จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 134

เห็นท่าทางของพวกเขา ฉุนเทียนก็ปฏิเสธไม่ลง

หลินหยานและกลุ่มของเขากล้ํากลืนถึงขีดจํากัดแล้ว ไม่อาจอดทนต่อปได้อีก

ในฐานะสหาย ฉุนเทียนย่อมต้องช่วยเหลือ

“กลืนแก่นอสูรเข้าไปก่อน พรุ่งนี้ข้าจะกลับมา” ฉุนเทียนนําแก่นอสูรออกมาจากแหวนมิติ จํานวนสิบห้าแก่นและยื่นให้หลินหยาน จากนั้นจึงเดินไปหายีเชียนหานก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ํา ตาให้นางอย่างอ่อนโยน “จะไม่มีใครรังแกเจ้าได้อีก”

กล่าวจบ ฉุนเทียนก็มุ่งหน้าไปยังส่วนที่พักของศิษย์สายใน

” พี่ฉินกลายเป็นศิษย์สายในแล้ว”

“เขาใช้แต้มผลงานหนึ่งแสนแต้มแลกคุณสมบัติเข้าเป็นศิษย์สายใน”

“เขาจะช่วยให้พวกเราแข็งแกร่งขึ้นใช่ไหม?”

” แน่นอน เขาต้องช่วยอย่างแน่นอน”

มองดูเงาหลังที่ค่อยๆไกลออกไปของฉันเทียน มือของพวกเขากําแน่น ความมั่นใจอย่างที่ไม่ เคยมีมาก่อนเอ่อล้นขึ้นมา

ลานกว้างของศิษย์สายในกว้างขวางกว่าลานพักของศิษย์สายนอกมาก ที่พักยังหรูหราโอ่อ่า มีพลังปราณหนาแน่น ฉุนเทียนยืนอยู่ในลานกว้าง จ้องมองภูเขาทั้งแปดลูกที่ตั้งตระหง่านอยู่ ทั้งแปดทิศ ที่กึ่งกลางของภูเขาทั้งแปดมีเกาะลอยอยู่บนท้องฟ้า

เจ้าสํานักรุ่นแรกได้ใช้พลังอันไร้ขอบเขตเคลื่อนย้ายพลังฟ้าดินมารวมไว้ที่นี่ หลังจากปรับส ภาพอย่างต่อเนื่องหลายพันปี ในที่สุดเขาก็สามารถกลั่นพลังปราณเกิงจินที่อยู่ภายในหินอุกกา บาตออกมาใช้ และนี่ก็เหตุผลหลักที่ทําให้นิกายเทียนขี่สามารถยืนหยัดเป็นหนึ่งในสิบสํานักใหญ่ ได้อย่างมั่นคง

พลังปราณเกิงจินเป็นพลังของโลกที่มีระดับชั้นสูงกว่าโลกใบนี้ มีเพียงเจ้าสํานักเท่านั้นที่สามา รถฝึกฝนได้ การดูดซับเพียงเล็กน้อยก็เทียบได้กับการล้ําหน้าผู้อื่นไปนับนับพันลี้ ตั้งแต่อดี ตจนถึงปัจจุบัน มีเพียงสามคนเท่านั้นที่ก้าวไปยังขั้นที่เหนือกว่าขั้นจักรวาล มุ่งสู่ความว่างเปล่า และบรรลุเป็นเซียน

หลังจากผ่านการปรับแต่งมานับหมื่นปี ปริมาณของพลังปราณทองคําก็ลดลงเพียงน้อยนิดรา วกับขนเส้นเดียวของวัวเก้าตัว

พลังปราณชนิดนี้กักเก็บพลังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ทั้งยังมีความเสถียรสูง แต่หากดูดซับเข้า ร่างไปก้อาจทําให้พลังปราณสองขุมปะทะจนร่างระเบิดเป็นจุล เจ้าสํานักหลายต่อหลายรุ่นก็ตก ตายเพราะสาเหตุนี้เอง

ขุมทรัพย์ย่อมมาพร้อมกับความอันตราย

เงยหน้ามองดูเกาะที่ลอยอยู่บนฟ้า ฉุนเทียนก็ตื่นเต้นมาก ตอนนี้เขาเข้าใกล้เป้าหมายของภาร กิจระดับ SSS ไปอีกก้าวแล้ว “หลงเสี่ยวเทียน บิดามาหาเจ้าแล้ว”

