลัวแม่นางผู้นี้อยู่มากเลยทีเดียว ยามที่ท่านแม่ทัพอยู่ข้างกายของนางราวกับตัวเขาเป็นเพียงภรรยาตัวน้อย ๆ อย่างไรอย่างนั้น

แต่จั๋วฉวินไม่กล้าพูด

ผ่านไปครู่หนึ่ง ท่านหมอท่านนั้นก็ยังคงพูดด้วยความไม่พอใจ “รอก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวเสียงร้องไห้ก็จะดังขึ้นมาแล้ว ต้องตายอย่างแน่นอน!”

เผยยวนเอามือกอดอก พลางเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเย็น “เจ้านี่ก็แปลกคนไม่น้อย เป็นหมอรักษาคน หากว่ามีหมอที่เก่งกว่าสามารถรักษาคนได้ก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ แต่เจ้ากลับเอาชีวิตคนมาเดิมพัน อยู่มาจนอายุปูนนี้แล้ว ช่างเกิดมาเสียเปล่าจริง ๆ”

นิสัยดี ๆ ของเผยยวนมีให้แค่คนที่เขาใส่ใจเท่านั้น ส่วนคนอื่นเขาก็คร้านจะสนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร

แต่คำพูดนี้ของเขาล้วนมีเหตุมีผล ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็มองไปที่ท่านหมอเป็นตาเดียว ทันใดนั้นท่านหมอก็ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายขึ้นมาทันที

อึดใจต่อมาก็มีเสียงร้องไห้ดังออกมาจริง ๆ ท่านหมอจึงหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองได้อีกครั้ง

“เป็นอย่างไร ข้าบอกแล้วว่ารักษาไม่ได้”

ใบหน้าของทุกคนเผยสีหน้าผิดหวังออกมา คิดว่าจะรักษาได้เสียอีก…

จี้จือฮวนเดินออกมาและคนที่เดินร้องไห้ตามหลังออกมาด้วยก็คือญาติคนไข้เมื่อครู่

ขณะที่ทุกคนคิดว่าอีกเดี๋ยวจะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นเป็นแน่ หญิงที่แต่งงานแล้วผู้นั้นก็ดึงมือของจี้จือฮวนและเอ่ยขึ้นมา “ขอบคุณแม่นางมาก ขอบคุณที่ท่านช่วยให้คนฟื้นขึ้นมา ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีชีวิตจริง ๆ ข้าจะจดจำบุญคุณของท่านไปชั่วชีวิตเลยเจ้าค่ะ”

ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหลทันที เมื่อครู่คนผู้นั้นใกล้ตายเต็มที หน้าอกของเขาถูกตะขอเหล็กของท่าเรือเกี่ยวจนเป็นแผลขนาดใหญ่ เพราะเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นจับกังขนย้ายสินค้า คิดว่าคงไม่รอดแน่แล้ว

ทว่าบาดเจ็บหนักเพียงนี้ก็ยังสามารถช่วยชีวิตได้อย่างนั้นหรือ?

นี่มันหมอหญิงเทวดาชัด ๆ!

จี้จือฮวนเอ่ยกับถังซุ่นเสียงเรียบ “ให้คนไข้พักผ่อนมาก ๆ การรักษาบาดแผลที่เหลือพวกเจ้าคงจะทำได้แล้วกระมัง”

ถังซุ่นรีบพยักหน้ารับ จี้จือฮวนจึงได้มองไปยังท่านหมอที่นั่งตกตะลึงอยู่ตรงนั้น “เหตุใดท่านยังอยู่ที่นี่อีก?”

ท่านหมอโต้กลับทันที “ข้าไม่อยู่ที่นี่แล้วข้าจะไปที่ใดได้”

“ไหนบอกว่าหากข้ารักษาคนได้ ท่านจะไสหัวไปไม่ใช่หรือ? ประตูอยู่ตรงนั้น” จี้จือฮวนเอ่ยจบก็นั่งลงและจิบชาไปหนึ่งอึก

ส่วนคนรับใช้เผยยวนก็ขาดแค่นวดบ่าให้นาง และตะโกนบอกว่าฮูหยินของข้าเก่งที่สุดในใต้หล้าก็เท่านั้น

ในเมื่อเจ้าของเอ่ยปากแล้ว ถังซุ่นย่อมไม่มีอะไรจะพูดอีก เขาจึงเอ่ยกับท่านหมอว่า “ไปเถอะ”

ท่านหมอไม่อยากจะเชื่อ “เถ้าแก่ ท่านเข้าข้างคนนอกได้อย่างไรกัน?”

