บทที่ 135 คู่หมั้น(ต้น)
แม้แต่บรรดาทหารของกองทัพผ้าคลุมสีชาดของตระกูลฉู่ ก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันอย่างเหลอหลา25 นายน้อยของพวกเขาช่างไร้ยางอายอย่างที่ชาวบ้านเขาร่ำลือกันจริง ๆ
“มันมีใครที่ไหนในโลกที่เก็บดอกเบี้ยทันทีหลังจากออกตั๋วหนี้แบบนี้บ้าง? อย่างน้อยที่สุด เจ้าก็ควรรอจนกว่าจะครบหนึ่งปีก่อน!”
ท่านยั่วยุ เหมยเชาฟง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +200!
“อา? ปกติเขาไม่ปฏิบัติกับแบบนี้เหรอ?” ซูอัน มองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าที่แสร้งทำเป็นสับสน ชายหนุ่มทำราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าบนโลกนี้มันมีกฎข้อบังคับอะไรแบบนั้น
ฉู่ชูเหยียน อับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ทำไมนางถึงได้เลือกคนที่ไร้ยางอายขนาดนี้มาเป็นสามีของนางกัน!?
“หากเป็นตามปกติแล้วดอกเบี้ยควรจะเรียกเก็บเมื่อตอนครบกำหนด1ปีก็จริง อย่างไรก็ตามจากสิ่งที่ข้ารู้มา เจ้าสำนักเหมย มักจะปล่อยเงินกู้ให้กับคนทั่วแบบ 9 ต่อ 13 อยู่ตลอดดังนั้นข้าไม่คิดว่ามันจะไร้เหตุผลหากทางเราจะขอเก็บดอกเบี้ยล่วงหน้ามาก่อนเลยซึ่งเป็นเงิน 750,000 ตำลึงเงิน” ฉู่ชูเหยียนเอ่ยขึ้น
25เหลอหลา [-หฺลา] ว. มีหน้าตาเซ่ออย่างคนงงไม่รู้เรื่อง สิ่งที่เรียกว่า 9 ต่อ 13 หมายถึงวิธีการปล่อยเงินกู้ดอกโหดที่เหมยเชาฟงมักจะทำ ในสัญญาเขาให้ผู้คนยืมเงินคนละ 10 ตำลึงในอัตราดอกเบี้ย 1ใน10 ต่อเดือน แต่อันที่จริงแล้วเวลาให้เงินและเก็บเงิน เขาจะมอบเงินให้แค่ 9 ตำลึงเงินแต่เวลาเก็บเงินเขาจะเก็บเงิน 13 ตำลึงเงินกลับมาภายในสามเดือน เนื่องด้วยการปฏิบัติที่เอาเปรียบเช่นนี้มันจึงทำให้มีหลายคนต้องล้มละลายเพราะการถูกเก็บดอกมหาโหดเช่นนี้เป็นจำนวนมาก
ฉะนั้นเมื่อเทียบกับวิธีที่สำนักดอกบ๊วยคิดอัตราดอกเบี้ย 1ใน10 ต่อเดือน ดอกเบี้ยที่ ซูอัน เอ่ยขึ้นจึงนับว่าปราณีมากแล้วซึ่งคิดเพียง 1ใน10 ต่อปีเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะว่าเงิน 7,500,000 ตำลึงเงินเป็นเงินก้อนใหญ่จริง ๆ ฉู่ชูเหยียน คงจะให้ซูอันเพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้มากขึ้นอีกแน่นอน
และอีกอย่างนางเดาได้ว่าหลังจากนี้สำนักดอกบ๊วยคงหาสารพัดวิธีการมาหลบเลี่ยงการจ่ายเงินเช่นกัน ดังนั้นมันจึงเป็นการดีที่สุดที่จะได้รับเงินบางส่วนมาก่อนที่จะถูกเล่นแง่ในภายหลัง
เหมยเชาฟง กัดฟันกรอด เขารู้อยู่แล้วว่าคงไม่รอดตัวไปได้ง่าย ๆ หากไม่เสียอะไรไปเลย ดังนั้นเขาจึงโบกมือและสั่งกับคนของตัวเอง “เด็กๆ ไปเอาตั๋วเงินมูลค่า 100,000 ตำลึงเงินมาที่นี่!”
