ตอนที่ 166 คนเหล่านั้นผู้เดินในค่ำคืน

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

166 คนเหล่านั้นผู้เดินในค่ำคืน

35 – 44 นาที

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

「พวกเขาไม่มา……」

「ไม่ได้ดูเหมือนจะมา……」

เราซ่อนตัวเราเองในพื้นที่ข้างนอกราเฟนเล็กน้อย พื้นที่นี้ไม่เหมาะสำหรับปลูกพืชผลและดังนั้นถูกทิ้งเพราะหินจำนวนมากมายกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นและเป็นพื้นที่ลาดเอียง

จากพ่อค้าทาส ผู้ถูกเปลี่ยนเป็นทาสรูสำหรับโอกามะ ที่นี่คือที่ซึ่งเขาพบกับผู้ซื้อ ผมจึงนำซีเลีย ไมล่า และทหารม้าเบาจำนวนน้อยมาเพื่อซุ่มโจมตีพวกเขา แต่ไม่มีคบเพลิงสักหนึ่งทำหน้าที่เป็นจุดสังเกตสำหรับให้รู้ว่าเป็นตำแหน่งถูกต้อง ผมได้ยินมาว่าแม้มันสมควรยากเย็นเวลาจะพบกันยามค่ำคืน พวกเขาหาตัวคุณได้ค่อนข้างง่ายดายอย่างลึกลับ

「วันจะหมดไปแล้ว รู้สึกถึงอะไรได้มั่งมั้ย?」

「เราจะเป็นฝ่ายเสียถ้าอะไรๆมันจบตรงนี้」

ไม่สำคัญว่าเราขยี้แหล่งเสบียงไปมากเพียงไร คนอื่นจะเริ่มธุรกิจใหม่อีกครั้งตราบใดที่มีความต้องการสินค้า

ค่ำคืนฤดูหนาวนั้นหนาวเหน็บด้วย ดังนั้นผมยกสะโพกขึ้นในความพร้อมจะกลับบ้าน

「เดี๋ยว! หนูได้ยินอะไรบางอย่าง!」

พวกเรารีบไปตรงเงาแถวหินเมื่อเราได้ยินเสียงซีเลีย

มันเป็นเสียงโยกเยกของรถม้ากำลังเคลื่อนที่ — ทันทีเมื่อมันเริ่มเดินทางไปตรงที่ไกลจากถนนหลัก เรารู้ได้เก้าในสิบครั้งว่าพวกเขาจะเป็นหนึ่งคนที่เรารออยู่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เข้าหาเราใกล้มากไปกว่านั้น

「เราถูกรู้แล้วเหรอ?」

「ไม่มีทางน่า ในความมืดมิดอย่างนี้น่ะเหรอ? ไม่มีทางที่พวกเขาจะบอกได้ว่ามีใครก็ตามอยู่รอบๆยกเว้นว่าพวกเขาเรียกออกมาหรือเข้ามาหาใกล้กว่านี้……」

「ไม่ มันดูเหมือนพวกเขารู้」

ผมสามารถได้ยินเสียงของแส้ถูกใช้จากรถม้า

จากนั้น มีเสียงม้าร้องและเสียงของล้อหมุนเริ่มดังขึ้นในทันที

「เปลี่ยนแผน! ตามพวกเขาไป!」

ตอนแรก เรามีเจตนาจะซุ่มซ่อนและจับตัวพวกเขาตรงที่พวกเขาสมควรจะมาพบกับพ่อค้าทาส จากนั้นเราทำให้พวกเขาเผยความลับเรื่องรังของพวกเขาได้ แต่มันช่วยไม่ได้ในตอนนี้เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ถ้าเราปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้ตอนนี้ พวกเขาน่าจะไม่กลับมาราเฟนเวลาใดเร็วๆนี้แน่ๆ

คบเพลิงพกพาถูกนำอออกมาเพื่อจุดไฟแล้วทหารม้าเบาก็กระโดดขึ้นม้าพวกเขาเพื่อทำการไล่ล่า

「พระจันทร์ไม่ได้ออกมาคืนนี้ด้วย พวกเขาเข้าใจถึงตำแหน่งของเราได้ยังไงแม้ว่าไม่ได้จุดคบเพลิงเลย?」

「หนูไม่รู้พวกเขาอาจมีบางคนผู้เห็นได้ชัดเจนแม้ในตอนกลางคืน」

「พวกเขาอาจนำหน้าไปก่อน แต่พวกเขาอยู่บนรถม้า ทหารม้าเบาควรจะตามทันเดี๋ยวนี้แหละ」

หรือเราคิดเช่นนั้น

「กิ่ย้าาา!!」

「จึ-! อีกแล้ว?」

หนึ่งในทหารม้าเบาชนหินซึ่งกองอยู่รอบๆบริเวณและเขากับม้าสะดุดล้มไปสู่พื้นดิน

ขณะที่พื้นที่ถูกทิ้งนำที่มั่นการยืนเหล่าทหารไป การตกม้าและการกลิ้งล้มดำเนินต่อไป

「เอเกอร์ซามะ การควบเต็มความเร็วบนบริเวณถูกทิ้งนี้นั้นไร้เหตุผล ช้าลงเถอะ」

「เดาว่าไม่มีทางเลือกอื่น……แต่พวกเขาไม่ช้าลงเลยสักนิดน่ะสิ」

รถม้าควรจะได้รับผลของภูมิประเทศมากกว่าทหารม้าเบา และพวกเขาไม่มีแม้แต่คบเพลิงกับพวกเขา

「กุเอ่ะ!」

หนึ่งในเหล่าทหารข้างผมถูกยิงเข้าอกโดยลูกธนูแล้วล้มลง

ถ้าอย่างนั้น คนเหล่านั้นเริ่มยิงมาสู่เรา คบเพลิงเหล่านี้พื้นฐานแล้วเปลี่ยนศัตรูเพิ่มเติมของเรา

แม้ว่าเราอยากจะยิงกลับไป เราทำได้แค่ตามเสียงของรถม้าไป

「ให้พี่รับนั่นไว้ ลองมันที ซีเลีย」

「ค่ะท่าน!」

ผมจับคบเพลิงจากทหารมาแล้วโยนมันไปตรงที่ผมได้ยินเสียง

เพลิงบินเป็นแนวโค้งและเปิดเผยรูปทรงของรถม้าเพียงพริบตาเมื่อมันหล่นสู้พื้น

「ตรงนั้นนี่เอง!」

ซีเรียงอตัวดุจคันธนูแล้วเขวี้ยงมีดไปทิศทางนั้น

แสงหายไปทันทีเมื่อคบเพลิงถึงพื้นดินแต่ผมได้ยินเสียงของม้าร้องและรถม้าคว่ำ

มันดูเหมือนซีเลียสามารถจับตำแแหน่งของศัตรูได้จากเสี้ยววินาทีนั้น อนุญาตให้เธอโยนมีดอย่างแม่นยำไปสู่ม้า

「พวกเขาหยุด! ทั้งหน่วย ล้อมพวกเขาไว้!」

ไมล่าตะโกนคำสั่งแล้วทหารม้าเบาก็ตีวงล้อมรถม้าคว่ำ

ด้วยนี่ มันจบ

「……」

คลานออกมาจากรถม้าอย่างคาดคือสามบุคคล ไม่มีพวกเขาสักคนปรากฏว่าตัวใหญ่เกินไป แต่เพราะพวกเขาทั้งหมดใส่ผ้าปิดหัวคลุมหัวไว้ เราแม้แต่รู้เพศของพวกเขายังไม่ได้

「ถ้ายอมแพ้ที่จะหนีและนำเราไปสู่รัง เราทำให้มั่นใจได้ว่าแกจะรอดชีวิต มันจะเป็นยังไง?」

「……」

พวกเขาสามคนยังคงอยู่ในความเงียบ

「…………ถ้าแกจะไม่ตอบ อย่างนั้นเราก็ยิงพวกแกสองคนได้ตอนนี้เลย」

「……กิก」

「ระวัง!」

พวกเขาทั้งสามไม่พูดแม้คำเดียวแต่กระโดดไปทุกทิศทางแล้วพยายามจะทลายวงล้อม

「ฮึ่ม!」

มันไม่เหมือนว่าเราไม่ได้คาดไว้ว่าพวกเขาจะพยายามหนี ผมเลยสกัดกั้นผู้วิ่งเข้ามาทางผมด้วยหอก ผมใช้ด้ามหอกเพื่อฟาดหน้าหนึ่งผู้กระโดดมาทางทางผมพร้อมดาบ

「กุก๊า!」

「นึ๋นน?」

ผมมั่นใจว่าหัวเขาจะแยกออก แต่ชายแค่กลิ้งลงบนพื้นแล้วพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง

「แกมันดื้อด้าน」

ใช้กำลังมากกว่าก่อนหน้า ผมนำหอกสู่เหนือหัวและเหวี่ยงลงใส่เขา กระแทกกับครึ่งท่อนบนของร่างกายเขาจากอกขึ้นไป

「กยุ่กกึ……」

หลังจากชักกระตุกหลายครั้งผูชายหยุดเคลื่อนไหว

「อุว้า! คนนี้แข็งแกร่งอย่างบ้าคลั่งไปเลย!」

「ระวัง!」

หนึ่งคนรีบวิ่งไปทางไมล่าเขาหลบการโจมตี แต่โดนฟันขา ล้มสู่พื้น ทหารเราลงม้าแล้วล้อมบริเวณ แต่ผู้ชายเหวี่ยงดาบของเขาไปทั่วป็นการต่อต้าน มันไม่ได้ดูเหมือนทหารผู้รับการฝึกมาของเราจบสิ้นสิ่งต่างๆทันทีกับผู้ชายสิ้นหวังคนนี้ได้ นั่นคือที่ผมคิดตอนแรก

「ก่ะะะะ! อุ่กกกกกกกก่ะ!!」

ชายไม่ได้ดูเหมือนนักดาบผู้เชี่ยวชาญ เขาแค่เหวี่ยงอย่างไม่ไตร่ตรองด้วยดาบมือเดียวแล้วล้มทหารลงไปด้วยพละกำลังกายเพียงเท่านั้น

ผู้ชายผู้เหวี่ยงคล้ายคลึงกับเหล่านั้นผู้เป็นบ้า

ในระหว่างนั้นบุคคลสุดท้ายสามารถจะตีฝ่าทหารหนีไป เราไม่มีเวลาจะเสียกับผู้ชายอาละวาดเช่นนั้น

「เถิบไป ฉันจะจัดการเขาเอง」

「กุ่กก๊าาาาาาา!!」

ผู้ชายกรีดร้องลั่นดั่งเขาสติเสียแล้วเขาเจอกับการจ้วงแทงของหอกผมสู่อกเขา ผู้ชายถูกแทงทะลุค่อนข้างลึกด้วยอาวุธของผม

「กกกุ่! กึ!」

แม้อย่างนั้น ผู้ชายจับหอกผมแล้วดิ้นในความพยายามจะดึงมันออกมาจากกายของเขา

「เฮ้ เฮ้……แกเอาจริงเหรอเนี่ย?」

ด้วยรูใหญ่ในอกของเขามันชัดเจนว่าบาดแผลถึงชีวิต กระนั้นพละกำลังของผู้ชายไม่ได้ดูเหมือนจะถดถอยไป

「นายล้อเล่นน่า……」 「เจ้านี่มันอะไรกันเนี่ย……」

เหล่าทหารดูเหมือนจะงงงันมากด้วยเหมือนกัน

เราควรจบนี่โดยเร็ว

ผมยกชายขึ้นระหว่างหอกยังคาแล้วกระแทกเขา ณ ก้อนหินข้างผม

「กิหยั่บบึ!」

หัวของชายถูกขยี้โดยแหลกลาน แขนขาห้อยตกไร้เรี่ยวแรงจากกาย

อย่างคาด เขาตาย

「หนึ่งในพวกเขาหนีไป เราจะตามไปทันที」

「ยังไงซะ มันคือว่า……」

ทหารม้าเบาที่ไล่ตามผู้ชายออกจากเส้นทาง

「มีอะไร?」

「ข-เขาสะบัดเราหลุด…… เราเห็นเขาแน่นอนในตอนแรก…… แต่เขาวิ่ง แล้วม้าก็-……」

「ฮื๋อออ?」

ผมไม่เข้าใจอะไรที่พวกเขาพูดออกมา มันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนบนเท้าจะวิ่งแซงทหารม้า

「เฮ้ จะนอนอยู่นี่อีกนานแค่ไหน รีบเข้าแล้วขึ้นม้า- ว้าาาา-!!」

ทหารม้าพยายามจะปลุกทหารผองเพื่อนที่ถูกทำให้ล้มโดยบุคคลผู้หนีตะโกนออกมา

「มีอะไร?」

「คนนี้…….ผมแค่ดันมันหน่อยเดียว……แล้วเค้า ต-ตาย」

คอของทหารผู้ถูกกำจัดซึ่งมีใบหน้ายุบไปดุจแตกหัก แต่ตัวงออยู่ไปถึงหลังกับเกือบหักขาดทั้งตัว

「……หน้าพวกเขาเละด้วย พวกเขาไม่เป็นแบบนั้นยกเว้นว่าพวกเขาจะถูกทุบด้วยค้อนศึก」

ผมเริ่มปะติดปะต่ออะไรๆเข้าด้วยกัน

「เขามองตอนกลางคืนเก่งมาก มีพละกำลังอันไม่น่าเชื่อ…… ไม่ใช่นั่นคุ้นๆเหรอ」

「เป็นไปได้มั้ยว่า พวกเขารวมทาสหลายๆคนเข้าด้วยกันเพื่อจะ-……」

มันดูเหมือนทหารไปสู่ข้อสรุปเหมือนๆกัน

「「แวมไพร์……」」

เสียงทุกคนเป็นจังหวะเดียวกัน

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์หนูไม่อยากจะเชื่อนี่เลย」

ไมล่ามาหาผมเสียงดูกังวล

「นี่คือตะวันตกเฉียงเหนือ? มันไม่ใช่ตะวันตกเฉียงใต้ ไม่รู้สิ」

ผมคิดว่ามันไม่เกี่ยวเพราะระยะทาง แต่ถ้ามันเชื่อมต่อถึงเธอ เราต้องคลี่คลายปัญหาทันที

「หนูขอโทษ? มันคือ」

「อย่างงั้นนั่นไม่เป็นไร」

ผมคิดเยอะไปหรือ?

มันเป็นแค่สองเราตลอดและไม่มีใครอื่นเลย

แต่ถ้ามันจริง ถ้าอย่างนั้น……

ผมมองลงข้างล่าง ไหล่ของผมสั่น

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์? พี่……สั่นหรือ? หนูไม่โทษพี่นะ ถ้ามันแวมไพร์จริงๆถ้าอย่างนั้น จำนวนของเราไม่เพียงพอรับมือกับมัน」

ไม่ล่าพูดอย่างวิตกกังวล

「เอเกอร์ซามะ มากลับไปสู่ราเฟนกันเถอะแล้วพากองทัพมาที่นี่ พวกเขาไม่ควรจะทำอะไรได้ถ้าเราล้อมพวกเขาด้วยทหารเป็นพันๆคน อย่าดูเสียใจเลย หนูอยู่ตรงนี้กับพี่!」

「พี่ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้กลัว」

มันแค่ยากเย็นในการจะเก็บเจี๊ยวไว้ไม่ให้แข็งหลังจากได้ยินว่าแวมไพร์

แม้แต่การนึกภาพตัวตนของคนเหล่านั้นทำให้ผมโด่แล้วการเกงผมกำลังจะฉีกขาดอยู่แล้วตอนนี้ ถ้าผมไม่เก็บสติไว้กับตัว ผมจะแตกตรงนี้เลย

「เราจะตามพวกเขาไป」

「เอ๋? ต-แต่บุคลากรที่เรามีอยู่ตอนนี้-……」

「มันจะไม่เป็นไร พี่จะไปคุยกับพวกเขาด้วยตัวเองหลังจากเราได้รู้ที่อยู่ของพวกเขา」

แวมไพร์คือผู้หญิงด้วย

ไม่มีเหตุผลว่าเราจะไม่มองเห็นกันด้วยด้วงตา

จริงๆแล้ว ผมจะไม่ถือถ้าเลือดผถูกดูดด้วยเหมือนกัน

「แวมไพร์ไม่ได้จำเป็นต้องได้รับเลือดบ่อยขนาดนั้น ผู้ที่เราเผชิญอยู่วันนี้ไม่ได้ไปรอบๆโจมตีทุกคนที่เขาเห็นเป็นพิเศษ แทนนั่นพวกเขาทำอะไรในวิธีซึ่งไม่มีใครจะพบเจอพวกเขา พี่จินตนาการถึงพวกเขาดื่มเลือดบางคนเพราะความอยากอาหารของพวกเขาไม่ได้…… แต่ถึงอย่างไร พวกเขารวม 50 ในครึ่งปี…… มีความเป็นไปได้ด้วยว่าพวกเขาเก็บผู้คนจากพื้นที่นอกราเฟนด้วย」

ทุกคนมองผม

「หนึ่งหรือสอง…… ไม่ อาจจะมีพวกเขาสิบคน」

「นี่เป็นไปได้ยังไง……」 「ผมแทบไม่เชื่อเลย……」

ทหารร้องออกมา สีหน้าซีเลียกับไมล่าก็แข็งไปด้วย

ไม่ดีแล้ว ผมรู้สึกถึงน้ำผมกำลังเล็ดออกมาแค่จากการจินตนาการว่าตัวผมเองเล่นไปทั่วกับแวมไพร์เป็นโหลๆ