“นางไม่ใช่คนนอก แต่เป็นเจ้าของคนปัจจุบันของหย่งอันถัง”

ท่านหมอมองจี้จือฮวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมผู้นี้เนี่ยนะ?

คนที่มุงดูอยู่ต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา

“เป็นหมอเทวดา หย่งอันถังมีหมอเทวดาแล้ว”

“หย่งอันถังมีท่านหมอเทวดา เป็นท่านหมอเทวดาหญิง”

เวลาไม่ถึงครึ่งวัน เรื่องที่หย่งอันถังมีหมอหญิงที่หน้าตางดงาม ฝีมือการแพทย์สูงส่ง สามารถช่วยชีวิตคนที่ใกล้ตายได้ก็แพร่ออกไปทันที

จี้จือฮวนจึงให้ถังซุ่นและหมอคนอื่นเป็นคนคัดกรองผู้ป่วย หากมีโรคที่รักษายากค่อยมาหานาง ขณะเดียวกันนางก็ได้ไปตรวจสอบสมุดบัญชีรวมทั้งบันทึกการรักษาของหย่งอันถังในห้องเงียบ ๆ คนเดียว

เผยยวนรู้ว่านางมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ จึงได้พาจั๋วฉวินไปส่งที่บ้านก่อน

“ขั้นตอนการตรวจโรคข้าเขียนเอาไว้ให้ที่นี่แล้ว หากมีเรื่องเร่งด่วนต้องการพบข้า ก็ให้คนไปหาข้าที่หมู่บ้านตระกูลเฉินที่ตำบลฉาซู่ ข้าจะส่ง…นกที่เหมือนหมูตัวหนึ่งเอายามาส่งให้พวกเจ้า”

ถังซุ่นฟังแล้วก็รู้สึกงุนงงไปหมดแต่ยังตอบรับคำอย่างแข็งขัน และเมื่อครู่เขาได้แอบให้คนไปส่งจดหมายที่จวนถังกั๋วกง บอกว่าผู้มีพระคุณมาแล้ว

จี้จือฮวนคิดไปคิดมาก็เอ่ยขึ้น “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ในเมื่อหย่งอันถังเป็นของข้าแล้ว เช่นนั้นข้าสามารถออกกฎได้หรือไม่?”

“แน่นอนขอรับ”

จี้จือฮวนพยักหน้ารับ “เช่นนั้นก็เขียนไปด้วยว่า คนของจวนจี้กั๋วกงและสุนัขห้ามเข้าด้านใน”

ถังซุ่น “???”

“ได้หรือไม่?”

“ได้อยู่แล้วขอรับ” แม้เขาจะรู้ว่าหย่งอันถังเปลี่ยนเจ้าของแล้ว แต่คนภายนอกก็ยังคงคิดว่ามีถังกั๋วกงคอยหนุนหลังอยู่ ส่วนจวนจี้กั๋วกงตอนนี้ ใคร ๆ ต่างก็ด่าทอพวกเขา หากเขาเขียนกฎนี้ขึ้นมา ผู้ใดยังจะกล้าช่วยแก้ต่างให้จวนจี้กั๋วกงอีก? มีแต่จะซ้ำเติมพวกเขาน่ะสิไม่ว่า

“ยังมีอีกข้อ ท่านหญิงซ่างหยางเซี่ยฉงฟางหากมารักษา ห้ามรับโดยเด็ดขาด รวมทั้งจวนอัครมหาเสนาบดีหานด้วย”

ถังซุ่นจดเอาไว้ทั้งหมด “เพราะเหตุใดหรือขอรับ? เถ้าแก่เนี้ยมีความแค้นกับคนเหล่านี้หรือขอรับ?”