หลังจากชื่นชมเกาะลอยฟ้าอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าไปมากกว่านี้ กลุ่มของหลินหยานยังคงรอคอยเขาอยู่ที่สํานักชั้นนอก ฉุนเทียนต้องช่วยพวกเขาแลกคุณสมบัติ เข้าเป็นศิษย์สายในโดยเร็วที่สุด และเข้าไปรับภารกิจจากหอภารกิจชั้นใน เขาจําเป็นต้องบร รลุขั้นสวรรค์ให้เร็วที่สุด

ตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวัน ดังนั้นภายในตําหนักของศิษย์สายในจึงเงียบสงบไร้เงาผู้คน

ฉินเทียนนั่งลงบนบันไดหินพลางใช้สมองขบคิดหาวิธีช่วยพวกหลินหยานทะลวงขั้นอย่าง เงียบๆ สิบห้าแก่นนั้นสําหรับเขาแล้วไม่นับเป็นอย่างไร แต่สําหรับกลุ่มของหลินหยานแล้วนับว่า เป็นสมบัติล้ําค่า แก่นอสูรระดับห้าเพียงแก่นเดียวก็สามารถแลกเป็นแต้มผลงานได้ถึงสองพันแต้ม แล้ว เห็นได้ว่าแม้แต่สํานักเทียนจี้ก็ยังให้ค่ากับของสิ่งนี้

เมื่อกลืนแก่นเข้าไป ผู้กลืนย่อมสามารถร่นระยะเวลาฝึกฝนได้อย่างมาก

ส่วนว่าพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนนั้น นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาแต่ละคนแล้ว

หากไม่มีระบบเพิ่มเลเวล ตอนนี้ฉันเทียนก็คงติดอยู่แค่ขั้นผู้ฝึกตนเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบ เกี่ยวกับระบบบ่มเพาะของทวีปเทียนหยวนมากนัก เขาแทบไม่อาจให้คําแนะนําใดต่อพวกหลินห ยาน

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ร่างของผู้คนก็เริ่มปรากฏให้เห็นบนถนนหนทาง

ฉุนเทียนตาเป็นประกายขณะทอดถอนใจ ระดับบ่มเพาะของศิษย์สายในนั้นสูงล้ํายิ่ง กระทั่ง ขั้นสวรรค์ก็มีให้เห็นอยู่ประปราย

” ศิษย์สายใน ศิษย์สายนอก ช่างแตกต่างกันจริงๆ” ฉุนเทียนพึมพํา

“เจ้ามาทําอะไร?”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ชายชราผมเผ้าขาวโพลนก็เดินเข้าใกล้มา เห็นฉันเทียนนั่งเท้าคางอ ยู่บนขั้นบันได ชายชราจึงเอ่ยปากถาม

ฉุนเทียนลุกขึ้นเดินลงจากขั้นบันไดก่อนจะกล่าวด้วยท่าทางเคารพ “ศิษย์เพิ่งมาจากสิ นักนอก”

ว่าแล้วก็หยิบเอาป้ายประจําตัวศิษย์สายในที่แลกมาด้วยแต้มผลงานหนึ่งแสนแต้มออกมา

ชายชราชะงักขณะสายตามองเห็นป้ายหยก จากนั้นจึงหัวเราะขึ้นเบาๆ “ใช้แต้มหนึ่งแสนแต้ม แลกเข้ามาเป็นศิษย์สายใน เป็นเด็กที่ไม่ธรรมดาจริงๆ”

ชายชราชําเลืองดูฉินเทียนอีกสองสามครั้งก่อนจะหรี่ตาเดินเข้าไปในตําหนักศิษย์สายใน ฉิน เทียนเดินตามชายชราก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า “ผู้อาวุโส ที่นี่ใช้สถานที่ยืนยันตัวตนของศิษย์สายใน หรือไม่?

“ใช่แล้ว เป็นที่น” ชายชราตอบกลับอย่างผ่อนคลาย แต่ในใจคิดขึ้นว่า “หนึ่งแสนแต้มแลกกับ คุณสมบัติเข้าเป็นศิษย์สายใน นับว่าเป็นความสําเร็จแล้ว แต่ว่าการจะยืนหยัดอยู่ในสํานักชั้นใน ให้มั่นคงด้วยระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณนั้นยากยิ่ง

ภายในสํานักชั้นใน ศิษย์ฝีมือเก่งกาจนั้นมีมากมายดุจก้อนเมฆ ดังนั้นการแข่งขันย่อมต้องโห ดร้ายและตึงเครียดยิ่งกว่า

หากไม่มีความแข็งแกร่งมากพอ การจะรักษาชีวิตเอาไว้ก็เป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่ง