「ถ้าเป็นอย่างนั้น มันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเอเกอร์ซามะที่จะคุยกับพวกเขาด้วยตัวเอง ท่านจะถูกฆ่าแน่นอน」

 「นั่นใช่แล้ว…… แม้ว่ามันฟังดูเหมือนพี่รู้ดีเกี่ยวกับพวกเขานะ」   

อืม พี่มีประสบการณ์บางอย่าง

ผมนำทหารผู้หวาดกลัวมากับผม แล้วหาในทิศทางที่บุคคลสุดท้ายวิ่งไปกระทั่งพบรังของพวกเขาค่อนข้างง่ายดาย มันเป็นถ้ำเปิดอ้าในพื้นที่ถูกทิ้งนี้ที่หินกองกันในบริเวณรายล้อมเพื่อกันน้ำฝนหยดลง แต่ตรงนั้นมีแม้แต่ม้าอยู่ข้างหน้า

ไม่สำคัญว่าเราจะมองดูมันแค่ไหน มันไม่ได้ดูธรรมชาติ

 「อีกแล้วในที่เปิด……」   

 「เพราะทั้งหมดมันห่างจากถนนใหญ่ พวกเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการถูกค้นพบแม้ว่าพวกเขาจุดคบเพลิงขึ้นมา」   

ด้วยนั่นพูดไป ผมลงจากม้าของผม

 「หนูคิดว่าเราควรเฝ้าดูบริเวณแล้วเรียกกองทัพมานี่จริงๆนะ!」  

 「นั่นใช่แล้ว! มันบ้าไปแล้วสำหรับลอร์ดศักดินาที่จะเดินเตร่เข้าไปข้างในด้วยตัวเองคนเดียว!」   

 「ไม่ใช่พี่พูดแล้วหรือว่าไม่เป็นไร? พวกเธอแค่รอกันอยู่ตรงนี้แหละ」   

 「ไปเอาความมั่นใจทั้งหมดนั่นมาจากไหนกัน……?」   

ซีเลียเสียงเหมือนกำลังจะร้องไห้ ผมลูบหัวเธอจากนั่นเข้าสู่ถ้ำ

มันจะไม่เป็นไร ผมแน่ใจเราจะไปถึงความเข้าใจกันและกัน

—————————————————————

ตอนนี้ หลายคนถือดาบกับหอกล้อมผม พวกเขาต้องไม่คิดว่าผมจะเข้าไป เพราะผมสามารถเดินหน้ามาได้ครึ่งทางโดยไม่มีปัญหาก่อนคนเหล่านี้ถูกส่งออกมาแล้วล้อผมในบริเวณถิ่นสร้างโดยมุษย์ที่กว้างกว่าในถ้ำ

 「ฉันรู้แล้วว่าพวกแกเป็นแวมไพร์  ฉันมีบางอย่างอยากจะคุยด้วย」   

เมื่อผมเมินเจตนาสังหารที่มาสู่ผมจากทุกทิศทางแล้วเรียกออกไป ไม่กี่คนในผ้าคลุมปรากฏต่อหน้าผม

 「มนุษย์กล้าดียังไงที่มายืนต่อหน้าเรา」   

ผมซ่อนความไม่สงบกายใจไม่ได้ทันทีเมื่อผมได้ยินเสียงนั้น

 「มันไร้ความหมายในการจะพูดกับเหยื่อของเรา」   

อีกครั้ง…… ช่างเป็นภัยพิบัติ

 「แกมันชีวิตต่ำช้า」   

 「แกกล้าดียังไง………」   

เสียงลึกถูกบีบออกมาจากท้องของผม

 「อะไร?」   

 「กล้าดียังไงมาหลอกฉัน-!!」   

ขณะผมตะคอกออกไปใส่พวกเขาในเสียงที่ทำให้ตกใจแม้แต่ตัวผมเองแล้วจ้องพวกเขา มันทำให้คู่ต่อสู้ของผมก้าวถอยหลังกลับไปน้อยๆและเปิดเผยหน้าจากช่องว่างในเสื้อคลุม

พวกเขามีดดวงตาสีแดงเลือดและผิวขาวซีดดุจผู้ป่วย ไข่อย่างคาด แต่……

พวกมันทั้งหมดเป็นผู้ชาย

เมื่อผมมาคิดอีกครั้ง มันผิดที่จะจำกัดแวมไพร์ทั้งหมดว่าเป็นผู้หญิง อย่างไรก็ตาม ผมชอบมีเจตนาจะจินตนาการถึงแวมไพร์ใจเปิดกว้างกับมีความงามที่ทำให้ชะงักพร้อมหน้าอกใหญ่เกินกว่าใบหน้า ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามเมื่อผมได้ยินคำนั้น มันอาจจะเป็นความไร้เหตุผลของผมในการคาดหวังเช่นนั้น แต่ผมยังระงับอารมณ์โมโหของผมไม่ได้

 「มีวิธีเดียวที่พวกแกจะช่วยตัวเองได้! ยอมจำนนให้ฉันซะ!」   

ผมตะคอกใส่พวกเขาในความโมโหขาดสติ

มันดั่งทุกคนหยุดหายใจเป็นเวลาชั่วพริบตาแล้วดวงตาของพวกแวมไพร์ก็ดูเหมือนจะส่องประกายในสีแดงเข้มขึ้น

 「แกมันพูดจาใหญ่โตสำหรับแค่มนุษย์ ฉันจะฉีกร่างแกเป็นชิ้นๆ!」   

เหล่าผู้ชายถือดาบกับหอกปรากฏมารอบๆผมอีกครั้ง พวกเขาทั้งผมมมีดวงตาแดง แต่แสงส่องมันทึบๆ

 「กูล หือ……?」   

กูลคือมอนสเตอร์ซึ่งเกิดจากศพแต่เป็นระดับชั้นสูงกว่าซอมบี้

ไม่เหมือนซอมบี้ พวกมันมีความเฉลียวฉลาดและพวกมันส่วนใหญ่มีสติของตัวเองอย่างถูกต้องด้วย พวกกูลถูกผูกกับพวกแวมไพร์ผู้สร้างพวกมันแต่ปฏิบัติกับพวกเขาในฐานะคนเป็นพ่อแม่ ดังนั้นพวกมันไม่ได้มีอิสระจะทำอะไรก็ได้ตามใจประสงค์

มากกว่านั้น ความแข็งแกร่งของกูลถูกกำหนดอย่างมากโดยความแข็งแกร่งของแวมไพร์เอง ลูซี่ไม่สร้างพวกมันเพราะเธอบอกว่าพวกมันดูอัปลักษณ์

 「……!」   

กูลผู้เงียบพุ่งเข้าตีมาสู่ผม ผมจับหอกผมใหม่ จากนั้นเขี่ยมันไปไกลๆ

ผมเข้าใจแล้ว แน่นอนพวกมันแข็งแกร่ง แต่อะไรเหล่านี้ถูกสร้างมาโดยไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ ดังนั้นพวกมันแค่พึ่งพาพละกำลังล้วนๆเพื่อโจมตี

 「ดอรย่าาา!」   

ผมฆ่าพวกมันสองตัวทันทีและทำลายขาของอีกตัว

แวมไพร์ชายยิ้มหลังจากเห็นนั่นเกิดขึ้นจากระยะห่างออกไป

 「ฮึ่ม ถ้าอย่างนั้นแกมันมีทักษะนิดหน่อยสำหรับแค่มนุษย์ แม้ว่าคนเหล่านี้มันแค่อสูรรับใช้ระดับต่ำ……」   

ผมขยี้หัวของหนึ่งผู้นอนอยู่บนพื้นด้วยส้นตีนของผม จากนั้นผ่าอีกตัวแยกครึ่งแนวตั้ง ต่อมา ผมแทงตัวสามแล้วโยนมันไปตรงที่แวมไพร์อยู่

พวกมันบิดตัวของพวกมันสบายๆเพื่อหลบ ปล่อยให้กูลชนเอากับกำแพงถ้ำจนกระจายออกไปบนพื้น มันไม่ได้ดูเหมือนมันตาย แต่มันจะไม่แสดงออกถึงปัญหากับผมถ้ามันขยับร่างกายแตกหักของมันไม่ได้

 「ฉันเป็นลอร์ดศักดินาของราเฟน ถ้าไม่ยอมศิโรราบกับฉัน ฉันจะเอาทหารเป็นหมื่นมาแล้วเผาถ้ำนี้ไหม้เพลิงซะ」   

แต่จริงๆแล้วผมไม่ได้มีทหารมากปานนะ

 「ช่างไร้สาระ…… แม้ว่าแกบอกความจริง พวกเศษสมองฝุ่นตามซอกหลืบเช่นมนุษย์จะไม่มีวันจับเราได้」   