“ยาเป็นของมีค่า เราจะไม่ช่วยคนที่ต่ำช้าที่ไม่ต่างจากหมูหมา”

เซี่ยฉงฟางวางแผนทำร้ายเผยยวน แม้จะไม่รู้แรงจูงใจ แต่หากว่านางมีความเป็นห่วงเผยยวนสักนิด ก็คงไม่นิ่งเฉยและไม่มาเยี่ยมสักครั้งเช่นนี้ ดังนั้นนางต้องเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน ส่วนอัครมหาเสนาบดีหานนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง

“นอกจากนี้เพิ่มไปอีกหนึ่งข้อ หากทหารของกองทัพทหารเกราะเหล็กและคนในครอบครัวมาหาหมอ จะต้องได้รับการตรวจก่อนไม่จำเป็นต้องต่อแถว”

“ขอรับ เข้าใจแล้วขอรับ”

บนถนนไม่ไกลจากหย่งอันถัง จี้หมิงซูที่สวมผ้าคลุมหน้ากำลังถือไม้กวาด กวาดถนนให้กับคนทั่วไปอยู่

สาวงามมักเป็นสิ่งที่เจริญหูเจริญตาเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวของนางนั้นสง่างามเป็นอย่างมาก อีกทั้งท่าทางก็ดูไม่ได้รังเกียจพื้นที่สกปรกเลยแม้แต่น้อย ผ่านไปนานเข้าผู้คนก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองไป

พวกเขากำลังคิดว่าไท่ซ่างหวงปรักปรำคุณหนูของจี้กั๋วกงผู้นี้หรือไม่ ดูท่าทางของนางน่าสงสารจะตายไป

มีฐานะสูงส่งแต่กลับต้องมากวาดถนน พูดออกไปก็ช่างน่าอับอายยิ่งนัก แต่นางกลับสงบนิ่งและสง่างามอย่างมาก

แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าในใจของจี้หมิงซูนั้นเคียดแค้นจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว นางอยากจะฆ่าคนที่มามุงดูเสียให้หมด

และแอบสาบานในใจว่า หากวันหนึ่งนางได้ขึ้นเป็นฮองเฮา นางจะสั่งฆ่าคนที่เคยเห็นนางตกต่ำเหล่านี้ให้หมด!

“ได้ยินกันหรือยัง หย่งอันถังมีหมอเทวดาหญิง คนผู้นั้นใกล้จะตายแล้วแท้ ๆ ก็ยังสามารถช่วยกลับมาได้”

“รู้ตั้งนานแล้ว เห็นว่าท้องโดนเกี่ยวจนเปิดออกก็ยังสามารถช่วยได้ ช่างเก่งกาจจริง ๆ”

จี้หมิงซูอึ้งไปเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะถามบัณฑิตที่กำลังพูดคุยกันผู้นั้น ก่อนจะคำนับเขาด้วยท่าทางอ่อนช้อย และเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล “เมื่อครู่ได้ยินคุณชายเอ่ยถึงหมอเทวดาของหย่งอันถัง ไม่ทราบว่าเก่งกาจจริงหรือไม่เจ้าคะ?”

บัณฑิตผู้นั้นไหนเลยจะเคยเจอเรื่องเช่นนี้ ประกอบกับได้กลิ่นหอมบนกายของจี้หมิงซูจึงเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ใช่แล้วขอรับ คุณหนูจี้ไม่สบายที่ใดหรือ?”

จี้หมิงซูส่ายหน้า “ข้าต้องการถามให้ท่านพ่อเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณชายมากนะเจ้าคะ”

บัณฑิตผู้นั้นมองตามแผ่นหลังอันสง่างามของจี้หมิงซูไป ความรู้สึกดีที่มีต่อนางก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ คุณหนูของจวนจี้กั๋วกงผู้นี้จะต้องถูกผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องในครอบครัวทำให้เดือดร้อนเป็นแน่

น่าเสียดาย หญิงสาวที่งดงามเช่นนี้ต้องถูกทำลายชื่อเสียงจนหมด

เมื่อจี้หมิงซูหมุนกายกลับไปสีหน้าก็เปลี่ยนในทันที นางเอ่ยกับสาวใช้ข้างกายขึ้นมา “ไป ไปดูว่าหย่งอันถังมีหมอเทวดาจริงหรือไม่?”

ท่านพ่อถูกชนจนศีรษะได้รับบาดเจ็บ ท่านย่าโมโหจนเส้นเลือดในสมองเกือบแตก ลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ได้เรื่องนั่นก็ยังมาขาหักอีก ดังนั้นจึงต้องหาหมอเทวดามารักษาให้พวกเขา

ตอนนี้ทุกคนในบ้านต่างก็ตำหนินาง พี่สาวน้องสาวเหล่านั้นล้วนพูดจาแดกดันนาง ดังนั้นนางต้องทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แล้วค่อย ๆ วางแผนอีกที

ดังนั้นหมอเทวดาผู้นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก