บทที่ 138 ไม่คุ้มค่าที่มาใส่ใจฉัน
ลี่จีถองรับผลตรวจมาดู เห็นมุมขวาล่างเขียนว่า“ตั้งครรภ์”สองพยางค์ทำให้ต้องหยุดชะงักทันที
“ที่แท้ก็เป็นจริงๆด้วย”แววตาของลี่จีถองเลื่อนลอย รู้สึกว่าสิ่งที่ตนทำทั้งหมดมันสูบเปล่าแล้ว
ส้งหวั่นหวั่นเอ่ยปากพูดอีกครั้ง“จากนั้นฉันก็ได้ให้คนไปสืบถามมาอีก บอกว่าท้องได้เดือนกว่าแล้ว”
ลี่จีถองกะพริบตารัวๆ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก“แล้วทำยังไงดีล่ะ?ต้องไม่ให้เด็กคนนี้เกิดออกมาเด็ดขาด พวกคุณมีวิธีกันไหม?”
เจียงหนิงเอ๋อยิ้มอย่างดูถูก แบบว่าสงสัยไอคิวของลี่จีถองเป็นที่สุด“เรื่องนี้ง่ายมาก พวกเราก็แค่สร้างสถานการณ์ให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆยังไงล่ะ ไม่ให้มีเด็กก็พอ”
ตอนนี้ในสมองของลี่จีถองไม่ได้มีวิธีการใดๆทั้งสิ้น สมองโล่งมาก“แต่พวกเราก็เข้าใกล้ตัวเจียงหยุนเอ๋อยากนี่ ทุกที่ที่เธออยู่ก็จะมีจุนถิงอยู่ด้วยเสมอ”
ลี่จีถองนึกถึงภาพตอนอยู่ที่หน้าบ้านของลี่จุนถิง แล้วถูกลี่จุนถิงผลักจนล้ม มันทำให้รู้สึกเจ็บปวด ซึ่งยากที่จะบรรยายได้
ตอนนี้ลี่จุนถิงก็เหมือนกับสายน้ำท่วมล้างวิหารราชามังกร——ไม่นับญาติกันเลยทีเดียว
เจียงหนิงเอ๋อกลอกตา ได้ไอเดียขึ้นมา“พอดีเลย อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของซูม่านลีแล้ว ฉันรู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีเลย”
ส้งหวั่นหวั่นเพียงแค่นั่งกินดื่มอยู่เฉยๆเท่านั้น ก็รู้ว่าตนไม่ต้องคิดหาวิธีแต่อย่างใด เพราะมีเจียงหนิงเอ๋อเป็นคนคิดอยู่แล้ว
เธอเกลียดชังเจียงหยุนเอ๋อไม่น้อยไปกว่าตนเลย
ช่างดีเหลือเกินที่เข้าร่วมกลุ่มกับคนที่มีมันสมองอย่างเจียงหนิงเอ๋อ
ชั่วพริบตาก็ถึงวันเกิดของซูม่านลี
วันนี้เจียงหยุนเอ๋อยังทำงานไม่เสร็จก็มุ่งหน้าที่ไปโรงพยาบาลทันที เพื่อจะได้ไปตกแต่งห้องคนไข้ให้มีบรรยากาศของงานวันเกิด
บังเอิญกับวันนี้ถวนจื่อไม่ต้องไปที่โรงเรียนอนุบาล จึงมากับเจียงหยุนเอ๋อที่โรงพยาบาลตั้งนานแล้ว
เห็นแผ่นหลังทั้งสองคนกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมงานวันเกิด ซูม่านลีทั้งรู้สึกซาบซึ้งใจและรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
“แม่เป็นเพียงคนปวดคนหนึ่ง ไม่ควรค่าที่จะต้องใส่ใจเพื่อแม่ขนาดนี้”ซูม่านลีเห็นทั้งสองคนทำเพื่อตนอย่างลำบาก จึงรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย
“แม่พูดอะไรคะ หรือคนไข้จะจัดงานวันเกิดไม่ได้เลยเหรอ?และอีกอย่างพวกเราเป็นคนในบ้านแม่ จัดงานวันเกิดให้แม่จึงเป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว?”เจียงหยุนเอ๋อมองซูม่านลีแบบรู้สึกขำ พลางพูดปลอบใจเสียงเบา
ได้ยินเช่นนั้น ถวนจื่อก็เดินไปอยู่ตรงหน้าของซูม่านลี จากนั้นพูดอย่างเด็กดีว่า“คุณยายครับ เป็นครั้งแรกที่ถวนจื่อมาร่วมจัดงานวันเกิดให้ยายนะครับ!ยายต้องมีความสุขนะครับ”