เขาน่าจะพูดถูก แม้ว่าทหารจะไม่พ่ายแพ้ พวกเขาจะไม่สามารถจับผู้ที่หนีไปได้

อย่างไรก็ตามแวมไพร์ไม่ใช่สัตว์ป่า ถ้านี้ไม่แม้แต่จะเหมาะให้เขามีชีวิตอยู่ มีน้ำและเหล้าใกล้ทางเข้า  ทางข้างในถ้ำถางและขัด และเขาแม้แต่เก็บอะไรซึ่งดูเหมือนเครื่องเรือนที่เขาซื้อมาจากบางที่

 「พวกแกอาจจะหนีไป แต่พวกแกจะสร้างรังใหม่จากเริ่มต้นอย่างงั้นเหรอ? พวกแกจะทำอะไรเกียวกับนั่นกันล่ะ? หมกตัวเองอยู่ในถ้ำที่ขุดแล้วจากนั้นดูดศพ……แกมันไม่ได้ต่างอะไรกับก็อบลิน」   

 「อาร้ายยยย-!!?」   

 「ถ้าแกไม่อยากเป็นแบบนั้น-……」 「ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ ความอดทนกูกำลังจะหมดไปแล้วนะ!」   

ผมกำลังจะเสนอคำแนะนำบางอย่างให้ถ้าเขาไม่อยากเป็นก็อบลิน แต่แวมไพร์คนนี้โมโหง่าย

แม้ว่าพวกเขาไม่มีอุณหภูมิร่างกาย เขาค่อนข้างเลือดร้อน

 「กูจะฉีกมึงเป็นชิ้นๆ!」   

 「ไม่ กูจะเปลี่ยนมุึงเป็นกูลแล้วทำให้มึงเป็นทาสไปตลอดกาล!」   

เหล่ากูลผู้ล้อมผมถูกผลักไปด้านข้างแล้วเหล่าแวมไพร์ก็ประจำตำแหน่งพวกเขารอบๆผม

ผมอาจจะสร้างความผิดพลาด

ถ้าคนเหล่านี้มีพละกำลังเทียบเท่ากับลูซี่ ถ้าเช่นนั้นผมไม่คิดว่าผมมีความสามารถอันจะยืดชีวิตต่อออกไปได้ไกลกว่านี้

 「เตรียมตัว!」   

ผมเหวี่ยงหอกใส่ผู้ชายผู้ต่อยหมัดเปล่ามาสู่ผม ถ้านี่เป็นการต่อสู้ธรรมดาระหว่างหมัดกับหอก มือจะถูกขยี้เป็นชิ้นๆแล้วศึกจะจบสิ้น แต่เสียงเหล็กกระแทกดังลั่นออกมาขณะสองวัตถถุปะทะกัน แล้วผมก็ถูกดันกลับไปข้างหลัง

ความรู้สึกชาอันสั่นๆเล็กน้อยวิ่งผ่านมือผม ทำให้ผมตกใจว่าหอกของผมไม่ใช่สิ่งหักก่อน

 「เหี้-!」   

ผู้ชายอีกคนเหวี่ยงกรงเล็บมาใส่ผม ซึ่งผมหลบโดยฉิวเฉียดเฉี่ยวปลายขนก่อน แล้วผมฟันขาเขาด้วยหอกของผม

อย่างไรก็ตาม ผู้ชายสามรถบิดตัวเพื่อหลบหลีกการโจมตีของผมแม้ว่าจะไร้สมดุล

 「แล้วนี่ล่ะเป็นไง!」   

ผู้ชายคนที่สามกระโดดประมาณสี่เมตรในอากาศกระโจนสู่ผมพร้อมทั้งสองมือ ด้วยการเคลือนไหวมากเกินไปขนาดนั้น ผมหลบอย่างง่ายดาย แต่การโจมตีดำเนินต่อไปเพื่อทำลายหิน ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น แล้วส่งเศษหินกับฝุ่นไปทุกที่เพื่อขโมยวิสัยทัศน์ผมไป

ซ่อนในกลุ่มควันดินกับฝุ่น แวมไพร์เล็งลูกเตะสู่ท้องของผม ผมพยายามจะกันด้วยปฏิกิริยาตอบสนองด้วยหอกของผม แต่แรงกระแทกหนักหน่วงส่งผมกระเด็นถอนหลังไปสู่กำแพงถ้ำ การกระแทกปะทะนำอากาศหลบหนีออกจากปอดแล้วผมก็รู้สึกถึงซี่โครตอันลั่นร้าว

 「กุก่ะะ……」   

 「ฮึ่ม หลับจากพูดซะใหญ่โต มนุษย์คนนี้มีขีดจำกัดนี่หว่า」 「ถ้ามึงยอมแพ้ กูจะฉีกแขนขามึงเร็วๆ」      

ฟุมุ พวกมันแข็งแกร่งกว่ามนุษย์เหมือนอย่างคาด

อย่างไรก็ตาม……

 「ฉันเดาว่านั่นคืออะไรที่ฉันคาดไว้แล้ว」   

 「「อะไรนะ!?」」   

ลูซี่คือแวมไพร์คนเดียวที่ผมรู้จัก เราเล่นกันไปทั่วแล้วซ้อมสู้กันมาไม่กี่ครั้ง แต่มันไม่มีอะไรเหมือนเช่นนี้เลย

เธอจะส่งผมกระเด็นสิบเมตรไปข้างหลังระหว่างยิ้มและเธอจะทิ้งรูสูงเท่าเธอไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมหลบการโจมตีของเธอ

มองรูซึ่งถูกสร้างโดยแวมไพร์ชายเมื่อกี้นี้ มันใหญ่พอที่จะใส่ได้แค่แขนหรอมากสุดคือขา

พวกเขาคือแวมไพร์แต่แข็งแกร่งไม่ถึงผมจินตนาการไว้ ปัญหาคือสามต่อหนึ่ง

 「มา กูจะจัดการมึงในครั้งต่อไปนี่แหละ」   

 「ช่างไร้สาระจริง!」   

ผมเหวี่ยงหอกลงใส่ชายผู้บุกชาร์จ เขาพยายามจะปัดป้องการโจมตีของผมด้วยมืออันยืดอกมาเหมือนก่อนหน้า แต่ผมปล่อยหนึ่งมือจากหอกผมแล้วหมุนหอกซึ่งถูกปัดป้องอย่างไร้กำลัง

ไม่สำคัญว่าเขาปัดป้องแรงขนาดไหนมันจะเปลี่ยนถ่ายไปสู่พลังงานการหมุนของมันและมันจะไม่หลุดออกจากมือของผมไป

 「อะไรน่ะ?」   

จากนั้นผมนำอีกมือต่อยหน้าเขา

นั่นเจ็บ…… คนเหล่านี้ทำจากเหล็กกล้าหรือบางอย่าง

 「กุ่ ไอ้บัดซบ!」   

แน่นอน มันคือแค่การเบี่ยงเบนความสนใจ ชายไม่พอใจพุ่งใส่ผมโดยไร้สมอง ผมก้าวออกข้างและใช้จังหวะหอกอันถูกปัดป้องสู้การนำมันลงล่างใส่หัวของเขาเฉกเช่นการโจมตีสวน

 「ก่ะกุ่!」   

การโจมตีผมซึ่งเป็นพละกำลังของเขาเองสู่เขาเองก่อเกิดให้ชายล้มหน้าทิ่มสู่พื้นแล้วไถลหน้าเลื่อนไปสู่กำแพง

 「กล้าดียังไงวะ」   

ขณะแวมไพร์อีกตัวบุกชาร์จใส่ผม ผมพุ่งไปด้านหน้าคล้ายคลึงกันและทำการแทงสามส่วน

เขาหลบแทงแรก กันแทงสองด้วยหลังมือแล้วตีหอกผมออกด้วยแทงสาม

ผมกำลังจะโจมตีต่อเนื่องด้วยหมัด แต่แวมไพร์ยิ้มขณะเขาเห็นผมพยายามโจมตีมือเปล่า ยกแขนของเขาขึ้นดั่งจะพูดว่าการโจมตีของผมจะไร้ผลกับเขา

 「นั่น」   

ผมนำมือไป…… อันกำหินเมื่อผมหล่นสู่พื้นดินก่อนหน้านี้ แล้วกระแทกเขาด้วยหินนั้นอย่างรุนแรงหนักหน่วง

 「ก่ะ!」   

นั่นทำเขาเจ็บขณะเขาปิดตาในความเจ็บปวด ซึ่งอนุญาตผมให้จับแขนเขา ผมนำเขาขึ้นสะโพกแล้วโยนข้ามไหล่ใช้แรงส่งเขาเองจากการบุกชาร์จเพื่อทุ่มเขา ชายผู้ปิดตาเตรียมตัวเองเพื่อการล้มไม่ได้ ซึ่งนำเขากระแทกหัวสู่พื้นสู่การสติมืดมิด