ยิ่งกว่านั้นระดับบ่มเพาะของฉันเทียนยังไม่สูงเท่าใด ต้องการยืนหยัดอย่างมั่นคงในสํา นักชั้นในนั้นยากอย่างมาก ยิ่งกว่านั้นกลุ่มศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นเป็นคนของกลุ่มชิงเทียน กว่าครึ่งของศิษย์ร้อยอันดับแรกล้วนแต่มาจากกลุ่มชิงเทียน

เรื่องเหล่านี้ฉินเทียนย่อมพิจารณาไว้แล้ว

แต่เป้าหมายหลักของเขาคือการรับภารกิจเพื่อเพิ่มเลเวล เขาเชื่อว่าหลังบรรลุขั้นสวรรค์ได้ แล้ว สํานักเทียนจี้จะต้องหันมาให้ความสําคัญต่อเขาอย่างแน่นอน

ศิษย์ขั้นสวรรค์นับเป็นเสาหลักของสํานักที่ควรค่าแก่การปลุกปั้น เป็นตัวตนที่เจ้าสํานักและผู้ อาวุโสต่างๆให้ค่า ถ้าฉุนเทียนทะลวงสวรรค์ได้ หากประมุขน้อยของกลุ่มชิงเทียนต้องการจะลงมือ เขาก็ต้องใคร่ครวญให้ดี

เมื่อเข้ามาภายในตําหนักศิษย์สายใน ฉุนเทียนก็นําป้ายไม้สีดําอันเก่าที่ได้รับมาจากสํานักชั้น นอกส่งมอบต่อชายชรา

ชายชราที่รับป้ายไม้มาก็ตะลึงอยู่ภายใน ในนี้มีแต้มเกินหนึ่งแสนแต้มเสียอีก ไม่ธรรมดาจริ งๆ”

จากนั้นชายชราก็นําฉุนเทียนเข้าไปห้องแห่งหนึ่ง จากนั้นก็นําป้ายหยกที่แกะสลักอย่างงดงาม ประณีตมังกรเคียงคู่หงส์ออกมา ป้ายหยกชิ้นนี้ย่อมดีกว่าป้ายไม้สีดํามาก

ชายชราใช้พลังจิตวิญญาณเจาะทะลวงเข้าไปในป้ายหยก ส่งผ่านแต้มผลงานจากป้ายไม้สี ดําไปยังป้ายหยก

“เรียบร้อย” ชายชรายื่นป้ายหยกให้ก่อนจะกล่าวว่า “แต้มผลงานถูกถ่ายโอนแล้ว เจ้าตรวจส อบดู”

” ขอบคุณผู้อาวุโสมาก” ฉุนเทียนค้อมตัวคํานับก่อนจะเอ่ยปากถาม “ผู้อาวุโส ตอนนี้ข้าสามา รถไปรับภารกิจจากหอภารกิจได้แล้วหรือไม่?”

ย่อมสามารถ” ชายชราตอบด้วยรอยยิ้มบาง “เจ้าเพิ่งอยู่ระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณ ภารกิจข องสํานักในนั้นไม่เหมือนภารกิจของสํานักนอก ที่นี่ยังอันตรายกว่ามาก ข้าแนะให้เจ้ารวบรวม โอสถ และปิดด่านฝึกตนสักช่วงหนึ่ง

หลังบรรลุถึงระดับเก้าขั้นกลั่นวิญญาณแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยไปรับภารกิจก็ยังไม่สาย”

ในสํานักในแห่งนี้ ศิษย์ที่มีระดับบ่มเพาะเพียงระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณนั้นพบเห็นได้ยากอ ย่างมาก

นอกจากจะได้รับการเลื่อนชั้นเป็นกรณีพิเศษแล้ว การเป็นศิษย์สายในยังมีเงื่อนไขเข้มงวด ทุกๆปีจะมีศิษย์เพียงสิบคนเท่านั้นที่จะได้รับการแนะนําเข้ามา

หรือกล่าวก็คือ ตามปกติแล้วจะมีศิษย์ที่ได้เลื่อนชั้นเป็นศิษย์สายในเพียงสิบคนในแต่ละปี

ประเภทที่ใช้แต้มผลงานแลกคุณสมบัติเข้ามาอย่างฉินเทียนนับว่าหาได้ยาก

ได้ยินคําแนะนําอันจริงใจจากชายชรา ฉุนเทียนก็ค้อมคํานับอย่างซาบซึ้ง ” ขอบคุณผู้อาวุโสที่ แนะนํา ศิษย์เข้าใจแล้ว”

“ไปเถอะ” ชายชราโบกมือ เขาย่อมมองความตั้งใจของฉันเทียนออก เขาหัวเราะเงื่อนพลา งส่ายหน้า ”บางทีข้าคงไม่ได้พบกับเขาเป็นครั้งที่สองแล้ว”