เห็นใบหน้าอันกลมเล็กของถวนจื่อ ซูม่านลีอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
เธอยกมือไปจับหัวของถวนจื่อเบาๆ พลางพูดว่า“ได้ ถ้าอย่างนั้นต้องขอบคุณถวนจื่อก่อนที่มาจัดงานวันเกิดให้คุณยายนะ”
ถวนจื่อยิ้มจนเผยฟันเขี้ยวทั้งสองซี่ออกมา รีบส่ายหัวพลางพูดว่า“ไม่ต้องขอบคุณครับไม่ต้องขอบคุณ ถวนจื่อรักคุณยายมากเลยนะครับ”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังตกแต่งห้องคนไข้อยู่นั้น มีแพทย์พยาบาลที่เข้ามาตรวจอาการ
ได้ซักถามถึงเรื่องนี้แล้วจึงรู้ว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของซูม่านลี พวกเธอจึงกล่าวคำอวยพรกันยกใหญ่
ในช่วงบ่าย เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของคุณแม่เจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงจึงเลิกงานเช้ากว่าปกติเป็นพิเศษ
พนักงานบริษัทรู้ดีว่าลี่จุนถิงเป็นคนบ้างานขนาดไหน น้อยมากที่ไม่ทำงานล่วงเวลา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเลิกงานก่อนเวลาเลย
ฉะนั้นเมื่อเห็นลี่จุนถิงออกจากบริษัทก่อนเวลาเลิกงาน พนักงานทุกคนจึงรู้สึกแปลกใจยิ่งนัก
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ อย่าอะไรมากเลย ไม่แน่ว่าคุณลี่อาจจะออกไปคุยเรื่องงานข้างนอกก็ได้?”
ลี่จุนถิงที่พวกพนักงานกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ขณะนี้มาถึงร้านขนมเค้กแล้ว
“สวัสดีครับ ผมมาเอาเค้กครับ”
หลายวันก่อน ลี่จุนถิงได้สั่งเค้กกับร้านขนมเค้กไว้แล้ว พนักงานร้านได้นำเค้กมาให้อย่างรวดเร็ว
“คุณลี่ค่ะ นี้เป็นเค้กที่คุณสั่งไว้ค่ะ”
ลี่จุนถิงรับเค้กมา พยักหน้าเบาๆ:“อืม ขอบคุณครับ”
ตอนที่ถึงโรงพยาบาล ลี่จุนถิงยังหาคนช่วยเข็นเค้กวันเกิดเข้าห้องคนไข้โดยเฉพาะอีกด้วย ตอนที่เห็นเค้กวันเกิด ดวงตาซูม่านลีก็เป็นประกาย และเห็นด้านหลังมีลี่จุนถิงตามเข้ามา จึงรู้ว่าเค้กก้อนนี้ใครเป็นคนจัดเตรียมมาให้
“อุ๊ย ที่แท้จุนถิงมาแล้วนี่เอง ทำไม……ยังซื้อเค้กก้อนเบ้อเร่ออย่างนี้มาด้วย?เกรงใจจังเลย”
ลี่จุนถิงเม้มปากเบาๆ พูดว่า“เพราะยังไงตอนนี้ท่านก็เป็นคนในครอบครัวของผมแล้ว จึงต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ท่านสิครับ”
ได้ยินเช่นนั้น ซูม่านลีก็ดีใจเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่เพื่อตนเองเท่านั้น ในเวลาเดียวกันยังทำเพื่อเจียงหยุนเอ๋ออีกด้วย
ลูกสาวของตนมีคู่ครองเช่นนี้ สามารถพูดได้ว่าเธอรู้สึกวางใจเป็นที่สุดแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นหลายปีก่อน เธอไม่สามารถขัดขวางเจียงเย่เฉิงไว้ได้ ทำให้เจียงหยุนเอ๋อต้องออกจากบ้านตระกูลเจียงอย่างน่าเวทนา จึงรู้สึกผิดในใจตลอดมา