หลังจากนั้น เขาหันไปหา ฉู่ชูเหยียน และพูดว่า “คุณหนูใหญ่ฉู่ โปรดอภัยให้ข้าด้วยอีกครั้ง ข้ายอมรับจริง ๆ ว่าในตอนนี้แม้แต่เงิน 750,000 ตำลึงเงินก็เป็นจำนวนที่พวกเรายังไม่สามารถหามาได้ในทันทีเช่นกัน ดังนั้นเบื้องต้นข้าขอจ่ายเงินให้ท่านก่อนเป็นจำนวนเงิน 100,000 ตำลึงเงินเพื่อแสดงความจริงใจและส่วนที่เหลือข้าจะชำระให้ท่านแน่นอนเมื่อถึงสิ้นปีนี้ ท่านมีความเห็นอย่างไร?”
เหมยเชาฟง ไม่ได้สนใจที่จะปรึกษา ซูอัน ในเรื่องนี้เพราะเขากังวลว่าซูอันจะพูดพล่ามจนทำเขาสติหลุด และอีกอย่างเขาสามารถบอกได้ว่าผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจจริง ๆ ที่นี่คือ ฉู่ชูเหยียน
ฉู่ชูเหยียน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าเห็นด้วย จากการประมาณการของนาง เงิน 100,000 ตำลึงเงินน่าจะเป็นจำนวนเงินมากที่สุดเท่าที่สำนักดอกบ๊วยจะสามารถนำออกมาได้ในทันทีตอนนี้ มันคงจะไม่ดีเท่าไหร่หากนางต้อนพวกเขาให้จนมุมเกินไปจนสุดท้ายมันอาจเป็นฝั่งนางเองที่ไม่ได้อะไรไปเลย
หนึ่งในคนของ เหมยเชาฟง รีบวิ่งนำตั๋วเงินมาให้อย่างรวดเร็ว ความตั้งใจแรกของ เหมยเชาฟง คือการมอบมันให้กับ ฉู่ชูเหยียน แต่หลังจากครุ่นคิด เขาก็ตัดสินใจส่งต่อให้ ซูอัน แทน “นายน้อยซู ท่านอยากจะนับพวกมันก่อนรึเปล่า?”
มันคงยากสำหรับเขาที่จะเอาตั๋วเงินคืนมา หากไปตกอยู่ในมือของ ฉู่ชูเหยียน แต่ถ้าหากมันไปอยู่ในมือของ ซูอัน แทน… หึหึหึหึ เขามีวิธีมากมายที่จะหลอกล่อไอ้ขยะผู้นี้ให้คายมันออกมาทั้งหมดในอนาคต!
“นับแน่นอน!” ซูอัน รับตั๋วเงินมาและเริ่มนับทีละใบทันที ตั๋วเงินแต่ละใบมีมูลค่า 100 ตำลึงเงิน ผลรวมของเงิน 100,000 ตำลึงเงิน หมายความว่ามีตั๋วเงินทั้งหมด 1,000 ฉบับ
เหมยเชาฟง เกือบสำลักน้ำลายของเขา ข้าแค่พูดออกมาเป็นมารยาทเท่านั้น! ใครในโลกที่มันนั่งนับเงินต่อหน้าคนอื่นเขาแบบนี้?
ท่านยั่วยุ เหมยเชาฟง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +111!
เมื่อดูซูอันนับตั๋วเงินทีละใบเหมือนพวกตาแก่ขี้เหนียว ซ่างเชียนที่ยืนดู ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจในขณะที่เขาสงสัยว่าทำไมผู้หญิงที่สวยอย่าง ฉู่ชูเหยียน ถึงได้แต่งงานกับผู้ชายกักขฬะแบบนี้ นี่มันไม่ต่างอะไรกับดอกไม้งามที่ปักอยู่บนกองมูลวัวจริง ๆ ตัวของข้าดีกว่าไอ้หมอนี่เป็นล้านเท่า ซะอีก!
มีหลายคนในฝูงชนที่มีความคิดแบบเดียวกัน ซึ่งรวมถึงทหารของกองทัพผ้าคลุมสีชาดด้วย พวกเขาทั้งหมดต่างส่งคะแนนความโกรธแค้น ให้กับ ซูอัน อยู่พอสมควร
“หืม? ตั๋วเงินหายไปไหนปึกหนึ่ง?” จู่ ๆ ซูอัน ก็อุทานขึ้นเสียงดังด้วยสีหน้าประหลาดใจซึ่งทำให้ทุกคนหันมาสนใจเขาทันที
“เป็นไปได้ยังไง? มีสายตามากมายที่นี่ แล้วจะมีเงินหายไปได้ยังไง?” เหมยเชาฟง อุทานขึ้นเช่นกันด้วยสีหน้ามืดหม่น
เมื่อเห็นว่าสายตาของทุกคนจับจ้องเขาด้วยความงุนงง ซูอัน ยักไหล่และเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าผ่อนคลายว่า “ข้าแค่พูดขึ้นเพื่อตรวจสอบว่าเจ้าให้เงินมาครบรึเปล่าก็แค่นั้นแหละ”
“…” เหมยเชาฟง
เจ้าแค่ล้อเลียนข้างั้นเหรอ?