ผมรีบปรับการกำหอกของผมแล้วชี้ชายสุดท้าย

 「……มึงค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่มันผิดพลาดสำหรับมึงผู้มาที่นี่คนเดียว」   

เขาอยู่ในความระแวดระวังและไม่ได้พุ่งใส่ผมทันที

นี่ไม่ดี

 「กุ่……ไอ้คนนี้」   

 「กรอดดด……」   

ทั้งสองผู้สลบเด้งขึ้นแล้วยืนกลับขึ้นมา

ถ้าพวกเขาคือมนุษย์ พวกเขาไม่ตายก็สู้ไม่ได้อีกต่อไป แต่พวกเขาไม่ใช่

 「พวกเราสามคนจะเข้าไปพร้อมกัน เราจะเปลี่ยนเขาเป็นเนื้อสับ」   

ผมคิดว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้น – นี่ไม่ทำก็ตาย ผมปั้มใจตัวเองแล้วกำหอกผมแน่น ผมได้ยินเสียงแทงแก้วหนู

 「พวกแกจะอาละวาดกันทำไมเนี่ย!?」   

เสียงซึ่งเหมือนระฆังแสนงดงามจากบุคคคลมาคู่กับเอวสวยงาม ผมบลอนด์ยาว ผิวขาวซีดกับหน้าตาน่ารักสุดขีดจำกัด   

 「บรินฮิลด์……」   

 「ไอ้ชายคนนี้มันดูหมิ่นเรา……」   

 「แต่ผู้ชายคนนั้นแสดงความเคารพนะ」   

ผมลดหอกผมลงล่างด้วยสัญชาตญาณแล้วหัวผมอยู่ในการก้มคำนับ

ไม่ว่าจะจุดยืนและเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม เธอเลดี้ก่อนและหน้าสุด……แถมยังเป็น ความ-สวย-หลุด-จาก-โลก-นี้ ดังนั้นผมต้องแสดงความเคารพ

 「ไอ้ระยำ! มึงเพิ่งจะ-!」   

 「เงียบ! อยู่นิ่งๆ!」   

หนึ่งระเบิดอารมณ์จากความงามนั้นผู้ชื่อบรินฮิลด์ก่อเกิดให้สามแวมไพร์ก้าวถอยหลังอย่างสลดใจ เมื่อมองใกล้ๆ สายตาของพวกเขาส่งไปสู่ผู้ชายตัวใหญ่ใส่ผ้าคลุมยืนพร้อมกอดอกข้างหลังเธอ

 「ยังไงซะตอนนี้ ผู้โง่เขลาเบาปัญญาที่มาสู่บ้านของฉัน ถ้าไม่ได้มาทีนี่เพื่อรอการถูกกินโดยพวกเรา ถ้าอย่างนั้น อะไรคือสิ่งซึ่งททำให้นายมาที่นี่?」   

มันฟังดูเหมือนบรินฮิลด์มีเจตนาจะฟังผม

อย่างคาด สาวๆนั้นมหัศจรรย์

 「ดั้งเดิมแล้วผมไล่ตามผู้ซื้อซึ่งซื้อทาสผิดกฎหมายในเมืองแล้วในที่สุดก็มาถึง ณ แห่งนี้」   

 「ฉันไม่รู้รายละเอียดว่าเราได้รับอาหารมาได้อย่างไร และถ้านั่นคือทั้งหมดที่นายมาที่นี่ ถ้าเช่นนั้นนายจะไปถูกวางบนโต๊ะรับประทานอาหารในไม่นานนี้」   

 「ไม่ นั่นแค่เป็นตัวกระตุ้นสำหรับเราให้ออกค้นหา ฉันอยากให้พวกเธอ เธอศิโรราบให้ฉันตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปได้ไหม?」   

พูดให้แม่นยำผมอยากได้บรินฮิลด์

มันสะดวกถ้าผมหยุดการล่ามนุษย์ได้ระหว่างผมทำ

ผู้หญิงสวยงานปรากฏว่าหยุดขยับเขยื้อนอยู่ไม่กี่วินาที

 「ฟุ่ ฟุ่ฮ่าฮ่าฮ่า! นายได้ยินนี่มั้ยซิกฟรีด  เจ้านี้พูดว่าเขาอยากให้เราศิโรราบเขาแหน่ะ! อ่ะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」   

 「……」   

ชายผู้ถูกเรียกว่าซิกฟรีดพยักหน้าของเขาเงียบๆ

บรินฮิลด์ยิ้มใส่ผมแต่ความโกรธแอบมองผ่านดวงตาส่องแสงสีแดงของเธอ

 「ฉันจะถอนคำพูดว่านายจะเป็นอาหารค่ำของเราสำหรับคืนนี้ ตอนนี้ฉันจะฟังคำขอสุดท้ายของนาย ทำไมนายอยากให้เรายอมศิโรราบนาย?」   

 「ฉันคือลอร์ดศักดินาที่นี่ มันมีปัญหากับฉันถ้าเธอกินพลเมืองของฉันซ้ายขวา นอกจากนี้……」   

ผมคืนรอยยิ้มสู่ดวงตาอันลุกไหม้แดงเหล่านั้น

 「เธอเป็นคนสวย มันธรรมชาติมนุษย์ซึ่งอยากให้ผู้หญิงสวยๆตกเป็นของพวกเขา」   

 「……อย่างนั้นหรือ ซิกฟรีด พยายามมากเท่าที่ทำได้เพื่อไม้ให้ไส้มันกระจัดกระจายไปเสียทุกที่นะ ตอนนี้ คำถามสุดท้าย นายจะตอบแทนเราด้วยอะไรถ้ายอมศิโรราบนาย? หรือนายขอให้เราศิโรราบนยอย่างไร้เงื่อนไข?」   

ซิกฟรีดจับดาบหนึ่งเล่มในแต่ละหนึ่งมือ

เขามีตัวตนข่มขู่อันน่ากลัว

หล่างเป็นโลกจากทั้งสามคนก่อนหน้า

ผมตอบระหว่างซ่อนเหงื่อซึ่งไหลลงข้างหัวของผม

 「ฉันจะให้อาหารมากพอจนเธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันอีกต่อไป และถ้ามันแสนสวยอย่างเธอ ฉันไม่ถือที่จะอนุญาตให้เลือดฉันถูกดูดไปอีกด้วย」   

 「โฮฮฮ่」   

บรินฮิลด์ส่งสัญญาณด้วยมือเธอ สำหรับให้ซิกฟรีดอยู่เฉยๆ

จากนั้นเธอกระโดดห้าเมตรสู้อากาศแล้วปิดระยะระหว่างเราในพริบตา

 「นายดูแข็งแรงดีนี่ มันอาจจะดีที่จะชิมนายก่อนจะวางนายลงไปบนโต๊ะอาหาร」   

ความสวยงามแสยะยิ้มสุดชั่วร้ายและนำริมฝีปากของเธอใกล้กับต้นคอของผม โดยไม่ต่อต้านผมก้มลงและเอียงคอเฉียงๆไปข้างๆ

เธอเป็ดกรามเล็กๆ ฝึงเขี้ยวของเธอลงคอผม ผมรู้สึกถึงเลือดของผมรีบวิ่งกอดคอกันออกไปและจากนั้นผมได้ยินเสียงของสาวกลืนมันลงไปในคอของเธอ

ลมหายใจแผ่วๆจากจมูกเธอสู่คอผมรู้สึกดี

 「อึก อึก อึก……」      

 「กุ่……」   

ความรู้สึกของเลือดพุ่งออกไปจากร่างกายผมกระทันหันทำให้สะโพกผมอ่อนแรงสั่นไหวด้วยกันกับก่อให้เจี๊ยวผมเกิดปล่อยภาระมันออกมา เปียกกางเกงผมกับสร้างแอ่ง ณ เท้าของผม

ลูซี่บอกผมว่ามันไม่ได้หายากสำหรับการที่เหยื่อจะถึงจุดสุดยอดขณะพวกเขาถูกดูดเลือด

บรินฮิลด์ไม่ได้ใส่ใจผมมากขณะเธอดื่มพลังชีวิตในเลือดผมออกไป

แต่ไม่ใช่เธอดื่มมากไปหรือ?

ผมรู้สึกถึงสติผมจางหาย

ผมพยายามจะดันหัวสาวตัวเล็กๆไป ไม่มีเจตนาจะตายจากการถูกดูดจนแห้ง แต่เธอเหมมือนหินและไม่กระดิกเลย

วิสัยทัศน์มมืดมนลงผม ขาเริ่มปัดล่างผม

อาา……นี่คือจุดจบหรือ?