ยังดีที่ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อกลับมาแล้ว อีกทั้งยังหลุดพ้นขุมนรกจากบ้านตระกูลเจียงมาได้ และได้ใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
สามารถเห็นภาพเหล่านี้ จึงทำให้ผู้เป็นแม่อย่างเธอรู้สึกเพียงพอเหลือเกิน
เห็นวินาทีที่ลี่จุนถิงเดินมาเข้ามา เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกแปลกใจมากๆ
เธอก็รู้ดีว่าลี่จุนถิงมีงานต้องทำ ดังนั้นจึงไม่ได้หวังว่าเขาจะมาเช้าขนาดนี้
คิดไม่ถึงว่า……ลี่จุนถิงไม่เพียงแต่มาเช้ากว่าที่เธอได้คาดเดาเอาไว้ แถมยัง……เอาเค้กก้อนโตมาด้วย
เจียงหยุนเอ๋อเดินมาที่ข้างกายของลี่จุนถิง พูดเสียงเบาว่า“ขอบคุณคุณมากค่ะ”
ลี่จุนถิงยิ้มน้อยๆราวกับยังไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เธอพูด“พูดอะไรกัน?ระหว่างเรายังต้องพูดคำว่าขอบคุณสองคำนี้อยู่เหรอ?”
ได้ยินเช่นนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็หน้าแดงเรื่อ ก้มหน้าไม่พูดอะไรต่อ
ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข ทันใดนั้นประตูห้องคนไข้ก็ถูกเปิดออก ที่แท้เป็นเจียงหนิงเอ๋อกับเจียงเย่เฉิงเดินเข้ามานั่นเอง
เมื่อเห็นสองคนนี้ เจียงหยุนเอ๋อจึงมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
เพราะเหตุที่ซูม่านลีต้องมานอนอยู่ในโรงพยาบาลก็เป็นฝีมือของพวกเขา?
เจียงเย่เฉิงกับเจียงหนิงเอ๋อพึ่งก้าวเข้ามาในห้องคนไข้ ก็ถูกเจียงหยุนเอ๋อเดินมาขัดทางทั้งสองคนเอาไว้ จึงอย่างไม่เกรงใจว่า “พวกคุณสองคนมาทำอะไรที่นี่?”
จากเดิมซูม่านลีที่อยู่บนเตียงคนไข้ยังยิ้มแย้มอยู่เลย แต่เมื่อเห็นทั้งสองคนสีหน้าก็ได้เปลี่ยนเป็นดูไม่ค่อยได้เลย
เมื่อเห็นเช่นนี้ เจียงเย่เฉิงจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เวลานั้นจึงได้แต่ยืนอยู่กับที่แล้วไม่รู้จะพูดยังไง
เจียงหนิงเอ๋อมองสีหน้าของทุกคน แล้วเริ่มเป็นคนเอ่ยปากพูดก่อน“คืออย่างนี้ วันนี้……เป็นวันเกิดของคุณป้า พ่อของฉัน จึงมีเจตนาดีมาเยี่ยมเยียน นี้ไง ยังซื้อของบำรุงมาให้ไม่น้อยเลย”
ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่อันที่จริงเจียงเย่เฉิงไม่ได้เป็นคนยินยอมสมัครใจมาเอง
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับซูม่านลีก็รู้สึกอึดอัดอยู่แล้ว บวกกับสิ่งที่ทำกับเจียงหยุนเอ๋อไว้ ดังนั้นหากเลี่ยงการพบเจอได้ก็จะเลี่ยง
แต่ว่าไม่รู้เป็นเพราะอะไรเจียงหนิงเอ๋อพยายามโน้มน้าวให้ตนมาที่โรงพยาบาลให้ได้ เจียงเย่เฉิงจึงได้แต่รับปากอย่างไม่มีทางเลือก
ขณะที่พูด เจียงหนิงเอ๋อก็ได้ยื่นของบำรุงร่างกายที่อยู่ในมือไปให้ แต่เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้รักษาน้ำใจแต่อย่างใด
“ไม่ต้อง พวกคุณเอากลับไปเลย