ท่านยั่วยุ เหมยเชาฟง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +211!
ตอนนี้ ซ่างเชียน รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไปแล้ว เขาตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น “พอสักที! ในเมื่อตอนนี้เรื่องทุกอย่างก็ตกลงกันได้หมดแล้ว ทุกคนก็ควรจะแยกย้ายกันไปสักที!”
เขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่และเฝ้าดูละครลิงนี้อีกต่อไป และยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งกว่าเดิมก็คือเขาไม่สามารถทำอะไรกับไอ้แมงดาตัวนี้ได้เลย!
ผางชุน หัวเราะขึ้นเช่นกันและเอ่ยว่า “ก็จริง เนื่องจากเรื่องนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว พวกเจ้าทุกคนก็ควรกลับไปทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ แยกย้ายกันไปเถอะทุกคน”
ตั้งแต่ที่เขามายืนอยู่ตรงนี้ เขารู้สึกหายใจหายคอไม่สะดวกเลยสักช่วงเวลาเดียว เพราะถ้าหากตระกูลฉู่ เกิดความขัดแย้งกับกองทหารลาดตระเวนลำน้ำที่นี่ หรือหากพวกสำนักดอกบ๊วยทั้งหมดรู้สึกสิ้นหวังจนพยายามแหกวงล้อมออกไปจากบ่อน เหตุการณ์มันคงบานปลายเป็นการฆ่าล้างบางกันใหญ่โต ซึ่งในท้ายที่สุดเขาจะเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้
นักพนันและผู้ชมต่างรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่มีความปรารถนาที่จะอ้อยอิ่งอยู่รอบ ๆ และเสี่ยงที่จะเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้
เซี่ยซิว โบกมือให้กับ ซูอัน และพูดว่า “พี่ซู วันนี้ท่านเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆให้กับข้ามากมายเลยทีเดียว เอาไว้วันหลังหากมีโอกาสขอให้ข้าได้เลี้ยงสุราท่านสักมื้อก็แล้วกัน ข้าอยากจะแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ต่าง ๆ กับท่านเพิ่มเติมสักหน่อย!”
ซูอัน หัวเราะตอบสนองคำพูดของ เซี่ยซิว “ข้าเองก็มีอีกหลายสิ่งที่อยากจะเรียนรู้จากน้องเซี่ยเหมือนกัน เช่นความสามารถของเจ้าที่สามารถเด็ดดอกไม้มาดอมดมไม้อย่างอิสระโดยที่กลีบดอกไม้ไม่ร่วงหล่นทับเจ้า”
“อะ เอ่อ..เรื่องนี้พวกเราเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลังจะดีกว่านะพี่ซู วันนี้ข้าขอตัวก่อนดีกว่า~” เซี่ยซิว สังเกตเห็นใบหน้าที่บูดบึ้งของ ฉู่ชูเหยียน เขายิ้มอย่างเขินอายและรีบปลีกตัวจากไปทันที
ซูอัน รู้สึกยังคงไม่พอใจกับผลกำไรของเขาในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงหันไปหา เหมยเชาฟง และถามว่า “เจ้าสำนักเหมย วันพรุ่งนี้บ่อนของเจ้ายังเปิดอยู่ไหม? เจ้าจะว่าอะไรไหมหากข้ากลับมาเล่นอีกรอบในวันพรุ่งนี้?”
“…” เหมยเชาฟง
ถ้าเจ้ากล้ามาที่นี่อีก ข้าจะถลกหนังหัวของเจ้าคอยดู!
ท่านยั่วยุ เหมยเชาฟง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +267!
ฉู่ชูเหยียน ไม่สามารถทนเห็นเรื่องไร้สาระนี้ได้อีกต่อไปนางลากซูอันออกไปทันทีเช่นกัน “กลับไปกับข้าได้แล้ว!”
ไม่ว่านางจะมีความอดทนสักแค่ไหน นางก็ไม่สามารถทนได้นานนักกับการที่จะต้องมา ได้ยินคำพูดที่ยียวนมากมายที่ออกจากปากของ ซูอัน ได้ตลอดเวลาเช่นนี้