แม้ว่ามันอาจเป็นชะตาของผมผู้ถูกฆ่าโดยคนสวยเช่นนี้

ผมจับหน้าอกของเธอในช่วงเวลาสุดท้ายของสติสัมปชัญญะ แต่มือของผมลื่นไหลลงสู่ความว่างเปล่า

หน้าอกของเธอ……ขาดไป

ผมหมดสติดำสนิทด้วยความคิดสุดท้ายนั้นอยู่ในจิตใจ   

—————————————————————   

 「ฉันไม่คิดว่าฉันจะตื่น」   

 「อุมุ ฉันจงใจดูดมากไป」   

มันดูเหมือนผมถูกนอนบนเตียงนี้หลังจากหลับไป

บรินฮิลด์เป็นแค่นางเดียวเท่านั้นข้างผม

 「ยังไงซะ ฉันเข้าใจแล้วว่าฉันไม่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นอาหาร มีเหตุผลสำหรับนั่นมั้ย?」   

 「…..」   

 

 「มีอะไร?」      

 「มันอร่อย……」   

 「ฮื๋อออ?」   

 「เลือดนายอร่อย อร่อยมากจนมันไม่เหมือนอะไรเลยที่ได้เคยลิ้มชิมรสมาก่อนหน้านี้…… ฉันคิดว่าขานายจะยอมแพ้ทันทีเมื่อฉันจิบ และจากนั้น ฉันหยุดตัวเองไม่ได้……」   

 「นั่นดีเมื่อได้ยิน แต่ฉันจะไม่อยากถูกเปลี่ยนเป็นอาหารถ้าเป็นไปได้」   

 「อุมุ มันเป็นการเสียของเปล่าๆที่จะปล่อยให้นายถูกกินด้วยพวกสมุนเหล่านั้น และมันจะเป็นจุดจบถ้าฉันแค่ฆ่านายเสีย…… ถ้าอย่างนั้นมาเป็นของเล่นของฉันดีมั้ย? ฉันจะเป็นนายไว้นานๆ」   

เท่าที่มันฟังแล้วดูดึงดูดใจ ผมทำนั่นไม่ได้

ถ้าผมไม่กลับไปหาพวกเธอเร็วๆนี้ ไมล่ากับซีเลียจะส่งกองทัพมาที่นี่

 「ฉันทำเช่นนั้นไม่ได้ แต่ฉันให้ความร่วมมือกับเธอได้ ถ้าเธอคิดว่าการยอมศิโรราบนั้นน่าขายขี้หน้า ถ้าอย่างนั้นตรงกันข้ามก็ไม่เป็นไร ฉันจะทำให้มั่นใจว่าพวกเธอจะไม่หิวโหย…… และให้เลือดของฉันถูกดูดตราบใดที่ผู้กระทำเป็นความงดงามเช่นเธอ ฉันไม่อยากให้พวกเธอกินพลเมืองของฉันอย่างไม่เลือกหน้า」   

 「นั่นคือทั้งหมดหรือ?」   

 「ไม่ แล้วก็…… บรินฮิลด์ ฉันอยากจะนอนกับเธอ」   

 「คุคุคุ เธอจะบอกฉันว่าให้อนุญาติให้เจี๊ยวแสนหยาบคายของนายใส่เข้ามาในช่องคลอดของฉันหรือ? สิ่งสกปรกนั้นแข็งโด่อยู่ตลอดเวลาที่นายหมดสตินะ รู้ป่าว?」   

บรินฮิลด์ดีดเจี๊ยวอันเปิดเผยของผมเบาๆด้วยนิ้ว

 「ได้ ฉันจะยอมรับเงื่อนไขของนาย นายเป็นลอร์ศักดินาของบริเวณนี้ ดังนั้น ถ้าฉันฆ่านายเสียและที่นี่ถูกทำลายไป ฉันจะจบในการต้องใช้ชีวิตในสถานที่ไม่นาโสภาอีกครั้ง การหาเสบียงอาหารมาส่งเป็นงานของเหล่าคนรับใช้กับเหล่ากูลและไม่ใช่บางอย่างซึ่งปรกติแล้วฉันจะสนใจมัน แต่มันก็เป็นหน้าที่ของมาสเตอร์ผู้จะทำให้ชีวิตพวกเขาง่ายดายขึ้น」   

“ยังไงก็ตาม” – เธอเติมเข้ามาขณะเธอเคลื่อนปากแดงฉานสู่หูผม

 「นายจะให้ฉันดื่มเลือดนายครั้งนึงทุกๆสัปดาห์ น้ำรสชาติหวานฉ่ำนั่น…… หรูหราพอทำให้ทั้งร่างกายของฉันสั่นไหว」      

พร้อมด้วยตาเธอเปิดกว้าง เธอกดตัวเธอเองเข้ากายผมและลากลิ้นจากต้นคอถึงหน้าตาสุดเชื่องช้า

ผมรู้สึกถึงความรู้สึกเย็นเปียกบนแขนของผม ซึ่งเมื่อผมมองดูมันมาจากหว่างขาบรินฮิลด์ เหมือนเธอฉี่ราดด้วยตัวเธอเอง

ลูซี่ก็รู้สึกมีอารมณ์มากกว่าหลังดูดเลือดดังนั้นถ้าผมจะกระโจนใส่เธอ เวลาคือ ณ เดี๋ยวนี้

 「เธอเปียกนะ แถมฉันเป็นเช่นนี้ ควรจะมีหนทางให้เราปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปด้วยกัน」   

 「พวกไพร่อย่างนายมันแค่มื้ออาหาร ไม่มีเหตุผลสำหรับฉันที่จะต้องมีเซ็กส์กับนาย」   

 

 「ฉันได้ยินมาว่าถ้าเธอทำมันระหว่างกำลังดูดเลือด…… มันจะทำให้ยิ่งอร่อยขึ้นอีกนะ」      

 「มนุษย์ธรรมดาเหมือนนายจะไปรู้ว่าเลือดรสชาติเป็นเช่นไรได้อย่างไรกัน! ถ้านายพ่นน้ำลายคำไร้สาระเหมือนลมพัดชีวิตของนายจะบินออกไปจากนายตรงนี้เดี๋ยวนี้」   

ผมเดาว่าผมทำมันไม่ได้

มันน่าเสียดายแต่ผมจะต้องยอมมแพ้

 「ฉันจะยอมแพ้การทำมันก่อนต่อนนี้ แล้วน่าจะรอคอยมันในอนาคต นั่นทำไม ฉันขอให้เธอทำอะไรให้หนึ่งอย่างจะได้ไหม?」   

 「หืม? บอกฉัน」   

 「ฉันอยากจะรู้เกี่ยวกับพวกเธอ」   

 「……ทำไม?」   

 「แค่ออกมาจากความสงสัย เพราะทั้งหมดมีแวมไพร์มากมายในนี้มันเรียกให้ฉันสนใจ」   

บรินฮิลด์ทำหน้าบูด

มันชัดเจนว่าเธอไม่อยากพูดเกี่ยวกับมัน

 「ซิกฟรีดกับฉันเป็นลูกหลานราชวงศ์ต้องสาป ทุกคนในแห่งนี้เป็นแบบนั้นในอดีต แต่พวกเขาถูกทำลายทีละคนเรื่อยมา…… พวกเดียวผู้เหลืออยู่เป็นการรวมคนผสมผสานของแวมไพร์ผู้รู้แค่ดูดเลือดอย่างไร」   

น้ำเสียงสง่างามเธอค่อนข้างแปลกไป ขณะเธอพูดแค่เร็วขึ้นนิดหน่อย

 「นั่นทั้งหมด ฉันไม่มีอะไรอื่นจะพูด」   

หลังจากนั้นบรินฮิลด์ไม่ยินดีจะเอ่ยอะไรอีกต่อไป เพื่อที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเราจากความเงียบงันกระอักกระอ่วน เราเขียนเอกสารสำหรับสัญญาของเรา

เมื่อทุกอย่างสำเร็จเสร็จสิ้น ผมใส่เสื้อผ้า พร้อมออกไป

 「ข้อตกลงเขียนอยู่ตรงนี้ แต่มาคฤหาสนืของฉันได้ตามสบายถ้าเธอมีอะไรใดๆสำคัญขะเพิ่มเติม อ๊ะ ข้อความที่สื่อออกมาจะถึงฉันดังนั้นมันไม่เป็นไรในการจะมาระหว่างกลางวันและไม่ใช่แค่กลางคืน」   

 「……นายมันไร้เหตุผลนะ ที่ขอให้แวมไพร์ไประหว่างกลางวันน่ะ」   

ลูซี่ไม่ชอบดวงตะวัน แต่มันไม่เหมือนว่าเธอขยับไม่ได้ในมัน

ถ้ามันเป็นบางอย่างสำคัญเธอจะมาเป็นแน่

 「ซิกฟรีดและฉันสามารถด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งแล้วมุ่งหน้าไป…… แต่พวกอายุน้อยจะถูกแผดเผาสู่ความตาย ฉันคิดว่าเธอรู้เกี่ยวกับแวมไพร์ซะอีก แต่เธอไม่ได้รู้อะไรเลยนี่ ใช่มั้ย」   

ผมเดาว่าไม่

ลูซี่เป็นคนพิเศษผู้ถูกยกเว้นถ้าเช่นนั้น

—————————————————————

 「เอเกอร์ซาม้าาา!!」   

เมื่อผมออกนอกถ้ำ ซีเลียกระโดดเข้าอ้อมอกของผมม

 「แงงงง! มันเช้าแล้วนะ! หนูคิดว่าเอเกอร์ซามะถูก…….ฆ่า-……โดยพวกเขา ฮิ้ก……อุแงงงง้」   

สาวสะอื้นในอ้อมอกของผม

มันเป็นเช้าระหว่างเวลาที่ผมสลบไป

 「อย่ากังวล พี่ยังมีชีวิตและสบายดี」   

 「หนูดีใจมมาก……- เดี๋ยวววววววว!!」   

ซีเรียเพ่งเสียงใส่หูของผม

แก้วหูผมจะระเบิด

 「คอท่าน! คอท่านน!!」   

ร่องร้อยถูกทิ้งไว้โดยบรินฮิลด์หลังจากเธอฝังเขี้ยวเข้าคอผมซุึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน มันเป็นอันรู้กันดีว่าหนึ่งคนเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ได้ถ้าแวมไพร์กัดพวกเขา ในความเป็นจริงแล้ว มันใช้แรงกายของพวกเขาและค่อนข้างจะมีปัญหาพวกเขาส่วนใหญ่จึงไม่ทำมัน

 「เอเกอร์ซามะ! ให้หนูดูหน่อย!」   

ซีเลียวางมือบนปากผมและเปิดมัน

หลังจากตรวจดูหาเขี้ยวที่โดดเด่น เธอมองดวงตาผม

 「ท่านยังไม่ไดด้เป็นแวมไพร์ มันไม่เป็นไร」   

 「ต-แต่ถ้าอย่างนั้น แล้วรอยกัดล่ะ……」   

หืมม ผมควรอธิบายนี่อย่างไรดี?

 「รอยกัดนี้ไม่ได้เป็นเพราะพวกเธออยากเปลี่ยนพี่เป็นแวมไพร์……พี่พูดยังไงดีล่ะ?」   

ซีเลียนึกบางอย่างออก

จากนั้นจับหว่างขาของผมจนกระทั่งมาสู่ไข่ของผม

 「มันรู้สึกเบา…… เบากว่าเมื่อท่านเข้าไปข้างใน…… ท่านแตก? เยอะอีกด้วย!!」   

 「ยังไงซะ ใช่」   

จริงๆแล้วผมปลดปล่อยอสุจิเมื่อเลือดผมถูกดูด

 「พี่สามารถคุยกับคนผู้อยู่ข้างในได้ด้วยวิธีใดวิธีนึงและมันแค่เกิดขึ้นน่ะ……」   

หลังจากพูดนั่นทหารไม่กี่คนจู่ๆก็ทรุดล้มลง 

เลือดกับไส้ของเขากระจายไปทุกที่

ความตายอันโหดร้าย

 「…….พวกแกอีกแล้วเหรอ? ไม่ใช่ว่ามันต่างจากเราคุยกันเหรอไง?」   

 「ดั่งฉันจะสนใจเรื่องนั้น」   

 「เราปล่อยแกไปแบบนี้ไม่ได้」 「ถ้าเราฆ่าแกซะ บรินฮิลด์จะไม่มีทางเลือกนอกจากรับรู้ถึงเรา」      

หนึ่งกลุ่มผู้ปรากฏจากความมืดมิดคือแวมไพร์สามคนที่ผมสู้ก่อนหน้า

พวกเขาเมินบรินฮิลด์ๆ ผู้ปรากฏว่าคุมพวกเขา ซึ่งหมายถึงอะไรก็ตามที่ผมพูดกับพวกเขาตอนนี้จะไร้จุดหมาย

ผมชี้หอกใส่พวกมันสามตัว

ทหารผู้ผมปกป้องหวาดกลัว

และผมบอกให้พวกเขาก้าวถอยไป เพราะพวกเขาขวางทางอยู่

ทหารไม่น่าจะเพียงพอซึ่งจะแม้แต่ทำตัวเป็นกำแพงเนื้อกับพวกมัน

อย่างไรก็ตาม มีหนึ่งผู้ไม่ฟังคำสั่งของผม

 「หนูจะปกป้องท่าน เอเกอร์ซามะ!」      

 「หยุด ซีเลีย!」   

 「แกมันขวางอยู่」   

มันดั่งฉากต่อหน้าต่อตาผมเคลื่อนไหวเป็นภาพช้าดั่งละครค่อยๆเคลื่อนขยับกาย

ซีเลียเหวี่ยงดาบของเธอลง ผู้ชายกันการโจมตีด้วยแขนแล้วใบมีดของเล่มดาบก็แตกสลาย

แวมไพร์เตะซีเลียขณะเธอพยายามป้องกันด้วยดาบหักๆของเธอ แต่เธอถูกส่งกระเด็นถอยไป

เธอทำไม่ได้แม้แต่จะลดแรงล้มกระแทกแล้วกลิ้งไปบนพื้นดินก่อนจะนิ่งสนิทไม่เคลื่อนไหว

 「อ๊าาาา มันเจ็บ…… แขนหนู…… แขนหนู……」   

ดูเหมือนซีเลียทำแขนหักทั้งสองข้าง พร้อมด้วยแต่ละแขนงอผิดทิศทาง

ผมเห็นได้แค่สีแดงเท่านั้นตรงหน้าผม สำหรับอะไรซึ่งรู้สึกเหมือนตลอดกาล

 「ไอ้พวกเหี้ย…… กุจะฆ่ามึงให้หมด」   

ผมบุกกชาร์จใส่พวกแม่งด้วความเร็วซึ่งแม้แต่ผมก็ไม่รู้ว่าผมเคลื่อนที่ได้แบบนี้ ผมเข้าใกล้มันหนึ่งคนผู้เตะซีเลียก่อนแล้วเหวี่ยงหอกของผมลงสุดแรงกายที่ผมทำได้

อย่างเป็นธรรมชาติ มันสามารถกันการโจมตีของผมพร้อมพลังงานทั้นหมดที่มากับมัน อย่างไรก็ตามมันเป็นเสียสมดุลหลังจากทำแบบนั้น

แต่เพราะผมก้าวลึกไกลเกินไป และปิดระยะทางของผมกับมัน ผมไม่สามารถเหวี่ยงหอกของผม เขาจึงจับผมได้

 「ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้โง่บัดซบ ตอนนี้ กูจะทำมึงเป็นคนรับใช้!」   

ชายเปิดปากของเขาในความพยายามเพื่อกัดคอของผมด้วยเขี้ยว

อย่างไรก็ตาม แค่ก่อนการเคลื่อนไหวนั้นผมเปิดปากของผมแล้วกัดคอชาย

 「ก๊ะโก่ะ! อะไรของมึงวะ-……」   

 「ก๊าาาาา!」   

ผมโยกสะบัดหัวซ้ายขวาระหว่างกัดคอมันและฉีกชิ้นของเนื้อของมัน

มันต้องไม่ได้คาดไว้ว่าจะถูกกัดคอขณะมันก้าวถอยหลังระหว่างกดบาดแผลบนคอมันด้วยสอองมือ

สายตาของมันไปทางอื่นและทั้งสองมือถูกปิดผนึก

ผมถุยเนื้อที่ผมฉีกและชาร์จเข้าไปลึกกว่าเดิม กระโดดสู่อากาศก่อนแทงหอกตรงผ่านปาดเปิดครึ่งขอชาย

 「เกโบ่ะ!」   

หอกทะลุผ่านข้างในปากแล้วออกหลังคอจากนั้นแทงต่อสู่พื้นดิน

 「!!!!!—!?」   

มันดูเหมือนแม้แต่นั่นก็ยังฆ่าแวมไพร์ผู้ทนทานไม่ได้

แต่หอกดวอร์ฟสร้างนี่ทำหน้าที่เป็นตะปูซึ่งยึดแวมไพร์ติดแน่นกับพื้นดินดุจแมลงสาบ และมันทำได้แค่ดิ้นในความสิ้นหวัง

อย่างคาด เขาเรียกพละกำลังอะไรอีกเพื่อดึงมันออกไปจากด้วยตัวเองไม่ได้

ชายคนสองพุ่งหน้าเข้ามาในความเร็วสายฟ้าฟาด ผมรีบชักแองคู่แต่ผมทำไม่ทัน

 「ตายย!」   

พอดีกับเมื่อกรงเล็บชายกำลังจะถึงผม บางอย่างแทงเขา

 「มีด? บางอย่างเหมือนนี่……กิ่ย้าา!!」   

มีดเล็กตัดตื้นเขินสู่สีข้างชายควรจะเป็นการโจมตีค่อนข้างไร้ความหมายกับแวมไพร์แต่แผลนั้นเริ่มปล่อยควัน

 「ซีเลีย!」   

 

 「ฮ่าาา ฮ่าาา…….แวมไพร์มัน……เงิน……」      

หลังจากพูดคำนั้น ซีเลียสลบไปจากความเจ็บปวด มันดูเหมือนเธอเขวี้ยงมันได้ไม่วิิธีใดก็วิธีหนึ่งด้วยมือไม้อันแตกหัก มันนาทึ่งเมื่อมีดสามารถแทงเขาแม้ว่ามันไร้เรี่ยวแรงปานไฉน

เมื่อมองให้ใกล้ เธอขูดเหรียญเงินเข้ามือของเธอ

สาวคนนั้นเก็บเหรียญเงินไว้กับเธอตลอดมาเพื่อเธอจะสามารถซื้อของหวานพิเศษไม่เหมือนใครได้เมื่อเธอเจอ เธอขูดเหรียญนั้นด้วยมีดในปากของเธอแล้วเขวี้ยงอาวุธนั้นซึ่งยาไปด้วยแป้งเงิน

เพราะเงิน มีดสามารถหาเส้นทางของมันเข้าสู้กายชายได้แม้ว่ามันไร้ซึ่งพละกำลังใดๆอยู่หลังการเขวี้ยง แต่แค่แป้งนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำหัวเขากลัวได้ดิบดี แวมไพร์โมโหและรีบพุ่งหาผมอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นั่นเพียงพอสำหรับผม

 「เจอกัน」   

ผมฟันแอ่งคู่ซึ่งผมยกเหนึอหัวของผมลงไปอย่างทรพลัง ใบมีดผ่าตัวท่อนบนของชาย ตัดผ่าผ่านมือมือขวา มือซ้าย หัวที่ป้องกัน แอ่งคู่สร้างจากมิธริล โลหะขับไล่ภูติผีปีศาจ ดังนั้นทันทีหลังจากผ่าแวมไพร์แยก ร่างกายของเขาเริ่มเผาไหม้และเปลี่ยนเป็นถ่านดำ

ผมควรจะใช้นี่ตั้งแต่แรก ผมแค่ลืม

 「ไอ้ระยำ……มึงกล้าดียังไง……」   

คนสุดท้ายสาปแช่งผม แต่ผมก็ไม่มีเจตนาจะปล่อยเขาไปด้วยเหมือนกัน

 「ฉันกลับไปโดยแกยังรอดชีวิตไม่ได้ด้วยเหมือนกัน」   

เพราะมันหักกระดูกของซีเลียแสนมีค่าผมจะไม่ปล่อยพวกมึงสักหนึ่งของพวกมึงสามให้หนีความตายใป

ที่ชั่วขณะนั้น ชายผู้ระวังหลังจากเป็นพยานพลังของแองคู่กระตุกกระทันหันและเหงื่อออกอย่างหนัก

หันสู่บริเวณที่เขาจ้องมองไป ยืนอยู่ตรงนั้นคือซิกฟรีด ชายตัวใหญ่ ปิดหุ้มด้วยเสื้อผ้าสีดำกับจับดายในแต่ละมือ

 「ซ-ซิกฟรีด! นะ-นี่คือ……」   

 「แกไม่เคารพคำสั่ง」   

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินซิกฟรีดพูด

มันเป็นเสียงต่ำดังสะท้อนดูเหมือนจะมาจากห้วงลึกของความมืดมิด

 「นี่ไม่ใช่อะไรซึ่งนายคิดอยู่นะ พวกเขาเป็นคนผู้ถูกโจมตีก่อน……」   

ชายมอบข้ออ้างพูดอะไรอื่นไม่ได้ ซิกฟรีดปิดระยะระหว่างพวกเขา

 「ย-อย่า!」   

และจากนั้นจู่ๆซิกฟรีดหายไป ปรากฏมาข้างผมก่อนผมจะรู้มัน

 「อะ-……อาา……อาา……」   

ผมไม่เห็นว่าอะไรเกิดขึ้นแแต่ผลลัพธ์ชัดเจน หัวชายน่าหนวกหูจากจมูกขึ้นไปถูกฟันแนวเฉียงและร่วงลงสู่พื้น ไม่กี่วินาทีต่อมา ทังหัวของเขากับไหล่ขวามร่วงลงไป มือซ้ายถูกฟันแนวตั้ง ร่างกายของเขาแบ่งออกเป็นสี่ส่วน และต้นขา เข่า กับน่องของเขาทั้งหมดถูกฟันขาดร่วงลงสู่ธานี

 

 「……」      

ซิกฟรีดหันมาผมแล้วลดหัว นั่นต้องเป็นการขอโทษของเขามาสู่ผม

 「มีคนโง่เขลาในหมู่แวมไพร์เท่ามันมีเฉกเช่นมนุษย์ ข้อตกลงจะยังคงเก็บรักษาไว้อยู่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้」   

มันไร้ความหมายจะต่อสู้ตอนนี้

ที่สำคัญกว่านั้น ผมต้องพาซีเลียผู้บาดเจ็บกับสลบไปกลับไปบ้านเร็วสุดเท่าที่ทำได้

 「ฮ-เฮ้ แวมไพร์คนนนั้นถูกฟันเป็นชิ้นๆเลยว่ะ」   

 「เจ้าตัวใหญ่นั้นก็แวมไพร์ด้วยใช่ป่ะ? แล้วแม้แต่เป็นคนเก่งด้วยสิเนี่ย」      

 「แต่เขาคำนับลอร์ดศักดินาซามะนะ…ใครคือลอร์ดศักดินาผู้นี้กัน!?」    

ผมไม่มีเวลาตอบการเอะอะซึ่งถูกสร้างโดยเหล่าทหาร

 「ไมล่า หนูดูแลทหาร ไม่ควรจะมีภัยอีกแล้วแต่ระวังเผื่อไว้ก่อน! พี่จะพาซีเลียกลับไป」   

 「ค-ค่ะท่าน!」   

ไมล่ารีบกลับมามีสติหลังจากสับสนกับทั้งหมดนั่นซึ่งเกิดขึ้นต่อหน้าสายตาของเธอ

 「อั่กอั่ก อ๊ากก……」   

ชายผู้ติดคาอยู่กับพื้นด้วยหอกยังคงรอดชีวิต ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องปลิดชีวิตเขาแต่มันดูเหมือนไม่จำเป็น

ตะวันทักทายท้องฟ้าจากเส้นขอบฟ้าและลำแสงส่องบนแวมไพร์

 「อ๊าาาาาาาาาาาา––!!!」   

 「น่ารำคาญมาก」   

พร้อมเสียงตะโกนลั่นดังอย่างไม่น่าเชื่อของความทุกข์ทราม ควันขึ้นจากใบหน้าของเขา

ถ้าอย่างนั้น เลือดของมันเดือดขึ้นมา ผมเข้าใจแล้ว นี่คืออะไรซึ่งเกิดที่เกิดขึ้นกับแวมไพร์อ่อนแอเมื่อแสงตะวันกระทบพวกเขา

ในท้ายสุด ทั้งเนื้อตัวเขาส่งควันขึ้นมาจนกระทั่งจากนั้นแวมไพร์ก็ไฟลุก เปลี่ยนเเป็นถ่านแล้วชิ้นแตกๆถูกเป่าลับหายไปโดยสายลม

ผมไม่มีเวลาจะเสียผมเลยฝากหอกไว้กับไมล่า ขึ้นม้าพร้อมซีเลียในอ้อมแขน

 「ชวาร์ซ รีบมากสุดเท่าที่ทำได้ แต่อย่าสั่นเธอมากเกินไป」   

เขาตอบด้วยการร้องและชวาร์ซวิ่งดั่งสายลมกรรโชก พร้อมผมกับซีเลียอยู่บนหลังของเขา

ผมต้องทำการปรับเงื่อนไขข้อตกลงเล็กน้อยกับบรินฮิลด์ แต่ซีเลียสำคัญมากกว่าตอนนี้

 「ทนไว้นะ พ่อจะพาลูกกลับไปในไม่นานนี้」   

หน้าของซีเลียซึ่งห่อหุ้มด้วยความเจ็บปวดรู้สึกเหมือนเธอยิ้มหนึ่งวินาที

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูหนาว ปีใหม่

ซีเลีย (หักทั้งสองมือ)

เว้น – ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

คู่นอน: 144, เด็กที่เกิดแล้ว: 32    —————————————————————   

แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบ ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl